Chapter 1181 หงจวินคนที่สาม.
หนึ่งต่อห้าหมื่น ฝ่ามือขนาดใหญ่ ที่ทำให้ห้วงมิติสั่นไหว ศิษย์นิกายหงหรูห้าหมื่นคนที่บินขึ้นมาพร้อม ๆ กัน พ่นโลหิตออกมาพร้อมกันด้วย แม้แต่มีหลายคนที่หมดสติไปในทันที.
"หลายหมื่นคน ไม่มีแม้แต่เซียนโบราณ?"
โหลวซิงเฉินที่จ้องมองไปยังแดนเทวะที่ถูกเรียกว่าจงหรู.
"นิกายหงหรูคาดไม่ถึงเลยว่าจะตกต่ำลงถึงขนาดนี้!"เซียนเซิงซือเอ่ยออกมาเบา ๆ .
ในอดีตนั้นในทวีปตะวันออก นิกายหงหรูที่เป็นหนึ่งยักษ์ใหญ่ยึดครองพรมแดนลี่ กำราบสำนักนับหมื่น ในเวลานี้ เป็นแดนเทวะที่ไม่มีแม้แต่เซียนโบราณ ศิษย์ห้าหมื่นคนของพวกเขา ถูกโจมตีกระแทกลอยออกไปด้วยหนึ่งฝ่ามือของโหลวซิงเฉิน.
หากเป็นในอดีต คงไม่มีใครกล้าจินตนาการถึงได้เลย.
"เซอคง!"ใบหน้าของจงซานที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
ฝ่ามือของเขาที่ฟาดลงไปด้านล่าง.
"ตูมมม!"
ได้ยินเพียงเสียงระเบิด เซอคงได้เคลื่อนย้ายทางไกลไปเรียบร้อยแล้ว.
พริบตาที่เขาโปร่งแสงกำลังเคลื่อนย้าย เซอคงยังสามารถมองเห็นฝ่ามือของโหลวซิงเฉินฟาดลงมากกระแทกคนของเขา มันทรงพลังน่าเกรงขามมาก จงซานเป็นคนที่ผิดปรกติขนาดนี้เลยรึ?
อย่างไรก็ตาม หยกอักขระของกงจื่อที่ได้ทิ้งเอาไว้เวลานี้มันทำงานแล้ว.
ถึงแม้ว่าจะถูกฝ่ามือของจงซานฟาดลงมา เซอคงก็สามารถหนีได้.
เซอคงที่มีมหาวิถีหงหรู(ขงจื้อ) มีธวัชหยวนซือที่เป็นสุดยอดธวัช และยังมีวิชาเปลี่ยนร่าง เขาที่มั่นใจว่าทรงพลังเพียงพอที่จะรับมือคนแข็งแกร่ง ทว่าเมื่อจงซานปรากฎตัวขึ้น สัมผัสที่หกของเขาก็ยังสั่งให้เขาหนี หนำซ้ำมันยังรุนแรงกว่าเดิมด้วย.
ขณะที่เซอคงกำลังจะหายไปเขาที่จ้องมองปังจงซานด้วยความเกลียดชัง กล่าวปฏิญาณในใจ "เมื่อไหร่ที่ข้าได้ตำหนักจื่อเซียว หลังจากที่ข้ากลายเป็นหงจวินคนใหม่ ข้าจะกำจัดมัน จงซาน!"
"วูซซซซ!"
บนอากาศที่วางเปล่า เซอคงที่หายไปในทันที.
ใบหน้าของจงซานที่ไม่ค่อยดีนัก หวังคูและคนอื่นที่ตรวจสอบรอบ ๆ ไม่มีเซอคงอยู่อีกต่อไปแล้ว.
จงซานที่ร่อนลงไปยังตำหนักที่พังเสียหายในทันที เซิ่งกงเป้าที่ไม่ได้ตามไป ทว่าจ้องมองไปยังจินเผิงและเต้าเหรินถู.
"ทั้งสองจัดการคนที่เหลือ!"เซิ่งกงเป้าเอ่ยออกมาเบา ๆ .
"จัดการ? จับตัวรึ?"เต้าเหรินถูที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่จำเป็น คนเหล่านี้ไร้ประโยชน์ต่อต้าเจิ้ง ในเมื่อกล้าโจมตีเซิ่งหวัง ก็ไม่จำเป็น...!"เซิ่งกงเป้าเอ่ย.
เต้าเหรินถูที่เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่อย่างรวดเร็ว.
ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงจิตสังหารที่มากล้นของเต้าเหรินถู เซิงกงเป้าก็ไม่ได้ต่างกัน ทว่าหน้าที่ของพวกเขาต่างกัน ขุนพลกับกุนซือ การสังหารกับการลงมือย่อมแตกต่างกันออกไป.
เซิ่งกงเป้าที่มีความเด็ดขาด สั่งให้สังหารคนทั้งห้าหมื่นคนในทันที!
"รับทราบ!"เต้าเหรินถูและจินเผิงที่รับคำในทันที.
ภายในห้องโถง.
จงซานที่จ้องมองไปยังเซอคงที่จากไปแล้ว พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"เซียนเซิงจินหง ท่านลองพยากรณ์ว่าเซอคงไปที่ใด!"จงซานที่กล่าวต่อจื่อหยางจิงหง.
"ได้!"
จื่อหยางจิงหงทำการพยากรณ์ในทันที.
ส่วนจงซานยังคงจ้องมองสิ่งอื่น ๆ รอบ ๆ ตำหนัก ภายในห้องโถงนั้นมีลานหยก ซึ่งเป็นหยกฉายแผนที่ของอาณาเขตหนานจานปู่.
"เซิ่งหวังจง รู้เพียงแต่ว่าอยู่ในทวีปหนานจ้านปู่ ส่วนที่ใดนั้นไม่สามารถบอกได้!"จื่อหยางจิงหงกล่าว.
"อืม ขอบคุณ รบกวนแล้ว!"จงซานพยักหน้ารับ.
"จากที่เห็น เซอคงกำลังหาตำหนักจื่อเซียว เขาได้รวบรวมเหล่าศิษย์ของนิกายหงหรู เป้าหมายของเขาคือช่วยหาตำหนักจื่อเซียวให้กับตัวเอง?"หวนจีกล่าวขณะจ้องมองแผนที่.
"ใช่ ในเมื่อเซอคงสนใจตำหนักจื่อเซียวมาก บางทีอีกไม่นาน คงได้พบกันแน่!"จงซานพยักหน้ารับ.
ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ด้านนอกจินเผิงและคนอื่น ๆ ที่จัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นก็เดินเข้ามาสมทบ.
จงซานที่มอบทุกอย่างให้เซิ่งกงเป้าจัดการ ไม่กล่าวสิ่งใด เพราะรายละเอียดทั่วไป ไม่ต้องให้จงซานต้องคิด เรื่องนี้เป็นหน้าที่ข้าราชบริพาร.
"เซิ่งหวัง จะให้พวกเราออกไปหาเซอคงหรือไม่?"โหลวซิงเฉินสอบถาม.
"ไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้เสียแรงเปล่า เขาก็มีเป้าหมายเดียวกัน เพียงแค่เฝ้าตอไม้ รอให้กระต่ายวิ่งเข้ามาชนก็พอ นอกจากนี้การเดินทางมายังทวีปตะวันออกนั้น พวกเรายังมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ!"จงซานกล่าว.
"จัดการเรื่องสำคัญ?"โหลวซิงเฉินที่ไม่เข้าใจ.
"ต้าเจิ้งจำเป็นต้องสะสมพลัง!"เซียนเซิงซือที่กล่าวตอบแทน.
"สะสมพลัง? ด้วยพลังของต้าเจิ้งจำเป็นด้วยรึ?"โหลวซิงเฉินที่ไม่เข้าใจ.
"เมื่อไม่นานมานี้ ต้าเจิ้งของพวกเราได้ขับไล่สามปราชญ์เทพกลับไป แน่นอนว่าทำให้ขวัญกำลังใจทหารลุกโชนช่วย ทำไมต้าเจิ้งไม่ทำการขยายดินแดนล่ะ กล่าวตามตรง นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม!"เซียนเซิงซือที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"ทำไม? เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่เข้าใจ!"โหลวซิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมา.
"รากฐานของพลังของต้าเจิ้งนั้นยังมีผู้แข็งแกร่งไม่มาก แม้นว่าจะขับไล่สามปราชญ์ออกไป แต่ก็ยังขาดพลังในส่วนมากอยู่ กองกำลังในการบัญชาทัพ ยกตัวอย่างเซียนโบราณ มีจำนวนน้อยมาก!"เซียนเซิงซือกล่าวตอบ.
"เซียนโบราณ?"
"ใช่ เซียนเซิงเซิ่งได้นำกลุ่มของเซียนโบราณจำนวนมากมา และเผ่าโครงกระดูกเองก็มีเซียนโบราณจำนวนมากเช่นกัน แม้แต่ต้าเจิ้งก็ยังรับเซียนโบราณอีกนับไม่ถ้วน แต่ยังไกลเกินกว่าคำว่าเพียงพอ และเหล่าผู้มีพรสวรรค์ของนิกายต้าหมิงตลอดไม่กี่พันปีมานี้จะมีเซียนโบราณเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่ก็ยังเป็นจุดบกพร่อง ต้าเจิ้งของพวกเราต้องการเซียนโบราณเป็นจำนวนมาก."เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"แล้วพวกเราจะทำอย่างไร?"โหลวซิงเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เจ้าจะเป็นคนรับเซียนโบราณเพิ่ม!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จงซานกล่าวออกมา ดังนั้นเซียนเซิงซือจึงไม่ได้กล่าวอะไรต่อไป.
"ข้า?"โหลวซิงเฉินที่เผยท่าทางแปลกประหลาด.
"ใช่ เป็นเจ้า!"
"แต่ว่า เฉินไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรในทวีปตะวันออก!"
"เจ้าไม่จำเป็น ชื่อเสียงของหงจวินนั้นมีมากมายเพียงพอแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หงจวิน? เซิ่งหวัง ท่านหมายความว่า............!”โหลวซิงเฉินที่อ้าปากค้าง เผยท่าทางประหลาดใจ.
"ใช่ พวกเราจะสร้างหงจวินคนที่สาม สร้างความวุ่นวายให้กับดินแดนหนานจานปู่เข้าไปอีก สุ่มไฟเพิ่ม!"จงซานกล่าว.
"ปลอมเป็นหงจวิน? ข้านะรึ? ข้าไม่ได้มีชีพจรฟ้าหลิน ข้า....!"โหลวซิงเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ชีพจรฟ้าหลินรึ? สิ่งที่เรียกว่าชีพจรฟ้าหลิน? ในอดีตราชันย์เทพหยกก็สามารถใช้ได้ เจ้าน่าจะเคยเห็น เรื่องนี้ไม่ใช่หงจวินคนเดียวที่ใช้ได้ อีกอย่างพวกเราสามารถสร้างอภินิหารที่ดูคล้ายกับชีพจรฟ้าหลินขึ้นมาได้ แค่ให้ดูเหมือนเท่านั้น?"
"เพียงแค่นี้รึ?"
"ไม่ นอกจากชีพจรฟ้าหลิง ไม่สามารถใช้งาน แต่ก็จำเป็นต้องทำเรื่องอื่น ๆ ด้วย เรื่องนี้ พูดคุยกับเซียนเซิงซือ สามารถช่วยเจ้าได้."จงซานกล่าว.
"เซียนเซิงซือ?"โหลวซิงเฉินที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยความประหลาดใจ.
เซียนเซิงซือที่พยักหน้ารับเบา ๆ .
"ส่วนกลิ่นอายเจ้าหัวนั้น ข้าสามารถใช้ปราณสีสร้างมันขึ้นมาได้ ไม่เพียงกลิ่นอายเจาหัว ทักษะเวลา หงจวิน ทักษะเทวะเวลาก็เป็นอีกพลังที่หงจวินสามารถใช้ได้ นอกจากนี้ทักษะเทวะเวลายังเป็นวิชาเฉพาะ ถึงจะเป็นเพียงใช้ปกปิดความเป็นจริงก็ยากที่จะมีใครใช้มันได้."จงซานที่กล่าวอย่างมั่นใจ.
"รับทราบ! เฉินจะทำสุดความสามารถ"โหลวซิงเฉินที่ตอบรับในทันที.
ในเมื่อเซิ่งหวังตัดสินใจแล้ว ตัวเขาที่เป็นข้าราชบริพารจะขัดขืนได้อย่างไรกัน.
----------------------------------------------------------------------
ต้าฉิน เมืองเซียนหยาง.
หลังจากเสร็จราชกิจ ในตำหนักหยิง หยิงได้บินขึ้นมายืนอยู่บนหลังคาช้า ๆ พร้อมกับจ้องมองไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้.
ที่ด้านหลังหยิงนั้น ปรากฎชายในชุดสีดำขึ้นในทันที.
บุรุษที่ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้ ชัดเจนว่า เขาคือปราชญ์เทพต้าฉิน กุยกูซือ.
"เทียนตี้ ตำหนักจื่อเซียว ได้ปรากฎขึ้นที่ดินแดนหนานจานปู่ ต้าฉินของเราจะไม่ตรวจสอบจริง ๆ รึ?"กุยกูซือที่สอบถามออกไป.
หยิงที่ดูเคร่งขรึม กลิ่นอายที่ดูยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม จดจ้องมองไปยังทิศตะวันตก "กล่าวออกมาอย่างไม่แยแส "อย่าได้โลเลเมื่อตัดสินใจไปแล้ว ความวุ่นวายได้เกิดขึ้นแล้ว เซียนเซิง อย่าได้ลืมเป้าหมายของข้า ไม่ใช่ตำหนักจื่อเซียว พวกเรามีเรื่องสำคัญมากต้องทำ."
"อืม!"กุยกูซือพยักหน้า.
"ทวีปตะวันออกคราวนี้ มียอดฝีมือมากมายหลากหลายกลุ่ม แม้แต่ไท่อี้ทวีปทางใต้ เฉิงโห่วและปราชญ์เทพอีกหลายคน แม้แต่เกิดการต่อสู้กระจายไปทั่วอีกด้วย."หยิงที่กล่าวออกมาอย่างไม่แยนัก.
"ดี!"กุยกู่ซือที่พยักหน้ารับ.
"เฉิงโห่ว? ตอนนี้คือปราชญ์เทพลำดับหนึ่งอย่างงั้นรึ? ดูเหมือนว่าอีกไม่ช้า คงต้องรบกวนเซียนเซิงกุยเป็นคนจับตาแล้ว!"หยิงกล่าว.
"เทียนตี้โปรดวางใจ."กุยกูซือพยักหน้ารับ.
"ส่วนไท่อี้ ในเวลานี้คงกำลังไล่ตามหงจวินตัวปลอมและปราชญ์เทพอื่น ๆ ที่ต้องการตำหนักจื่อเซียวเช่นกัน เวลานี้ไม่จำเป็นต้องสนใจนัก! ให้ลู่ปู่เหว่ยจับตาดูก็พอ!"หยิงกล่าว.
"อืม!"อย่างไรก็ตาม เทียนตี้ในทวีปจู่ลู่ทางเหนือ ยังมีอันตรายหนึ่งที่ซ่อนอยู่!"กุยกูซือเอ่ย.
"เจ้าหมายถึงซา?"
"ซาผู้นี้ ทำให้ยูไลได้รับบาดเจ็บหนัก แม้แต่ทำให้สูญเสียหลิงซานไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ยูไล ในอดีตที่ข้าเคยเห็น ไม่ใช่คนที่ยอมให้กับใคร ๆ แม้นว่าจะเผยพลังของตัวเองให้กับใครได้เห็น แต่ก็นับว่าแข็งแกร่งยากที่จะประมาทได้ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกซาทำร้ายบาดเจ็บ ดังนั้นซาผู้นี้พวกเราเองควรที่จะระวังเช่นกัน!"กุยกู่ซือที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ข้าได้ให้หลี่ซือจับตามองแล้ว ไม่จำเป็นต้องกังวล ตราบเท่าที่เจ้าจับตามองเฉิงโห่วเอาไว้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในทวีปตะวันออกนี้ หากสำเร็จ ทุกอย่างของทวีปตะวันออกจะกลายเป็นของข้า จะไม่มีใครขวางไว้ได้แล้ว!"หยิงที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"กุยกูซือที่พยักหน้ารับ.
---------------------------------------------------------------------------------
อาณาเขตหนานจานปู่.
เดิมที ทั้งทิศใต้และเหนือ ปรากฎวิหารของหงจวินขึ้นสองแห่ง.
ที่ทิศเหนือนั้นต้องบอกว่าจงซานได้ไปสำรวจแล้ว ทว่าวิหารของหงจวินนั้นดูเหมือนกับทิศใต้เป็นอย่างมาก.
กลิ่นอายชีพจรฟ้า ปราณเจาหัว ราวกับว่าหงจวินกลับจะกลับมาแล้ว.
มีผู้ฝึกตนมากมายที่มารวมตัวกัน เพื่อที่จะคารวะหงจวินจากทั่วทุกสารทิศ และนอกจากนี้ดูเหมือนว่าจะมีคนสร้างแท่นบูชา เพื่อให้เหล่าผู้ฝึกตนมากมายได้มาสักการะอีกด้วย.
ในวันหนึ่ง มีร่างในชุดดำสองร่างที่พุ่งตรงมายังพื้นที่ไกลออกไป.
"ผู้มาเป็นใคร!"ที่ด้านนอกตำหนักหงจวินมีใครบางคนเอยออกมา.
ทว่าระหว่างนั้น ผู้ดูแลที่ก้าวออกมา ดวงตาที่จ้องมองไปยังคนที่ปรากฎขึ้น.
"อาจารย์อา!"ผู้ช่วยที่เร่งรีบแสดงความเคารพ.
จากนั้นผู้ช่วยคนดังกล่าวก็เร่งรีบนำคนกลุ่มดังกล่าวเข้ามาด้านในทันที.
"เหริ่นชุน กุยเช่อ? พวกเจ้ามาได้อย่างไร?"ชายคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ข้าและพวกมีเรื่องสำคัญที่จะรายงานราชันย์เทวะ!"เหริ่นชุนที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
กุยเช่อเองก็ด้วย.
"มากับข้า!"ชายคนดังกล่าวที่นำคนทั้งสองไปยังห้องโถงแห่งหนึ่ง.
ประตูตำหนักที่ปิดแน่น.
"เกิดอะไรขึ้น? พวกเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?"
"เกิดอุบัติเหตุบางอย่างขึ้น ในเวลานี้กลุ่มของข้าไม่สามารถทำงานได้สำเร็จ จำเป็นต้องรายงานราชันย์เทวะ เพื่อขอคำชี้แนะต่อไป!"เหริ่นชุนที่กล่าวอย่างหนักแน่น.