Chapter 1129 เทียนหลิงเอ๋อ ทะลวงค่ายกลอย่างง่ายดาย.
"ร้ายกาจจริงรึ? ข้าไม่คิดว่ายาก!"เทียนหลิงเอ๋อที่อดไม่ได้เอ่ยออกมาในที่สุด.
ได้ยินคำพูดดังกล่าวทุกคนที่หันหน้ามามองเทียนหลิงเอ๋อ เสียสติไปแล้ว นางคิดว่ามันง่ายอย่างงั้นรึ? หรือว่าต้องการกล่าวอะไร?
กับคำพูดของนาง ที่ดูใสซื่อน่ารัก ทำให้ทุกคนต่างก็คิดว่านี่เป็นเพียงแค่การล้อเล่น เป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะล้อเล่นกับเรื่องที่ใหญ่โตเช่นนี้.
กับพูดดังกล่าวนั้นทำให้ทุกคนพูดกันไม่ออก ถึงกับกลั้นหายใจไม่เอ่ยอะไรออกมา.
หากเป็นเวลาปรกติ เทียนหลิงเอ๋อย่อมต้องอดทน อย่างน้อยก็คอยกระซิบออกจงซาน ทว่าจงซานที่จ้องมองค่ายกลไม่ว่างตา และคนอื่น ๆ เองต่างก็เอ่ยอ้างว่าร้ายกาจไม่หยุด มีเหรอที่เทียนหลิงเอ๋อจะทนได้? ท้ายที่สุดก็เผลอโพลงออกมาในที่สุด.
เพียงคำพูดไม่กี่คำ ทุกคนที่เปลี่ยนเป็นนิ่งเงียบ หันหน้ามาจ้องมองเทียนหลิงเอ๋อ.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาทั้งสาม พวกเขาใช้เวลา นับห้าสิบปี ไม่รู้ว่าต้องคำนวณต่าง ๆ มากมายใช้สมองทุกส่วนเค้นความเป็นไปได้ออกมา จนท้ายที่สุดก็ล้มเหลว เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำลายความมั่นใจของพวกเขาเป็นอย่างมาก ขณะที่เตรียมใช้เวลาอีกสิบปีเพื่อเตรียมการก่อนจะกลับทำใหม่.
ทว่าได้ยินคำพูดของเทียนหลิงเอ๋อ ทำให้พวกเขาทำใจยอมรับได้ยากนัก!
เป็นความรู้สึกที่อัดอั้นเกินประมาณ! ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาทั้งสามที่กักเก็บอาการบาดแผลเอาไว้ไม่อยู่ เมื่ออารมณ์ไม่คงที่ก็ทำให้พ่นโลหิตพ่นออกมาในทันที "พู!!"
อาวุโสอวิ๋นเองก็ไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกมาเช่นกัน.
จินเผิง เต้าเหรินถูและคนอื่น ๆ ใบหน้ากระตุก ไม่อยากเชื่ออย่างชัดเจน ทว่าใครใช้ให้นางเป็นหวงโหว แล้วพวกเขาจะกล้าตำหนิได้อย่างไร?
เสวียนหยวนจ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อด้วยท่าทางแปลกประหลาด เพราะว่าเทียนหลิงเอ๋อสองวันที่แล้วยังสอบถามตัวเองเพราะไม่เข้าใจอะไรเลย ทำไมวันนี้ถึงกล่าวว่าง่ายล่ะ? จ้องมองไปยังใบหน้าของจงซาน เสวียนหยวนจึงไม่ใส่ใจกับคำพูดโอ้อวดของนาง.
"เจี่ยเจี๋ย ท่านทะลวงได้จริง ๆ รึ?"เห่าเม่ยลี่ที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัยเช่นกัน.
"แน่นอน ง่ายจะตาย ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาใช้เวลาตั้งหลายปีแต่ไม่สามารถทะลวงได้ ก่อนหน้านี้คนทั้งสามที่ผลักไปมามั่ว ๆ เลยไม่ถูก!"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวกับเห่าเม่ยลี่เบา ๆ .
แม้นว่าจะเป็นการกระซิบเบา ๆ ทว่าที่นี่ไม่ได้มีปุถุชนคนธรรมดา มีเหรอที่คนอื่น ๆ จะไม่ได้ยิน?
สามผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาเวลานี้ใบหน้าบิดเบี้ยวดูไม่ได้ พวกเขาเป็นผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาที่น่าเกรงขาม เป็นหนึ่งในตัวตนที่มีชื่อเสียง คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกเด็กสาวข่มอย่างงั้นรึ? หากไม่เพราะว่าคนกลุ่มนี้ช่วยเหลือพวกเขาก่อนหน้านี้ คนทั้งสามคงต้องสั่งสอนนางแน่.
"สหายเต๋าจง เรื่องนี้....!"อาวุโสอวิ๋นที่จ้องมองไปยังจงซาน.
เห็นชัดเจนว่า อาวุโสอวิ๋นนั้นไม่เชื่อเทียนเหลิงเอ๋อ หากมันง่ายจริง เหล่ายอดฝีมือเผ่าหมาป่าไม่กลายเป็นตัวโง่งมที่ใช้เวลาตลอดหลายสิบล้านปีอย่างงั้นรึ?
"ข้าเชื่อหลิงเอ๋อ!"
เสียงของจงซานที่กล่าวสนับสนุนเทียนหลิงเอ๋ออย่างคาดไม่ถึง ทำให้ทุกคนตกใจเล็กน้อย.
ข้าราชบริพารต้าเจิ้ง แต่ละคนไม่เข้าใจนัก ทว่าในเวลานั้น เซียนเซิงซือที่ดวงตาเป็นประกาย ราวกับคิดอะไรได้ จ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อด้วยความลึกล้ำ ท้ายที่สุดก็ลอบเผยยิ้มออกมา.
"หืม สหายเต๋าจง ท่านกล่าวว่านางพูดความจริงอย่างงั้นรึ?"อาวุโสอวิ๋นที่ไม่อยากเชื่อ.
ค่ายกลนี้ มีกี่คนที่งงงวยไร้ผล จะสามารถแก้ได้ง่าย ๆ อย่างงั้นรึ? นอกจากนี้ยังเป็นเพียงแค่เด็กสาวเท่านั้น?
สามผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาเองก็ไม่เข้าใจ.
"ข้าเชื่อนาง!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
เทียนหลิงเอ๋อที่เผยความสุขออกมา ภายในสวรรค์แห่งนี้ทุกคนไม่เชื่อก็ช่างปะไร ขอเพียงแค่จงซานเชื่อก็พอ.
"เซิ่งหวัง เรื่องนี้จริง ๆ รึ?"จินเผิงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
ในเวลานั้น เสวียนหยวนที่ดวงตาเป็นประกาย ท้ายที่สุดก็สูดหายใจลึก "เสียมารยาทแล้ว! ข้าเองก็เชื่อเทียนหลิงเอ๋อ!"
"หืม?"
เสวียนหยวนก็เชื่ออย่างงั้นรึ? อาวุโสอวิ๋นไม่รู้จะกล่าวสิ่งใดออกมาเช่นกัน!
"อาวุโสอวิ๋นจะใส่ใจหรือไม่หากพวกเราจะทะลวงค่ายกล!"จงซานเอ่ย.
"ไม่มีปัญหา ทว่าข้าต้องการเตือนเพียงว่า ค่ายกลนี้ยากที่จะทะลวง ในเวลานี้ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาทั้งสามก่อนหน้านี้ ทุกคนเองก็เห็นแล้วเป็นเช่นไร ไม่เพียงแต่อันตรายที่มากมายหลังจากที่ค่ายกลสะท้อนกลับ แม้แต่ปราชญ์เทพยังย่ำแย่!"อาวุโสอวิ๋นกล่าว.
"แน่นอน พวกเราย่อมต้องระมัดระวัง!"จงซานพยักหน้ารับ.
อาวุโสอวิ๋นพยักหน้า เห็นด้วยที่จงซานคิดจะทะลวงค่ายกล ก่อนที่จะหันหน้าไปมองผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาทั้งสาม "ทั้งสามได้รับบาดเจ็บ เวลานี้พักผ่อนเถอะ ไม่พักฟื้นอย่างงั้นรึ?"
"ไม่จำเป็น ข้าต้องการจะเห็นจริง ๆ ค่ายกลนี้มันง่ายที่ใหน!"ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาคนหนึ่งที่จ้องมองอย่างแข็งกร้าว.
ผู้ฝึกตนคนหนึ่งไม่ไป อีกสองคนย่อมไม่ไปเช่นกัน เพราะว่าเทียนหลิงเอ๋อได้กล่าวท้าทายเขา พวกเขาที่คำนวณพยากรณ์มาเกือบทั้งชีวิต คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนมากล่าวอะไรไร้สาระ ภายในใจที่เคืองโกรธ แม้ว่าคนเหล่านี้จะช่วยชีวิตก็ตาม ทว่าก็ไม่สามารถเก็บความขุ่นเคืองนี้ได้.
"หลิงเอ๋อ เจ้ามานี่!"จงซานเอ่ย
"อืม ข้าอยู่ที่นี่ ใครจะเป็นคนผลักดวงดาวให้กับข้า?"เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.
จงซานที่จ้องมองไปยังหวังจิงเหวิน หวังจิงเหวินเข้าใจได้ในทันที.
จากนั้นเขาที่ยื่นมืออกไป ก่อนที่จะใช้วิชาสร้างแผนภูมิดวงดาราบนท้องฟ้าขึ้นมา บอกตำแหน่งต่าง ๆ ของดวงดาราบนอากาศย่อส่วนลงมา.
"หลิงเอ๋อเจ้าใช้วิชาผลักดวงดาราด้านล่าง จินเผิงจะรับผิดชอบผลักดวงดาราตามเจ้า ทว่าสถานที่แห่งนี้นับว่าไกล เต้าเหรินถู เจ้าเองก็ไปอยู่ระหว่างกลางทาง คอยส่งข้อมูลต่อให้กับจินเผิง อย่าได้ทำอะไรผิดพลาด!"จงซานกล่าว.
"รับทราบ!"แม้นว่าทั้งสองจะไม่อยากเชื่อ ทว่าก็รับคำในทันที.
"บนอวกาศที่อยู่สูงขึ้นไป เต้าเหรินถูที่ไปคอยรับข้อมูลระยะกลางก่อนที่จะส่งไปให้กับจินเผิง และเทียนหลิงเอ่อส่งข้อมูลให้เขาอีกรอบ ทว่าก็ยังนับว่าไกล ข้าจะสร้างแผนภูมิขนาดใหญ่ให้กับเต้าเหรินถูอีกทอดเอง!"เสวียนหยวนที่เอ่ยปากออกมา.
"ดี!"จงซานพยักหน้ารับ.
คนกลุ่มหนึ่งที่เตรียมการในทันที.
เทียนหลิงเอ๋อที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ก่อนที่จะเริ่มผลักดวงดาราบนแผนภูมิที่หวังจิงเหวินสร้างขึ้นมาเบา ๆ ซึ่งแทนตำแหน่งต่าง ๆ บนอวกาศ.
ตำแหน่งแรก เทียนหลิงเอ๋อที่เริ่มผลักขึ้นมาในทันที.
"เหลวไหล มันไม่สามารถผลักได้!"ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาเอ่ย.
ทว่าเสวียนหยวนที่ไม่ได้สนใจผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตา ทำการสร้างแผนภูมิที่เทียนหลิงเอ๋อขยับ ส่งต่อไปยังเต้าเหรินถูให้มองเห็นชัดเจน ก่อนที่เต้าเหรินถูจะส่งต่อไปยังจินเผิง.
บนอวกาศ จินเผิงที่จ้องมองแผนภูมิขนาดใหญ่จากเต้าเหรินถู ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อนก่อนที่จะตัดสินใจเด็ดขาด "อย่างน้อยหากมีปัญหาข้าก็หลบหนีล่ะว่ะ ด้วยความเร็วของข้า จะต้องหนีออกมาจากค่ายกลก่อนถูกบดขยี้ได้อย่างแน่นอน!"
วิถีสวรรค์สีทองส่องสว่าง จินเผิงที่เริ่มผลักดันดวงดาราในทันที.
ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาแน่นอนว่าไม่ได้มีพลังด้อยไปกว่าจินเผิง ดังนั้นจึงไม่เชื่อว่าจินเผิงจะทำได้.
ดวงดาราที่ขยับช้า ๆ จินเผิงที่ค่อนข้างร้อนรน ทว่าทุกคนมากมายรู้สึกหนักอึ้ง แม้แต่ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาทั้งสามยังเผยท่าทางดูแคลน.
ทว่า ขณะดวงดาราขยับ บนอวกาศกับไม่มีการตอบสนองใด ๆ .
"เอ๊ะ?"ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่ใช่ ไม่เกิดผลอะไรเลยอย่างงั้นรึ?"
"ยิ่งสงบก็ยิ่งอันตราย!"
ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตามทั้งสามยังไม่เชื่อเหมือนเดิม.
ในเวลาเดียวกัน เทียนหลิงเอ๋อที่ขยับดวงดาราดวงที่สอง.
ดวงดาราบนแผนภูมิขยับ จินเผิงที่ขยับอีกครั้งเช่นกัน.
อาวุโสอวิ๋น เห่าเม่ยลี่ อาวุโสเทียน จางหยงหัวที่กำหมัดแน่น ทว่าท้องฟ้ากลับยังคงนิ่งสงบ.
ไม่มีเสียงกึกก้อง ไม่มีเสียงคำราม ไม่มีแรงกดดันใด ๆ แผ่ออกมา.
"แปลก! แปลกมาก! ไม่มีอภินิหารอะไร ไม่มีเลย!"อาวุโสอวิ๋นที่ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย.
ดวงที่สาม ปลอดภัย!
ดวงที่สี่ ปลอดภัย!
ดวงที่ห้า ปลอดภัย!
..................
............
......
ดวงที่หนึ่งหมื่น ปลอดภัย!
ในเวลาเดียวกัน ทุก ๆ คนไม่สามารถประเมินเทียนหลิงเอ๋อต่ำได้อีกต่อไป สามผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาถึงกับปิดปากเงียบ อาวุโสอวิ๋นที่ปากสั่นไม่หยุด.
"มีพรสวรรค์ที่หายาก ยากยิ่งนัก!"อาวุโสอวิ๋นที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น.
ห่างออกไปสามหมื่นลี้ บนซุ้มไม้แห่งหนึ่ง ปราณเทพหยิงเห่าที่พ่นลมออกมาเบา ๆ .
"เอ๊ะ?"
หยิงเห่าที่ก้าวออกมาจากซุ้มไม้ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แน่นอนว่าเขาสามารถมองเห็นแผนภูมิที่ถูกส่งต่อเป็นทอด ๆ จากเสวียนหยวนไปยังเต้าเหรินถู ไปยังจินเผิง สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก นี้มันอะไร?
"กำลังทะลวงค่ายกลอย่างงั้นรึ?"หยิงเห่าที่เผยท่าทางประหลาดใจ เพราะว่าหยิงเห่าพบว่าบนท้องฟ้านั้นไม่มีระลอกคลื่นผันผวนของพลังอะไรเลย เป็นไปได้ว่ามีคนกำลังทะลวงค่ายกลได้ อย่างงั้นรึ?
หยิงเห่าที่บินออกไปยังเกาะลอยฟ้าที่เคยไปก่อนหน้านี้.
ทว่าบนเกาะดังกล่าวนั้น หยิงเห่าที่ชะงักงัน.
เด็กสาวผู้นี้กำลังทะลวงค่ายกล?
"ตรงนั้น อีกนิดหน่อย ใช่! ถูกแล้ว ท้ายที่สุดก็เสร็จแล้วครึ่งหนึ่ง เหลือครึ่งหนึ่ง."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"ช้าก่อน ผลักมาหนึ่งหมื่นดวงแล้ว จินเผิงคงเกือบหมดแรง ให้เต้าเหรินถูเปลี่ยนกับเขา!"จงซานเอ่ย.
จากนั้นอาวุโสเทียนก็ส่งสัญญาณออกไป.
จากนั้น ก็เป็นเต้าเหรินถูเป็นคนผลัก.
ในเวลานี้ แม้นว่าปราชญ์เทพจะปรากฎขึ้นมา ทว่าไม่มีใครสนใจเขาแล้ว อาวุโสอวิ๋นเองก็ด้วย แทบจะทุกคนก็ว่าได้.
ทว่าทุกคนบนเกาะลอยฟ้าเวลานี้ เหล่าหมาป่ามากมาย ต่างก็มาเป็นพยานความมหัศจรรย์ที่กำลังจะเกิดขึ้น.
สามผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาเวลานี้ได้แต่เงยหน้ามองท้องฟ้า ไม่บ่นอีกต่อไป ดวงตาของทั้งสองคนที่เปล่งประกายผิดปรกติ.
"คนผู้นี้เป็นใครมาจากใหน!"
"ใช่ ใต้โลกหล้าแห่งนี้ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่มีความสามารถเช่นนี้!"
"กับสิ่งที่ลึกซึ้ง และยังถูกส่งไปอย่างรวดเร็ว พวกเราด้อยกว่าแล้ว!"
........................
............
......
หลากหลายคนมากมายที่กล่าวชม ทำให้เทียนหลิงเอ๋อใบหน้าแดงเล็กน้อย "นี่ เรื่องนี้ ไม่มีอะไรเลย!"
"หายากนัก กับพรสวรรค์เช่นนี้ ทว่าอย่าได้ถ่อมตัวเอย อนาคตของเจ้าจะต้องไร้ขีดจำกัด!"ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาที่เอ่ยออกมาพลางถอนหายใจ.
"ไม่มีอะไรเลย ข้าไม่ได้ถ่อมตัว ข้าเป็นเช่นนี้ ไม่ได้เป็นดั่งที่พวกเจ้าเอ่ยสักหน่อย!"เทียนหลิงเอ๋อที่รู้สึกเขินอายกับคำชมเป็นอย่างมาก.
ทว่าเทียนหลิงเอ๋อยิ่งถ่อมตัว ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาทั้งสามยิ่งชื่นชม!
"เอาล่ะ หลิงเอ๋อ ทะลวงเสร็จค่อยว่ากัน!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .
"อืม!"เทียนหลิงเอ๋อที่ต้องอดทนต่อคำชม ก่อนที่จะเริ่มทะลวงค่ายกลต่อ.
ผ่านไปสองวัน ระหว่างนี้เผ่าหมาป่าที่เผยท่าทางตื่นเต้น ก่อนที่เทียนหลิงเอ๋อจะเอ่ยปากออกมา.
"เอาล่ะ อันสุดท้ายแล้ว!"เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.
กับคำพูดว่าตำแหน่งสุดท้าย ทุกคนที่ดวงตาเป็นประกาย.
และทันใดนั้นแสงสว่างที่เจิดจ้าปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าราวกับเวลากลางวัน ปกคลุมพื้นที่กว้างขวางไร้สิ้นสุด.
"ทะลวง? ทะลวงค่ายกลได้แล้ว!"อาวุโสอวิ๋นที่ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น.