Chapter 1170 ทวีปตะวันออกที่เปลี่ยนไป เจียนอ้าวปรากฎ.
ที่ด้านนอกวิหารใต้เหล่ยหยินนั้น แต่ละยอดเขาต่างก็มีกลุ่มของยอดฝีมือมากมาย แต่ละคนจ้องมองมองไปยังวิหารใต้เหล่ยหยินเป็นสายตาเดียวกัน.
กลุ่มของจงซาน ที่เพิ่งเข้ามาทีหลังและยังชิงยอดเขามาจากคนอื่น.
วิหารใต้เหล่ยหยิน ที่เคยเป็นหนึ่งกลุ่มอิทธิพลที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีปซือต้าปู่.
ด้วยการมีเทพอรหันต์ยูไล ทั่วแผ่นดินนี้ยากที่จะมีใครต้าน!
ทว่า หลายร้อยปีที่ผ่านมานี้การปรากฎตัวของตำหนักไป่โหยวที่ผุดขึ้นมาทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ซาปรากฎตัว ได้เปลี่ยนทุกอย่างในทวีปซือต้าปู่ แม้นว่าเขาจะปรากฎตัวน้อยมาก ทว่าการต่อสู้สองครั้งใหญ่ ของเขา ก็สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคนทั้งหมด.
การต่อสู้ครั้งแรก เป็นการต่อสู้กับกงจื่อ ที่ยังไม่สามารถตัดสินชัยชนะหรือพ่ายแพ้ได้ ส่วนการต่อสู้ครั้งที่สองเป็นการต่อสู้กับเทพอรหันต์ยูไล คาดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้เทพอรหันต์ยูไลได้รับบาดเจ็บหนัก.
ตอนนี้ ขณะที่ยูไลกลับไปรักษาตัว คาดไม่ถึงเลยว่าเหล่าศัตรูเก่าของพวกเขาก็มาเยือน?
ทวีปตะวันออกกำลังวุ่นวายแล้ว เหล่ายอดฝีมือมากมายเดินทางมาที่นี่ เพียงแค่ตำหนักจื่อเซียว และพลังที่ปราชญ์เทพลำดับหนึ่งที่ผนึกเอาไว้ กับล้ำค่าล่อลวงผู้คนได้มากมายขนาดนี้เลยรึ?
ตำหนักจื่อเซียวยังไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ที่ใหน ทว่ากลับทำให้บรรยากาศทั่วทวีปตะวันออกกลายเป็นอึมครึมไปแล้ว.
เหล่าเสนาธิการด้านหลังจงซานนั้น ไม่เพียงแค่เฝ้ามองสนามรบยังคงมองรอบ ๆ เพื่ออารักษ์ขาจงซานด้วย.
จากที่ไกลออกไปมือกระบี่ในชุดสีขาวที่แผ่อำนาจกระบี่ออกมาจนถึงยอดเขาของจงซาน เป็นจิตวิญญาณกระบี่ที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก.
และที่ไกลออกไปเองก็สามารถมองเห็นเหมือนกับทะเลสีทอง ที่แผ่ออกมาจากด้านในตำหนักใต้เหล่ยหยิน ทะเลสีทองที่เริ่มไหลบ่าออกมาด้านนอกอย่างรุนแรง.
ทั่วท้องฟ้ามีอรหันต์หลายคน ปู่ซาที่ถือของวิเศษเพื่อควบคุมทะเลสีทอง ดูเหมือนว่าทะเลสีทองนี้เป็นเขตแดนป้องกันผู้บุกรุก.
มีอรหันต์อยู่ทุกที่ ปู่ซาอีกมากมายนับไม่ถ้วน ทุกคนกำลังสวดมนต์เสียงดังกระหึ่มดังไปทั่วทุกสารทิศ อำนาจกรรมวาสนาที่มากมายราวกับลาวาไหลออกมาจากด้านใน เป็นเหมือนกับทะเลอำนาจสีทองที่แม้แต่ทำให้ห้วงมิติสั่นไหว.
เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมาก แสงสว่างเจิดจรัส ส่องกระจายออกไปรอบ ๆ .
พลังดังกล่าวที่ทำให้หลากหลายพื้นที่กลายมาเป็นสมดุล ค่ายกลมากมายของพวกเขาที่ถูกเสริมพลังให้แข็งแกร่งขึ้นในทันที.
"นี่คือ ค่ายกลห้าร้อยพุทธะ!"จินเผิงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ค่ายกลห้าร้อยพุทธะ? นี่คือค่ายกลลำดับหนึ่งของวิหารใต้เหล่ยหยิน?"เซิ่งกงเป้าเอ่ยสอบถามออกมา.
"ใช่ แม้นว่าในอดีตข้าจะเคยบุกเข้าไปในวิหารใต้เหล่ยหยิน ทว่าในเวลานั้นค่ายกลห้าร้อยพุทธะก็ไม่ได้นำมาใช้ แต่กระนั้นข้าก็ไม่สามารถบุกเข้าไปต่อได้ ได้ยินมาว่าเป็นยูไลเป็นคนคิดค้น เป็นค่ายกลที่น่าอัศจรรย์ แม้นพุทธะจะมีพลังเซียนโบราณเท่านั้น แต่เซียนบรรพชนก็ยากที่จะหลบหนีออกจากค่ายกลดังกล่าวได้!"จินเผิงกล่าว.
"ดูเหมือนว่าด้านในนั้นจะมีเซียนบรรพชนอยู่หลายคน!"เต้าเหรินถูที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"ใช่ ใครอยู่ด้านในไม่รู้ หากแต่มีอรหันต์ของวิหารใต้เหล่ยหยินและปู่ซาเองก็ลงมือด้วยกันทั้งหมด พุทธะห้าร้อยคนที่รักษาค่ายกลคงไม่มีใครสามารถทะลวงออกมาได้."จินเผิงที่กล่าวออกมา.
"วิหารใต้เหล่ยหยินนับว่ามีประวัติศาสตร์ยาวนาน ถึงกับมีเซียนโบราณห้าร้อยคน?"เต้าเหรินถูที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"พุทธะห้าร้อยคน แม้นว่าพวกเขาจะมีระดับเซียนโบราณ ทว่าชั่วชีวิตพวกเขาก็หยุดที่เซียนโบราณตลอดไป!"จินเผิงที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม?"
"พลังฝึกตนของพวกเขาไม่ได้มาจากการบำเพ็ญเพียร ทว่ามันเป็นการยกระดับโดยใช้พลัง ทำให้พวกเขาไม่สามารถก้าวไปต่อได้อีก ข้าเองก็ได้ยินเรื่องนี้มาจากกงเชียนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เป็นการเพิ่มพลังให้กับเหล่าพุทธะด้วยของวิเศษหลิงซานที่ปราชญ์เทพจื่อหยินทิ้งเอาไว้."จินเผิงกล่าวตอบ.
"ค่ายกลห้าร้อยพุทธะ เป็นเหมือนกับค่ายกลทะเลทองคำ คาดไม่ถึงเลยว่าจะยังไม่สามารถกำราบยอดฝีมือด้านในได้? ที่ด้านในนั้นมีคนมากมายขนาดใหนกัน?"เต้าเหรินถูที่จ้องมองไปยังจื่อหยางจิงหง.
เห็นชัดเจนว่าจื่อหยางจินหงกำลังพยากรณ์อยู่.
"ดูเหมือนว่า จะมีคนเดียว!"จงซานที่เป็นคนกล่าวออกมา.
"คนเดียว?"ทุกคนที่จ้องมองไปยังจงซานพร้อม ๆ กัน.
หลังจากนั้น ทุกคนที่ได้แต่เงียบ ใช่ ที่ด้านในต้องเป็นสุดยอดฝีมือ ไม่เช่นนั้นแล้ว จะกล้าบุกเข้าไปในวิหารใต้เหล่ยหยินได้อย่างไร?
วิหารใต้เหล่ยหยิน นับเป็นสถานที่น่าเกรงขามลำดับต้น ๆ ของโลกหล้า ที่ด้านในมียอดฝีมือมากมาย และยังมีเซียนโบราณมากกว่าห้าร้อยคน.
"ซี่~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ประกายแสงที่เย็นยะเยือบกำลังทะลวงไปทั่วทะเลสีทอง พุ่งตรงขึ้นไปราวกับจะทะลวงไปยังอวกาศ.
เป็นปราณกระบี่ เป็นปราณกระบี่ที่ทำให้รู้สึกหนาวเย็นทรงพลังเป็นอย่างมาก.
ริ้วแสงที่ทะลวงขึ้นไปบนท้องฟ้า เกิดเป็นเสียงฉีกอากาศเป็นระยะ ๆ ห้วงมิติที่กลายเป็นรอยตามปราณกระบี่ที่หนาวเย็นนั่น.
"ฟิ้ว ~~~~~~~~~~~~~~~!”
พื้นที่รอบ ๆ นั้น เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เผยท่าทางหวาดหวั่น เพราะปราณกระบี่ทำให้ห้วงมิติสั่นไหว อำนาจของมันที่ดูน่าเกรงขาม จนทำให้พวกเขาหวั่นเกรงเช่นกัน!
ใบหน้าของผู้ฝึกตนรอบ ๆ ถึงกับกระตุก อำนาจของกระบี่เทวะรวดเร็วทรงพลัง แม้แต่ห้วงอากาศยังฉีกเป็นรอยกระจายไปทั่ว.
"ซี่~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ริ้วแสงที่เต็มไปด้วยความหนาวเย็น กำลังฉีกทะเลสีทองทุกทิศทาง เจตจำนงกระบี่ที่ตัดผ่านพื้นที่รอบ ๆ แม้แต่ห้วงอากาศยังถูกสะบั้นไปพร้อมกับทะเลสีทอง.
"ตูมมมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ทะเลที่แตกเป็นทางตามริ้วแสงของปราณกระบี่ แม้แต่แสงของทะเลชื่อเสียงวาสนายังถูกกลบด้วยปราณกระบี่ ทะเลสีทองที่สลายหายไปทันที ทิ้งเอาไว้เพียงกลุ่มของแสงกระบี่ที่ลากผ่าน.
ทุกคนที่ค่อย ๆ เห็นพื้นที่ด้านใน ริ้วแสงกระบี่ที่เห็นเป็นดอกบัวที่ประกอบด้วยกระบี่สีเขียวขนาดใหญ่ปรากฎขึ้น.
บัวกระบี่ที่เต็มไปด้วยเจตจำนงกระบี่ ถูกแผ่ออกไปรอบ ๆ ตามกลีบของดอกบัว.
ปราณกระบี่ที่ราวกับพายุอันบ้าคลั่ง ทรงพลังเหนือล้ำเกินจะพรรณนา.
ดอกบัวที่มีขนาดถึงหมื่นจั้งประกอบด้วยเงากระบี่ก่อร่างกลายเป็นดอกบัว และที่ใจกลางนั้นปรากฎชายที่อหังการในชุดสีขาว.
แขนเสื้อของเขาที่สะบัดไปตามแรงลม ผมที่ยาวสยาย ใบหน้าที่ดูหล่อเหลาไม่น้อย ในมือถือกระบี่สีฟ้า ดวงตาที่ส่องประกายเจิดจรัส สามารถดูแคลนกระบี่ทั่วหล้าได้ ในมือของเขานั้นถือกระบี่ธรรมดาทั่ว ๆ ไป.
ชายในชุดสีเขียวที่ใช้กระบี่ธรรมดาทั่วไป ที่ดูคล้ายกับเป็นหนึ่งในกลีบกระบี่ใต้เท้าของเขา.
ปราณกระบี่รูปดอกบัวที่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ มากมายแม้แต่ปกคลุมทะเลสีทอง และผลักมันออกไปด้วยพลัง คลื่นของกระบี่ที่ถูกส่งออกไปเป็นระยะ ๆ กระแทกไปทุกทิศทาง เป็นคลื่นที่ทรงพลังมาก ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เพียงแค่มันสัมผัสเท่านั้น.
ทะเลทองคำที่ถูกบัวกระบี่ทำลาย จนไม่สามารถคงรูปได้แล้ว แตกสลายหายไปอย่างสมบูรณ์.
"ครืนนนนน ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
500 พุทธะที่ถูกแรงกระแทกของคลื่นกระบี่ลอยละลิ่วไปบนอากาศ ต่างก็พ่นโลหิตออกมาคำโตพร้อม ๆ กัน.
"ทะลวงค่ายกลห้าร้อยพุทธะ? ทรงพลังมาก!"จินเผิงที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"นี่มัน เจี้ยนอ้าวไม่ใช่รึ?"เซียนเซิงซือที่อุทานออกมาด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อนัก.
เจี้ยนอ้าว เป็นพญามารของแดนเทพอเวจี เดิมที่เป็นหนึ่งในสี่แดนเทวะของโลกใบเล็ก ผู้ที่เดินไปบนวิถีกระบี่ เป็นยอดฝีมือกระบี่ลำดับหนึ่ง ไม่มีใครสามารถเทียบได้.
ในมือของเขานั้นไม่ใช่กระบี่ แต่เป็นหัวใจกระบี่ เป็นสิ่งของที่ถูกสร้างขึ้นจากพลังฟ้าดิน เป็นเทพกระบี่ที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก.
ก่อนที่เขาจะเดินทางไปยังโลกใบใหญ่ จงซานได้ไปส่งในครั้งนั้นและได้วิธีในการสร้างแผนที่ก่อเกิดบรรพกาลให้กับจงซาน เขาเป็นมือกระบี่ที่มีชื่อเสียงก้องกังวานไปทั่วโลกใบเล็ก.
ในโลกใบเล็ก เขาที่ต่อสู้กับหยิงแม้นว่าจะไม่ชนะ แต่ก็ไม่ได้พ่ายแพ้.
เมื่อเขาโบยบินขึ้นสู่โลกใบใหญ่ มียอดฝีมือจากโลกใบใหญ่มากมายที่มาขวางทางเขา เจียนอ้าวที่ใช้ริ้วแสงกระบี่สีฟ้า สังหารยอดฝีมือมากมายจนท้องฟ้ากลายเป็นสีน้ำเงิน.
ผู้มีจิตวิญญาณที่ไม่ย่อท้อ มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้พุ่งทะยาน ต่อหน้าริ้วกระบี่สีฟ้า ท้องฟ้าที่ถูกย้อมกลายเป็นสีน้ำเงิน เหล่าคนที่มีระดับเดียวกันในโลกใบใหญ่ ต่อหน้าเจี้ยนอ้าวแล้ว ต้องตกตายไปมากมาย ไม่สามารถแม้แต่เป็นศัตรูกับเขา.
หลังจากเดินทางมาถึงโลกใบใหญ่แล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะเก็บเนื้อเก็บตัวทีเดียว.
แน่นอน จงซานไม่เคยดูแคลนเจี้ยนอ้าว ในโลกใบเล็กนั้น มีคนหลายคนที่จงซานให้ความสำคัญสูง และเจี้ยนอ้าวคือหนึ่งในนั้น.
จงซานแม้นว่าจะมีพรสวรรค์ร่างกายไม่ดีนัก ทว่าก็สามารถยกระดับพลังฝึกตนได้เทียบเท่ากับเหล่าพรสวรรค์สูง และยังมีพลังในการตระหนักรู้ที่สูงล้ำ และแน่นอนเจี้ยนอ้าวเองก็มีพลังในการตระหนักรู้ไม่ได้ด้อยไปกว่าจงซานเช่นกัน.
เจี้ยนอ้าวจุติสามครั้ง เพื่อที่จะแก้ไขวิถีกระบี่ของตัวเองให้สมบูรณ์.
เป้าหมายในชีวิต ดูเหมือนว่าต้องการล้มยอดฝีมือไปทั่วหล้า.
ดังนั้น จงซานจึงไม่เคยประเมินเจี้ยนอ้าวต่ำเลย แม้นว่าหลายปีมานี้ไม่ได้ข่าว ทว่าจงซานก็เชื่อว่าเจี้ยนอ้าวยังคงอยู่ที่ใหนสักแห่ง และเมื่อถึงเวลาเพลงกระบี่ของเขาจะคำรามดังก้องไปถึงเก้าสวรรค์แน่นอน.
อีกอย่างเจี้ยนอ้าวถือว่าเป็นหนึ่งคนที่คุ้นเคยของจงซาน อีกอย่างหากจะนับล่ะก็ ในส่วนที่เขาเกี่ยวพันธ์กับต้าเจิ้ง เจี้ยนอ้าวถือว่าเป็นพ่อต้าของเสี่ยวหวัง แม่ทัพกองกำลังที่สิบด้วย.
"ใช่ เป็นเจี้ยนอ้าว!"จงซานพยักหน้ารับ.
จินเผิงและเต้าเหรินถูที่จ้องมองจงซานด้วยความประหลาดใจ หมายความว่าอย่างไร? มาพบกับคนที่แข็งแกร่ง เซิ่งหวังรู้จักอย่างงั้นรึ?
"เซียนเซิงซือ เจียนอ้าวผู้นี้คือ......!”จินเผิงที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
“ในอดีตก่อนที่ต้าเจิ้งจะมาบนโลกใบใหญ่ เขาคือเซียนสวรรค์จากโลกใบเล็กคนหนึ่ง!”เซียนเซิงซือที่กล่าวตอบโดยย่อ ๆ .
"เป็นหนึ่งคนจากโลกใบเล็ก!"จินเผิงถึงกับงงงวย.
หลายปีมานี้ เขาพบว่ามีคนมากมายที่มาจากโลกใบเล็กใบเดียวกับจงซาน ทุกคนล้วนแต่เป็นอสุรกายพรสวรรค์ทั้งนั้น.
แม้แต่จนถึงตอนนี้ จินเผิงยังแทบไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะว่าเจี้ยนอ้าวไม่ใช่ยอดฝีมือทั่วไปจะเทียบได้ หากเขามาจากโลกใบเล็กเดียวกับเซิ่งหวัง หลายร้อยปีมานี้? เขามีพลังเพียงพอที่จะบุกวิหารใต้เหล่ยหยินเลยอย่างงั้นรึ? ต้องร้ายกาจขนาดใหนกัน?
โลกใบเล็กที่เซิ่งหวังจากมา ดูเหมือนว่าจะไม่ด้อยกว่าโลกใบเล็กของผ่านกู๋ในอดีตเลย.
ในโลกใบเล็กของผ่านกู๋นั้นมีปราชญ์เทพถึงเจ็ดคน กงเชียนและเหล่าอสุรกายพรสวรรค์อีกมากมาย.
ดูเหมือนว่าโลกใบเล็กของจงซานเองก็เต็มไปด้วยอสุรกายพรสวรรค์เช่นกัน.
หยิงต้าฉิน จี้กงหนี่ต้าโจว เซิ่งหวังต้าเจิ้ง ตี้เสวียนชาเผ่าหมาป่า และยังมีเสวียนหยวน ร่างโลกต้นกำเนิด.
และยังมีอีกหนึ่งคน เป็นมือกระบี่ที่ทรงพลังอย่างงั้นรึ? เจี้ยนอ้าวรึ?
"ในโลกใบเล็ก มีหยิง จี้กงหนี่ ตี้เสวียนชา เสวียนหยวน เจี้ยนอ้าว เซียนเซิงซือ ทุกคนนี้มาจากที่เดียวกัน ยังมีคนมากมายขนาดใหนกันที่มาจากที่นั่น?"จินเผิงที่อดไม่ได้จนต้องเอ่ยออกมา.
"ในโลกใบเล็กแห่งนั้นนะรึ? นับเป็นสถานที่รวมของเหล่ายอดฝีมือ มีเหล่าคนที่แข็งแกร่งไม่น้อยที่มาจากที่นั่น ในอดีตนั้นต่างก็เป็นโลกใบเล็กที่ใช้บ่มเพาะเหล่าคนที่แข็งแกร่ง แน่นอนว่า บางคนเองก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็มีบางคนที่กลายเป็นแค่หินที่ใช้รองเท้าเท่านั้น."เซียนเซิงซือที่เอ่ยปากออกมา.
ความจริง ในโลกใบเล็กแห่งนั้นต่างก็มีตัวตนที่ร้ายกาจจำนวนมาก อรหันต์กุยหยวน กู่เฉิงตง เต๋าจวินเซิ่งหยา เย่ชิงเฉิง อื่น ๆ อีกหลายคนที่ต้องตกตายไปในอดีต หากพวกเขายังมีชีวิต ไม่ต้องบอกเลยว่าจะต้องส่องประกายอยู่ในโลกใบใหญ่เช่นกัน.
ทว่าจินเผิง ที่จ้องมองไปยังบัวกระบี่ของเจี้ยนอ้าวไม่วางตาด้วยความประหลาดใจอย่างที่สุด กระบี่สีฟ้าที่ร่ายรำไปมาในอากาศ ประกายแสงของกระบี่ที่ทรงพลัง เพียงแค่ส่องประกายก็สังหารพุทธะได้ ทุกครั้งที่กระบี่ของเจี้ยนอ้าวสะบัด สามารถที่จะตัดแขนขาของพวกเขาในทันที โลหิตที่สาดกระจายท้องฟ้าที่กลายเป็นแสงสีน้ำเงินไปในทันที.