Chapter 1173 ยูไลผู้ไร้คุณสมบัติในการเข้าร่วม.
เจิ้นหยวนจื่อจ้องมองไปยังเจี้ยนอ้าวและยูไลด้วยสายตาเย็นชา.
สถานการณ์ที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อนเป็นอย่างมาก เพราะโกวเฉิน เจิ้นอู๋ จื่อเหว่ย ทำให้เจินหยวนจื่อ เซียนบรรพชนที่น่าเกรงขามกระโดดเข้าร่วม คาดไม่ถึงเลยว่านี่จะเป็นหมากที่เหลืออยู่ของราชันย์เทพหยกได้ทิ้งเอาไว้.
ทว่าราชันย์เทพหยกได้ตายไปแล้ว เสนาธิการคนสำคัญของเขาก็ถูกสังหารไปเช่นกัน ทำให้เจิ้นหยวนจื่อที่ปกปิดตัวตน ท้ายที่สุดก็ยอมเผยสถานะตัวเองออกมา.
ทันใดนั้นกลายเป็นความชอบธรรมของเจิ้นหยวนจื่อที่ต้องการแก้แค้น ยูไลและเจี้ยนอ้าวในทันที.
หนึ่งต่อสอง?
เจิ้นหยวนจื่อนั้นแข็งแกร่งมาก บางคนไม่รู้ ทว่าก็ไม่กล้าประเมินต่ำเช่นกัน ในศาลสวรรค์ยวีตี้ในอดีต เจิ้นหยวนจื่อ ราชันย์เทพหยก ยูไล ต่างเป็นสามกองกำลังที่แข็งแกร่ง ทว่าเจิ้นหยวนจื่อที่ดูเหมือนว่าจะอยู่อย่างสันโดษ ไม่มีใครสามารถเชื่อมโยงกับราชันย์เทพหยกได้ และพวกเขาเองก็ไม่ใช่นิกายที่จะเทียบได้กับยูไล ดูเหมือนจะเป็นผู้ฝึกตนไร้สังกัดด้วยซ้ำ ดังนั้นสถานะของเขาอาจจะไม่สูงนัก ทว่าความแข็งแกร่งนั้น ไม่มีใครที่จะกล้าหาเรื่องพวกเขาเช่นกัน.
เจิ้นหยวนจื่อต้องการจัดการเจี้ยนอ้าวและยูไลอย่างงั้นรึ?
เจี้ยนอ้าวและยูไลที่ต่อสู้ตัดสินเป็นตายก่อนหน้านี้ ตอนนี้จะกลายมาเป็นพันธมิตรกันอย่างงั้นรึ?
หลาย ๆ คนที่จ้องมองด้วยสายตาแปลกประหลาด เพราะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้พลิกไปพลิกมายากจะคาดเดา.
ยูไลที่จ้องมองไปยังเจิ้นหยวนจื่อ จ้องมองไปยังเจี้ยนอ้าว ทำไมไม่รู้ ที่มุมปากของยูไลเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มฝืน ๆ .
ยูไลที่กวาดตามองผู้ฝึกตนมากมายที่อยู่รอบ ๆ ก่อนที่จะสูดหายใจลำ "ทวีปตะวันออกกำลังจะเกิดความวุ่นวายใหญ่ขึ้น เป็นความวุ่นวายที่หนักหน่วงจริง ๆ เพียงแค่เริ่มต้น วิหารใต้เหล่ยหยินของข้าก็ถูกกำจัดไปซะแล้ว."
เหล่าผู้ฝึกตนหลายคนที่อยู่รอบ ๆ ไม่เข้าใจรอยยิ้มที่เฝื่อน ๆ ของยูไล หลาย ๆ คนที่จ้องมองหน้ากันอย่างงงงวย.
ทว่าจงซานนั้นเข้าใจความหมายที่ลึกล้ำได้เป็นอย่างดี.
จงซานเองก็มีลางสังหารว่าทวีปตะวันออกเองจะกลายเป็นสถานที่แห่งแรกของโลกใบนี้ จากนั้นก็จะส่งผลกระทบไปทั่วหล้า.
ทว่าคาดไม่ถึง เพียงแค่เริ่ม วิหารใต้เหล่ยหยินที่ยิ่งใหญ่ มีชื่อเสียงไปทั่วทวีปตะวันออกจะกลายเป็นหนึ่งกลุ่มอิทธิใหญ่แรกถูกขุดออกไป.
"ศิษย์ของวิหารใต้เหล่ยหยินทุกคน หลิงซานพวกเราไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้ เดินทางไปกับข้า จากทวีปตะวันออกแห่งนี้ ความเปลี่ยนแปลงใหญ่ในทวีปตะวันออกนี้ พวกเราไม่มีสิทธิเข้าร่วมแข่งขันแล้ว!"ยูไลที่เผยยิ้มออกมาอย่างขมขื่น กล่าวต่ออรหันต์ ปู่ซาและพุทธะที่ยังเหลืออยู่.
"รับทราบ!"อรหันต์ ปู่ซาและพุทธะที่กล่าวรับในทันที.
เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบ ๆ กลายเป็นตะลึงงัน ทว่าหลายคนที่เข้าใจคำพูดของยูไลได้เช่นกัน.
ภายในใจของหลายคนที่เย็นยะเยือบขึ้นมา กำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นในทวีปตะวันออก? ตำหนักจื่อเซียว? ยูไลผู้แข็งแกร่งสูญเสียคุณสมบัติเข้าร่วม?
ไม่ไกลออกไป จงซานยังคงจดจ้องมองยูไลไม่วางตา.
ยูไลไม่ต้องการหลิงซานแล้ว เขาเตรียมที่จะจากไป การตัดสินใจเช่นนี้ จงซานพยักหน้าเบา ๆ ยูไลที่เต็มไปด้วยศักดิ์ศรีมากมาย กลับสามารถตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ที่จะจากไปจากทวีปตะวันออก?
หลิงซาน ยูไลไม่สามารถปกป้องได้แล้ว เจิ้นหยวนจื่อมาทำอะไร? เป็นไปได้ว่าเขามาเพราะต้องการแก้ค้นให้กับคนทั้งสาม?คงไม่ใช่เหตุผลง่าย ๆ เช่นนั้น ยกเว้นเจี้ยนอ้าวที่เผยตัวต้องการหลิงซานอย่างเปิดเผย ต่อหน้าของผู้ฝึกตนทุกคน.
หากยูไลยังคงต้านเอาไว้ท้ายที่สุดแล้วทั้งคนและวิหารคงย่อยยับพังทลายไปพร้อม ๆ กัน.
เก็บคนเอาไว้ ยังสามารถกลับมาได้ใหม่อีกครั้ง.
ในเวลาเดียวกันจงซานได้ยินน้ำเสียงที่มีร่องรอยแห่งความเสียใจแฝงในคำพูดของยูไล ไม่ได้เสียใจที่เสียหลิงซาน ไม่ใช่เสียใจในตำหนักจื่อเซียว ดูเหมือนว่าความวุ่นวายของทวีปตะวันออกนั้นมีเป้าหมายที่ใหญ่โตซ่อนอยู่.
จงซานที่กวาดตามองรอบ ๆ หลายคนที่เผยท่าทางยอมรับและยินดี แม้นว่าจะมีหลายคนที่ซ่อนตัวตนเอาไว้ ทว่าจงซานสามารถบอกได้ว่ามันไม่ชอบมาพากล.
ต้าฉิน!
คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีคนของต้าฉินอย่างคาดไม่ถึง?
จงซานเข้าใจนิสัยของหยิงดี แม้นว่าหยิงจะมีความทะเยอทะยายที่สูงล้ำ ทว่าก็ไม่ปล่อยให้คนอื่น ๆ เห็นมันง่าย ๆ ในอดีตแผนการของหยิงทั้งหมด หลาย ๆ แผนการที่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างดี หยิงไม่มีทางที่จะเผยอะไรออกมาให้เห็นอย่างง่าย ๆ แน่นอน.
เหมือน ๆ กัน ยูไลที่สูญเสียศักยภาพที่แข็งแกร่งในอดีตไปแล้ว นี่คือความจริง ทว่าเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเช่นกันที่คนของหยิงไม่ปรากฎออกมา.
ในเวลานี้ หยิงไม่ลงมือ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เป็นไปได้ว่าหยิงมีเรื่องสำคัญกว่า เป้าหมายที่ใหญ่ยิ่งกว่า ความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่กำลังทำอะไรอยู่อย่างงั้นรึ?
"ต้องการลมและฝน!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .
บางคนไม่เข้าใจ ทว่าเซิ่งกงเป้ากลับพยักหน้ารับ ราวกับเข้าใจในสิ่งที่เซิ่งหวังกล่าว เซิ่งกงเป้ารู้สึกสถานการณ์ต่าง ๆ เวลานี้มีใครบางคนกำลังชี้นำ.
ใครบางคน ที่ต้องการให้ยูไลออกจากการแข่งขัน?
"เซิ่งหวังกล่าวมีเหตุผล ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในทวีปตะวันออกเวลานี้ ข้าได้พยายามหลายรอบแล้ว ทว่ากลับไม่สามารถบอกผลมันได้เลย!"จื่อหยางจิงหงที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม?"จงซานที่จ้องมองไปยังจื่อหยางจิงหง.
"ทวีปตะวันออกเวลานี้มีสวรรค์ลี้ลับปกปิดความวุ่นวายนี้ ทำให้ข้าไม่สามารถทำนายผลลัพธ์มันได้ สวรรค์เองก็วุ่นวาย ก่อนหน้านี้ข้าเคยพบ คล้ายกันกับในครั้งนี้ อาจจะ..!"จื่อหยางจิงหงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เคยพบมาก่อน?"จงซานที่จ้องมองไปยังจื่อหยางจิงหง.
"จะมีปราชญ์เทพร่วงหล่นจากสวรรค์ ฟ้าดินกำสรวล!"จื่อหยางจิงหงที่เอ่ยตอบ.
"ปราชญ์เทพร่วงหล่นจากสวรรค์? เหตุการณ์ครั้งนี้จะมีปราชญ์เทพร่วงหล่นลงจากสวรรค์?"จินเผิงที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
"ข้ามั่นใจ ก่อนหน้านี้ก่อนที่กงจื่อจะร่วงหล่นจากสวรรค์ ในครั้งนั้นฟ้าดินปั่นป่วน ไม่ วุ่นวายยิ่งกว่าในอดีตอีก!"จื่อหยางจิงหงกล่าว.
วุ่นวายยิ่งกว่าในอดีตอย่างงั้นรึ? จินเผิงที่เผยท่าทางผวาออกมา ทวีปตะวันออกกำลังจะพบกับหายนะครั้งใหญ่อย่างงั้นรึ?
พวกเขาอยู่ไกลออกมา คนอื่น ๆ จึงไม่ได้ยินคำพูดของจื่อหยางจิงหงกล่าวกับจงซาน.
หลังจากที่เทพอรหันต์ยูไลฝืนยิ้มออกมา ท้ายที่สุดก็จ้องมองไปยังเจิ้นหยวนจื่อ ท้ายที่สุดก็หันไปหาเจี้ยนอ้าว "หลิงซาน นับจากนี้ เป็นของเจ้า!"
ยูไลที่ไม่ถามหาความ จากการตายของพุทธะมากมายอีก หรือบางทีได้เก็บมันเอาไว้ในใจ เมื่อหายจากบาดเจ็บค่อยกล่าวอีกทีก็ยังไม่สาย.
หลิงซาน นับจากนี้ กลายเป็นของเจี้ยนอ้าวแล้วรึ?
"อืม!"เจี้ยนอ้าวพยักหน้ารับ รับหลิงซานมาต่อหน้าของทุกคน.
ในเวลาเดียวกัน นับจากนี้ ยูไลก็ยอมรับว่าได้ให้เจี้ยนอ้าวสังหาร โกวเฉิน เจิ้นอู๋ จื่อเหว่ย เป็นเรื่องจริง.
ยูไลที่ตวัด นำตำหนักใต้เหล่ยหยินนับร้อยตำหนัก กวาดเอามาไว้ในฝ่ามือ ก่อนที่จะพาวิหารขนาดใหญ่หายไป.
ยูไลที่ยืนอยู่บนบัวทองคำ บินตรงไปยังทิศตะวันตก.
วิหารใต้เหล่ยหยิน ที่ด้านในวิหารนั้นมีอรหันต์ ปู่ซาและพุทธะที่เหลืออยู่ถูกนำไปด้วย.
ยูไลไม่ต้องการหลิงซานแล้ว.
ในเวลาเดียวกัน เจิ้นหยวนจื่อที่เพียงแค่จ้องมอง ปล่อยให้ยูไลนำเหล่านักบวชบินจากไป.
ยูไลได้เอ่ยถึงสาเหตุ ไม่มีใครกล้าเข้าขวาง บางทีอาจจะเรียกได้ว่าเขายินดียอมให้กับทุกคนแล้ว.
เหมือนกับว่ายอมถอยแล้ว ย้ำเตือนทุกคนเอาไว้.
การเดิมพันแข่งขันในทวีปตะวันออก ยูไลไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมอีกครั้งแล้ว.
เขายอมจากไปอย่างสง่าผ่าเผย.
เจิ้นหยวนจื่อที่ไม่ขวางตั้งแต่ต้นจนจบ ราวกับว่าอยู่ ๆ ก็ให้อภัยยูไลได้ในทันที.
เจี้ยนอ้าวจ้องมองยูไลจากไป ดวงตาที่ดุร้ายเย็นชาของเขายังไม่หายไป ทว่าเวลานี้ได้หันมามองไปยังเจิ้นหยวนจื่อ.
หลิงซาน?
เจิ้นหยวนจื่อไม่ขวางยูไลเอาไว้ เพราะว่าเขาก็ไม่คิดที่จะให้ยูไลอยู่ตรงนี้เช่นกัน.
เจี้ยนอ้าวจ้องมองไปยังเจิ้นหยวนจื่อ เจิ้นหยวนจื่อจ้องมองเจี้ยนอ้าว.
"เจี้ยนอ้าว?"เจิ้นหยวนจื่อที่จ้องมองเจี้ยนอ้าวด้วยความเย็นชา.
เจี้ยนอ้าวที่เผยรอยยิ้มเหยียดหยัน "ตั้งแต่แรกเจ้าไม่ได้มาเพราะศีรษะทั้งสามนั่น เจ้ามาเพื่อหลิงซานนี่เอง!"
"หลิงซาน เป็นสมบัติของศาลสวรรค์ยวีตี้ ราชันย์เทพหยกไม่อยู่ ข้าต้องเก็บมันไปเพื่อรอราชันย์เทพหยกจุติกลับมา!"เจิ้นหยวนจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เจิ้นหยวนจื่อ! คิดว่าอยู่ในระดับเซียนบรรพชน ข้าจะกลัวเจ้า เซียนบรรพชนมากมายเท่าไหร่แล้วที่ข้าสังหาร โกวเฉิน เจิ้นอู๋ จื่อเหว่ยข้าสังหารมาแล้ว เจ้าเองก็เหมือนกัน ต้องการแย่งชิงของของข้า ต้องเตรียมชดใช้ด้วยราคาที่สาสม!"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
เซียนโบราณช่างพูดจาใหญ่โตเช่นนี้กับเจิ้นหยวนจื่อ? หากเป็นคนอื่น ๆ คงถูกหัวเราะเสียงดังแน่นอน ทว่าในเวลานี้เจี้ยนอ้าวที่เป็นยอดฝีมือวิถีกระบี่ที่ทรงพลัง กับคำพูดของเจี้ยนอ้าวไม่มีใครกล้าดูแคลน.
เพราะการต่อสู้ก่อนหน้านี้ของเจี้ยนอ้าวนั้นดูน่าเกรงขามนัก กระบี่ของเขาแทบจะไร้เทียมทาน.
เจี้ยนอ้าวที่ก้าวออกไป บัวกระบี่ที่พวยพุ่ง ปรากฎเป็นพายุปราณกระบี่ โถมทับไปยังทิศทางของเจิ้นหยวนจื่อ.
เจิ้นหยวนจื่อที่จ้องมองเจี้ยนอ้าวด้วยความเย็นชา.
การต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มขึ้น ทุกคนที่เริ่มสนใจขึ้นมาอีกครั้ง.
"ตั้งแต่แรกแล้ว ทักษะของเจิ้นหยวนจื่อรู้จักแต่พูดอะไรไร้สาระ?"
ทว่ามีเสียง ๆ หนึ่งที่กล่าวออกมาด้วยความดูแคลน.
เป็นใครกันที่กล้าดูแคลนเจิ้นหยวนจื่อ? ผู้ฝึกตนรอบ ๆ ที่แสดงท่าทางจริงจังขึ้นมา จ้องมองไปยังต้นเสียง.
ริ้วแสงสีเขียวที่พุ่งตรงมาจากที่ไกลออกไป.
คนที่กล้าดูแคลนเจิ้นหยวนจื่อ ต้องเป็นใครที่ไม่ธรรมดา กระบี่ของเจี้ยนอ้าวที่ปะทุออกมาหยุดชะงัก ดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา เห็นชัดเจนว่าหลิงซานเป็นของเขาแล้ว ใครที่ต้องการขโมย คือศัตรู.
"ตูมมมมม!"
สนามวายุที่ระเบิดออกมา บนอากาศปรากฎร่างในชุดสีเขียว ชายดังกล่าวที่ดูเหมือนกับผู้เยาว์ ทว่าดวงตาทั้งสองข้างที่ราวกับอสุรกาย.
"ต้าหมิงหวังกงชิว?"เสียงของใครบางคนที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ไม่ใช่ เขาไม่ใช่ต้าหมิงหวังกงชิว เขาคือประมุขตระกูลกง กงเชียน!"อีกคนที่กล่าวแย้ง.
"กงเชียน!"จินเผิงที่อยู่ข้าง ๆ จงซานขมวดคิ้วไปมา.
จินเผิงที่จ้องมองไปยังจงซาน ก่อนที่จะจ้องมองไปยังกงเชียน แววตาไม่อยากเชื่อนัก.
"เป็นเจ้า กงเชียน?"เจิ้นหยวนจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เป็นข้า เจิ้นหยวนจื่อ ไม่ได้เจอกันนาน!"กงเชียนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"มีปัญหาอะไร เจ้าหาว่าข้ากล่าวไม่ถูกตรงใหน?"เจิ้นหยวนจื่อกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"แน่นอนว่าไม่ถูก หลิงซานนั้นเป็นของวิเศษที่ล้ำค่าที่สุดตั้งแต่โบราณ จะเป็นของศาลสวรรค์ยวีตี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ข้าไม่คิดว่าเจิ้นหยวนจื่อที่น่าเกรงขาม จะยอมรับกับทุกคนว่าเป็นคนของเห่าเทียน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ข้าคาดไม่ถึงเลยจริง ๆ !"กงเชียนที่กล่าวเหยียดหยัน.
เจิ้นหยวนจื่อจ้องมองไปยังกงเชียน เปลี่ยนเป็นเงียบเล็กน้อย ไม่ปฏิเสธ ท้ายที่สุดก็ส่ายหน้าไปมา "เจ้าต้องการหลิงซานอย่างงั้นรึ?"
"หลิงซาน? แม้นว่าจะสมบัติล้ำค่าโบราณ ทว่าตระกูลกงก็ไม่มีวาสนาต่อมัน. ทว่าข้านั้นไม่ต้องการให้เจ้าได้มันไป!"กงเชียนที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง.
"หืม!”
เสียงรอบ ๆ ที่ดังอื้ออึ้งขึ้นมาทันที หมายความว่าอย่างไร กงเชียนต้องการอะไร? กำลังจะเกิดอะไรขึ้น?
"ตระกูลกงไม่มีวาสนาต่อมันอย่างงั้นรึ? แล้วเจ้าต้องการทำอะไร?"เจิ้นหยวนจื่อกล่าวหยัน.
"หลิงซาน? แม้นว่าจะไม่อยู่ในมือของข้า ทว่าครั้งหนึ่งก็เคยอยู่ในตระกูลกง มันสามารถรวบรวมโชควาสนาฟ้าดิน เมื่ออยู่ภายในนั้นครบห้าพันปีจะทำให้ปุถุชนก้าวไปถึงเซียนโบราณได้! ทำให้วิหารใต้เหรินหยินมีพุทธะระดับเซียนโบราณมากมาย ข้ากล่าวถูกหรือไม่?"กงเชียนกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
จะได้รับวาสนาเมื่ออยู่ครบห้าพันปี ทำให้ปุถุชนก้าวไปถึงระดับเซียนโบราณ?
ทันใดนั้น ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ กลายเป็นเงียบงันในทันที สายตาของผู้ฝึกตนมากมายจ้องมองไปยังหลิงซานไม่วางตา.
ในเวลานี้ แม้แต่คนโง่ยังต้องรับรู้ว่าหลิงซานนั้นล้ำค่าเพียงใด ห้าพันปีใช้เวลาห้าพันปี?ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึงแสนปีก็สามารถก้าวไปถึงระดับเซียนโบราณ บางคนที่ใช้เวลาเกือบแสนปี ยังก้าวไปไม่ถึงมหาเซียนด้วยซ้ำ.
ทว่าหลิงซาน ใช้เวลาแค่ห้าพันปี เพียงห้าพันปี ก็จะก้าวไปถึงระดับเซียนโบราณ?
ทันใดนั้น สายตาของผู้คนมากมายกลายเป็นสีเขียวเข้มดวงตาเบิกกว้าง.
ใบหน้าของเจิ้นหยวนจื่อที่กลายเป็นบิดเบี้ยว จ้องมองกงเชียนด้วยความเย็นชา กงเชียนต้องการอะไร? ทำไมถึงได้เผยข้อมูลดังกล่าว? เขาเสียสติไปแล้ว?