Chapter 1176 กลุ่มคนชุดดำที่น่าเกรงขาม.
คาดไม่ถึงในโลกหล้านี้จะมีคนที่กล่าวกล่าวหยันปราชญ์เทพ?
แทบจะในทันทีที่ทุกคนจ้องมองด้วยความสนใจ มีคนที่แส่หาความตายจริง ๆ! เจ้าคิดว่าเป็นหยิงต้าฉินอย่างงั้นรึ? หยิงที่ล้มกงจื่อ ตัวเขาก็ยังไม่เคยกล่าวหยันปราชญ์เทพเลยไม่ใช่รึ?
กล่าวหยันปราชญ์เทพอย่างไม่มีเหตุผล เป็นเหมือนกับการยุแหย่ปราชญ์เทพ ไม่เท่ากับกำลังแส่หาความตายอย่างงั้นรึ?
แน่นอนว่า เหล่าผู้ฝึกตนเหล่านี้ไม่รู้ถึงเรื่องที่แส่หาความตายของจงซาน ไม่ได้เพียงแค่หยันปราชญ์เทพ ในทวีปทิศเหนือนั้น เขาได้ตบหน้าปราชญ์เทพต่อหน้าผู้คนมากมาย มอบความอับอายจนปราชญ์เทพต้องหนีจากไป.
เรื่องการต่อสู้ในทวีปทิศเหนือ แม้นว่าจะทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน ทว่าเรื่องดังกล่าวนั้นก็ไม่ได้ถูกส่งมาได้อย่างรวดเร็วขนาดนั้น อีกอย่างกลุ่มของจงซานเองก็เดินทางมาด้วยความเร็วสูงด้วยเช่นกัน.
ดังนั้นการที่พวกเขาเห็นจงซานกล่าวหยันม่อจื่อ ทุก ๆ คนจึงรู้สึกไม่ปลื้มคนกลุ่มนี้ พวกเขากล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร? พวกเขาไม่ใช่ปราชญ์เทพ คู่ควรที่จะตีตนเท่ากับปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?
จงซานที่ก้าวพร้อมบินออกไป คน 11 คนที่บินตามไป.
คนทั้ง 12 คนที่ค่อย ๆ บินเข้าไปในหลิงซาน(ภูเขาจิตวิญญาณ)
ในเวลานี้ ม่อจื่อไม่ได้ขวาง อนุญาตให้คนกลุ่มนี้เข้าไปในหลิงซาน.
ม่อจื่อที่ปล่อยให้จงซานนำคนของเขาบินเข้าไป คนอื่น ๆ เวลานี้รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีนัก.
ต้องไม่ลืมว่า ในเวลานี้มีผู้ฝึกตนมากมายที่จับจ้องมองไปยังหลิงซาน ทว่าคนกลุ่มนี้ที่กล้ากล่าวข่มขู่ปราชญ์เทพ ทำให้พวกเขาไม่กล้าลงมือในทันที.
มีเซียนบรรพชนบางคนที่ต้องการจะลงมือสร้างปัญหา เจิ้นหยวนจื่อที่ดวงตาหรี่เล็กลงพร้อมกับกุมตำราปฐพีแน่น ราวกับต้องการจะลงมือเช่นกัน กงเชียนเองก็หรี่ตาเล็กลง จดจ้องมองไม่วางตาเช่นกัน.
จื่อหยางจิงหงที่ปกคลุมทุกคนกลุ่มนี้ด้วยสวรรค์ลี้ลับ บางทีที่นี่ คงมีเพียงม่อจื่อที่รับรู้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นใคร.
ทุกคนที่เตรียมลงมือ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยังคงตั้งท่าอยู่เท่านั้น.
เพราะพวกเขารู้ว่าแม้แต่ปราชญ์เทพ เจี้ยนอ้าวยังบ้าคลั่งไม่ยินยอม คนกลุ่มนี้ เจี้ยนอ้าวจะจัดการกับพวกเขาอย่างไรขณะเข้าใกล้หลิงซาน.
เจี้ยนอ้าวที่ชี้กระบี่สีฟ้าไปด้านหน้า จ้องมองด้วยสายตาเย็นชาไปยังคนทั้ง 12 ที่บินมา.
"เจี้ยนอ้าว นับตั้งแต่จากกันที่เทือกเขาเหมย ท้ายที่สุดก็ได้พบกันจนได้ หลิงซานจะอนุญาตให้ข้าเข้าไปได้หรือไม่!"จงซานที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
ในเวลานี้ เสียงของจงซานที่เปลี่ยนไป ไม่มีใครจะคิดว่าจงซานได้มาถึงที่นี่แล้ว หลาย ๆ คนที่พยายามที่จะคาดเดาสถานะของเขา.
จากกันที่เทือกเขาเหมย? ผู้ฝึกตนรอบ ๆ ที่เผยท่าทางแปลกประหลาดทันที คนกลุ่มนี้รู้จักเจี้ยนอ้าวอย่างงั้นรึ?
ใบหน้าแววตาของเจิ้นหยวนจื่อที่สั่นไหวไปมาด้วยความเย็นชา.
ใบหน้าของกงเชียนที่เปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม กงเชียนแม้นว่าจะไม่ต้องการให้เจิ้นหยวนจื่อได้รับมันไป และยังต้องการถวายพานให้กับปราชญ์เทพม่อจื่อ ชัดเจนแล้วมันเป็นแผนการของเขา.
การมาถึงของคนกลุ่มนี้นั้น ได้ทำลายแผนการของเขาไปแล้ว แน่นอนว่าภายในใจของกงเชียนรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที.
เหล่าเซียนบรรพชนอื่น ๆ เองจ้องมองไปยังกลุ่มของจงซานด้วยแววตาไม่เป็นมิตรเช่นกัน.
ส่วนม่อจื่อ ไม่ได้กล่าวสิ่งใด ทั้งที่ถูกพวกเขากล่าวหยัน ปราชญ์เทพที่น่าเกรงขามไม่รู้สึกอะไรอย่างงั้นรึ?
กลุ่มของจงซานที่ปรากฎตัวขึ้นมา กลายเป็นศัตรูของทุกคนไปในทันที ไม่มีใครที่อยู่รอบ ๆ พึงพอใจอยู่แล้ว.
อย่างไรก็ตาม จงซานเวลานี้ไม่ใช่จงซานในอดีต กลับกลุ่มอิทธิพลใหญ่ใด ๆ จงซานมั่นใจว่าจะสามารถรับมือได้.
จากกันที่เทือกเขาเหมย? สายตาของเจี้ยนอ้าวที่สั่นไหว จากนั้นก็เผยท่าทางประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
เทือกเขาเหมย? เทือกเขาเหมยใหน? มันคือเทือกเขาในโลกใบเล็ก ก่อนที่เขาจะโบยบินออกมา ได้พูดคุยปรึกษาร่ำสุรากับจงซานที่เทือกเขาเหม่ย?
จงซาน?
เป็นจงซานจริง ๆ ?
เจี้ยนอ้าวที่เก็บปราณกระบี่ เปิดทางออกมา.
กลุ่มของจงซานที่บินร่อนลงยังหลิงซาน.
ไม่ต้องเอ่ยอะไรต่อไป จงซานในเวลานี้กลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนไปแล้ว.
ต้าเจิ้ง หากเป็นเมื่อครั้งไม่อดีต คงไม่สามารถกระทำอะไรเช่นนี้ได้ หากแต่จงซานในเวลานี้ พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกคน ด้วยกลยุทธ์และแผนการ และนั่นจะยิ่งทำให้เขาได้รับผลประโยชน์ที่ใหญ่ขึ้นไปด้วย.
จงซานที่หันหน้าจ้องมองไปยังม่อจื่อที่อยู่ไกลออกไป.
ทั้งสองฝั่งที่จ้องมองกันและกัน แม้นว่าจะไม่เห็นใบหน้า ทว่าทั้งสองฝั่งต่างก็สามารถบอกได้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นใคร.
ม่อจื่อที่จ้องมองจงซาน ภายในใจที่เผยท่าทางแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.
ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งเดินทางไปยังต้าเจิ้งเพื่อขวางปราชญ์เทพหมี่เทียนไว้ ทว่าม่อจื่อรู้ดีว่าจงซานไม่ได้รู้สึกขอบคุณอะไรเขาอย่างแน่นอน.
ในเวลานั้น ม่อจื่อก็บอกว่ามาชดใช้บุญคุณคนอื่น คนที่จงซานต้องขอบคุณ ย่อมต้องเป็นสตรีสองคน.
ส่วนม่อจื่อ หลังจากที่หมี่เทียนจากไปแล้ว เขาเองก็ไม่ได้แสดงว่าจะยืนอยู่ฝ่ายใหน.
จงซานเป็นคนรู้คุณคนอย่างแน่นอน ทว่าก็ไม่ได้ตาบอดที่จะซาบซึ้งไปทั่ว ในเวลานั้น แม้นว่าม่อจื่อจะช่วยต้าเจิ้ง จงซานก็ยังตัดสินใจเช่นนี้.
เจี้ยนอ้าว เขาเป็นคนมอบวิธีในการหลอมแผนที่ก่อเกิดบรรพกาลให้กับจงซานในอดีต สิ่งสำคัญที่สุด การมอบถ่านไฟในหน้าหนาว ย่อมดีกว่าปักดอกไม้บนผ้าลายงามอยู่แล้ว.
ระหว่างม่อจื่อและเจี้ยนอ้าว เขาย่อมต้องเลือกเจี้ยนอ้าว.
"ม่อจื่อ!"จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
ทุกคนที่จ้องมองจงซาน เขาและม่อจื่อรู้จักกันอย่างงั้นรึ?
"เจ้าถอยไปเถอะ!"จงซานเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล.
?
แทบทุกคนที่เผยท่าทางแปลกประหลาด กับคำพูดเช่นนี้? ไม่ใช่ว่าเป็นคำพูดที่ม่อจื่อใช้พูดกับเจิ้นหยวนจื่อก่อนหน้านี้หรอกรึ? เหมือนกันมาก? เรื่องนี้..... คนผู้นี้เสียสติไปแล้วรึ?
แปดเซียนบรรพชนที่จ้องมองจงซานด้วยความโกรธ กงเชียน เจิ้นหยวนจื่อเองก็เผยใบหน้าเย็นชาจดจ้องมองไปยังจงซาน.
"เจ้าเป็นใคร!"กงเชียนที่คำรามออกมาเสียงดัง.
สายตาของกงเชียนที่จ้องมองจงซานด้วยแววตาเกลียดชัง แต่สามารถพูดได้ ราวกับว่าความรู้สึกนี้มีมานานแล้ว คล้ายกับศัตรูเก่าแก่ของเขา เขาเป็นใคร?
"เจ้าเป็นใคร กล้าไม่ให้ความเคารพปราชญ์เทพ? แส่หาความตาย!"ในเวลานั้นเซียนโบราณคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลไปจากจงซานตะโกนออกมาเสียงดัง.
จงซานที่หันหน้าจ้องมอง จิตสังหารที่แผ่พุ่งออกไป.
แม้นว่าจะไม่เห็นใบหน้าของจงซาน ทว่าเซียนโบราณคนดังกล่าวกลับรู้สึกหนาวเย็นสั่นสะท้าน จนต้องถอยหลังออกไปหลายก้าว.
"เจ้า เจ้า............!”เซียนโบราณคนดังกล่าวที่เอ่ยเสียงสั่นระรัว.
"ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ให้เจ้ามาเอ่ยปาก!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
เซียนโบราณที่สัมผัสได้ถึงเสียงที่เย็นเยือบทิ่มแทงเข้ามาในจิตใจจนทำให้หายใจติดขัด ใช่ตัวเขามีคุณสมบัติอะไร กล้าเอ่ยกับคนที่แม้แต่กล่าวหยันปราชญ์เทพ ตัวเขาที่เสียสติโดยไร้ซึ่งเหตผล.
เขาที่เป็นเซียนโบราณ อาศัยว่ายืนอยู่ไม่ไกลจากกงเชียนเท่านั้น.
ในเวลานั้น ราวกับคำพูดของจงซานที่กล่าวต่อว่ากงเชียนอ้อม ๆ ด้วย ทำให้ใบหน้าของกงเชียนบิดเบี้ยวด้วยความเกลียดชัง.
"นานมาแล้วจริง ๆ คนที่พูดเช่นนี้กับข้าล้วนแต่หายไปหมดแล้ว"กงเชียนที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
กงเชียนมีแผนการของตัวเอง ไม่คิดว่าคนกลุ่มนี้จะมาปลุกปั่นแผนของตัวเอง ในเวลานี้แผนการของเขาจะต้องล้มไม่เป็นท่าด้วยคนกลุ่มนี้.
จงซานที่จ้องมองไปยังกงเชียนและชี้นิ้วออกไปในทันที.
การชี้ไปยังกงเชียน ในเวลานี้ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกประหลาด.
ที่ด้านหลังจงซาน คนในชุดสีดำผู้ใต้บังคับบัญชาระดับสาม ที่แสดงความเคารพจงซานเล็กน้อย จากนั้นก็บินออกไป ตามการชี้ของจงซาน บินเข้าไปหากงเชียน.
ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบ ๆ ถึงกับอ้าปากค้าง.
นี่มัน นี่หมายความว่า? ทุกคนที่เข้าใจว่าเป็นสัญญาณของจงซาน ออกไป ทำให้เขาหุบปาก.
แม้นว่าจงซานจะไม่ได้กล่าว สัญญาณที่ใช้ออกมาก็ทำให้ทุกคนเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว.
ใครคือกงเชียน! ในอดีตเขาคือเซียนบรรพชนที่แข็งแกร่งเป็นหนึ่งในใต้หล้า เป็นประมุขตระกูลกง แน่นอนว่าต้องเป็นเซียนบรรพชนที่น่าเกรงขาม ทว่าคนชุดดำนี้เป็นใครกัน? ถึงกับส่งผู้ใต้บังคับบัญชาไปหุบปากกงเชียน?
สายตาของทุกคนที่จ้องมองกลุ่มของจงซานที่ดูเหมือนกับคนบ้าก็ไม่ปาน.
แม้แต่กงเชียน ในเวลานี้ยังเผยท่าทางดูแคลนออกมา.
ชายในชุดสีดำที่บินออกไป ทันใดนั้นก็ฟาดฝ่ามือออกไป ฝ่ามือที่มีประกายแสงสีทองสว่างจ้าพุ่งตรงไปยังกงเชียน.
โจมตีไปจริง ๆ รึ? ไม่ไกลออกไปเจิ้นหยวนจื่อที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
หลังจากที่กงเชียนมองเห็นฝ่ามือดังกล่าว ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อนในทันที.
กงเชียนที่ตวัดฝ่ามืออกไปเข้าปะทะฝ่ามือของคนชุดดำในทันที.
"ตูมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เกิดระเบิดเสียงดัง ห้วงมิติที่สั่นไหวไปมา.
ก่อนที่ห้วงมิติจะค่อย ๆ กลับเป็นปกติช้า ๆ แววตาของกงเชียนที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อจ้องมองไปยังชายชุดดำ.
"เจ้า......!” กงเชียนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"อย่ามายุ่ง!"ชายในชุดสีดำที่ส่ายหน้าไปมา.
ใบหน้าของกงเชียนที่กระตุก แววตาที่เผยท่าทางประหลาดใจ ในเวลานี้ เหมือนจะรับรู้แล้ว แต่ไม่สามารถเอ่ยอะไรได้.
ทว่าผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ต่าง ๆ ก็เริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีแต่ไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้เช่นกัน.
เพราะทุกคนที่เห็นได้ชัดเจน กงเชียนไม่เข้าไปจัดการ ไม่ลงมือต่อ ทำได้แค่มองชายชุดดำเท่านั้น.
เป็นไปได้อย่างไร?
คนกลุ่มนี้ผิดปรกติเกินไปแล้ว? เป็นใครในใต้หล้าแห่งนี้?
เพียงผู้ใต้บังคับบัญชา ก็เพียงพอขู่กงเชียนรึ? นั่นมันกงเชียนนะ!
เจิ้นหยวนจื่อ ที่ใบหน้ากระตุก ฝ่ามือเมื่อครู่นี้ ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก แต่กระนั้นกับทำให้กงเชียนไม่คิดที่จะต่อสู้ต่อไปอย่างงั้นรึ?
เป็นใครในโลกหล้า ที่ทำให้กงเชียนหวาดกลัว? เป็นไปไม่ได้!
แน่นอนว่าคนที่จะสะกดกงเชียนได้ ก็ต้องเป็นจินเผิง ไม่ใช่เพราะว่าจินเผิงแข็งแกร่งกว่ากงเชียน ทว่าพวกเขาทั้งคู่รู้จักกัน เป็นเหมือนกับพี่น้องต่างเผ่า นอกจากนี้กงเชียนที่ติดค้างจินเผิงเป็นอย่างมาก ในอดีตเมื่อครั้งที่เขาได้รับบาดเจ็บถูกจับตัวในวิหารใต้เหล่ยหยิน เป็นจินเผิงที่บุกเข้าไปช่วยอย่างไม่คิดชีวิต พวกเขาที่มีความสัมพันธ์พี่น้องที่เหนี่ยวแน่น จึงทำให้กงเชียนหยุดนั่นเอง.
จงซานที่จ้องมองไปยังจินเผิงที่สะกดกงเชียนเอาไว้แล้ว ก่อนที่จะหันหน้ามามองม่อจื่อ.
"ม่อจื่อ เจ้าควรจะรู้ว่าไม่สามารถนำหลิงซานไปในวันนี้ได้ ถึงเจ้าไม่หยุด ตำหนักจื่อเซียวก็ไม่มีทางหาเจอ เจ้าคิดว่าจะต่อสู้กับพวกเราตอนนี้จริง ๆ รึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
ม่อจื่อที่ได้แต่เงียบ ราวกับคาดไว้แล้วเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้.
จริง ๆ แล้ว ขณะที่จงซานกล่าวอยู่นั้น เจิ้นหยวนจื่อที่บินเข้ามาในทันที.
จินเผิงที่ปะฝ่ามือกับกงเชียน เจิ้นหยวนจื่อสามารถ มองเห็นได้ แม้นว่าจะไม่รู้ชายชุดดำเป็นใคร ทว่าก็มั่นใจได้ว่าคนกลุ่มนี้ไม่ใช่คนที่กงเชียนไม่รู้จัก.
ดังนั้น เจิ้นหยวนจื่อจึงต้องการลงมือ.
คนกลุ่มนี้ขวางกงเชียนไว้ และต้องการไล่ม่อจื่อไป? ม่อจื่อกลับเงียบ แล้วเขาต้องถอยไปด้วยอย่างงั้นรึ?
เจิ้นหวนจื่อที่ตอนนี้คาดเดาไว้สองประเด็น.
ประเด็นแรกคนกลุ่มนี้แข็งแกร่งมาก เพียงแค่ผู้ใต้บังคับบัญชาก็สามารถไล่กงเชียนได้ และยังสามารถที่จะไล่ปราชญ์เทพไปได้ด้วย ทว่า เป็นไปได้รึ? เป็นไปไม่ได้แน่นอน!
อีกประเด็นหนึ่ง คนกลุ่มนี้กำลังพูดจาใหญ่โต แม้นว่าจะมีพลังอยู่บ้าง ทว่าก็เป็นไปไม่ได้ที่จะผิดปรกติไม่ธรรมดา นอกจากนี้ยังรู้จักกับกงเชียนด้วย.
หากเป็นประเด็นแรก เป็นไปไม่ได้เลยที่ตัวเขาจะได้รับหลิงซานไป.
หากเป็นประเด็นที่สอง? หากเขาทำให้เกิดความวุ่นวายได้ ก็มีโอกาสได้รับหลิงซาน.
ต้องกวนน้ำเพื่อจับปลา ต้องไม่ให้ม่อจื่อจากไป ดังนั้นด้วยสถานการณ์เวลานี้เจิ้นหวนจื่อจึงลงมือต่อหน้าม่อจื่อเพื่อนำทาง ถึงแม้นว่าจะไม่สามารถล้มคนกลุ่มนี้ได้ อย่างน้อยก็สามารถสร้างความวุ่นวายกระตุ้นให้เกิดการต่อสู้ลามออกไปทั้งหมด ตัวเขาก็จะสามารถใช้ความวุ่นวายนี้ฉกฉวยผลประโยชน์ไป.
เจิ้นหยวนจื่อที่บินออกไป ก่อนที่จะปล่อยตำราปฐพีพุ่งตรงไปด้านหน้า.
"ชิ!"จงซานแค่นเสียง.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังจงซานที่แสดงท่าทางเช่นเดิม เขาชี้ไปยังเจิ้นหยวนจื่ออีกครั้ง.
ชายชุดดำอีกคนที่โค้งคำนับให้กับจงซานเล็กน้อย จากนั้นก็บินออกไป พุ่งตรงไปยังทิศทางของเจิ้นหยวนจื่อ.