Chapter 1147 จงซานขู่ปราชญ์เทพ.
สถานการณ์เวลานี้ รอบ ๆ สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว มีผู้ฝึกตนสังเกตการณ์มากมายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เพียงเวลาไม่นานเท่านั้น เซียนบรรพชนเพื่อนบ้านข้าง ๆ หลากหลายกลุ่มอิทธิพล แน่นอนพวกเขาไม่สามารถนั่งอยู่ได้กับเรื่องใหญ่เช่นนี้ นอกจากนี้จงซานยังไม่ได้มีมิตรแต่อย่างใด ยกเว้นเหล่าผู้ฝึกตนพเนจรบางคน คนอื่น ๆ ต่างก็เดินทางมาเพื่อมองการล่มสลายของต้าเจิ้ง ในเวลานี้ต้าเจิ้ง ต้องพังทลายแน่.
สถานการณ์เวลานี้ของต้าเจิ้งดูเหมือน ยังคงเลวร้ายเป็นอย่างมาก.
สองปราชญ์เทพ ในสนามรบ จงซานจะรับมืออย่างไร?
หยิงเห่าและหมี่เทียนที่ลอยอยู่บนอากาศ ท่าทางไม่ได้กังวลแต่อย่างไร เพราะว่าทั้งสองต่างรู้ดี ยิ่งเวลาผ่านไป จงซานก็จะยิ่งเผยความผิดพลาดออกมา.
บนอวกาศ เทียนเสิ่นจื่อและคนอื่น ๆ อีก 12 คนทีที่หลอมร่างอสูรนอกภพ ได้ต่อสู้กับเทียนโจวจื่อกับคนของเขาแล้ว.
คนกลุ่มนี้นับเป็นยอดฝีมือที่โดดเด่นโดยแท้จริง การต่อสู้กันที่ไม่เสียเปรียบแม้แต่น้อย สองเซียนบรรพชนที่รับมือกับเทียนโจวจื่อ.
บนท้องฟ้าที่ดวงดาราระเบิดเป็นหย่อม ๆ กลายเป็นริ้วแสงอุกาบาตกระเซ็นออกมาเป็นระยะ ๆ สร้างความประหลาดใจให้กับปราชญ์เทพทั้งสองเป็นอย่างมาก.
ต้าเจิ้ง เต้าเจิ้งไม่สามารถประเมินค่าต่ำได้เลย หนึ่งในสถานที่ของทวีปภาคเหนือที่ไม่เป็นที่รู้จักนัก เป็นศาลเทพที่ทุกคนมองข้าม คาดไม่ถึงเวลานี้จะมีกลุ่มคนที่ผิดปรกติเช่นนี้อยู่รึ?
สองปราชญ์เทพที่ก้มหน้าจ้องมองไปยังจงซาน เผยท่าทางจริงจังออกมาอีกด้วย.
"จงซาน การหลอมกายอสูรนอกภพในร่าง เจ้าเองก็ด้วยรึ?"ปราชญ์เทพหมี่เทียนกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ทันทีที่ปราชญ์เทพหมี่เทียน สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังจงซานทันที ใช่แล้ว จงซานผิดปรกติเช่นนี้หรือไม่? เขาสร้างร่างที่ผิดปรกติหรือไม่? หากเป็นดังเช่นคนกลุ่มหน้านี้ สถานการณ์เวลานี้อาจจะเปลี่ยนไปอีกก็เป็นได้.
ปราชญ์เทพทั้งสอง จินเผิง เต้าเหรินถูและคนอื่น ๆ ต่างก็แสดงท่าทางสงสัยจดจ้องมองมายังจงซานพร้อม ๆ กัน.
คนทั้งคู่ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับจงซานมากนัก ต้าเจิ้งที่แปลกประหลาดนี้ มีความลับอีกหรือไม่?
จงซานที่จ้องมองไปยังปราชญ์เทพหมี่เทียน! ถอนหายใจเบา ๆ และกล่าวออกมาว่า "ปราชญ์เทพหมี่เทียน ข้าขอเตือนให้เจ้าจากไปในเวลานี้ ข้าจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันนี้หากเจ้ายังคิดล่วงเกินข้า ความแค้นของพวกเรา จะไม่สามารถยอมกันได้อีกตลอดไป!"
“.......................!”
เหล่าทุกคนที่อยู่รอบ ๆ กลายเป็นเงียบลงในทันที จงซานกำลังทำอะไร?บ้าคลั่งขนาดนี้? ปราชญ์เทพหมี่เทียน นั่นมันปราชญ์เทพนะ เจ้ากำลังขู่หมี่เทียน? กำลังข่มขู่ปราชญ์เทพ?
ไร้สาระ ทุกคนที่กลายเป็นงงงวย แม้แต่ปราชญ์เทพหมี่เทียนเอง เพียงเซียนโบราณกล้าข่มขู่ข้าอย่างงั้นรึ?
"สารเลว ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!"ปราชญ์เทพหมี่เทียนแค่นเสียงเย็นชา พร้อมกับแผ่จิตสังหารที่รุนแรงออกมา.
จิตสังหารที่ทำให้สภาพอากาศเย็นลงอย่างรุนแรง แม้แต่เกิดหิมะขึ้นในพื้นที่รอบ ๆ .
---------------------------
ภพหยิน เมืองซ่างต้าเจิ้ง.
ภายในห้องอักษรของจงซาน.
ร่างแยกเงาของจงซานที่นั่งอยู่บนโต๊ะ นิ้วที่เคาะเบา ๆ ร่างแยกเงาของจงซานที่กำลังคำนวณอะไรบางอย่างอยู่.
ต้าเจิ้งกำลังเผชิญกับภัยพิบัติ จงซานตอนนี้จะจัดการอย่างไร? สิ่งสำคัญที่สุด เวลานี้ นี่คือภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา หากเป็นศาลเทพอื่น เวลานี้คงล่มสลายไปเรียบร้อยแล้ว.
จงซานที่กล้าท้าทายหยิงเห่า แน่นอนว่ายังพอมีวิธีรับมือ.
เทียนโจวจื่อที่ไล่ล่าจงซานมาเองก็อยู่ในการคำนวณ แม้แต่หยิงเห่าที่รอคอยอยู่ก็ตาม ทุกอย่างอยู่ในแผนการของจงซาน สองปราชญ์เทพกับอีกหลายเซียนบรรพชน ด้วยอำนาจของต้าเจิ้งเวลานี้ เพียงพอที่จะทำให้ทั่วหล้าตื่นตะลึง ทั่วทั้งอาณาเขตภาคเหนือ ต้าเจิ้งภพหยางก็จะกลายเป็นหนึ่งยักษ์ใหญ่.
สองปราชญ์เทพ จงซานได้วางแผนรับมือเอาไว้อย่างดีแล้ว แม้นว่าจะดูยากลำบาก ทว่าด้วยแผนการที่ไม่ธรรมดา ทั้งรายละเอียดและความนึกคิดอยู่ภายใต้การคำนวณของจงซาน.
อย่างไรก็ตามท้ายที่สุด ไม่ใช่แค่สองปราชญ์เทพ ในเวลานี้กลับมีปราชญ์เทพหมี่เทียนปรากฎขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง ปราชญ์เทพหมี่เทียนที่ไม่พึงพอใจ หยิงที่ดูแคลนเขา ในอดีตเองหงจวินและปราชญ์เทพคนอื่น ๆ ต่างก็ดูแคลนเขา จี้กงหนี่เองก็มีความแค้นกับเขาเรื่องที่ถูกสังหารภรรยา ตอนนี้คาดไม่ถึงเลยว่า ตอนนี้ทุกคนต่างก็มุ่งเป้ามาที่เขาอีก.
หมี่เทียนผู้นี้ ทำให้แผนการของเขาปั่นป่วน.
ความวุ่นวายปั่นป่วนนี้ ส่งผลต่อชัยชนะ ที่ยากลำบากอยู่แล้วกลายเป็นสิ้นหวัง ทว่าด้วยนิสัยของจงซานมีเหรอที่จะยอมแพ้!
ภายในห้องอักษร มีคนกลุ่มหนึ่ง เห่าเม่ยลี่ เทียนหลิงเอ๋อ จ้าวโส่วเซี่ยงและเสนาธิการคนสำคัญอีกหลายคน.
"เซิ่งหวัง!"ที่ด้านนอกตำหนักที่มีคนส่งเสียงขึ้นมาทันที.
"เข้ามา!"จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
เป็นหนี่ปู่ซาที่ก้าวเข้ามาในทันที.
"มารึยัง?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"ยังไม่เห็นเลย!"หนี่ปู่ซาที่สายหน้าไปมา.
"เซิ่งหวัง พวกเขายังไม่มา ภพหยาง........?"จ้าวโส่วเซี่ยงที่เผยท่าทางกังวล.
"ต้องพึ่งตัวเองก่อน!"จงซานที่กล่าวปลอบ.
"จงซาน พวกเราร่วมมือกันสู้ตายกับพวกเขา เจ้าไม่ได้บอกหรอกรึว่าปราชญ์เทพนั้นไม่กล้าสู้ตาย? พวกเราร่วมมือกันสู้ตาย ดูซิพวกเขาจะกล้าหรือไม่!"เห่าเม่ยลี่ที่เสนอความคิดที่โง่งมออกมาในทันที.
ได้ยินคำพูดของเห่าเม่ยลี่ เจ้าโส่วเซียง หนี่ปู่ซา เสี่ยวหวังที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นดำมืด เป็นความจริงที่เหล่าปราชญ์เทพกลัวที่จะได้รับบาดเจ็บ ความคิดนี้เห่าเม่ยลี่ที่ทำให้พวกเขาถึงกับพูดไม่ออก ทว่าความคิดนี้ยังเป็นเหมือนกับคำพูดกำปั้นทุบดินอยู่ดี.
จงซานที่จ้องมองเห่าเม่ยลี่ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ส่ายหน้าพร้อมกับฝืนยิ้มออกมา "ไม่ได้ พลังของพวกเราไม่พอ!"
เทียนหลิงเอ๋อที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จงซาน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล.
"จงซาน ข้าไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้เลย!"เทียนหลิงเอ๋อที่ทำหน้าเศร้าตำหนิตัวเอง.
"ไม่ เจ้าช่วยข้าเป็นอย่างมาก!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"ข้า? เป็นไปได้อย่างไร?"เทียนหลิงเอ๋อที่เผยท่าทางแปลกใจ.
"เพราะว่าเจ้า กลุ่มของเทียนเสิ่นจื่อจึงได้ลงมือ เพราะว่าเจ้า พวกเขาจึงได้ออกมา ขวางทางปราชญ์เทพหนึ่งคน ขัดขวางเซียนบรรพชน 11 คน เพราะว่ามีเจ้าอยู่ ดังนั้นแรงกดดันจึงได้ลดลง!"จงซานที่กล่าวปลอบ.
"จริงรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่ดวงตาเป็นประกาย.
"มีเหรอที่ข้าจะโกหกเจ้า?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
ในเวลาเดียวกัน รูปภาพสีดำที่ปรากฎขึ้น ก่อนที่จะมีร่าง ๆ หนึ่งที่ออกมาจากด้านใน.
แผนภาพสีดำก็คือผังจักรพรรดิ เป็นของวิเศษเชื่อมต่อภพหยินหยาง ทว่าคนที่ก้าวออกมานั้นก็คือหวงโหวอีกคนของต้าเจิ้ง เนี่ยนโหยวโหยว.
"จงซาน ทำไมเจ้าถึงได้ยั่วยุปราชญ์เทพหมี่เทียนเช่นนั้น ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ไม่ทำให้สถานการณ์แย่เข้าไปอีกรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
ชัดเจนว่าที่ภพหยางนั้นนางเห็นจงซานข่มขู่ปราชญ์เทพหมี่เทียน ไม่เข้าใจเลย จึงกลับมายังภพหยินเพื่อสอบถาม.
"สถานการณ์เวลานี้ยังมีแย่กว่านี้อีกรึ? เพราะว่าเวลานี้มีสองปราชญ์เทพที่กำลังคุกคาม ยิ่งข้าแสดงความอ่อนแอ ฝ่ายตรงข้ามก็ยิ่งได้ใจ แม้แต่ลงมือในทันที มีแต่ทำให้ตัวเองแข็งแกร่ง เพื่อให้พวกเขาหวั่นเกรง!"จงซานกล่าวยืนยัน.
"ทว่า พวกเขาเป็นปราชญ์เทพ มีเหรอที่จะหวาดกลัว?"เนี่ยนโหยวโหยวเอ่ย.
"พวกเขาเป็นปราชญ์เทพ เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกหล้า มีความคิดที่ลึกล้ำมากกว่าคนทั่วไป ทำให้จิตใจของพวกเขานั้นมีความระมัดระวังมากยิ่งกว่าใครทั้งนั้น ยิ่งพวกเขาไม่สามารถประเมินความแข็งแกร่งของข้าได้เท่าไหร่ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลุ่มของเทียนเสิ่นจื่อออกไป ความไม่ชัดแจ้งนี้ยังมากกว่าเดิม อีกทั้ง ปราชญ์เทพหมี่เทียน ยิ่งข้าดูแคลนเขามากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งระมัดระวังข้ามากเท่านั้น!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
ยิ่งดูแคลนเขา ยิ่งทำให้เขาหวั่นเกรงรึ? ปราชญ์เทพหมี่เทียนไม่ใช่เป็นกระต่ายตื่นตูมหรอกรึ? ทุกคนที่จ้องมองจงซานด้วยความประหลาดใจ.
"เป็นเช่นนั้นจริงรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"เป็นเช่นนั้นจริง!"จงซานที่กล่าวยืนยัน.
เมื่อได้รับการยืนยันกับจงซานแล้วทำให้ภายในใจของเนี่ยนโหยวโหยวรู้สึกผ่อนคลาย.
จงซานที่จ้องมองไปยังเนี่ยนโหยวโหยว "ในเมื่อแผนการที่วางไว้เพี้ยนไป เช่นนั้นก็มีแต่ต้องวางแผนใหม่เพิ่มอีกครั้ง แม้ว่าว่าจะอันตรายก็เถอะ!"
"อืม!"เนี่ยนโหยวโหยวพยักหน้ารับ ก่อนที่จะเตรียมก้าวกลับเข้าไปยังผังจักรพรรดิ.
"เดี๋ยวก่อน!"จงซานที่หยุดนิ่งลุกขึ้นในทันที.
เห็นดวงตาของจงซานหดเกร็ง ใบหน้าที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
"อย่างไร? มีอะไรอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่เร่งรีบเอ่ยออกมาด้วยความร้อนใจ.
"เซิ่งหวัง มีอะไรอย่างงั้นรึ?"หนี่ปู่ซาที่เผยท่าทางสงสัยจดจ้องมองไปยังจงซาน.
จงซานที่สูดหายใจลึก จากนั้นก็ฝืนยิ้มออกมา "วันนี้นับเป็นวันที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ มาอีกคนแล้ว!"
"มาอีกคน? ใครมากัน?"เนี่ยนโหยวโหยวที่เอ่ยออกมาในทันที.
ใบหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวที่สั่นไหวรู้สึกไม่ดี ราวกับคาดเอาอะไรได้ ไม่อยากจะเชื่อ ในเวลานี้ เนี่ยนโหยวโหยวที่จงซานที่ยังคงนิ่งอยู่ได้ คาดไม่ถึงว่าจะยังสามารถยิ้มอยู่ได้ เนี่ยนโหยวโหยวทำได้แค่รอคอยอย่างอดทน.
"เป็นดังที่เจ้าคิด ปราชญ์เทพอีกคน!"จงซานที่ฝืนยิ้มออกมา.
ปราชญ์เทพคนที่สี่?
ภายในห้องอักษร ที่บรรยากาศกลายเป็นตึงเครียดเข้าไปอีก หนี่ปู่ซา จ้าวโส่วเซี่ยง เสี่ยวหวังและเสนาธิการคนอื่น ๆ ที่ได้แต่มองหน้ากันและกัน ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร ต้าเจิ้งเวลานี้มันจะดูเกินจริงไปแล้ว.
ภพหยาง มีปราชญ์เทพเก้าคน เวลานี้กว่าครึ่งหนึ่งมาปรากฎขึ้นที่นี่แล้ว หากเป็นภพหยินล่ะก็ แทบจะบอกว่าส่วนมากได้เลย.
------------------------------------------------------------------------
ภพหยิง สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.
ผู้ฝึกตนมากมายที่มาสังเกตการณ์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้มีเซียนบรรพชน 1-2 คนเท่านั้น เวลานี้มี 7-8 คนแล้ว นอกจากนี้ยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เซียนบรรพชนที่อยู่รอบ ๆ ครึ่งหนึ่งต่างก็มาเพื่อดูจุดจบของต้าเจิ้ง.
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ ไม่ว่าจะจบลงเช่นไร ก็ต้องชื่นชมจิตใจที่ห้าวหาญของจงซานเป็นอย่างมาก แม้นว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ทว่าจงซานก็ยังคงอหังการไม่คิดที่จะยอมแพ้.
ในสถานการณ์เช่นนี้หากเป็นพวกเขาคงไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าข่มขู่ปราชญ์เทพหมี่เทียน?
ไม่คิดเสียดายชีวิตบ้างเลยรึ?
แม้นว่าต้าเจิ้งจะล่มสลายในวันนี้ เรื่องของจงซานคงจะกลายเป็นที่ชื่นชม ว่าเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจและตำนานของทวีปแห่งนี้.
ยากที่จะจินตนาการถึงได้เลย คนเช่นนี้ หากต้าเจิ้งยกระดับเป็นศาลสวรรค์ได้ เขาจะบ้าคลั่งทรงพลังขนาดใหนกัน?
ทว่าที่ด้านหน้าตำหนักซ่างเฉิน จงซานที่ข่มขู่ปราชญ์เทพหมี่เทียน ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ กลายเป็นเงียบงัน สามารถบอกได้ว่าปราชญ์เทพหมี่เทียนกำลังโกรธอยู่.
ทว่า ทุกคนก็ยังคงรอสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป รอดูการล่มสลายของต้าเจิ้ง ใบหน้าของทุกคนแทบเปลี่ยนเป็นซับซ้อนแม้แต่กระตุกด้วยซ้ำ.
ทำไมนะรึ?เพราะว่าเวลานี้มีกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังพุ่งตรงมาจากทิศตะวันออก กลิ่นอายนี้ ทำให้ทุกคนที่สัมผัสได้ สั่นสะท้านไปถึงดวงวิญญาณ กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ แม้แต่ฟ้าดินยังส่งเสียงหวีดหวิว ปราชญ์เทพมา ฟ้าดินวุ่นวายโกลาหล.
ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าเทียนโจวจื่อ หมี่เทียน หยิงเห่ายังไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้ พวกเขาทั้งสามไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ จึงไม่ได้แสดงพลังโอ้อวดแต่อย่างใด.
ทว่ากลิ่นอายที่รุนแรงจากทางทิศตะวันออกนี้ ยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ เห็นชัดเจนว่ากลิ่นอายดังกล่าวได้ถูกส่งมาก่อน กลิ่นอายของปราชญ์เทพที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ พลังอำนาจมหาศาลที่ส่งต่อบอกกล่าวการมาถึงของตัวเอง ปราชญ์เทพอีกคนมาแล้ว.
"ซูมมม ~~~ ~~~~~~~~~~~~~!”
ราวกับพายุบุแคม ฟ้าดินเปลี่ยนแปลง แม้แต่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวยังสั่นไหว ก่อนที่จะปรากฎร่างของคนในชุดสีดำโผล่ออกมา.
"ม่อจื่อ!"หยิงเห่าที่เอ่ยออกมาในทันที.