Chapter 1172 นี่สิของจริง!
ต้าตี้เจิ้นอู๋ ต้าตี้โกวเฉิน ต้าตี้จื่อเหว่ย?
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เฝ้ามองอยู่รอบ ๆ เวลานี้จ้องมองไปยังศีรษะทั้งสามที่อยู่ด้านหน้ายูไล หลาย ๆ คนที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ แม้ว่าหัวทั้งสามนั้นจะไม่สามารถมองเห็นร่างกายได้แล้ว ทว่าคนทั้งสามนั้นต่างก็เป็นเซียนบรรพชนที่ทรงพลังและร้ายกาจ.
พวกเขาถูกกุดหัวอย่างงั้นรึ? นอกจากนี้ ยังเป็นเจี้ยนอ้าว ที่มีระดับเซียนโบราณงั้นรึ?
หลายคนเองก็จ้องมองยูไลด้วยความประหลาดใจ ยูไลให้เจี้ยนอ้าวไปสังหารพวกเขาอย่างงั้นรึ?
ทำไมยูไลทำเช่นนี้? ในอดีตวิหารต้าเหล่ยหยินและศาลสวรรค์ราชันย์เทพหยก ไม่ได้เป็นพันธมิตรกันหรอกรึ?
บางคนไม่เชื่อเจี้ยนอ้าว ทว่าก็มีหลายคนที่เชื่อคำพูดนั้น การต่อสู้ก่อนหน้านี้ทำให้หลาย ๆ คนเชื่อ กับสิ่งที่เจี้ยนอ้าวกล่าวออกไป มีความน่าเชื่อสูง กับคนที่หยิ่งผยอง ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลไร้สาระเพื่อกล่าวหาแต่อย่างใด.
ยูไลที่ยกฝ่ามือขึ้น จดจ้องมองไปยังเจี้ยนอ้าวด้วยสายตาเย็นชา.
"เจี้ยนอ้าว เจ้าคิดว่าวิหารใต้เหล่ยหยินไม่มีคนสามารถจัดการเจ้าได้อย่างงั้นรึ? โอหังนัก!"ยูไลที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
โอหังนัก เสียงที่ดังกังวานกระจายไปทั่วสวรรค์และปฐพี แม้แต่ห้วงมิติยังสั่นไปมาเล็กน้อย เสียงของอรหันต์ที่ทำให้จิตใจทุกคนสั่นไหว เสียงของยูไลที่เต็มไปด้วยอำนาจฟ้าดิน กรรมวาสนาของวิหารใต้เหล่ยหยินที่ม้วนกวาดกระจายไปทั่วกลายเป็นบ้าคลั่งในทันที.
กรรมวาสนามากมายที่ยูไลกำลังเคลื่อนย้าย พริบตาเดียวเท่านั้นทำให้ยูไลขยายร่างขึ้นหลายสิบเท่า แม้แต่ฝ่ามือของเขายังใหญ่โตมโหฬารก่อนที่จะฟาดออกไป.
ฝ่ามือยักษ์บนอากาศที่ใหญ่โตกว่าเดิมนับร้อยเท่า ห้วงมิติสั่นไหว แม้แต่ฉีกขาดเป็นรอยกระจายออกไปรอบ ๆ .
ยูไลโจมตีแล้ว.
ฝ่ามือเทวะร้อยเท่าของยูไลกดทับไปยังเจี้ยนอ้าว.
แรงกดดันมหาศาล เสื้อผ้าสีขาวของเจี้ยนอ้าวที่สั่นไหว แววตาของเจี้ยนอ้าวที่ไม่ยินยอม.
เจี้ยนอ้าวกัดฟันแน่ พร้อมกับเริ่มกวัดแกว่งร่างรำกระบี่ในมือ.
กระบี่ของเขา เคลื่อนที่ไม่เร็วนัก ดูเหมือนว่าจะช้าด้วยซ้ำ ทว่าทุกครั้งที่เคลื่อนไหวร่างกายของเขาที่คล้ายบิดเบี้ยวไปมา.
ไม่มีแสงจากกระบี่ ทว่ากระบวนท่าที่เขาใช้ออกมานี้ก็ไม่สามารถประมาทได้เช่นกัน แม้นว่าจะไม่เผยพลังออกมา ทว่ากลับรู้สึกได้ถึงพลัง.
เงากระบี่ที่กลายเป็นภาพเงาตามการเคลื่อนไหว แสงที่ส่องมารอบ ๆ ร่างหดหายไป.
เงาของเขาที่หมุนวนก่อนที่จะกลายเป็นรูปร่าง ขยายลากยาวออกไปด้านหน้า เพื่อรับฝ่ามือเทวะร้อยเท่าของยูไล.
เพลงกระบี่ที่กำลังร่ายรำ ดวงตาของจงซานที่หรี่เล็ก ยูไลที่ดวงตาหดเกร็ง ม่อจื่อที่อยู่ไม่ไกลออกไป ในเวลานี้ถึงกับต้องอุทาน "เอ๊ะ"ออกมา.
ภาพเงาที่กลืนแสงรอบ ๆ เข้าไป แสงที่ถูกกลืนเข้ามาด้านในมากขึ้นและก็มากขึ้น ทำให้ฟ้าดินรอบ ๆ มืดครึ้มลงช้า ๆ เป็นเหมือนกับสายน้ำที่เชี่ยวกรากกำลังไหลบ่าซัดกวาดทุกสิ่งทุกอย่างกลืนมันเข้าไป แสงทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ ถูกดูดสลายหายไปตามกระแสเงากระบี่.
ฝ่ามือร้อยเท่าของยูไลที่เคลื่อนที่เข้าใกล้ระเบิดออกมาเสียงดัง แรงระเบิดประกายแสงที่สว่างวูบถูกดูดไปในทันที.
ฝ่ามือของยูไลที่ระเบิดปรากฎแรงกระแทกไปทั่วสารทิศ.
ระลอกคลื่นที่กวาดออกไปห้วงมิติที่สั่นไหวเหมือนกับคลื่นทะเลที่ซัดกวาดทุกอย่าง แรงกระแทกจาการระเบิดของยูไลนั้นรุนแรงมาก.
ห้วงมิติที่สั่นไหวอย่างรุนแรง จนทุกคนที่อยู่ห่างออกมาไม่สามารถมองเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ชั่วขณะ.
"ริ้วแสงทุกอย่างที่ถูกกลืนกิน นี่คือโลกเขตแดนแท้!"เต้าเหรินถูที่อุทานออกมาด้วยความตื่นตะหนกตกใจ.
"โลกเขตแดน? ใช้เพลงกระบี่สร้างโลกเขตแดนแท้?"จินเผิงที่เผยท่าทางตื่นตระหนก.
"โลกเขตแดนกระบี่ นี่คือของจริง!"จงซานที่สูดหายใจลึก.
ขอบเขตสูงสุดของวิถีกระบี่ โลกเขตแดนกระบี่!
ในอดีตภพหยินเขตแดนโครงกระดูก จงซานเคยใช้กระบี่นิรันดร์หนึ่งกระบี่ฟาดฟัน สร้างโลกเขตแดนขึ้นมา ทว่าจงซานรู้ดีว่านั่นไม่ใช่เขตแดนของวิถีกระบี่ มันคือการเปิดทางเข้าโลกมารสวรรค์ต่างหาก.
หากแต่เจี้ยนอ้าวในเวลานี้ กระบี่ที่เขาเหวี่ยงออกไปสร้างโลกเขตแดนแท้ขึ้นมาได้.
"ตูมมมมมมมม!"
เหมือนกับฟองอากาศที่ระเบิดออก โลกเขตแดนของเจี้ยนอ้าวหายไป ทว่าฝ่ามือร้อยเท่าของยูไลเองก็สลายหายไปแล้วเช่นกัน ทุกอย่างถูกโลกเขตแดนกระบี่กลืนไปทั้งหมด.
"กระบี่!"
ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนที่สามารถมองเข้าใจได้ ถึงกับใบหน้ากระตุก นี่คือเขตแดนเต๋าแห่งกระบี่ที่หายากหนึ่งล้านปีจะมีสักครั้ง.
โลกเขตแดนของเจี้ยนอ้าวที่เกิดขึ้นขณะแกว่งกระบี่ ก่อนที่จะสลายไปอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถทำให้ปรากฎขึ้นได้นานในโลกใบใหญ่แห่งนี้ เห็นชัดเจนว่าโลกกระบี่ของเจี้ยนอ้าวยังไม่เติบโต ทว่ากระบี่ที่เขาร่ายรำออกมานั้นก็ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงตาค้าง.
อย่างไรก็ตามกระบี่ของเขานั้น เพลงกระบี่ของเจี้ยนอ้าวคงยากที่จะมีใครทัดเทียมได้อย่างแน่นอน.
เซียนโบราณ? เพียงแค่เซียนโบราณสามารถก้าวไปถึงวิถีกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวได้แล้ว? ไม่สงสัยเลยว่าสามารถสามารถสังหารเซียนบรรพชนระดับสูงทั้งสามได้.
เพลงกระบี่ ที่สร้างโลกเขตแดน! นี่คือวิถีกระบี่ชั้นเทวะ! กระบี่สีฟ้าที่เขากวัดแกว่ง ถึงกับสั่นคลอนโลกหล้าได้.
เพลงกระบี่ที่ทำลายฝ่ามือเทวะของยูไล ก่อนที่จะชี้กระบี่ไปยังทิศทางของยูไลด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"เจ้าไม่ยินดีที่จะยอมรับข่าวงานของข้า ข้าจึงจำเป็นต้องใช้กำลังเพื่อให้เจ้ายอมรับคำพูดของข้าไงล่ะ!"เจี้ยนอ้าวที่ชี้กระบี่และกล่าวออกมาด้วยความอหังการ.
ใต้โลกหล้าแห่งนี้ จะมีสักกี่คนที่กล้าเอ่ยต่อยูไล นอกจากนี้คนดังกล่าวนี้ยังเป็นเซียนโบราณ.
"ครืนนนน!”
ใต้เท้าของยูไล ทันใดนั้นปรากฎดอกบัวทองคำขนาดใหญ่ขึ้น ดอกบัวทองคำที่ส่องประกายแสงสว่างเจ้า แม้แต่ทำลายปราณกระบี่ที่อยู่รอบ ๆ ผลักดังมันออกไป ทว่าเจี้ยนอ้าวเองก็ไม่ยอมแพ้ เขาที่สร้างดอกบัวกระบี่ออกมาเข้าปะทะกับบัวทองคำ ผลักดันกันไปมา ทำให้ห้วงอากาศรอบ ๆ สั่นไหวอย่างรุนแรง พลังสองสายที่ไม่มีใครยอมใคร.
"วูซซซซซ!"
วิถีสวรรค์สีทองที่ค้ำยันท้องฟ้าปรากฎขึ้น ท้ายที่สุดยูไลก็ใช้ออกมา วิถีสวรรค์ปรากฎ พร้อมกับกดดันเจี้ยนอ้าวทันที.
ทว่าจงซานสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ใบหน้าของยูไลนั้นซีดขาวมากขึ้นเรื่อย แน่นอนว่าบาดแผลที่ได้จากซาทิ้งเอาไว้นั้นรุนแรงมาก.
"ตูมมม!“”ตูมมม!”..................
ถึงยูไลจะมีบาดเจ็บอยู่ ทว่าก็นับเป็นเซียนบรรพชนที่แข็งแกร่ง วิถีสวรรค์ที่ทรงพลัง กดดันเจี้ยนอ้าวในทันที ในเวลานี้ ถึงเจี้ยนอ้าวจะมีเพลงกระบี่ที่ทรงพลังก็ยากจะทะลวงอำนาจวิถีสวรรค์ได้.
ที่ไกลออกไป.
"เซิ่งหวัง หากเจี้ยนอ้าว พวกเรา.......!"เซียนเซิงซือที่สอบถามออกไป.
"ไม่จำเป็น เจ้าเห็น เจี้ยนอ้าวก็ต้องเห็น!"จงซานที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
ที่ไกลออกไป เจี้ยนอ้าวที่ยังมีสายตาที่มั่นคงแน่วแน่ ไม่ได้สิ้นหวังแม้แต่น้อย เขายังคงแข็งขืนไม่ยอมแพ้ สายตาที่ดุร้าย จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ลุกโชน.
หนึ่งกระบี่ หนึ่งกระบี่ หนึ่งกระบี่!
กระบี่ของเจี้ยนอ้าวที่วาดเร็วขึ้นและก็เร็วขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ พลังของมันก็มากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน สามคำ สามอักขระกระบี่ ทันทีที่ปล่อยออกไป ก็กลายเป็นพลังที่มากมายมหาศาล โจมตีไปยังวิถีสวรรค์ของยูไล เกราะวิถีสวรรค์ที่กำลังสั่นไหวไปมา.
นับตั้งแต่ต้นที่ถูกกำราบเอาไว้ หากแต่ยิ่งต่อสู้เจี้ยนอ้าวกับยิ่งดุร้ายขึ้น ริ้วแสงกระบี่ของเขาที่ฟาดฟันออกไป เต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งการต่อสู้ที่ทรงพลัง เหล่าอรหันต์ ปู่ซาและพุทธะที่อยู่รอบ ๆ เร่งรีบถอยออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า.
เสียสติไปแล้วรึ?
เสียสติยังไม่เพียงพอที่จะอธิบายการต่อสู้ของเจี้ยนอ้าวในเวลานี้ ประกายริ้วแสงกระบี่ที่สว่างจ้าเป็นระยะ ๆ เจตจำนงแห่งการต่อสู้ของเจี้ยนอ้าวก็ยิ่งมากขึ้นและก็มากขึ้น.
แม้นว่าจะไม่มีใครเข้าใจเพลงกระบี่ของเจี้ยนอ้าว ทว่าทุกคนก็สัมผัสได้ว่า มันทรงพลังน่าเกรงขามมากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นชัดเจนโดยจ้องมองพุทธะที่เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ก่อนหน้านี้.
พวกเขาทุกคนที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ เมื่อเห็นเทพอรหันต์ยูไลกำราบเจี้ยนอ้าว ทว่าเวลานี้พวกเขาไม่กล้ามีความคิดเช่นนั้นอีกแล้ว.
สู้! สู้! สู้! สู้! สู้! สู้!
พลังของเจี้ยนอ้าวที่ราวกับว่าไม่มีหมด เจตจำนงที่ดุร้ายรุนแรง ทำให้เหล่าเซียนโบราณที่กระจายอยู่รอบ ๆ เต็มไปด้วยความหวาดกลัวมากขึ้น นี่คือเซียนโบราณที่ผิดปรกติได้ถึงเพียงนี้อย่างงั้นรึ? มารดาเถอะ เจ้ายังเป็นเซียนโบราณอยู่อีกรึ?
วิถีสวรรค์ของยูไลที่กำลังสั่นไหวไปมา ถึงยูไลจะได้รับบาดเจ็บก็เป็นไปไม่ได้ที่จะพ่ายแพ้เจี้ยนอ้าว ทว่าก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะเจี้ยนอ้าวในทันที หากยูไลในสภาพสมบูรณ์ เจี้ยนอ้าวย่อมไม่อยู่ในสายตา หากแต่เจี้ยนอ้าวในเวลานี้ทำให้ยูไลลำบาก ด้วยอาการบาดเจ็บสะสม ไม่สามารถฟื้นคืนได้ในทันที จึงทำให้การต่อสู้นี้สูสีอย่างงั้นรึ?
ต้องใช้พลังไปมากเท่าไหร่?
ใบหน้าของยูไลที่ซีดขาวไม่ดีนัก เพราะว่ายูไลรู้ดีว่า ยังมีเหล่าผู้ฝึกตนที่จ้องมองตาเป็นมันมายังเขาด้วยเช่นกัน.
"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ห้วงมิติรอบ ๆ ที่ระเบิดออกมาในทันที ด้วยความโกรธที่หนักหน่วงรุนแรง.
"ตูมมมม!"
เกิดเสียงดังกระหึ่ม ยูไลที่เร่งรีบปิดฉากเจี้ยนอาว หากแต่เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวใกล้ ๆ ขึ้นในทันที.
มีใครบางคนโจมตีเข้ามาอย่างงั้นรึ?
เจี้ยนอ้าวที่หยุดลงเช่นกัน เพราะว่าเจี้ยนอ้าวสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลังกำลังโถมทับลงไปยังวิหารใต้เหล่ยหยิน.
เหล่าศิษย์ของแดนเทพอเวจีที่ขวางพวกเขาไว้ดูเหมือนว่าจะไม่มีชีวิตเหลือแล้ว.
"ตูมมมม!”
สนามวายุที่รุนแรงโบกสะบัดกระจายกวาดไปทั่วทุกสารทิศหมุนวนรอบ ๆ หลิงซาน.
ปรากฎนักพรตเต๋าที่สวมมงกุฎสีทองม่วงปรากฎขึ้นที่กลางอากาศ.
พรตเต๋าวัยกลางคนใบหน้าที่เผยท่าทางค่อนข้างโกรธ ถือแส้อยู่ จดจ้องมองยูไลและเจี้ยนอ้าว.
"ป้อมปราการอู๋จวง เจิ้นหยวนจื่อ?"ใครบางคนที่จำได้เอ่ยออกมา.
?เขาเป็นใคร คนผู้นี้คือคนที่เป็นที่รู้จักว่าเป็นเซียนบรรพชนที่ก้าวเข้าใกล้ขั้นปราชญ์เทพ แม้แต่ม่อจื่อ ม่อจื่อยังให้ความสำคัญ.
เจิ้นหยวนจื่อ แม้นว่าจะปรากฎตัวน้อยมาก ทว่าทุกคนต่างก็รู้จักป้อมปรากฎอู๋จวงดี.
เจิ้นหยวนจื่อต้องการทำอะไร?
"สหายเจิ้นหยวนอย่างงั้นรึ?"ยูไลที่เอ่ยออกมาเบา ๆ
เจี้ยนอ้าวที่จ้องเขม็งไปยังเจิ้นหยวนจื่อ.
เจิ้นหยวนจื่อที่จ้องมองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะยื่นมือออกไปปรากฎสายลมที่พัดวน ศีรษะสามหัวที่ลอยออกมาจากหลิงซานมาปรากฎที่ด้านหน้าของเจิ้นหยวนจื่อ.
จ้องมองศีรษะทั้งสาม ใบหน้าของเจิ้นหยวนจื่อที่เดี๋ยวแดงเดี๋ยวฟ้า.
"โกวเฉิน เจิ้นอู๋ จื่อเหว่ย!"ใบหน้าของเจิ้นหยวนจื่อที่เต็มไปด้วยการรำลึก พร้อมกับเผยความโศกเศร้าออกมา.
ที่ไกลออกไป.
"ไม่ได้การแล้ว ดูเหมือนว่าเจิ้นหยวนจื่อจะรู้จักคนทั้งสาม พวกเขามีความสนิทสนมกันมาก่อนอย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่เผยท่าทางไม่เข้าใจ.
สถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ทุกคนที่จ้องมองด้วยความสนใจ.
เจิ้นหยวนจื่อที่นำกล่องหยกออกมา พร้อมกับค่อยนำศีรษะทั้งสามใส่ลงไป จากนั้นก็จ้องมองด้วยสายตาเย็นชาไปยังยูไลและเจี้ยนอ้าว.
"เจ้าสังหารพวกเขาอย่างงั้นรึ?"เจิ้นหยวนจื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"ถูกต้อง!"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไร้ซึ่งความหวาดกลัว
เจิ้นหยวนจื่อที่หันหน้าอย่างไม่แยแสจ้องมองไปยังยูไล "ยูไล เจ้าเป็นคนสั่งการให้สังหารโกวเฉิน เจิ้นอู๋ จื่อเหว่ยอย่างงั้นรึ?"
ยูไลขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า "สหายเจิ้นหยวน เจ้า............!”
"เป็นเจ้านี่เอง ชิ ยูไล ข้าและเห่าเทียนประมาทเจ้าไป เห่าเทียนเพิ่งจากไป เจ้ากับสังหารข้าราชบริพารของเขา เจ้า เจ้า นับจากนี้ไป ยูไลและวิหารใต้เหล่ยหยิน จะเป็นศัตรูของข้าและเห่าเทียน ทวีปซือต้าปู่จะไม่ให้ที่พักพิงต่อเจ้าอีกต่อไป!"เจินหยวนจื่อที่กล่าวตำหนิออกมาอย่างรุนแรง.
"เจ้าเป็นข้าราชบริพารของราชันย์เทพหยกอย่างงั้นรึ?!"ยูไลที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
เจิ้นหยวนจื่อ คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของราชันย์เทพหยก?
ในเวลานั้น ผู้ฝึกตนมากมายต่างเผยท่าทางประหลาดใจ ไม่มีใครคาดคิด ไม่มีใครคาดถึง เจิ้นหยวนจื่อเป็นคนของราชันย์เทพหยก เขาที่เป็นเหมือนกับผู้ฝึกตนไร้สังกัดที่มีดินแดนของตัวเอง คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของราชันย์เทพหยก?
เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?
ราชันย์เทพหยก มีความสามารถมากมายขนาดนี้เลยรึ? นับตั้งแต่อดีตราชันย์เทพหยกที่แข็งแกร่งทรงพลัง แม้แต่ทำให้เจิ้นหยวนจื่อยอมจำนนอย่างคาดไม่ถึง.
จินเผิงที่อยู่ข้าง ๆ จงซาน เวลานี้เต็มไปด้วยความตื่นตะลึงตกใจอย่างรุนแรง.
แววตาของเขาที่สั่นไหวไปมา เขาที่อยู่ในทวีปซือต้าปู่มานานแสนนาน คาดไม่ถึงเลยว่าเจิ้นหยวนจื่อและราชันย์เทพหยกจะรู้จักกัน? เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร เป็นเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?