ตอนที่แล้วChapter 1167 หงจวินปรากฎ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1169 ด้านนอกวิหารใต้เหล่ยหยิง.

Chapter 1168 คณะลิ่วล่อที่แส่หาความตาย.


"อืม ข้าเองก็ไม่สามารถมองเห็นเจ้าผีร้ายนั่นกำลังคิดอะไร ตั้งแต่แรกแล้วข้าเห็นพวกเขาก็รู้สึกไม่ดีแล้ว!"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาเสียงสั่น.

หากเทียนเสิ่นจื่อได้ยินประมุขกล่าวเช่นนี้กับเขา คงต้องน้ำตาไหลพรากแน่นอน เจ้าผีร้าย เทียนเสิ่นจื่อคงจะไม่คิดว่าลูกหลานสายโลหิตตรงเองก็ไม่ได้เชื่อใจเขา.

แน่นอน เทียนเสิ่นจื่อเองก็ไม่เป็นไม่ได้ที่จะไม่รับรู้ว่าเทียนหลิงเอ๋อนั้นเป็นเช่นไร และพวกเขาเองก็อยู่ในการจับตาของจงซานเช่นกัน.

"ดังนั้นเจ้าควรจะอยู่ภพหยินชั่วคราวก่อน ไว้ร่างหลักของข้ากลับมาค่อยพูดกันอีกที!"จงซานกล่าว.

"อืม!"เทียนหลิงเอ๋อที่พยักหน้ารับ.

ในเวลาเดียวกันนั้น จงซานที่จ้องมองไปยังฝ่ามือของเทียนหลิงเอ๋อ เสียวหงที่เหมือนกับเผยยิ้มเล็กน้อย ราวกับว่าได้ยินเข้าใจอะไรบางอย่างได้.

"หืม?"ในเวลาเดียวกันนั้นใบหน้าของจงซานที่เปลี่ยนเป็นเล็กน้อย.

เทียนหลิงเอ๋อที่ชำเลืองมองด้วยความตกใจไปยังทิศทางด้านนอก.

"เป็นกลิ่นอายที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก!"เทียนหลิงเอ๋อที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

จงซานที่ก้าวออกไป ปรากฎตัวด้านนอกในทันที.

ในเวลานี้ บนภพหยินเมืองซ่าง มีกลิ่นอายที่หนักหน่วงทรงพลัง กำลังกดทับลงมาทำให้ประชาชนทั่วเมืองซ่างกำลังสั่นสะท้าน.

เหล่าขุนนางนับร้อยที่หยุดทำงาน เร่งรีบออกมานอกตำหนัก พร้อมกับจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า.

ก่อนหน้านี้จงซานได้นำเทียนหลิงเอ๋อออกมาจากตำหนักปู่ซือ.

ที่ด้านหน้าของตำหนักปู่ซือนั้นมีขุนนางหลายคนที่ออกมาก่อนเรียบร้อยแล้ว.

"คารวะเซิ่งหวัง!"เหล่าขุนนางที่เร่งรีบแสดงความเคารพ.

จงซานพยักหน้า ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาองท้องฟ้า.

ในเวลานั้น หนานกงเซิ่ง อี้เหยี่ยน และหวังจิงเหวินที่เดินทางมาถึงตำหนักปู่ซือ ขณะจ้องมองขึ้นไปบนอากาศพร้อมกับจงซาน.

บนอากาศ เวลานี้ผู้มีเยือนราว ๆ  300 คนได้ปรากฎขึ้นอย่างคาดไม่ถึง.

คนที่มีพลังฝึกตนต่ำสุดคือระดับมหาเซียน นอกจากนี้ยังมีเซียนโบราณเป็นจำนวนมาก แม้แต่ห้าเซียนบรรพชนด้วย.

มหาเซียนและเซียนโบราณกำลังใช้วิชาลับสร้างม่านแสงขึ้นบนอากาศ ม่านแสงที่ขยายออกไปเรื่อย ๆ  ปกคลุมทั่วอากาศคลุมเมืองซ่างช้า ๆ .

ค่ายกล คนกลุ่มนี้ต้องการใช้ค่ายกลปกคลุมต้าเจิ้ง?

"ค่ายกลคุกร้อยทบ?ชิ~~~~~~~~~~~!”

เสียงของหนานกงเซิ่งที่เผยท่าทางดูแคลนออกมาในทันที.

คนกลุ่มดังกล่าวได้เข้าปิดล้อมต้าเจิ้งด้วยค่ายกลอย่างงั้นรึ?

เหล่าเสนาธิการที่ไม่ได้จ้องมองไปยังหนานกงเซิ่ง ที่เวลานี้เผยรอยยิ้มเหยียดหยันออกมา ภายในใจของทุกคนที่กำลังสั่นไหว.

"ค่ายกลคุกร้อยทบ?หนานกงเซิ่ง เจ้าสามารถทะลวงได้หรือไม่?"เทียนหลิงเอ๋อที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.

"เรียนหวงโหว เฉินสามารถทำลายได้ด้วยมือเดียว!"หนานกงเซิ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความมั่นใจ.

นี่ไม่ใช่เพราะว่าหนานกงเซิ่งอหังการแต่อย่างใด ทว่าทักษะค่ายกลของหนานกงเซิ่งนั้น ถือว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้า ก่อนหน้านี้หนานกงเซิ่งที่สามารถสร้างค่ายกลด้วยดวงดาราบนอวกาศ ตอนนี้เพียงค่ายกลเล็ก ๆ ง่าย ๆ  ต้องการจะล้อมกรอบต้าเจิ้ง? กลุ่มคนนี้เป็นใครมาจากใหน? พวกเขาไม่ได้รับรู้สืบความอะไรมาก่อนอย่างงั้นรึ?

"ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ อย่าให้พวกเขามารบกวนการตั้งค่ายกลได้!"ชายที่เป็นผู้นำสั่งการเสียงดัง.

พวกเขาที่กังวลว่าจะมีคนที่มาทำลายค่ายกลคุกร้อยทบของพวกเขาเช่นกัน.

อย่างไรก็ตาม ประชาชนต้าเจิ้งหาได้สนใจ?โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนหน้านี้หลังจากที่สามปราชย์เทพเข้าล้อมกรอบ อี้เหยี่ยน หนานกงเซิ่งและคนอื่น ๆ ย่อมมีมุมมองที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง.

สายตาของทุกคนที่จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังด้านบน.

ส่วนจงซานที่จ้องมองไปยังคนหนึ่งในกลุ่มพวกเขา.

กลิ่นอายที่ทรงพลังที่แผ่ออกมา น่าจะเป็นเซียนบรรพชน นอกจากนี้จงซานพอจะคาดเดาคนอื่น ๆ ได้เช่นกัน.

ศิษย์ของปราชญ์เทพสังสารวัฏ จุนหมอจื่อ!

ในอดีตในแดนโครงกระดูก ราชาโครงกระดูกที่ยึดครองตำแหน่งจากหวังคูได้เชิญผู้ฝึกตนเซียนบรรพชนมาด้วย เป็นคนที่สามารถใช้วิถีสวรรค์สังสารวัฏวิถีสวรรค์ ต่อสู้กับจงซาน ในเวลานี้เขาได้มาปรากฎกายอีกแล้ว.

สี่ผู้พิทักษ์เซียนบรรพชนคุ้มกันค่ายกล สี่คนที่สวมชุดสีแดง และคนที่นำมานั้นจดจ้องมองมายังจงซานด้วยสายตาที่ดุร้าย.

"จงซาน!เจ้าคงไม่คิดว่าจะเป็นข้า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"จุนหมอจื่อที่หัวเราะออกมาด้วยความพอใจ.

ในอดีต การประจันหน้ากับจุนหมอจื่อ จงซานค่อนข้างระมัดระวัง ทว่าในเวลานี้พลังฝึกตนของจงซานเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก แม้นว่าจุนหมอจื่อ และสี่เซียนบรรพชน จงซานยังจดจ้องมองอย่างไม่แยแส.

เซียนบรรพชนมากกว่าสิบคน จงซานก็เผชิญหน้ามาแล้ว แม้แต่มีปราชญ์เทพอีกหลายคนก็จัดการมาแล้ว ในเวลานี้ห้าเซียนบรรพชน ยังอยู่ในสายตาจงซานอีกรึ? จงซานไม่เชื่อว่าเซียนบรรพชนที่มานี้จะเป็นตัวตนที่ร้ายกาจอันใด.

จุนหมอจื่อ? มีพลังที่ดาด ๆ ให้เห็นกราดเกลื่อน ส่วนอีกสี่คนต้องฟังความเห็นเขาด้วยซ้ำ กล่าวได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มีพลังมากกว่าเขาอย่างแน่นอน.

"จุนหมอจื่อ?"จงซานที่เอ่ยปากออกมาเบา ๆ .

"วันนั้นนับตั้งแต่ข้าออกไปจากเขตแดนโครงกระดูก ข้าก็สาบานว่าจะล้างอายครั้งนี้ให้ได้ ข้าจะตอบแทนมันคืนให้เจ้านับร้อยเท่า! ครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องร้องขอให้ศิษย์พี่ใหญ่มาด้วยก็เกินพอแล้ว ชิ วันนี้ ข้าจะดูว่าจะทำลายล้างต้าเจิ้งเจ้าอย่างไร!"จุนหมอจื่อที่กล่าวออกมาด้วยความดุร้าย.

จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

ศิษย์ลำดับสองของปราชญ์เทพ หาได้ทำให้จงซานสนใจแม้แต่น้อย.

กับปราชญ์เทพสามคนจงซานก็เผชิญมาแล้ว กับลูกศิษย์ปราชญ์เทพมีอะไรที่ต้องตื่นตกใจ?

"ข้าให้เวลาเจ้าสิบลมหายใจ นำกลุ่มลิ่วล่อของเจ้าไปให้พ้นจากเมืองซ่าง!"จงซานที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.

กลุ่มลิ่วล่อ?

ใบหน้าของสี่เซียนบรรพชนที่กระตุก แม้แต่เซียนโบราณและมหาเซียนยังเผยความเหยียดหยัน เซิ่งหวังต้าเจิ้งช่างไม่รู้ความ?

ใบหน้าของจุนหมอจื่อที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นดำมืด.

ผ่านมากี่ปีกัน คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งมากมายขนาดนั้นเลยรึ? จงซานที่เพิ่งก่อตั้งต้าเจิ้งได้กี่ปีกันเชียว?

"ถุยยย ต้าเจิ้ง? ก่อนหน้าที่ข้าจะมา ข้าได้สืบมาหมดแล้ว ต้าเจิ้งมีหกพื้นที่ แต่ละแห่งต่างก็มีเซียนบรรพชนประจำ เมืองซ่างของเจ้ามีความแข็งแกร่งขนาดใหนกัน? เพียงแค่จินเผิง? วันนี้ พวกเรามีเซียนบรรพชนห้าคนก็พอทำลายต้าเจิ้งจนสิ้นซากแล้ว! แน่นอน หากเจ้ายอมจำนนในเวลานี้ ศาลเทพหลุนฮุย(สังสารวัฏ)จะยอมให้เจ้าเป็นข้าราชบริพาร เว้นโทษตายให้!"จุนหมอจื่อที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.

"พรึด ๆ  คริ ๆ !"ที่ด้านหน้าตำหนักปู่ซือ เทียนหลิงเอ๋อที่แอบหัวเราะออกมาในทันที.

เทียนหลิงเอ๋อที่หัวเราะออกมา ทำให้อี้เหยี่ยน หวังจิงเหวินและคนอื่น ๆ พลอยหัวเราะตาม.

ความจริง ห้าเซียนบรรพชนสามร้อยยอดฝีมือที่มีระดับสูงกว่ามหาเซียน ในภพหยินนั้นนับว่าเป็นหนึ่งกลุ่มอิทธิพล ต้องไม่ลืมว่าหากเป็นต้าเจิ้งแต่ก่อน ก็ยากที่จะต้านทาน ในอาณาเขตจวงหลุนนั้น โหลวซิงเฉินที่แข็งแกร่งที่สุดก็มีเพียงระดับเซียนโบราณเท่านั้น.

ทว่าในเวลานั้น กับวันนี้มันได้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง กองกำลังภพหยางที่สามารถส่งมายังภพหยินได้ตลอดเวลา สิบเซียนบรรพชนที่เซิ่งกงเป้านำมาเองสามารถประจำการไปกลับระหว่างสองภพได้.

จงซานที่จ้องมองขึ้นไปยังจุนหมอจื่อที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แววตาที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

"มีอะไรหัวเราะ ทุกคนในเมืองซ่างจะไม่มีใครสามารถหนีไปใหนได้!"จุนหมอจื่อที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.

ค่ายกลคุกหนึ่งร้อยทบที่ปกคลุมเมืองซ่างเป็นเหมือนกับลูกบอลทรงกลมขนาดใหญ่ปกคลุมเมืองซ่างเอาไว้ทั้งหมด.

หนานกงเซิ่งถึงกับต้องมองบน เขาสามารถทะลวงค่ายกลเช่นนี้ ได้เพียงแค่มือเดียว เรื่องนี้ควรค่าให้เขาดีใจหรือไม่?

"ในดินแดนโครงกระดูก ข้าเห็นแก่หน้าปราชญ์เทพสังสารวัฏครั้งหนึ่งแล้ว!"จงซานกล่าวออกมาเบา ๆ .

"ชิ ปล่อยข้าครั้งหนึ่ง แล้วอย่างไร? เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้ารึอย่างไร?กลับการทำให้ข้าต้องอับอายเจ้าต้องรับคืนไปอย่างสาสม!"จุนหมอจื่อที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.

จงซานที่จ้องมองจุนหมอจื่อที่เต็มไปด้วยความมั่นใจมากมาย.

ถึงกับข่มขู่เขา และคิดว่าเขากล่าวขอความเมตตา.

ใบหน้าจงซานที่เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ไม่มีเวลาพูดคุยกับขยะมูลฝอยอีกต่อไปแล้ว.

"จับทุกคนเอาไว้ อย่าให้หนีไปได้!"จงซานที่กล่าวออกมาเบา ๆ .

"รับทราบ!"ทุกคนที่อยู่บนลานตำหนักปู่ซือที่กล่าวรับคำในทันที.

หนานกงเซิ่งลงมือเป็นคนแรก เขาที่ชี้นิ้วปล่อยแสงสีแดงยิงออกไปยังค่ายกลคุกร้อยทบทันที.

ค่ายกลคุกร้อยทบที่สั่นไหว จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีแดง.

หนานกงเซิ่งที่ไม่ได้ทำลายค่ายกล ทว่าในเวลานี้กลับทำให้เหล่ามหาเซียนที่ควบคุมค่ายกลต้องร้องออกมา.

"ไม่ได้การแล้ว ค่ายกลคุกร้อยทบไม่สามารถควบคุมได้!"

"ไม่ได้การ พวกเราถูกขัง บุกออกไป!"

"ไป!"

"ตูมมมมมม!"

"ค่ายกลโจมตีข้า ............!”

บนท้องฟ้าเกิดเสียงดังกระหึ่ม เหล่ายอดฝีมือต่างเผยท่าทางตื่นตกใจ ค่ายกลของพวกเขาไม่สามารถควบคุมได้ หนำซ้ำยังทำร้ายตัวเองอีกรึ?

เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?

ในเวลาเดียวกัน เมืองซ่างมียอดฝีมือมากมายโผล่ออกมา ทุกคนที่บินขึ้นไป บนอากาศพุ่งเข้าหากลุ่มของจุนหมอจื่อ.

"เซียนบรรพชน? ต้าเจิ้งมีเซียนบรรพชนด้วย?"ใบหน้าของจุนหมอจื่อที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

"แปดเซียนบรรพชน? เมืองซ่างมีเซียนบรรพชนแปดคน?"เหล่าผู้คุ้มกันที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.

"หวังเย่ หนีเร็วเข้า!"เซียนบรรพชนที่ร้องเอ่ยบอกจุนหมอจื่อในทันที.

"ตูมมมม!”

ค่ายกลที่ระเบิดแตกออก เปิดทางให้จุนหมอจื่อหนีออกจากต้าเจิ้ง.

สี่เซียนบรรพชนที่เข้าขวาง ป้องกันเซียนบรรพชนทั้งแปดคนของต้าเจิ้ง.

จุนหมอจื่อที่หนีออกจากค่ายกล ก่อนที่จะหันหน้ากลับมามอง ด้วยใบหน้าไม่อยากเชื่อ เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? มันกลับตาลปัตรได้อย่างไร?

ต้าเจิ้งมียอดฝีมือมากมาย? ราวกับสายฟ้าฟาดลงมาบนกบาลของเขา.

"หวังเย่ รีบหนีเร็วเข้า หนี หนี หนี!"ผู้คุ้มกันที่ร้องตระกูลเสียงดัง.

เสียงของผู้คุ้มกันที่ร้องตะโกนบอกจุนหมอจื่อให้ดีไป พวกเขาต่างก็เพิ่งเป็นเซียนบรรพชนระดับต้น ฝ่ายตรงข้ามที่เป็นเซียนบรรพชนที่เหนือกว่า พวกเขาจะต้านได้อย่างไร?

"หนีรึ? ข้าบอกให้เจ้าหนีอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาเบา ๆ .

"ฝากไว้ก่อน ข้าจะไปเรียกศิษย์พี่ใหญ่ ข้าจะไปขอให้อาจารย์ช่วย!"จุนหมอจื่อที่ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ.

จากนั้น จุนหมอจื่อขณะที่เตรียมจะหนีจากไป.

"เซิ่งหวังมีคำสั่ง ห้ามใครหนีไปใหน!"

ที่ด้านหน้าจุนหมอจื่อ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงใครที่กล่าวเสียงดัง.

จากนั้น จุนหมอจื่อที่รู้สึกเย็นยะเยือบ.

"ทำไมเป็นเช่นนี้? ต้าเจิ้งมีเซียนบรรพชนมากมายขนาดใหนกัน? สวรรค์ไม่ยุติธรรม สวรรค์ไม่ยุติธรรม~~~~~~~~!"จุนหมอจื่อที่คำรามออกมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความหวาดกลัว.

ที่ด้านหน้าของจุนหมอจื่อ ปรากฎเงาแสงของเซียนบรรพชนเผ่าโครงกระดูกแปดคนที่ออกมาขวางจุนหมอจื่อทันที.

หนี? หนีอย่างไร? ตัวเขาที่อยู่ในระดับเซียนบรรพชนขั้นต้น ฝ่ายตรงข้ามกลับเป็นเซียนบรรพชนถึงแปดคน จะสังหารเขานั้นง่ายยิ่งกว่าบดเต้าหู้!

สี่ผู้คุ้มกันในเวลานี้ถึงกับตื่นตะลึง ไม่สามารถรับความจริงได้ เป็นไปไม่ได้? ตามข้อมูล ไม่ใช่ว่าต้าเจิ้งมีสามเซียนบรรพชนและจินเผิงหรอกรึ?

แล้ว 16 เซียนบรรพชนมาจากใหนกัน? กองกำลังที่แม้แต่สามารถป้องกันปราชญ์เทพได้ พวกเขาเป็นข้าราชบริพารของต้าเจิ้ง?

จุนหมอจื่อที่ถูกจับอย่างรวดเร็ว การต่อสู้ที่หนักหน่วง สี่ผู้คุ้มกันของเขาได้รับบาดเจ็บถูกผนึกพลังฝึกตน ส่วนเซียนโบราณและมหาเซียนแน่นอนไม่สามารถหนีได้ พลังเขาที่ได้รับบาดเจ็บและผนึกพลังฝึกตน พร้อมกับถูกส่งไปยังคุกของต้าเจิ้ง.

"การต่อสู้ที่น่าเบื่อชะมัด!"เทียนหลิงเอ๋อที่บ่นอุบอิบ ชัดเจนว่าคนเหล่านี้ไร้ซึ่งแก่นสารนัก.

เหล่าคนของจุนหมอจื่อถึงกับปากสั่น งุนงง ต้าเจิ้งผิดปรกติเกินไปแล้ว.

เป็นพวกเขาที่แส่เข้ามาหาความตาย วิ่งเข้ามาให้ถูกจับตัว.

"หลิวอู๋ซ่าง!"จงซานเอ่ย.

หลิวอู๋ซ่าง ผู้บัญชาการจินอี้เหว่ยของต้าเจิ้ง.

"เฉินอยู่นี่แล้ว!"หลิวอู๋ซ่างที่ตอบกลับในทันที.

"คนกลุ่มนี้มอบให้เจ้าเป็นคนสืบสวน!"จงซานกล่าว.

"น้อมรับประสงค์!"หลิวอู๋ซ่างที่เผยท่าทางตื่นเต้นเล็กน้อย.

หลิวอู๋ซ่างที่เป็นเหมือนกับหน่วยลงทัณฑ์ที่ชื่นชอบการทรมานเป็นอย่างมาก ดังนั้นภายในคุกสวรรค์ของต้าเจิ้ง หลิวอู๋ซ่างจึงถูกโจษจันมีชื่อเสียงได้รับฉายา ปิศาจแห่งการทรมาน.

จุนหมอจื่อและคณะลิ่วล่อที่ได้แต่กัดฟันจ้องมองจงซานด้วยความเกลียดชัง ชัดเจนว่าพวกเขาเวลานี้คงจะยังไม่รู้ว่าว่าหลิวอู๋ซ่างจะทรมานอะไรพวกเขาบ้าง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด