ตอนที่แล้วChapter 1178 กลายเป็นกระบี่.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1180 แดนเทวะนิกายจงหรู.

Chapter 1179 ชีวิตที่มีความสุขของพี่น้องเฟยเกอและจูกาน.


ชายแดนทวีปซือหนิวเหอ บนภูเขาหินที่รกร้าง.

เศษกรวดหินดินทรายที่ลอยว่อนอยู่บนอากาศ บนทะเลทรายมีศพของสัตว์อสูรขนาดใหญ่อยู่ โลหิตของมันที่ไหลชโลมดิน ก่อนที่จะค่อย ๆ ถูกดินทรายค่อย ๆ ดูดซึมหายไป.

บอดยอดเขาหินเปลือย.

ใบหน้าของยูไลที่ดูซับซ้อนหนักอึ้ง.

"เทพอรหันต์ คาดไม่ถึงเลยว่าที่นี่จะมีวิญญาณปิศาจ.....!"หมี่เล่อที่ขมวดคิ้วไปมา.

ทว่าในเวลานั้น จู่ ๆ ใบหน้าของยูไลก็เปลี่ยนไป.

"เทพอรหันต์ มีอะไรอย่างงั้นรึ?"อรหันต์หมี่เล่อที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

ยูไลที่สูดหายใจลึก ส่ายหน้าไปมา "หลิงซานตอนนี้ถูกหลอมเข้าไปในร่างของเจี้ยนอ้าวแล้ว!"

"เจี้ยนอ้าว? ชะตาอัดแข็งนัก สามารถที่จะช่วงชิงหลิงซานจากเจิ้นหยวนจื่อได้.

เหล่านักบวชที่เผยท่าทางขมขื่น ที่วิหารของพวกเขา ถูกหลอมไปแล้ว พวกเขาเวลานี้ได้กลายเป็นกลุ่มคนไร้บ้านอย่างสมบูรณ์.

"เทพอรหันต์ พวกเราจะไปใหนตอนนี้?"หมี่เล่อเอ่ยถาม.

"ทวีปกลาง! นิกายปั่นโจวหมื่นอรหันต์!"ยูไลที่เอ่ยออกมาเล็กน้อย แววตาที่เป็นประกายเล็กน้อย.

"ใช่!"เหล่าอรหันต์ ปู่ซา พุทธะที่ขมวดคิ้วไปมา.

-----------------------------------------------------------------

เขตแดนหนานจางปู่และเขตแดนซือต้าปู่.

หลังจากที่จงซานเสร็จสิ้นเรื่องหลิงซานได้บินมายังที่แห่งนี้.

เขตแดนหนานจานปู่และซือต้าปู่นั้นมีแนวเทือกเขาสูงกั้น สถานที่แห่งนี้เป็นดินแดนของเหล่าสัตว์อสูร.

คนทั้ง 12 คน ที่กำลังพุ่งตรงมายังแนวเทือกเขาดังกล่าว พื้นที่รอบ ๆ นั้นถูกปกคลุมด้วยหมอกสีม่วงลอยฟ้ากระจายไปทั่วท้องฟ้า หมอกม่วงที่ตัดกับแสงดวงตะวันดูเจิดจรัสระยิบระยับงดงามเป็นอย่างมาก.

ที่ทิศทางดังกล่าวนั้น มีเสียงดนตรีฟ้าดินที่ดังกระหึ่มขึ้น เป็นเสียงที่ทำให้ทุกคนผ่อนคล้าย และยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งได้กลิ่นหอมที่โชยออกมากระจายไปทั่วท้องฟ้า.

นี่ไม่ใช่ภาพที่ถูกสร้างขึ้น ทว่ามันคือโชควาสนาที่เกิดจากสวรรค์และปฐพี เป็นหนึ่งในวิถีสวรรค์ฟ้าดิน.

วิถีสวรรค์ที่ดูคลุมเคลือ กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ แม้แต่ทำให้หัวใจของทุกคนสั่นไหว.

"หลิน? นี่คือชีพจรฟ้าหลิน? เป็นหงจวินอย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

ตามคำบอกเล่า ชีพจรฟ้าหลินนั้น เป็นของหงจวิน นี่เป็นเขาจริง ๆ รึ?

"เป็นกลิ่นอายของโชควาสนา? เป็นผลจากเคล็ดวิชาสวรรค์จงหัวอย่างงั้นรึ?"หวังคูที่จ้องมองไปยังอภินิหารที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าที่อยู่ไกลออกไป.

ภาพอภินิหารที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้แต่เผยให้ผู้ฝึกตนมากมายนับไม่ถ้วนได้เห็นกันทุกคน.

"หงจวินรึ?"เต้าเหรินถูที่กล่าวออกมาช้า ๆ .

"นี่มัน คาดไม่ถึงว่าจะพยากรณ์ไม่ได้? เหรือว่าเป็นหงจวินจริง ๆ รึ?"จื่อหยางจิงหงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ก็อาจจะ!"จงซานที่เผยยิ้มออกมเล็กน้อย.

"หืม?"ทุกคนที่จ้องมองจงซานด้วยความประหลาดใจ.

"บนอาณาเขตหนานจานปู่ปรากฎหงจวินขึ้นสองคน อีกหนึ่งก็ปรากฎอภินิหาร ชีพจรฟ้าหลินเช่นกัน ทั้งเหนือและใต้ ต่างก็ดูเหมือนกัน!"จงซานที่กล่าวตอบ.

จินเผิงที่อ้าปากค้าง อีกหนึ่งหงจวินก็เป็นเช่นนี้อย่างงั้นรึ?

ก่อนหน้านี้ได้ยินกงเชียนกล่าวถึงก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทว่าเห็นสัญลักษณ์ของหงจวินต่อหน้า ในเวลานี้จินเผิงที่ได้แต่ฝืนยิ้มคิดว่าคงเป็นเรื่องจริง.

ทว่าการที่เซิ่งหวังกล่าวเช่นนี้? อีก หงจวินก็มีอภินิหารเช่นนี้เกิดขึ้น เป็นชีพจรฟ้าหลินเหมือนกันอย่างงั้นรึ?

ทุกคนที่จ้องมองจงซานพร้อมกับเปลี่ยนเป็นเงียบงัน เผยท่าทางที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อนเป็นอย่างมาก.

"ไปเถอะ ถึงเวลาพวกเจ้าก็จะรู้!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"เซิ่งหวัง ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไร?จินเผิงที่สอบถามออกไป.

"มีการก่อตั้งนิกายจงหรูขึ้น ในอาณาเขตหนานจานปู่ พวกเราจำเป็นต้องหาเซอคงให้เจอ!"จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.

"รับทราบ!"

----------------------------------------------------------------

อาณาเขตหนานจานปู่ ภายในป่ารกทึบที่กว้างขวางแห่งหนึ่ง.

บนเทือกเขาแห่งหนึ่ง มียุงพิษมากมาย พร้อมกับหมอกพิษที่ลอยคละคลุ้งเต็มอากาศ เหล่าผู้ฝึกตนทั่วไปไม่ยินดีที่จะเข้าใกล้ เพราะว่าเพียงแค่มองก็หัวใจเย็นยะเยือบแล้ว.

สภาพแวดล้อมที่มืดครึ้มตลอดเวลา แม้แต่มีเสียงโหยหวนของปิศาจ ทำให้คนมากมายตัดสินใจหลีกเลี่ยงไปในทันที.

ทว่าในเวลานี้บนเทือกเขาดังกล่าวนั้น.

"อ๊ากกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~! ”

เสียงเจ็บปวดทรมานที่ดังขึ้นก้องไปทั่วป่า.

เห็นชัดเจนว่า ภายใต้สภาพแววล้อมที่มืดครึ้มนั้น กลับมีใครบางคนสนใจ เข้าไปด้วยความสงสัย จนแม้แต่ตอนนี้ได้พบเข้ากับความขมขื่นเข้า.

ที่ด้านในนั้นมีค่ายกลที่น่าเกรงขาม จนทำให้ใครบางคนที่รุกเข้าไปต้องส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพชเวทนา.

ปัง!

เกิดเสียงระเบิดขึ้นที่ด้านใน.

เหล่าผู้ฝึกตนนับร้อย ตอนนี้ทำได้แค่วิ่งหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย.

ภายในบรรยากาศที่มืดครึ้มนั้น ที่ด้านในเห็นเพียงแค่แสงลิบ ๆ เปิดออกมา หนึ่งในนั้นเป็นชายที่อาบไปด้วยโลหิตบินออกมาด้วยความหวาดผวา.

ทว่าเขาบินออกมาได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ร่างกายของเขาก็กลายเป็นสีเขียว ก่อนที่ร่างกายจะสลาย เลือดเนื้อจะสลายกลายเป็นกองเศษซากกระดูกร่วงหล่นลงไปป่าทึบ.

จากนั้น คนแล้วคนเล่าที่ตายอยู่ในเทือกเขาในป่าแห่งนี้.

ท้ายที่สุดทุกคนก็ตายไปทั้งหมด กลายเป็นตกตายอย่างน่าหวาดผวา สร้างความหวาดกลัวสำหรับคนที่จะก้าวเข้าไปต้องพบกับจุดจบ.

เพราะว่าในเวลานี้บนเทือกเขาอีกแห่งหนึ่งนั้นขณะจ้องมองผู้คนมากมายตกตายไป ปรากฎร่างสองร่างหนึ่งร่างอ้วน หนึ่งผอมจ้องมองกันอยู่.

"เฟยเกอ มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!"ชายในร่างผอมที่หวาดผวากล่าวเสียงสั่นออกมา.

อย่างไรก็ตาม ชายที่อ้วนท้วมนั้นกลับดวงตาเป็นประกาย.

"จูกาน เจ้าเห็นอะไร? ก่อนหน้านี้มีคนที่ออกมา ด้านในนั้นมีเพชรเม็ดใหญ่มาก! เพชรใหญ่ขนาดนั้นเท่ากับรถแทรกเตอร์คันใหญ่ เจ้าไม่เห็นรึ?"ชายอ้วนที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้นออกมาในทันที.

"ข้าเห็น ด้านในนั้นน่ากลัวมาก คนตายคนแล้วคนเล่า!"จูกานที่เอ่ยออกมาด้วยความขลาดเขลา.

"ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นแล้ว?"ชายอ้วนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น.

"แต่ว่า......!”

"แต่ว่าอะไร นี่เพื่อพี่สาวเจ้าด้วย! ไม่ได้ นี่เพื่อน้องสาวของข้า เจ้าไม่คิดที่จะเตรียมสินสอดให้กับน้องสาวของข้าเลยรึ?"ชายอ้วนที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.

"ข้ามีพอแล้ว หลายปีมานี้พวกเราขุดหลุมฝังศพมาตั้งมากมาย!"จูกานที่กล่าวแย้ง.

"มีอะไร มีแต่อาวุธพวกดาบพวกกระบี่ มันจะเทียบกับเพชรได้อย่างไร? รถคันใหญ่ต้องใช้เพชรเม็ดใหญ่ นำมันกลับบ้านได้ น้องสาวของข้ามิคร้านจะรักเจ้าหมดใจ!"เฟยเกอที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

"รักรึ?"ใบหน้าของจูกานที่หวาดหวั่นก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อนที่จะเริ่มถูมือไปมา ภายในใจที่เหมือนกับคล้อยตามคำพูดของเฟยเกอ.

"ดังนั้น เพชรนี่ พวกเราจะต้องนำไปให้ได้!"เฟยเกอที่กล่าวอย่างแข็งขัน.

"แต่ว่า สุสานอื่นที่พวกเราไปก่อนหน้านี้ มันไม่ได้เสี่ยงขนาดนี้? ตอนนี้ พวกเรา...!"จูกานที่เผยท่าทางหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย.

"หากไม่เสี่ยงแล้วจะได้สมบัติได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้มีแต่พวกโง่เง่า ไม่ต่างจากคณะตลก บินเข้าไปทำไม? ขุดเป็นอุโมงค์เข้าไปสิ!"เฟยเกอกล่าว.

"ใช่ พวกมันโคตรโง่เลย คงจะคิดไม่ถึง?"จูกานที่ดวงตาเป็นประกาย.

ทั้งสองที่คิดว่าตัวเองยอดเยี่ยม คนเหล่านั้นหากรู้ว่าสองคนนี้คิดอะไรอยู่คงกลายเป็นบ้า ขุดเป็นอุโมงค์? เห็นชัดเจนว่านี้คือค่ายกลที่ลึกล้ำ และยังเป็นค่ายกลที่แข็งแกร่งมาก พลังของค่ายกลนั้นแทรกลงไปยังพื้นดิน ยิ่งลึกก็ยิ่งแข็งแกร่ง ขุดเป็นอุโมงค์หากไม่มีของวิเศษก็ไม่มีทางทำได้.

ทว่าสองพี่น้อยเฟยเกอและจูกานมีหรือที่จะรู้.

ซึ่งในเวลานี้จูกานได้นำพลั่วขนาดใหญ่ออกมา ก่อนที่จะเริ่มขุดอุโมงเข้าไปในเทือกเขาดังกล่าว.

"เฟยเกอ ท่านเคยบอกว่าการขุดสุสานคนตายไม่มีความเสี่ยง ๆ  ตอนนี้ทำไมมันถึงกลายเป็นความเสี่ยง ไม่ต่างจากฆ่าตัวตัวไปซะแล้วล่ะ?"จูกานที่กล่าวแสดงความเห็น.

"นี่ก็เพื่อน้องสาวข้าและพี่สาวเจ้า จะได้มีความสุข ขุดไป!"เฟยเกอที่กล่าวเสียงดัง.

“!”

จูกานที่เริ่มขุด ทั้งสองที่ค่อย ๆ ขุดเข้าไปด้านในช้า ๆ .

หลังจากที่ขุดไปได้มากกว่าร้อยเมตร เฟยเกอก็เอ่ยออกมาว่า "เอาล่ะ รีบขุดไปตรงนั้น!"

"ได้!"จูกานเอ่ย.

พวกเขาที่ขุดเพื่อรถแทรกเตอร์ ขุดเพื่อค้นหาเพชร.

"ปัง!"

พวกเขาที่ขุดแล้วก็ขุด รอบ ๆ นั้น เวลานี้กำลังส่องประกายแสงสว่างวับวาวไม่หยุด.

"เฟยเกอ ดูนั่น!"จูกานเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.

เฟยเกอที่จ้องมองภาพที่เกิดขึ้น.

เวลานี้ทั้งคู่ที่ขุดเข้าไปจนถึงกลางภูเขาแล้ว.

กล่าวอีกอย่าง ยิ่งพวกเขาขุดเข้าไป ก็ยิ่งพบกับแสงที่สว่างจ้า.

"อย่าพูดมาก ขุดเข้าไป!"เฟยเกอที่กล่าวดุ.

"ให้แต่ข้าขุด! ข้าบอกแล้วข้าไม่ชอบเช่นนี้ ข้ายังไม่อยากฆ่าตัวตาย."จูกานที่กล่าวออกมาราวกับไม่ได้รับความยุติธรรม.

ทั้งสองที่ขุดไม่หยุด สร้างเป็นถ้ำขนาดใหญ่พุ่งเข้าไปด้านใน พวกเขาที่ขุดเข้าไปไม่หยุดลึกเข้าไปกว่าสองกิโลเมตรแล้ว ทว่าก็ยังขุดต่อไป.

------------------------------------------------------------------------

ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง ในอาณาเขตหนานจานปู่.

ภายในห้องโถงนั้นมีแท่นหยก ซึ่งปรากฎภาพแผนผังของเขตแดนหนานจ้านปู่ทั้งหมด และยังมีหลายที่ที่ทำการขีดเครื่องหมายเอาไว้.

บนแท่นหยกนั้นมีชายในชุดสีเหลือง หากจงซานอยู่ที่นี่ ย่อมจดจำเขาได้ เขาคือสุดยอดผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยอีกคนหนึ่ง เหริ่นชุน.

ดวงตาของเหริ่นชุนที่เบิกกว้าง ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

"กุยเช่อ ไปกับข้า!"เหริ่นชุนที่เอ่ยออกมาด้วยความกังวลใจ.

จากนั้น เหริ่นชุนที่บินออกไปด้วยความเร็ว.

เหริ่นชุนที่เร่งรีบบินออกไป ก่อนที่จะมีเงาหนึ่งร่างบินออกมาตามเหริ่นชุน.

"เหริ่นชุน บิดากำลังดื่มสุราอยู่ มีอะไรให้บิดาทำอีกล่ะ?"เสียงของกุยเช่อ อสูรเทวะที่บินไล่หลัง.

"มีบางคนที่ทะลวงผ่านค่ายกลของข้าไป!"เหริ่นชุนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ค่ายกล? ค่ายกลของเจ้าไม่ใช่อยู่ในที่กันดานไม่ใช่รึไง? ถึงจะมีคนเข้าไป ก็เป็นแค่คนทั่วไป ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าต่ำกว่าเซียนโบราณทั้งหมด ก็มีแต่ตายเท่านั้น? ทำไมต้องมารบกวนบิดาดื่มสุราด้วย."กุยเช่อที่แสดงท่าทางไม่พอใจนัก.

"สุรารึ? งานใหญ่ของราชันย์เทพสำคัญกว่า เจ้าคิดว่าการดื่มสุราเจ้าสำคัญรึอย่างไร?"เหริ่นชุนที่ดวงตาเบิกกว้าง.

เป็นความจริง เพียงแค่เอ่ยว่างานใหญ่ของราชันย์เทพ กุยเช่อที่หุบปากไม่เอ่ยอีกต่อไป.

"เร็วเข้า ข้ากังวลว่าค่ายกลของข้ากำลังถูกทะลวงแล้ว ไม่เช่นนั้นแย่แน่!"เหริ่นชุนที่กล่าวออกมา.

"อืม ขึ้นมาบนร่างของข้า!"กุยเช่อที่กลายเป็นวิหคยักเก้าหัวขาดหนึ่งหัว คำรามลั่นพุ่งออกไปในทันที.

เหริ่นชุนที่ขึ้นไปบนร่างของกุยเช่อ ทั้งคู่ที่พุ่งออกไปเพิ่มความเร็วนับสิบเท่า.

อีกฝั่ง สองพี่น้อยเฟยเกอและจูกานได้ออกมาจากสถานที่ดังกล่าวแล้ว.

ในเวลานี้ คนทั้งสองที่อยู่ในเมืองของปุถุชนที่อยู่ไม่ไกลออกมา.

"พวกเรารวยแล้ว เฟยเกอ พี่เขย พวกเรารวยแล้ว เพชรเม็ดใหญ่เท่ากับแทรกเตอร์คันใหญ่ น้องสาวของท่านต้องมีความสุขแน่!"จูกานที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"ข้าพูดถูกเห็นไหม พวกเราจะรวย น้องสาวของข้า พี่สามของเจ้า! พวกนางมีเหรอที่จะต้านทานได้!"เฟยเกอที่กล่าวออกมาอย่างภาคภูมิ.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด