Chapter 1139 ดูแลหมาของเจ้าให้ดี!
แดนเทพหมาป่า.
ที่ด้านนอกเขตแดนเทวะซือเทียน หมาป่านับหมื่นที่แสดงความเคารพอยู่ บนท้องฟ้ากับปรากฎแขกผู้มาเยือนทั้ง 11 คนในทันทีเช่นกัน.
11 คนที่มาเยือนนั้นแผ่แรงกดดันที่ไม่ธรรมดา เพียงแค่มาถึงก็สร้างสนามพลังวายุที่รุนแรง พร้อมกับแรงกดดันวิญญาณที่หนักหน่วงแผ่ไปทั่วทุกสารทิศ.
เหล่าหมาป่าที่มีพลังฝึกตนต่ำ ถึงกับพ่นโลหิตออกมาคำโต แม้แต่หมดสติไป
นี่มัน?
ยอดฝีมือเผ่าหมาป่ามากมายที่คำรามออกมาเสียงดังสนั่น ไม่สนว่าจะเป็นใครที่มาปรากฎตัว เมื่อรุกเข้ามาในเขตแดนเทวะซือเทียน เป็นศูนย์กลางของเผ่าหมาป่าเช่นนี้ เมื่อบรรพชนชรากลับคืนมา คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนกล้ากำแหงต่อเผ่าหมาป่า? ไร้ยางอายยิ่งนัก?
เผ่าหมาป่ามากมายที่โกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที ถึงแม้นว่าฝ่ายตรงข้ามจะแผ่แรงกดดันที่หนักหน่วงออกมาก็ตาม ทว่าเผ่าหมาป่าก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัว.
เพราะว่า ในเวลานี้เผ่าหมาป่ามั่นใจในตัวบรรพชนชราเมื่อเก้าสิบล้านปีได้กลับมาแล้ว พวกเขาไม่รู้สึกหวาดกลัวตราบเท่าที่มีจือจุ้นเผ่าหมาป่า พวกเขาทรงพลัง เต็มไปด้วยความกล้าหาญ.
แม้แต่เหล่าผู้ฝึกตนที่มีพลังฝึกตนต่ำไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้ แต่ก็ยังไม่ยอมจำนนต่อเหล่าผู้บุกรุกทั้ง 11ที่มาเยือน.
"ปราชญ์เทพ?"หมาป่าตนหนึ่งที่เห็นหนึ่งคนผู้นำที่ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้.
นี่เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของปราชญ์เทพนั่นเอง.
ที่ด้านหลังปราชญ์เทพสิบคน เต็มไปด้วยความอหังการ สายตาของพวกเขาที่เหยียดหยันคนทั่วหล้า กลิ่นอายเช่นนี้มีเพียงระดับเซียนบรรพชนเท่านั้นถึงจะมีแรงกดดันวิญญาณมากขนาดนี้.
หนึ่งปราชญ์เทพ สิบเซียนบรรพชน?
พวกเขาต้องการทำอะไร? กำราบเผ่าหมาป่าอย่างงั้นรึ?
"โฮกกกก!"เหล่าหมาป่าที่คำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว.
เสียงคำรามดังกึกก้อง ทำให้ 11 ยอดฝีมือบนอากาศจ้องมองด้วยความแปลกใจเล็กน้อย คาดไม่ถึงเลยว่าเผ่าหมาป่าจะกล้าท้าทายอำนาจตนอย่างงั้นรึ?
คนทั้งสิบเอ็ดที่หรี่ตามองเผ่าหมาป่าเล็กน้อย สายตาของพวกมันที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างหนักหน่วงรุนแรง.
พวกเขาที่เพิ่มแรงกดดันที่รุนแรงแผ่ออกมา เป็นการเตือนเหล่าหมาป่าที่มีระดับเพียงเซียนโบราณในทันที.
"โฮกกก!”
"โฮกกก!”
"โฮกกก!”
........................
............
......
ทั่วลานเวลานี้ เผ่าหมาป่าทั้งหมดคำรามเสียงดังสนั่นตัวแล้วตัวเล่า ไม่ยินยอม ปฏิเสธที่จะยอมรับ ความโกรธเกรี้ยวหนักหน่วง คำรามลั่น เสียงที่ดังกึกก้องเต็มไปด้วยความโกรธ.
กลุ่มเซียนบรรพชนบนอากาศที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย เผ่าหมาป่าเสียสติไปแล้ว? พวกมันกล้าท้าทายพวกเขาได้อย่างไร? คิดจะต่อกรกับพวกเขา สมองพวกมันมีปัญหาแล้ว ทว่าตอนนี้กำลังคำรามออกมาด้วยความโกรธไม่หยุด เป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่บัดซบสิ้นดี.
"โฮกกก!”
เสียงของเหล่าหมาป่าที่ดังกึกก้องมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้านนอกแดนเทวะซือเทียนเวลานี้เต็มไปด้วยเสียงคำราม เสียงข่มขู่ที่ดังขึ้นไปทั่วทุกสารทิศ คำรามด้วยความโกรธใส่ 11 ผู้ฝึกตนที่มาเยือนครานี้.
แรงกดดันจากเสียงคำรามที่อ่อนแอ จากสิบ เป็นร้อยเป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสน?
หมาป่าทั้งหมดคำรามออกมาแทบจะพร้อม ๆ กัน.
"พวกสัตว์ป่าที่โง่เขลา!"เสียงของเซียนบรรพชนในชุดสีเขียวแค่นเสียงเย็นชาออกมา.
"ใครกันที่เจ้าบอกกว่าเป็นสัตว์ป่า?"จากด้านในแดนเทวะซือเทียน เซียนบรรพชนเพิ่งผุดออกมา เป็นอาวุโสจื่อหร่าน.
อาวุโสจื่อหร่านที่จ้องมองออกมาด้วยเสียงเย็นชาจดจ้องมองไปยังเซียนบรรพชนที่ดูแคลนเผ่าหมาป่า ใบหน้าที่ราวจะกินเลือดกินเนื้อ เห็นชัดเจนว่าคำพูดนี้ดูแคลนเผ่าหมาป่าเป็นอย่างมาก ถึงกับหาว่าเผ่าอสูรเป็นเหมือนกับสัตว์ป่า ที่ไม่ต่างจากพวกปศุสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ย่อมรู้สึกไม่ดี.
"เผ่าหมาป่า? แดนเทวะซือเทียน? ชิ ให้ตี้ซือเทียนมาพบข้า!"ปราชญ์เทพที่กล่าวด้วยเสียงเย็นชา.
ให้ตื่อซือเทียนมาพบข้า? ท่าทางที่ยืนอยู่เหนือสุด เต็มไปด้วยการกดขี่ทรงอำนาจของปราชญ์เทพ.
หากเป็นในอดีต อาวุโสจื่อหร่านต้องระมัดระวังอย่างแน่นอน เผ่าหมาป่าที่เป็นเพียงแดนเทวะ ที่นี่ แม้ว่าไม่ต้องหวาดกลัวปราชญ์เทพ ทว่าก็ไม่ยินดีที่จะล่วงเกินปราชญ์เทพเช่นกัน เพราะตัวตนของเผ่าหมาป่านั้นยังไม่ได้ทรงพลังเพียงพอ.
หากแต่เวลานี้ บรรพชนหมาป่าที่ทรงพลังหวนคืนมาแล้ว หากอาวุโสจื่อหรานยอมจำนน ไม่ต้องบอกเลยว่าเผ่าหมาป่าตนอื่น ๆ เองคงยากที่จะยอมรับ ต้องเต็มไปด้วยความดูแคลนเขาอย่างแน่นอน.
ปราชญ์เทพ ปราชญ์เทพแล้วอย่างไร? คิดจะมาข่มเหงเผ่าหมาป่าที่แดนเทวะ และต้องการให้ข้าจำนนประจบสอพลออย่างงั้นรึ?
แม้นว่าอาวุโสจื่อหร่านจะสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ของปราชญ์เทพได้ ทว่าก็ไม่คิดที่จะบินเข้าไปด้านในทันที ทว่ายังคงจดจ้องมองด้วยความเย็นชาไปยังด้านหน้า "เดิมที่คนของตระกูลเทียนมาหลายคน คงจะนำมาโดยเทียนโจวจื่อ! จื่อหร่านได้เสียมารยาทแล้ว ทว่า ที่นี่คือแดนเทวะของเผ่าหมาป่า ทุกท่านแสดงท่าทางข่มเหงเช่นนี้ ต้องการกำราบเผ่าหมาป่าอย่างงั้นรึ?"
เรื่องนี้นับว่าเป็นความผิดปรกติสำหรับเผ่าอสูรเป็นอย่างมาก.
แม้นว่าเหล่าเซียนบรรพชนจะอหังการ ทว่าก็ไม่ได้โง่ แน่นอนพวกเขาย่อมมองเห็นความผิดแปลกของเผ่าหมาป่า แม้แต่ปราชญ์เทพเทียนโจวจื่อ พวกเขายังไร้ซึ่งความหวาดกลัว แปลกมาก ไม่คิดว่าพวกเขาจะบ้าคลั่งขนาดนี้ พวกเขาคิดว่าตัวเองได้เปรียบ ถึงกล้ากำแหงอย่างงั้นรึ?
"ให้ตี้ซือเทียนมาพบข้า!"เทียนโจวจื่อเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
อาวุโสจื่อหร่านที่โบกมือเบา ๆ ผู้ฝึกตนเผ่าหมาป่าที่บินเข้าไปในแดนเทวะซือเทียน เพื่อรายงานตี้เสวียนชา ทว่าอาวุโสจื่อหร่านยังคงยืนอยู่ด้านนอกและกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม "เผ่าหมาป่าของข้า ตอนนี้ไม่มีตี้ซือเทียนแล้ว ตอนนี้มีเพียงจื่อจุ้นเผ่าหมาป่า! เทียนโจวจื่อ เจ้าเดินทางมาเพื่ออะไร? คิดว่าจะข่มเหงเผ่าหมาป่าพวกเราได้ง่าย ๆ อย่างงั้นรึ?"
กับคำพูดของจื่อหร่านที่เอ่ยนามเทียนโจวจื่อราวกับสถานะของปราชญ์เทพไม่มีค่าอะไรเลย ราวกับกำลังพูดกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่อย่างหน้าไม่อาย.
เทียนโจวจื่อที่จ้องมองอาวุโสจื่อหร่าน เซียนบรรพชนอีกสิบคนเองก็จ้องมองอาวุโสจื่อหร่านด้วยแววตาไม่พอใจเช่นกัน.
"เจ้าเป็นตัวอะไร กล้าพูดเช่นนี้กับปราชญ์เทพ คิดว่าเผ่าหมาป่าเหนือล้ำไร้เทียมทานรึอย่างไร?"เซียนบรรพชนในชุดสีเขียวที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"สถานที่แห่งนี้คือแดนเทวะของเผ่าหมาป่า ที่ศูนย์กลางของเผ่าหมาป่าของข้า เจ้าคิดมาสังหารคนของเผ่าหมาป่า ขอถามพวกเจ้าคิดว่าข้าต้องยอมแต่โดยดีอย่างงั้นรึ?หากว่าที่นี่เป็นตระกูลเทียน ข้าต้องการสังหารศิษย์ของพวกเจ้า พวกเจ้าจะรู้สึกอย่างไร? เผ่าหมาป่า ไม่มีทางที่จะยอมให้ใครมากำแหงถึงถิ่น.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เผ่าหมาป่า? แดนเทวะ? ถุยยยย ตระกูลเทียนของข้าจะทำลายเผ่าหมาป่าง่ายยิ่งกว่าตัดเต้าหู้ กำแหงรึ? กำแหงแล้วอย่างไร? เจ้าพวกสัตว์ป่าทั้งหลาย!"เซียนบรรพชนชุดสีเขียวกล่าวเหยียดหยัน.
"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~!”
"วูซซซ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงระเบิดบนอากาศดังสนั่นหวั่นไหว ถูกโจมตีไปยังเซียนบรรพชนในชุดสีเขียว ก่อนที่เขาจะผสานวิถีสวรรค์ เพื่อป้องกันตัวเองสะอีก.
เหล่าเซียนบรรพชนที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นระมัดระวังตัวเองในทันที เพราะเมื่อสักครู่นี้เร็วมาก เร็วจนไม่สามารถป้องกันได้ทัน ส่งผลทำให้เซียนบรรพชนชุดเขียวถูกโจมตี จนใบหน้าบิดเบี้ยวดำมืดอยู่ในเวลานี้.
ทุกคนที่สามารถเห็นแค่เพียงประกายแสงสีทองที่ปรากฎขึ้นในเสี้ยววินาที.
"พวกไร้มารยาท สมควรได้รับ!"เสียง ๆ หนึ่งที่ดังออกมาจากด้านในแดนเทวะซือเทียน.
เสียง ๆ ดังกล่าว ทำให้เหล่าหมาป่ารู้สึกตื่นเต้น แม้แต่อาวุโสจื่อหร่านที่โค้งให้ด้วยความเคารพ แม้แต่รอคอยให้ร่างดังกล่าวออกมา.
เหล่าผู้ฝึกตนเซียนบรรพชนที่รออยู่จ้องมองดวงตาหดเกร็ง จดจ้องมองด้วยสายตาเย็นชาไปยังทางเข้าแดนเทวะซือเทียน.
จากนั้น ชายผมสีขาวที่ออกมาจากด้านใน สวมชุดที่อลังการยิ่งใหญ่ ดวงตาที่ดุร้าย บินออกมาช้า ๆ พร้อมกับเซียนบรรพชนของเผ่าหมาป่าสิบตน แต่ละตนที่แสดงความเคารพต่อชายผมสีขาวเป็นอย่างมาก.
"คารวะ จื่อจุ้น!"
"คารวะ จื่อจุ้น!"
....................................
........................
............
กลุ่มของเผ่าหมาป่าที่ตื่นเต้นแสดงความเคารพออกมาพร้อม ๆ กัน.
ชายผมสีขาวก็คือตี้เสวียนชา ผมสีขาวไม่ใช่แก่ชรา ทว่าเป็นขนสีขาวที่เป็นเหมือนกับขนของเขา แววตาที่เต็มไปด้วยความดุร้าย อหังการ จดจ้องมองคนทั้ง 11 คนบนอากาศ แม้แต่กดดันให้เซียนบรรพชนในชุดสีเขียวต้องใช้วิถีสวรรค์ออกมา.
สายตาของผู้ฝึกตนเซียนบรรพชนชุดสีเขียวเต็มไปด้วยความเย็นชามืดครึ้ม เขาไม่สามารถที่จะเอ่ยออกมาได้ แรงกดดันนี้มันทรงพลังกว้างใหญ่ไพศาลนัก.
"ตี้ซือเทียน?"เทียนโจวจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"นี่คือจื่อจุ้นเผ่าหมาป่า ตี้เสวียนชา!"อาวุโสจื่อหร่านที่เป็นคนเอ่ยปากออกมาในทันที.
ตี้เสวียนชา? จื่อจุ้นเผ่าหมาป่า? เทียนโจวจื่อจ้องมองตี้เสวียนชาด้วยความแปลกประหลาด สายตาของตี้เสวียนชา คาดไม่ถึงเลยว่าจะไร้ซึ่งความหวั่นเกรงต่อเขา แม้แต่เผยท่าทางเกลียดชังออกมาด้วย! เพียงแค่เซียนบรรพชนกล้ามองเช่นนี้มายังข้าอย่างงั้นรึ?
ตี้เสวียนชาจ้องมองอย่างลึกล้ำไปยังเทียนโจวจื่อ ก่อนที่จะกล่าวออกมาเล็กน้อย "ดูแลหมาของเจ้าให้ดี อย่าปล่อยให้มาเพ่นพ่านในแดนเทพหมาป่า!"
ดูแลหมาของเจ้าให้ดี? อย่าปล่อยให้มาเพ่นพ่านในแดนเทพหมาป่า?
เทียนโจวจื่อที่อยู่ด้านหน้าเหล่าเซียนบรรพชน ถึงกับใบหน้ากระตุก โดยเฉพาะเซียนบรรพชนในชุดสีเขียวที่ใช้วิถีสวรรค์ป้องกันตัวเอง คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกเรียกว่าหมา? สารเลวบัดซบจริง ๆ .
เหล่าเซียนบรรพชนที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิในความแข็งแกร่งของตัวเอง ตระกูลเทียนที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน บางทีเพราะว่ากลุ่มหมาป่าที่กล้าพูดจาไร้ความเคารพกับปราชญ์เทพ หรือเป็นเพราะว่ามีจื่อจุ้นตี้เสวียนชารึ? ทว่าไม่คิดเลยว่าจะกล้าท้าทายกับตระกูลเทียน จากทวีปเทียน!
ผู้ฝึกตนเซียนบรรพชนทั้งสิบที่จ้องมองด้วยความโกรธเกรี้ยวไปยังตี้เสวียนชา.
ทว่าเทียนโจวจื่อ เวลานี้จ้องมองด้วยสายตาเย็นชาไปยังตี้เสวียนชา.
อย่าปล่อยให้มาเพ่นพ่านในแดนเทพหมาป่า? ใต้สวรรค์แห่งนี้ใครบ้างที่กล้าพูดเช่นนี้กับตน? จื่อจุ้นเผ่าหมาป่ารึ? คาดไม่ถึงเลยว่า! จะพูดจาใหญ่โตเช่นนี้.
หลายวันมานี้ ตี้เสวียนชาได้กำราบเผ่าหมาป่าทั้งหมด สมาชิกเผ่าหมาป่าหลายล้านตนอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา แน่นอนพวกมันยืนอยู่ข้างตี้เสวียนชาทั้งหมด.
เวลานี้เหล่ายอดฝีมือเผ่าหมาป่าที่เริ่มบินออกมาจากแดนเทวะซือเทียน สายตาของพวกมันที่จองมองด้วยความดุร้ายไปยังผู้ฝึกตนทั้ง 11 คนบนอากาศ.
ต่อหน้าผู้ฝึกตนเซียนบรรพชนเผ่าหมาป่า แน่นอนย่อมมีปัญหาเล็กน้อย ไม่มีใครกล้าลงมือง่าย ๆ แน่ นอกจากนี้ผู้ฝึกตนเผ่าหมาป่านั้น ต่อสู้สังหารอยู่ตลอดเวลา การต่อสู้และจิตสังหารของพวกมันนั้นย่อมเป็นปัญหาอย่างแน่นอน.
ต่อหน้าศัตรูที่ไม่รู้จักกลัวความตาย ไม่ถือว่าได้เปรียบแม้แต่น้อย.
เทียนโจวจื่อที่ได้แต่เงียบ จ้องมองไปยังตี้เสวียนชาเล็กน้อย ภายในใจกลายเป็นระลอกคลื่น หากแต่ไม่ได้ต้องการสร้างปัญหาในเวลานี้ เพราะไม่ใช่เวลาที่ดี เขาเคยได้ข้อมูลบางอย่างมา คนของต้าเจิ้งนั้นมีนามตี้เสวียนชาด้วย แต่คงจะไม่ใช่ที่อยู่ต่อหน้าเขาแน่ บางทีคงจะแค่มีชื่อซ้ำกันเท่านั้น.
บรรพชนหมาป่าหวนคืนกลับมาเป็นจื่อจุ้นอย่างคาดไม่ถึง ตี้เสวียนชาเวลานี้กำราบเผ่าหมาป่าทั้งหมด แม้แต่เปลี่ยนกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของแดนเทวะซือเทียนไป.
ตี้เสวียนชา.
แม้นว่าตี้เสวียนชาจะไม่ได้ปล่อยกลิ่นอายของเขาออกมา ทว่าเทียนโจวจื่อสัมผัสได้ถึงเจตจำนงแห่งการต่อสู้มากมายมหาศาล ดวงตาคู่นั่น เผยท่าทางดูแคลนแม้แต่ตัวเอง.
ความรู้สึกนี้ เทียนโจวจื่อสัมผัสได้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คุกคามเขา เป็นประมุข เทียนเต๋าจื่อ!
ในเวลานี้ตี้เสวียนชาเป็นใครมาจากใหนกัน? ทำไมถึงได้มีกลิ่นอายที่ทรงพลังขนาดนี้?
เทียนโจวจื่อไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป เพราะว่าไม่จำเป็นต้องกล่าว แข็งแกร่ง ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งแน่นอน แม้นว่าปราชญ์เทพจะไม่อ่อนแอ แต่ก็ไม่สามารถรับประกันว่าจะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้.
เซียนบรรพชนที่อยู่ด้านหลังเทียนโจวจื่อเป็นคนเอ่ยปากออกมาก่อน "ตี้เสวียนชา? พวกเรามีเรื่องจะถาม ไม่ได้มีความต้องการจะมาหาเรื่อง เพียงตอบคำถามมาว่า มีคนกลุ่มหนึ่งได้ผ่านที่นี่หรือไม่ ผู้นำมีนามว่าจงซานและเทียนหลิงเอ๋อ!"
ตี้เสวียนชาจ้องมองไปยังกลุ่มคนดังกล่าวบนอากาศ พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส "ไม่ได้ยินคำพูดของข้าก่อนหน้านี้อย่างงั้นรึ?"