Chapter 1148 ช่วยล้มหยิงเห่ากับข้า.
ปราชญ์เทพอีกคนมาถึงแล้ว ใบหน้าของเซียนบรรพชนที่อยู่รอบ ๆ ถึงกับกระตุก ปราชญ์เทพคนที่สี่?
จื่อหยางจิงหง ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกใด ๆ ออกมาต่อต้าเจิ้ง ได้แต่จ้องมองไม่วางตา รอคอยผลสุดท้าย.
จินเผิง เต้าเหรินถูที่กลืนน้ำลายคำโต ภายในใจทั้งสองที่รัดแน่นยากที่จะอธิบายออกมาได้ เรื่องนี้ เกิดความสับสนงุนงงครั้งแล้วครั้งเล่า หัวใจที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ถูกแช่แข็ง ในเวลานี้เปลี่ยนไปมา อีกคนแล้ว? ยังจะมาอีกคนเพิ่มอีกหรือไม่?
หยิงเห่าเรียกว่า ม่อจื่อ แน่นอนว่าจะต้องเป็นม่อจื่อ.
ม่อจื่อ จงซานเคยพบมาก่อน ทว่าไม่เห็นร่างที่แท้จริง ที่ตำหนักดวงดาราเมื่อครั้งปรากฎโลกหนี่หว่า ม่อจื่อใช้สัมผัสเทวะครอบครองร่าง ปรากฎขึ้นภายในตำหนัก.
ม่อจื่อในเวลานี้สวมชุดป่านสีดำล้วน ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้ ทรงผมที่ถูกจัดแต่งอย่างละเอียด มีมงกฎสีดำครอบอีกรอบ ทำให้เขาดูสง่าโอ่อ่าเป็นอย่างมาก.
"ม่อจื่อ?"ปราชญ์เทพหมี่เทียนที่เต็มไปด้วยความสงสัย.
ใครจะคาดคิดล่ะว่าศาลเทพเล็ก ๆ ครั้งนี้จะมีปราชญ์เทพสี่คนมาเยือนอย่างคาดไม่ถึง?
สถานการณ์เวลานี้ซับซ้อนมาก การมาถึงของปราชญ์เทพม่อจื่อ จะเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่?
การมาถึงของม่อจื่อ ทำให้เหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้งเผยท่าทางกังวลใจขึ้นมา ไม่ใช่ว่าม่อจื่อมาช่วยคนอื่นทำลายต้าเจิ้งหรือไม่?
"จงซาน คารวะปราชญ์เทพม่อจื่อ!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
เหมือนกับปราชญ์เทพหมี่เทียนแรกเริ่ม จงซานก็แสดงท่าทางเป็นมิตรออกมาก่อนเช่นกัน.
"เซิ่งหวังจง สบายดี!"ม่อจื่อพยักหน้า.
เซิ่งหวังจง สบายดีอย่างงั้นรึ? สายตาของจงซานที่สั่นไหวเล็กน้อย เหล่าเสนาธิการที่พ่นลมหายใจเบา ๆ แม้นว่าจะเป็นคำพูดง่าย ทว่าก็เห็นได้อย่างชัดเจน อย่างน้อยม่อจื่อก็ไม่ได้ร่วมมือกับปราชญ์เทพหมี่เทียนทำลายต้าเจิ้ง.
ทว่าท่าทางของม่อจื่อ ทำให้หยิงเห่าและหมี่เทียนรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที.
เซิ่งหวังเล็ก ๆ ควรค่าให้ม่อจื่อแสดงท่าทางเช่นนี้ด้วยอย่างงั้นรึ?
"ม่อจื่อ เจ้าต้องการทำอะไร?"หมี่เทียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม สังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาในทันที.
"ข้าและคนอื่นมาชำระแค้นกับต้าเจิ้ง บางทีเจ้าเองก็ด้วยอย่างงั้นรึ?"หยิงเห่าที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ม่อจื่อที่ส่ายหน้าไปมา เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย "มีใครบางคนที่ร้องขอให้ข้ามา!"
"คำขอของใครบางคนอย่างงั้นรึ? ใครกันที่เจ้าถึงกับต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง!"หมี่เทียนที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ปราชญ์เทพหมี่เทียน แผนการเทวะของเจ้า ข้าชื่นชมนัก!"ม่อจื่อที่เอ่ยออกมาในทันที.
“..............................!”
..................
......
หมี่เทียนและหยิงเห่ารับรู้ได้ในทันที ม่อจื่อไม่ได้ผ่านมาโดยบังเอิญ ทว่าเขาต้องการมาเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย.
ในทางตรงกันข้าม เหล่าข้าราชบริพารของต้าเจิ้งที่เผยท่าทางตื่นต้นขึ้นมา จากท่าทางของม่อจื่อไม่ยากที่จะคาดเดา ว่าอยู่ข้างต้าเจิ้ง! ดวงตาของจินเผิงที่เป็นประกาย มองเห็นความแสงสว่างขึ้นมาในทันที.
"ในโลกนวีหวานั้น เพื่อแผนผังป้ากัว เจ้าบอกว่าเพื่อตอบแทนบุญคุณต้าฉิน ตอนนี้เองก็ด้วยอย่างงั้นรึ?"หมี่เทียนที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก.
"เป็นความจริง ข้าและต้าฉินเคยมีสัมพันธ์กันมาก่อน ทว่าในครั้งนี้เป็นอีกคน!"ม่อจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
“............!”
"แล้วเจ้าต้องการตอบแทนบุญคุณใครกัน?"หมี่เทียนที่เผยท่าทางเศร้าใจ.
"บางสิ่งไม่สามารถที่จะควบคุมได้ หมี่เทียนเจ้านับเป็นคนที่โชคดีที่ไม่มีใครต้องตอบแทน ก่อนที่จะมาเป็นปราชญ์เทพ การจะก้าวมาเป็นปราชญ์เทพในวันนี้ได้จำเป็นต้องมีผู้คนมากมายช่วยเหลือ หากเหล่าผู้มีพระคุณก่อนหน้านี้ร้องขอ มีหรือที่ข้าจะละเลยได้?"ม่อจื่อที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
แม้นว่าม่อจื่อจะเผยท่าทางเป็นมิตรเป็นอย่างมาก ทว่าความหมายของเขาหนักแน่น เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ช่วยเป็นปราชญ์เทพ ไม่เคยลืม และยืนยันอย่างหนักแน่นที่จะช่วยจงซาน.
เหล่าเสนาธิการต้าเจิ้งเผยความตื่นเต้น คาดไม่ถึงเลยว่าปราชญ์เทพจะออกมาช่วยต้าเจิ้ง ต้าเจิ้งเวลานี้มีโอกาสรอดแล้ว.
หยิงเห่า หมี่เทียนที่จ้องมองไปยังม่อจื่อ พร้อมกับเปลี่ยนเป็นเงียบงัน.
"เจ้าเตรียมที่จะช่วยอย่างไร? เจ้าต้องการที่จะเป็นศัตรูกับข้า หยิงเห่าและเทียนโจวจื่อพร้อมกันอย่างงั้นรึ?"หมี่เทียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ม่อจื่อที่ส่ายหน้าไปมา "ช่วยคนแน่นอนว่าย่อมมีขีดจำกัด แน่นอนว่าข้าไม่ควรที่จะทุ่มสุดกำลัง!"
มีขีดจำกัดรึ? ขีดจำกัดอย่างไร? ช่วยคนก็มีปริมาณด้วยอย่างงั้นรึ?
"อาวุโสม่อจื่อ ใครกันที่ขอร้องให้อาวุโสช่วยเหลือต้าเจิ้งของข้า?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
แม้นว่าเรื่องดังกล่าวนี้จะทำให้คนอื่นดีใจ ทว่าเรื่องนี้กับทำให้จงซานเป็นกังวล ใครกันที่สามารถร้องของปราชญ์เทพได้? แม้นว่าจะเคยพบกับม่อจื่อเป็นครั้งที่สองแล้ว ทว่าก็ไม่ได้มีมิตรภาพอะไรต่อกัน ใครกันที่จะสามารถขอร้องให้ม่อจื่อลงมือได้กัน?
หยิงรึ? เป็นไปไม่ได้ หยิงและม่อจื่อไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรต่อกันแล้ว.
จี้กงหนี่รึ? ยิ่งเป็นไปไม่ได้ หากเขาต้องการช่วย ควรจะให้กงซูจื่อมา เป็นไปไม่ได้ที่จะทำอะไรให้เปล่าประโยชน์เช่นนี้.
ตี้เสวียนชารึ? เป็นไปไม่ได้ ทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน.
ใครกันที่ขอร้องม่อจื่อ?
ไม่ใช่แค่จงซานที่อยากรู้ ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังม่อจื่อพร้อม ๆ กัน.
จ้องมองไปยังจงซาน ม่อจื่อที่ส่ายหน้าไปมากล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล "เซิ่งหวังจง ช่างโชคดีนัก!"
"หืม?"จงซานที่ไม่เข้าใจ.
“คนที่ขอร้องข้านั้น ได้ขอให้นางปกปิดตัวตนเอาไว้ ดังนั้นจึงไม่สามารถให้ชื่อได้ ทว่าข้าสามารถบอกเจ้าได้ว่า คนที่ขอร้องข้านั้นเป็นสตรี!”ม่อจื่อเอ่ยออกมาเบา ๆ .
"สตรีรึ?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.
"ถูกแล้ว เป็นสตรี นอกจากนี้ยังเป็นสตรีสองนาง และทั้งคู่เองก็ขอร้องข้าต่างกันกันต่างเวลา ต่างก็ไม่รู้ว่าอีกคนได้ขอร้องแล้ว จากที่ข้าเห็น ดูเหมือนว่าพวกนางเองจะเป็นคนรู้จักของเซิ่งหวังจงมานานแล้ว! ดังนั้นข้าจึงบอกได้ว่าเซิ่งหวังจงช่างโชคดีนัก!"ม่อจื่อที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
ม่อจื่อที่กล่าวได้อย่างจัดเจน ทว่าจงซานยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าเป็นใครที่ขอร้องให้ปราชญ์เทพมาช่วย นอกจากนี้ยังเป็นคนที่เขารู้จักสองคนอย่างงั้นรึ?
ใบหน้าของจงซานที่เผยท่าทางแปลกประหลาด!
ทว่าทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็รู้สึกอิจฉา ริษยาขึ้นมาทันที.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจินเผิงและเต้าเหรินถู สองคนที่ใช้ชีวิตทั้งชีวิตทุ่มให้กับการต่อสู้ เกี่ยวกับความรักของชายหญิงไม่ได้สนใจนัก คิดว่ามันเป็นตัวถ่วงความเติบโตด้วยซ้ำ ในวันนี้จึงได้เห็นแท้จริง เป็นพวกเขาที่ไม่เข้าใจ ใครบอกว่าความรักของชายหญิงเป็นตัวถ่วงการบำเพ็ญกัน? จ้องมองเซิ่งหวังในคราวนี้ พวกเขารู้สึกว่าควรจะมีคู่บำเพ็ญให้มากหน่อย คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย! หากมีสักคนคอยช่วยเหลือเหมือนเช่นเซิ่งหวังได้ล่ะก็.
สองคน สตรีสองคนที่ขอร้องปราชญ์เทพให้มาช่วย เหล่ากลุ่มสังเกตการณ์ที่อยู่รอบ ๆ มองมาด้วยความอิจฉา ดวงตาแดงซ่านจ้องมองจงซาน แม้แต่เซิ่งหวังบางคนเริ่มคิดถึงหวงโหวตัวเอง หากพวกเขามีภัยจะมีคนออกมาช่วยเหลือหรือไม่?จะมีคนที่ทรงพลังออกมาช่วยเหลือเหมือนเช่นจงซานหรือไม่ ในเวลานี้พวกเขาแทบบ่นโอดครวญว่าตัวเองด้อยกว่าจงซานนัก.
"ขอบคุณ อาวุโส!"จงซานที่พยักหน้ารับ กับความสัมพันธ์ต่อคนที่ร้องขอให้มาช่วยเหลือ ภายในใจของจงซานที่สั่นไหวเล็กน้อย เพียงแค่พวกนางปลอดภัยดี จงซานก็รู้สึกดีแล้ว และรู้สึกขอบคุณม่อจื่อจากใจ.
"เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณ ข้าช่วยพวกนาง นอกจากนี้ข้ายังบอกไปก่อนหน้าแล้ว ข้าทำเท่าที่ข้าทำได้ ดังนั้นข้าจะช่วยเจ้าขวางปราชญ์เทพคนหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด!"ม่อจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
เพียงแค่หนึ่งคน? หมี่เทียนและหยิงเห่าที่จ้องมองหน้ากันและกัน พ่นลมหายใจยาว ทั้งคู่ไม่ได้หวาดกลัวม่อจื่อแต่อย่างใด กลัวว่าเขาจะขัดขวางจนเขาไม่สามารถทำอะไรได้ไม่ถนัด.
นอกจากนี้ฝั่งตรงข้ามยังมีกลุ่มเซียนบรรพชนอีกหลายคน หากมีปราชญ์เทพร่วมด้วย จะยิ่งทำให้พวกเขาต้องระมัดระวังยิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก.
"เพียงพอแล้ว ขอบคุณ อาวุโส ขอเพียงอาวุโสขวางหมี่เทียนเอาไว้ก็พอแล้ว ส่วนคนอื่น ๆ จงซานจะจัดการเอง!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ก่อนหน้านี้ ไม่มีม่อจื่อ จงซานเองก็กำลังหาวิธีที่จะรับมือสองปราชญ์เทพอยู่แล้ว การที่มีม่อจื่อออกมาช่วย แน่นอนว่าย่อมทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายขึ้นกลับกลายมาเป็นตามแผนการเดิมในทันที.
"ด้วยความยินดี!"ม่อจื่อพยักหน้ารับ.
ม่อจื่อที่ปรากฎตัวออกมา ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ทำให้จงซานสามารถใช้แผนการเดิมของตัวเองได้ นับว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมไม่น้อย.
หมี่เทียนเวลานี้แม้นว่าจะมองไม่เห็นใบหน้า ทว่าจงซานสามารถบอกได้ว่าใบหน้าของหมี่เทียนคงกำลังกระตุก จ้องมองมาด้วยความเศร้าใจ สายตาที่เย็นชาจ้องมองไปยังจงซาน ก่อนที่จะหันหน้าไปมองม่อจื่อ.
"ปราชญ์เทพหมี่เทียน ล่วงเกินแล้ว เรื่องต่อไปนี้ให้หยิงเห่าและจงซานเป็นคนจัดการเอง เป็นอย่างไร?"ม่อจื่อเอ่ยออกมาเบา ๆ .
"ได้!"หมี่เทียนที่ได้แต่ต้องตอบกลับ.
กับการต่อสู้ของปราชญ์เทพ? ความแข็งแกร่งของม่อจื่อ หมี่เทียนไม่สามารถบอกได้ชัด ทว่าในเวลานี้คงทำได้เพียงแค่มองแล้ว.
นอกจากนี้จงซานตอนนี้อ่อนแอนัก รอคอยอีกสักวันจะเป็นไรไป จากนั้นค่อยลงมืออีกครั้ง ทำไมต้องเสี่ยงภัยโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ไม่ใช่ว่ายังมีหยิงเห่าลงมืออยู่ไม่ใช่รึ?
หยิ่งเห่าหนึ่งปราชญ์เทพที่แข็งแกร่ง จะเป็นไปได้รึที่จะไม่สามารถจัดการจงซานได้?
"ข้าเพิ่งได้รับยอดชามาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ใหน ๆ แล้วไม่ลองมาดื่มชาด้วยกันกับข้า ดีหรือไม่?"ม่อจื่อที่เอ่ยปากออกมาทันที.
"ตกลง!"
"เชิญ!"
ทั้งสองคนที่บินไปยังพื้นที่ไกลออกไป พร้อมกับนำซุ้มไม้ขนาดใหญ่ออกมา ลอยอยู่บนอากาศ พร้อมกับจิบชา ขณะจ้องมองไปยังสนามรบของเทียนโจวจื่อและสนามรบของหยิงเห่าด้วยเช่นกัน.
เหล่าประชาชนของต้าเจิ้งที่พ่นลมเบา ๆ รู้สึกดีกับม่อจื่อเป็นอย่างมาก สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังม่อจื่อด้วยความเคารพและซาบซึ้ง.
ทว่าเหล่าข้าราชบริพารของต้าเจิ้งยังคงจ้องมองหยิงเห่าด้วยท่าทางจริงจัง เวลานี้บนอากาศยังคงมีปราชญ์เทพอีกหนึ่งคน.
จินเผิงและเต้าเหรินถูและคนอื่นเผยความตื่นเต้นดีใจ เพราะว่าในเวลานี้สถานการณ์กลับคืนมาเป็นเหมือนเริ่มต้นแล้ว เหตุการณ์เมื่อหยิงเห่ามาเยือนในครั้งแรก.
จินเผิงและเต้าเหรินถู ที่รู้ว่าเรื่องร้ายได้กลับคืนมาแล้ว เซิ่งหวังจะต้องมีวิธีจัดการอย่างแน่นอน.
"หยิงเห่า ตอนนี้เหลือแค่เจ้ากับข้าแล้ว?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ต้าเจิ้งอันกระจิริด มีพยัคฆ์ซ่อนมังกรหมอบซ่อนอยู่มากมาย ช่างน่าเสียดาย ที่วันนี้ข้าจะต้องกำจัดต้าเจิ้งของเจ้าให้สิ้น ยังมีใครมาช่วยอีกอย่างงั้นรึ? จงนำออกมา!"หยิงเห่าที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
ใช่แล้ว ยังมีใครอีกที่จะมาช่วยจงซาน? ทุก ๆ คนที่จ้องมองไปยังจงซานเป็นสายตาเดียวกัน.
"จัดการกับเจ้า ไม่จำเป็นต้องให้ใครช่วยอีกแล้ว?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
“............!”
เซียนบรรพชนที่ลอบสังเกตุการณ์อยู่รอบ ๆ รู้สึกว่าจงซานช่างอหังการนัก บ้าคลั่งขนาดนี้เลยรึ?ไม่ต้องการให้ใครช่วยก็สามารถต่อสู้กับปราชญ์เทพได้อย่างงั้นรึ?
"วันนี้ข้าจะลองทดสอบสู้กับปราชญ์เทพดูว่าจะทรงพลังขนาดใหนกัน!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
หมายความว่าอย่างไร? ผู้คนมากมายที่จ้องมองจงซานด้วยท่าทางไม่เข้าใจแม้แต่น้อย.
"ประชาชนต้าเจิ้ง จงยกแขนขวาขึ้น เป็นพลังให้กับข้า เอาชนะหยิงเห่าพร้อมกับข้าด้วย ~~~~~~~!”จงซานที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"โฮกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
"โฮกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
บนเมฆชื่อเสียงวาสนาเวลานี้ มังกรชื่อเสียงวาสนาสองตนที่คำรามออกมาเสียงดัง เสียงของมังกรที่กระจายไปทั่วสวรรค์และปฐพี พร้อมกับคำพูดของจงซานที่ถูกส่งออกไปทั่วแผ่นดิน กระจายไปยังหัวใจของประชาชนของต้าเจิ้ง.
แทบจะในเวลาเดียวกัน ประชาชนของต้าเจิ้งที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า สัมผัสได้ถึงเสียงคำรามของมังกรที่น่าตื่นตะลึงนี้ในทันที.