Chapter 1184 ใครคือของจริง.
อาณาเขตหนานซานจื่อ วิหารตะวันตก.
แผนการของจงซานที่ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จมากขึ้น เพียงแค่สิบกว่าวัน เซิ่งกงเป้าสามารถที่จะรับเซียนโบราณหลายสิบคนเข้าร่วม และทุก ๆ วัน ยังเป็นไปด้วยแนวโน้วที่ดีอีกด้วย.
แน่นอน ผู้คนมากมายนั้นไม่ต้องการเข้าร่วมต้าเจิ้งอย่างแน่นอน เซิ่งกงเป้านั้นรู้ถึงนิสัยจิตใจของผู้คนดี ในช่วงเวลานี้พวกเขาไม่เข้าร่วมต้าเจิ้งแน่ แม้นว่าจะสนใจแต่ก็ไม่มีทางเข้าร่วมง่าย ๆ ทว่าถึงจะถูกฝั่งตรงข้ามปฏิเสธ เซิ่งกงเป้าก็ยังคงปฏิบัติกับพวกเขาอย่างดี ด้วยการใช้ชื่อเสียงของหงจวินควบคู่ด้วยแล้ว ท้ายที่สุดก็สามารถที่จะชักจูงเซียนโบราณได้.
เซิ่งกงเป้า เป็นเซียนบรรพชนที่น่าเกรงขาม(ใช้พลังได้แค่เซียนสวรรค์) ถึงจะใช้ได้แค่กลิ่นอายและจิตสังหารทว่าตลอดหลายปีมานี้เขาก็เหมือนกับอสุรกายชราที่ข่มขวัญคนไปทั่ว กับอาวุโสชรา ต่อหน้าเหล่าผู้เยาว์ย่อมถูกกำราบได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้นว่าจะมีคนปฏิเสธเซิ่งกงเป้า ทว่าภายในใจของคนเหล่านั้นก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเช่นกัน.
ยิ่งผู้คนที่มาฟังเทศนาเต๋ามากขึ้น ก็ยิ่งทำให้เซิ่งกงเป้ามีโอกาสมากขึ้นและก็มากขึ้น.
อย่างไรก็ตาม ที่ด้านนอกวิหารเอง ก็มีคนเดินทางมามากขึ้นและก็มากขึ้น หลายสิบวันมานี้ ผู้คนมากมายต่างก็มาสังเกตการณ์กันไม่หยุด รวมทั้งคนของวิหารหงจวินอีกสองแห่งด้วย.
สองวิหารหงจวินแน่นอนพวกเขาไม่ต้องการให้วิหารแห่งนี้คงอยู่ พวกเขามาครั้งนี้ก็เพื่อมาขมขู่.
ก่อนหน้านี้ ก็มีการยั่วยุกันก่อนแล้ว ในเวลานี้จากการยั่วยุปลุกปั่นเริ่มรุนแรงขึ้น แต่ละฝ่ายต่างก็คิดว่าวิหารของตัวเองมีเกียรติเหนือกว่า และยังมีการเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อ ไปจนถึงหาว่า ของปลอมต้องถูกกำจัด มีเพียงแค่ของจริงเท่านั้นที่คงอยู่ได้.
ผู้ฝึกตนมากมายที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็รอคอยการยั่วยุที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ .
หงจวินที่แท้จริง นี่เป็นแผนการหรือไม่? ต่อสู้กันเพื่อพิสูจน์รึ?
ทุกคนที่รอคอยเป็นเวลาห้าวัน.
"ฟิ้ว ~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เกิดสนามพลังวายุที่พัดเป่าอย่างรุนแรงขึ้น.
ทุกคนที่อยุ่รอบ ๆ เข้าใจอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นพวกเขาที่จับจ้องมองมาด้วยความสนใจในทันที.
สายลมที่ระเบิดหมุนวนอย่างรุนแรงนี้ หมายความว่ายอดฝีมือที่ร้ายกาจได้เดินทางมาถึงแล้ว.
เป็นความจริง หลังจากสายลมที่ระเบิดพัดกระหน่ำแล้ว ที่ด้านนอกวิหารหงจวิน ปรากฎคนกลุ่มหนึ่งขึ้นในทันที.
หนึ่งคนด้านหน้าที่นำมานั้น สวมมงกุฎทองม่วง ชุดเกาะสีเหลืองทอง ในมือนั้นถือไม้เท้าทองม่วง ดวงตาที่มีประกายแสงสีทองเต็มไปด้วยความอหังการ นำยอดฝีมือหนึ่งพันคน แต่ละคนนั้นมีกลิ่นอายที่ทรงพลังไม่ธรรมดา ทุกคนต่างเผยปราณเซียนที่แข็งแกร่งออกมาไม่ปิดบังอย่างคาดไม่ถึง.
นี่คือกลุ่มคนที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
ไม่ต้องเอ่ยเลยว่ากลิ่นอายที่พวกเขาแผ่ออกมานั้นกดดันผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ได้อย่างหนักหน่วงทรงพลัง กลิ่นอายที่รุนแรงนี้ ทุกให้ผู้คนมากมายต้องถอยออกไปด้านหลังเล็กน้อย.
พลานุภาพสยบรุนแรงมาก.
เป็นพลังที่แข็งแกร่งไร้เทียนทาน ถึงก่อนหน้านี้วิหารเหนือและใต้ต่างก็ส่งคนมาหยั่งเชิง แต่ก็ไม่ได้ลงมือรุนแรงแต่อย่างใด!
"นั่นมันซุนเฉิน! ซุนเฉินได้รับสืบทอดจากจุนถี!"
"ซุนเฉิน? เขาอยู่ในระดับเซียนบรรพชนแล้วรึ? เขาที่ต่อสู้อยู่กับวิหารหงจวินทางเหนือ ล้มยอดฝีมือเซียนบรรพชนสามคน เขากลับมาที่นี่อีกอย่างงั้นรึ?"
"คนกลุ่มนี้เป็นมหาเซียน 1000 มหาเซียน ทรงพลังนัก! ถึงจะเป็นสิบศาลเทพทั่วไปรวมกัน ก็ยังไม่ทรงพลังขนาดนี้?
"ไม่ใช่ว่าซุนเฉินกำลังมาท้าทายอย่างงั้นรึ? เขาต้องการทำลายวิหารแห่งนี้ไปอย่างงั้นรึ?"
..............................
............
......
พื้นที่รอบ ๆ ในเวลานี้ เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่อุทานกันเสียงดัง ต้องไม่ลืมว่า การต่อสู้ในอาณาเขตหนานจานปู่นั้นเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่การต่อสู้ที่รุนแรงใช้คนจำนวนมากขนาดนี้มีอยู่ไม่กี่ครั้ง.
หนึ่งพันมหาเซียน กองกำลังที่ใหญ่โตไม่น้อย.
"จงซาน! เจ้าไสหัวออกมาพบข้า!"ซุนเฉินที่กวัดแกว่งกระบองทองม่วงตะโกนออกไปเสียงดัง.
ภายในวิหารหงจวิน หงจวิน ที่กำลังเทศนาเต๋าอยู่ก็ได้หยุดลง(ร่างอุปโลกน์โหลวซิงเฉิน)
สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังหงจวิน พร้อมกับจ้องมองขึ้นไปบนอากาศ.
ที่อีกห้องหนึ่ง จงซานและคนของเขาอีกหลายคนก็ก้าวออกมาช้า ๆ .
"สหายเต๋าจง ดูเหมือนว่า คนกลุ่มนี้เดินทางมาหาเรื่องเจ้าโดยเฉพาะ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าก็ออกไป จัดการปัญหานี้ก็แล้วกัน!"หงจวินที่เอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล.
"ตกลง!"จงซานพยักหน้ารับ.
หงจวินที่กล่าวออกมาอย่างชอบธรรมมอบหมายให้จงซานออกไปจัดการ
ฝ่ายตรงข้ามที่มาหาเรื่องจงซาน การที่จงซานออกไปต่อสู้นั้น.
ทุกคนก็ย่อมเห็นด้วยเป็นเรื่องธรรมดา.
จงซานที่เงยหน้าขึ้นมองช้า ๆ ดวงตาที่เผยท่าทางเย็นชาออกมา.
"ซุนเฉิน?"จงซานที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.
"ถุยย คิดจะปั่นหัวหลอกลวงคนอื่นอย่างงั้นรึ?"ซุนเฉินที่กล่าวดูแคลน.
จงซานที่จ้องมองไปยังซุนเฉิน กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม "เจ้าเป็นศิษย์เอกของจุนถี ข้าได้ปล่อยเจ้าไปครั้งหนึ่งแล้ว เจ้ายังไม่สำนึกอีก เจ้าคิดว่าจุนถีจะมาช่วยเจ้าอีกรึอย่างไร!"
ระหว่างที่ก้าวออกไปนั้น จินเผิงที่ตวัดง้าวฟางเทียนฮวาจีพุ่งออกไป.
ริ้วแสงสีทองของจินเผิง ย้อมท้องฟ้าเป็นสีทอง แสงสีทองทั่วร่างกายของเขา วิถีสวรรค์ที่ส่องสว่าง จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ลุกโชน เขาพุ่งตรงไปยังทิศทางของซุนเฉิน.
ใบหน้าของซุนเฉินที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน ทว่าเขาก็ไม่ได้รีบเร่ง ไม้เท้าม่วงทองในมือของเขาที่ตวัดไปมา เขาที่ยังเต็มไปด้วยความอหังการ ราวกับว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ดูแคลนทั่วหล้า.
ความแข็งแกร่งทำให้ผู้ฝึกตนอหังการ ซุนเฉินเดิมทีเต็มไปด้วยความอหังการอยู่แล้ว เมื่อเขามีพลังเพิ่มขึ้น แน่นอนย่อมทำให้เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่นึกถึงความอับอายในอดีต.
ไม้เท้าทองม่วง ที่ตวัดออกไปเข้าปะทะกับการโจมตีของจินเผิง.
"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ง้าวมังกรทองม่วงที่สั่นไหวไปมา ห้วงมิติรอบ ๆ สั่นไหวเป็นระลอก.
ทั้งจินเผิงและซุนเฉินที่เผยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย ไม่คิดเช่นกันว่าฝ่ายตรงข้ามจะแข็งแกร่งขนาดนี้.
ทว่าทันทีที่การต่อสู้ของจินเผิงและซุนเฉินเริ่มขึ้น มหาเซียนหนึ่งพันคนก็พุ่งตรงลงไปที่วิหารหงจวินทันที.
ยอดฝีมือมหาเซียนหนึ่งพันตน ที่จริงก็คืออสูรระดับสูงทั้งหนึ่งพันตนที่ราชันย์เทวะเทพตะวันออกไท่อี้เตรียมไว้.
เหล่าผู้ฝึกตนอสูรมีจำนวนมาก และยังแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ทว่าที่ไกลออกไปนั้นกับมีกลิ่นอายที่ทรงพลังปะทุขึ้นมาเช่นกัน.
"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
คลื่นพลังที่โถมทับไปยังเซียนอสูรทั้ง 1000 กลิ่นอายที่น่าเกรงขามนั้น กำราบเซียนอสูรเอาไว้ในทันที.
เต้าเหรินถูในชุดสีดำ ทว่าดาบโลหิตของเขานั้นกับแผ่แสงสีโลหิตพวยพุ่งออกมา.
เต้าเหรินถูที่มีระดับเซียนบรรพชน มีระดับไม่ต่างกับจินเผิงมากนัก ทว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นแม้นว่าจะเป็นเซียนอสูรเป็นจำนวนมาก ทว่าพวกเขาก็มีระดับต่างกับเซียนบรรพชนถึงสองอาณาจักร.
เทียบกับปุถุชนล่ะก็ ยอดฝีมือก่อตั้งวิญญาณ เผชิญหน้ากับ 1000 เซียนเทียน ไม่มีทางที่จะถมความแข็งแกร่งด้วยจำนวนได้ เพราะว่าสองอาณาจักรนั้นห่างกันราวกับสวรรค์และปฐพี.
จิตสังหารที่ระเบิดออกมา กลิ่นอายกระหายโลหิตของเต้าเหรินถู ที่สามารถแช่แข็งพื้นที่ในรัศมีสามพันจั้งได้.
จินเผิงที่ต่อสู้กับซุนเฉินบนท้องฟ้า ส่วนเต้าเหรินถูนั้นเพียงแค่กลิ่นอายก็สามารถกำราบเซียนอสูรนับพันได้แล้ว.
เพียงแค่เซียนอสูร จะทำอะไรได้?
ด้วยดาบของปิงเสวี๋ยของเต้าเหรินถู ทำให้จิตสังหารของเขาเพิ่มขึ้นสิบเท่า.
ต่อสู้กับเซียนบรรพชน มหาเซียนอสูร จะมีเท่าไหร่ก็เหมือนกับแมงเม่าบินเข้ากองไฟ.
ด้วยพลังที่เหนือกว่า ทำให้ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบ ๆ ต้องอุทานออกมา พวกเขารับรู้ถึงพลังของกลุ่มนี้ดี.
ทว่าขณะเดียวกันนั้นเซียนโบราณที่เซิ่งกงเป้าชักชวนได้สำเร็จ แน่นอนพวกเขาเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงแค่เห็นข้าราชบริพารของเซิ่งหวังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ก็ทำให้พวกเขาตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที และเหล่าคนที่ปฏิเสธก่อนหน้านี้เริ่มครุ่นคิด พวกเขาที่ปฏิเสธก่อนหนี้คิดถูกต้องหรือไม่?
จิตสังหารของเต้าเหรินถูที่กวาดออกไป ท้องฟ้าที่ย้อมสีฟ้ากลายเป็นสีแดงเข้ม เป็นจิตสังหารที่รุนแรงทรงพลังนัก.
ที่ด้านนอกรอบ ๆ วิหารเวลานี้ผู้ฝึกตนแทบทั้งหมดกลายเป็นเงียบงัน แววตาของพวกเขาที่จ้องมองด้วยความตื่นตระหนก.
อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกันนี้ ที่ไกลออกไป ปรากฎคนกลุ่มหนึ่งได้บินตรงมา.
"นั่น.....?"
"วิหารหงจวินทางเหนือ นี่พวกเขาก็มาหาเรื่องอย่างงั้นรึ?
"คนของวิหารทางเหนืออย่างงั้นรึ? สามคนนั่น นายน้อยมารสวรรค์ ส่วนสองคนนั่นเป็นเซียนบรรพชนงั้นรึ? นายน้อยมารสวรรค์และพวกที่ดูเหมือนว่าว่าจะถูกซุนเฉินไล่ไป ความจริงพวกเขาทั้งสามเป็นคนของวิหารทางเหนือรึ? สามเซียนบรรพชนงั้นรึ?"
"วิหารเหนือใต้และเหนือ ร่วมมือกันอย่างงั้นรึ? พวกเขาไม่ได้ขัดแย้งกันถึงขนาดนั้น ทำไมครั้งนี้ถึงกับส่งกองกำลังขนาดใหญ่มาที่นี่กัน?"
"หรือบางทีวิหารตะวันตกกำลังกดดันพวกเขา? วิหารหงจวินของแท้ก็คือที่นี่ ทำให้ของปลอมทั้งสอง คิดว่าวิหารตะวันตกคุกคามเขา รับรู้ถึงวิกฤติอย่างงั้นรึ?"
..............................
..................
......
ทันใดนั้นการคาดเดาต่าง ๆ นานา ก็เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม กับการต่อสู้ของวิหารเต๋าเช่นนี้ มันกลายเป็นเรื่องที่สำคัญไปแล้ว.
สามวิหารเต๋าที่กำลังสะสางความแค้น พวกเขากำลังต่อสู้กัน.
"จงซาน เป็นเจ้าจริง ๆ !"นายน้อยมารสวรรค์ที่เอ่ยออกมาในทันที.
นายน้อยมารสวรรค์ ไม่ว่าอย่างไร เป้าหมายแรกที่เขามาที่นี่ก็คือจงซาน.
ไม่ต้องบอกเลยว่าเขามีความแค้นกับจงซาน จงซานที่ได้ชิงกระบี่ของเขาไป ทำให้เขาไม่มีทางลืมความแค้นที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้.
"นายน้อยมารสวรรค์?"ใบหน้าของจงซานที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.
การต่อสู้ครั้งก่อนนั้น เป็นความจริงที่เป็นเขาถูกส่งกลับไปยังโลกมารสวรรค์.
นายน้อยมารสวรรค์ที่กวาดตามองรอบ ๆ วิหาร ทันใดนั้นมีผู้ฝึกตนมากมายที่กำลังถูกมารสวรรค์ล่อลวง ทำให้นายน้อยมารสวรรค์ตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็เผยท่าทางเหยียดหยัน.
นายน้อยมารสวรรค์ก็คือเสี่ยวจื่อใจ้ของมารสวรรค์ เขาย่อมรู้เทคนิคที่ใช้ล่อลวงสาวกวิหารหงจวินในครั้งนี้ได้.
"จงซาน เจ้ามีวิธีการที่ดีจริง ๆ !"นายน้อยมารสวรรค์ที่แค่นเสียงเย็นชา.
"ก่อนหน้านั้นเจ้าถูกส่งกลับไป ถูกตำหนิหรือไม่?"จงซานกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
ได้ยินคำพูดของจงซาน ใบหน้าของนายน้อยมารสวรรค์ถึงกับเปลี่ยนเป็นดำมืด ก่อนหน้านี้เขาถูกส่งกลับไปยังโลกมารสวรรค์ ซึ่งก่อนหน้านั้นต้าจื่อไจ่ได้ส่งเขามา ทำเรื่องสำคัญ ทว่า ได้เพียงครึ่งทางกลับถูกจงซานส่งกลับไป ทำให้งานล้มเหลว.
หลังจากที่ถูกส่งกลับไปนั้นนายน้อยมารสวรรค์ถูกลงโทษหนักทีเดียว.
นายน้อยมารสวรรค์เพิ่งเคยถูกลงโทษเป็นครั้งแรก มันกลายเป็นความอัปยศอับอายที่สุดที่เขาเกิดมา ในเวลานั้นเขาดุด่าสาปแช่งจงซานไปต่าง ๆ นานา ภายในใจของเขาที่อัดอั้นเป็นอย่างมาก เวลานี้เขาถูกส่งออกมาอีกครั้ง และงานในครั้งนี้ก็เป็นไปด้วยดี ก้าวหน้าเป็นอย่างมาก และยังได้รับการร่วมมือกับปราชญ์เทพอีกคนด้วย.
นอกจากนี้ นายน้อยมารสวรรค์ก็มีวิธีที่จะป้องกันไม่ให้จงซานส่งเขากลับไปอีกแล้ว ด้วยความแค้นที่เขามี เขาไม่มีทางลืมได้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องแก้แค้นให้ได้.
"ติหนิรึ?ชิ!! จงซาน เวลาตายเจ้ามาถึงแล้ว กล้าหาความอัปยศให้กับตัวเอง ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่ ข้าจะให้เจ้าตายถูกมารสวรรค์นับหมื่นกลืนกิน!"นายน้อยมารสวรรค์ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"เจ้ากล่าวว่าข้าแส่หาความตาย ความจริงน่าจะเป็นเจ้าที่แส่หาความอัปยศให้กับตัวเอง!"จงซานเอ่ยอย่างนุ่มนวล.
เป็นความจริงที่คำพูดของนายน้อยมารสวรรค์นั้นไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรให้กับจงซานเลย ซ้ำยังกลายเป็นว่าเขาต่างหากที่หัวเสียร้อนรนขึ้นมาเอง.
"เจ้าทั้งสอง อย่าได้เสียเวลา ทำลายวิหารเต๋าซะ!"นายน้อยมารสวรรค์สั่งการ.
"นายน้อยมารสวรรค์ ท่านลืม...?"สองเซียนบรรพชนที่เผยท่าทางเป็นกังวล.
"โปรดวางใจ จงซานข้าจะจัดการเอง คนที่เหลือก็แค่สวะ สังหารอย่าให้เหลือ!"นายน้อยมารสวรรค์ที่คำรามออกมาด้วยความโกรธ.
"ดี!"สองเซียนบรรพชนพยักหน้ารับ.
ในความเห็นของพวกเขา ตราบเท่าที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับจงซาน ก็ไม่นับเป็นปัญหา พวกเขาที่เป็นเซียนบรรพชนถึงแม้นว่าจะไม่ได้ร้ายกาจที่สุด แต่ก็ไม่มีใครสามารถขวางไม่ให้พวกเขาหนีได้.
เหล่าผู้ฝึกตนรอบ ๆ ที่จ้องมองอยู่ต่างเข้าใจในทันที วิหารหงจวินทางเหนือและใต้ส่งคนมา เพื่อทำลายวิหารเต๋าทางตะวันตกให้สิ้น.