ตอนที่แล้วChapter 1181 หงจวินคนที่สาม.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1183 โดนแฉ.

Chapter 1182 ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้.


อาณาเขตหนานจานปู่.

ภายในวิหารหงจวินทางทิศใต้.

ห้องโถงด้านในที่มืดครึ้ม.

ภายในห้องโถง เวลานี้มีคนยืนอยู่ 7-8 คน ทว่าที่แปลกประหลาด ใบหน้าที่ดูเหมือนกับวิหค บางคนเหมือนกับอาชา คนเหล่านี้เป็นอสูรต่างเผ่าพันธุ์ ร่างกายของพวกเขาแต่ละคนจะมีส่วนของอสูรเป็นรากฐาน.

และยังมีคนในชุดดำอีกหนึ่งคนที่ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้.

เหริ่นชุนและกุยเช่อที่ก้าวเข้ามา.

หลายคนที่ยกมือโค้งให้กับเหริ่นชุนเล็กน้อย.

"เหริ่นชุน เกิดอุบัติเหตุอะไรอย่างงั้นรึ?"อสูรเทวะตนหนึ่งที่กล่าวสอบถามออกมา.

"เมื่อราชันย์เทวะเทพมาค่อยกล่าวทีเดียว!"

วูซซซซซซซ!

บนบัลลังก์ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของห้อง ในเวลานี้ปรากฎร่างในชุดสีเหลืองขึ้นมาในทันที.

รูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับชายวัยกลางคน หากแต่ดวงตานั้นเต็มไปด้วยความดุร้ายเย็นชา ไม่ต่างจากดวงตาปิศาจ ผมที่ยาวที่ถูกม้วนจัดต่างอย่างประณีต กลุ่มก้อนเปลวเพลิงที่ลุกโชนที่แผดความร้อนออกมาจนรู้สึกได้ ประทับอยู่บนหน้าผากที่ตั้งชันของเขา จิตวิญญาณแห่งความชั่วร้ายที่แผ่ออกมาพร้อมกับลมหายใจของเขาอยู่ตลอดเวลา.

พื้นที่รอบ ๆ ที่แผ่กลิ่นอายที่น่าเกรงขามไหลบ่าออกมาราวกับน้ำหลาก.

มือทั้งสองข้างวางบนพนักพิงบัลลังก์เหยี่ยวเทวะ สายตาของเขาที่กวาดตามองคนที่อยู่รอบ ๆ .

ที่สำคัญที่สุด ร่างกายของเขานั้นมีขนาดใหญ่โตกว่ามนุษย์ทั่วไปถึงสี่เท่า ทั้งความสูงและขนาดร่างกายที่ดูใหญ่โตเป็นอย่างมาก.

สายตาของเขานั้น เต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังอำนาจสะกดข่ม จิตสังหารที่รุนแรง ราวกับจะทำให้ทุกคนที่ถูกเขามองตกตายไป.

"คารวะราชันย์เทวะเทพ!"ทุกคนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

ความเคารพที่มากมาย ราวกับว่ามันฝั่งลึกเข้าไปในหัวใจของทุกคน.

ราชันย์เทวะเทพ? ด้วยร่างฮวงจุ้ย นั้นเขาเป็นหนึ่งในร่างแยกประจำทิศตะวันออกทำให้ถูกเรียกว่า จักรพรรดิตะวันออก ราชันย์เทวะเทพเผ่าอสูร แม้แต่ราชันย์เทพตะวันออกไท่อี้!

สายตาของไท่อี้ที่กวาดตามองทุกคนก่อนที่จะไปหยุดที่เหริ่นชุน.

"เหริ่นชุน!"ไท่อี้กล่าวออกมาเบา ๆ .

ไท่อี้ไม่ได้กล่าวอะไรต่อคนอื่น คนอื่น ๆ ที่โค้งหน้าทำความเคารพ แม้แต่อสุรเทวะกุยเช่อ ที่ได้แต่ก้มหน้าแสดงความเคารพไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมา.

"เฉินอยู่นี่แล้ว!"เหริ่นชุนที่กล่าวออกมาเบา ๆ .

"เจ้าและกุยเชออยู่ด้านนอก มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?"ไท่อี้เอ่ย.

แม้นว่าไท่อี้จะกล่าวไม่ดังนัก ทว่าเหริ่นชุนก็ได้ยินอย่างชัดแจ้ง แม้แต่รู้สึกหัวใจรัดแน่น แรงกดดันที่น่าเกรงขามนั้นทำให้เหริ่นชุนถึงกับหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา.

"ราชันย์เทวะเทพ มีบางอย่างเกิดขึ้น เฉินและกุยเช่อได้พูดคุยกันแล้วตัดสินใจที่จะมารายงานราชันย์เทวะเทพ เพื่อให้ท่านได้ตัดสินใจ!"เหริ่นชุนที่กล่าวออกมาในทันที.

"หืม?"ดวงตาของไท่อี้ที่หรี่เล็กลง.

จากนั้น เหริ่นชุนไม่กล้าล่าช้า เร่งรีบเล่าเรื่องที่ค่ายกลฮวงจุ้ยถูกทะลวง.

จากนั้น เหริ่นชุนที่ลุกขึ้นแสดงความเคารพ รอคอยไท่อี้.

ไท่อี้ที่รับฟังครุ่นคิดและกล่าวกับคนอื่น ๆ  "ลุกขึ้น!"

"ขอบคุณราชันย์เทวะเทพ!"เหล่าอสูรเทวะที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"จีเมิ่ง เจ้ามีความเห็นอย่างไร?"ไท่อี้ที่จ้องมองไปยังอสูรเทวะตนหนึ่ง.

"ราชันย์เทวะเทพ เฉินเองก็คิดว่าเป็นยอดฝีมือไร้คู่เปรียบ บางทีเขาคงเห็นอะไรบางอย่าง ทว่าไม่ต้องการที่จะล่วงเกินราชันย์เทวะเทพ ดังนั้นจึงทำเพียงเตือน."จีเมิ่งที่กล่าวตอบ.

"เตือน?"ไท่อี้ที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"อย่างไรก็ตาม ใต้หล้าแห่งนี้คงไม่มีใครที่ล่วงเกินราชันย์เทวะเทพ."จีเมิงที่เร่งรีบกล่าวออกมาอีกรอบ.

"ไม่ ยังมีอีกสองสามคน เทียนตี้คนใหม่ หยิง เฉิงโห่ว มารดาแห่งหงส์ และอาจจะมีคนอื่นอีก."ไท่อี้ที่ส่ายหน้าไปมา.

ไท่อี้นั้นไม่ต้องการคำประจบ เขาต้องการที่จะรับรู้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่มีอคติในใจนั่นเอง.

ได้ยินคำพูดของไท่อี้ จีเมิ่งที่ใบหน้าซีดขึ้นมาเหมือนกัน.

"แต่ว่า มารดาแห่งหงส์เป็นไปไม่ได้ที่จะมาที่นี่ เฉิงโห่วเอง เขาไม่ได้อยู่ในอาณาเขตหนานจานปู่ ส่วนหยิง ฮึ! ความทะเยอทะยานของหยิงนั้นมากมายนัก แม้แต่ตำหนักจื่อเซียว เขาคงไม่ปล่อยไปเช่นกัน!"ไท่อี้กล่าว.

"จากทางเหนือรึ? ปราชญ์เทพเจียงยวี? เขาที่สร้างวิหารหงจวินขึ้น ดูเหมือนว่าจะทำอะไรเหมือนเรา เขาพบหรือไม่?"จีเมิ่งที่คาดเดา.

"เป็นไปไม่ได้ หากปราชญ์เทพเจียงยวี คงไม่ปล่อยไปง่าย ๆ เช่นนี้แน่นอน!"เหริ่นชุนที่กล่าวแสดงความคิดเห็น.

คนอื่นต่างก็พยักหน้ารับ.

"เฉินไม่รู้ว่าเขาตั้งใจทำอะไร แต่รู้สึกว่า หากเป็นยอดฝีมือ หลังจากที่เขาเตือนพวกเราแล้ว แน่นอนว่าควรจะเผยตัวออกมา แต่กลับไม่ได้ทำอะไรต่อไป ไม่เผยร่องรอยหรือข่าวขึ้นในอาณาเขตหนานจานปู่เลย."จีเมิ่งที่แสดงความเห็น.

"หากเป็นเช่นนั้น เรื่องนี้ให้เจ้าไปสืบมา จับตามองอาณาเขตหนานจานปู่ให้ดี อย่าให้มีอะไรเล็ดลอดแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ!"ไท่อี้กล่าว.

"น้อมรับบัญชา!"จีเมิ่งที่กล่าวรับคำในทันที.

ไท่อี้ที่จ้องมองไปยังเหริ่นชุน.

"เหริ่นชุน เช่นนั้นแผนการขั้นสามของเจ้าคงไม่สามารถทำให้สำเร็จได้."ไท่อี้ที่กล่าวเคร่งขรึม.

"เฉินรับรู้ความผิด! ขอให้ราชันย์เทวะเทพลงโทษด้วย!"เหริ่นชุนที่กล่าวออกมาในทันที.

"เรื่องนี้ไม่ต้องเอ่ยถึงชั่วคราว รอให้ทุกอย่างเสร็จสิ้น ทั้งความดีความชอบและความผิด ค่อยมาพูดอีกครั้ง!"ไท่อี้กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ขอบพระทัยราชันย์เทวะเทพ!"เหริ่นชุนที่เริ่งรีบกล่าวออกมา.

"ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ ข้าต้องการอสูรจำนวนมากของแผ่นดินต้าโจว เกี่ยวกับจุดตำแหน่งวางค่ายกลคุ้มกันให้ดีกว่านี้ อย่าให้ผิดพลาดเช่นนี้อีก!"ไท่อี้ที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"รับทราบ!"เหริ่นชุนที่กล่าวรับด้วยความเคารพ.

"รายงานราชันย์เทวะเทพ! แม่ทัพซุนกลับมาแล้ว."ที่ด้านนอกตำหนักมีเสียงองค์รักษ์ดังขึ้นมา.

"ให้เขาเข้ามา!"ไท่อี้กล่าว.

"รับทราบ!"

จากนั้นไม่นาน บุรุษในชุดเกราะรบ พร้อมกับกระบองส่วนตัวก้าวเข้ามา.

หากจงซานอยู่ที่นี่ ต้องจำได้ เขาก็คือซุนเฉินนั่นเอง ชะตาชีวิตของเขา ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะย่ำแย่.

เพราะว่าเขาที่ได้ตายไปที่โลกใบเล็ก นับตั้งแต่เป็นฉีเทียนโห่วถึงสามครั้ง ทุก ๆ ครั้งที่ตายไปหนึ่งครั้ง ความแข็งแกร่งก็จะเพิ่มขึ้น หลังจากมาถึงโลกใบใหญ่ก็ได้กลายเป็นซุนเฉิน มีพลังฝึกตนที่ก้าวไปถึงระดับเซียนโบราณ ทว่าก่อนหน้านั้น เขากลับถูกจงซานเล่นงานสู้ไม่ได้แม้แต่น้อย เมื่อครั้งกงจื่อร่วงหล่นจากสวรรค์ ก่อนที่จุนถีจะตกตายไป เขาได้นำซุนเฉินไป.

คาดไม่ถึงเลยว่าซุนเฉินจะมาปรากฎขึ้นที่นี่อย่างคาดไม่ถึง.

"ซุนเฉินคารวะราชันย์เทวะเทพ!"ซุนเฉินที่คุกเข่าลงหนึ่งข้าง.

ขณะที่คุกข่านั้น แสงสีทองรอบ ๆ ร่างของเขาที่ส่องประกายแสงสีทองวับวาวออกมา ทำให้คนอื่น ๆ แสดงท่าทางอิจฉาเช่นกัน.

"ก่อนจุนถีจะตายไป สิ่งนี้คือของตกทอด เจ้ายังย่อยมันไม่สมบูรณ์อีกรึ?"ไท่อี้ที่กล่าวออกมาเบา ๆ .

"คาดว่าอีกไม่นาน บางทีจำเป็นต้องต่อสู้สักสองสามครั้ง เฉินถึงจะสามารถดูดซับมันได้อย่างสมบูรณ์ ตอนนี้พลังฝึกตนของเฉินได้ก้าวไปถึงระดับเซียนบรรพชนแล้ว แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมมาก!"ซุนเฉินที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงภาคภูมิ.

"ที่เขตแดนทางเหนือ ยึดได้รึยัง?"ไท่อี้สอบถาม.

"ไม่ ตำหนักจื่อเซียวทางเหนือนั้น มีเซียนบรรพชนอยู่หลายคน เฉินรับมือได้เพียงสามคนเท่านั้น."ซุนเฉินกล่าว.

"พอแล้ว!"ไท่อี้กล่าว.

"แต่ว่า เฉินยังไม่สามารถช่วยแบ่งเบาราชันย์เทวะเทพได้ ไม่สามารถยึดครองวิหารตำหนักจื่อเซียวได้ เฉินไม่ยินดีนัก ขอได้โปรดให้ราชันย์เทวะเทพส่ง 300 อสูรเทวะ ช่วยสนับสนุนในการบุกยึดครองวิหารหงจวินในครั้งนี้กับเฉินด้วย ในครั้งนี้เฉินมั่นใจว่าจะต้องยึดครองตำหนักจื่อเซียวมาให้กับราชันย์เทวะเทพได้!"ซุนเฉินกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

"แม่ทัพซุนไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นแล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว."ชายในชุดสีดำอีกคนที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

"พอแล้ว?"ซุนเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา.

"แม่ทัพซุนได้สร้างความดีความชอบพอแล้ว เป้าหมายของราชันย์เทวะเทพนั้นไม่ใช่ตำหนักจื่อเซียว!"ชายชุดดำที่เอ่ยปากออกทันที.

"ไม่ใช่ตำหนักจื่อเซียว?"ซุนเฉินที่ตกใจขึ้นมาทันที สายตาของเขาที่สั่นไหว ก่อนที่จะพยักหน้ารับไม่เอ่ยสิ่งใดต่อไป.

ซุนเฉินที่จับจ้อง ครุ่นคิดจ้องมองไปยังไท่อี้ จวนจะถึงช่วงเวลาสำคัญแล้ว ทว่าคนกลุ่มนี้กลับไม่ดำเนินการต่ออย่างงั้นรึ?

"ใจเย็นเอาไว้ เจ้าได้ลงมือแน่นอน!"ไท่อี้ที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .

"รับทราบ!"ซุนเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"ราชันย์เทวะเทพ ในเวลานี้ ที่ตำหนักหงจวินนั้น เฉินเห็นคนที่แปลกประหลาด อยู่ ๆ ก็ปรากฎตัวขึ้นมา!"ซุนเฉินที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.

"คนที่แปลกประหลาด?"ส่ายตาของไท่อี้ที่สั่นไหวไปมา.

กับกลุ่มคนที่แปลกประหลาดที่ซุนเฉินกล่าวถึงนั้น อยู่ในสถานที่ผิดปรกติ นอกจากนี้ ไท่อี้ราวกับรู้สึกว่าเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างกับปราชญ์เทพเจียงยวีอีกด้วย.

"ใช่ คนผู้นี้เรียกตัวเองว่า นายน้อยมารสวรรค์ อีกทั้งเขาสามารถควบคุมมารสวรรค์ได้อีกด้วย เฉินเห็นว่าดูแปลกประหลาด จึงได้ทำการบันทึกภาพเอาไว้ ขอให้ราชันย์เทวะเทพได้โปรดยลด้วย!"ซุนเฉินที่นำหยกบันทึกออกมา.

ไท่อี้ที่ยื่นมือออกไป หยกบันทึกก็ลอยมาอยู่ในมือของเขา ด้วยการกระตุ้นด้วยอำนาจวิเศษ ก็สามารถมองเห็นภาพด้านในได้.

ในภาพนั้น มียอดฝีมือมากมายที่เข้าต่อสู้กัน ซุนเฉินเองก็ได้ต่อสู้คนผู้หนึ่ง.

ใบหน้าเป็นเหมือนกับผู้เยาว์คนหนึ่ง ทว่าร่างกายของเขานั้นกับดูเหมือนกับอากาศที่ว่างเปล่า ไม่สามารถจับต้องได้ และยังมีมารสวรรค์มากมายกระจายไปทั่ว นี่เขาสามารถควบคุมมารสวรรค์ได้อย่างงั้นรึ? เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.

คนผู้นี้น่าจะมีระดับเซียนบรรพชน แต่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถทำได้เช่นนี้.

"นายน้อยมารสวรรค์?"ชายในชุดดำที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"เสี่ยวจื่อไจ้มารสวรรค์?"ดวงตาของไท่อี้ที่ดวงตาหรี่เล็กลง.

"เสี่ยวจื่อไจ้มารสวรรค์? ราชันย์เทวะเทพ คนเหล่านี้คือมารสวรรค์อย่างงั้นรึ?"กุยเช่อเผยท่าทางประหลาดใจ.

คนอื่น ๆ เองก็เผยท่าทางประหลาดใจเช่นกัน.

"ไม่ผิดแน่!"ไท่อี้ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.

"เจียงยวี เขากำลังเล่นกับไฟ!"กุยเช่อที่อุทานออกมาด้วยความหลาดใจ.

"ราชันย์เทวะเทพ นายน้อยมารสวรรค์ ออกมาจากโลกมารสวรรค์อย่างงั้นรึ?"ชายในชุดสีดำที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"ใช่ นอกจากนี้การที่ออกมาได้เช่นนี้ จะต้องเป็นต้าจื่อไจ้เป็นคนส่งออกมา ดูเหมือนว่าจะมีหนึ่งในต้าจื่อไจ้มารสวรรค์อยู่เบื้องหลัง!"ไท่อี้กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

---------------------------------------------------------------------------

ทวีปหนานซานปู่.

ผู้ฝึกตนมากมายเวลานี้ได้ไปรวมตัวกันอยู่ วิหารหงจวินทิศเหนือและทิศใต้ และยังมียอดฝีมืออีกนับไม่ถ้วนที่ซ่อนตัวอยู่.

ก่อนหน้านี้ กล่าวได้ว่าทุกคนต่างก็รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ แต่น่าเสียดายที่ตำหนักหงจวินนั้นปรากฎขึ้นสองที่ทั้งทิศเหนือและทางใต้.

เรื่องนี้ทำให้ผู้ฝึกตนมากมายเกิดความระมัดระวังตัวกันเป็นอย่างมาก.

เรื่องนี้เหล่าอสูรที่รู้สึกผิดปรกติ แม้นว่าเรื่องวิหารหงจวินนี้จะสร้างความประหลาดใจให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแค่การปรากฎตัวของมัน ทว่าตำหนักจื่อเซียวทั้งสองที่นั้น ปรากฎเหตุการณ์ผิดปรกติเป็นอย่างมาก มีผู้คนมากมายที่ต่อสู้กันไม่หยุด ราวกับว่ามีใครวางแผนอะไรบางอย่างเอาไว้.

แม้นว่าเหล่าผู้ฝึกตนมากมายภายในอาณาเขตหนานจานปู่จะระวังตัว การถูกซุ่มโจมตี ทว่าพื้นที่รอบ ๆ ของวิหารหงจวินนั้น ก็เกิดความวายไม่หยุด.

อย่างไรก็ตามทั้งที่กำลังเกิดความวุ่นวายขึ้นนั้น ที่ทางตะวันตกของทวีปหนานจานจื่อ กลับปรากฎอีกหนึ่งแดนเทวะขึ้น กลายเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.

ซึ่งมันก็คือวิหารหงจวินอีกที่นั่นเอง.

สาม? วิหารหงจวินแห่งที่สาม?

หลังจากนั้น ผู้ฝึกตนมากมายที่ราวกับหัวหมุนไปเลย ตำหนักจื่อเซียวยังหาไม่พบ ทว่าวิหารหงจวินกลับปรากฎขึ้นเพิ่มอีกอย่างงั้นรึ?

ผู้คนมากมายต่างก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ต่างก็ต้องการพิสูจน์ความจริง.

ผู้ฝึกตนมากมายต่างก็เดินทางไปยังวิหารหงจวินแห่งที่สาม เพื่อตรวจสอบ.

เจียงยวี ไท่อี้ต่างก็ได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น ในเวลานั้น ตาพวกเขาที่เป็นประกายเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เป็นใครกัน? ดังนั้นทั้งวิหารหงจวินทางใต้และทางเหนือพวกเขาต่างก็เร่งรีบส่งคนมาสืบสวนวิหารของหงจวินที่เพิ่งปรากฏขึ้นในทันที.

และในทันทีที่วิหารหงจวินทางตะวันตกเกิดขึ้น ก็ยิ่งทำให้อาณาเขตหนานจานปู่วุ่นวายขึ้นไปอีก.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด