ตอนที่แล้วChapter 1127 มีก็เหมือนไม่มี.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1129 เทียนหลิงเอ๋อ ทะลวงค่ายกลอย่างง่ายดาย.

Chapter 1128 ความกังวลของเทียนหลิงเอ๋อ


"นี่มัน?แปลกไปหรือไม่?"เสวียนหยวนที่กล่าวออกมาด้วยทางประหลาดใจ.

"แปลก?เฮ้เอ้ ข้าเองไม่สามารถที่จะเห็นได้เช่นกัน!"อาวุโสอวิ๋นที่ฝืนยิ้มออกมา.

"ไม่สามารถเห็นได้? นี่ไม่ใช่บรรพชนหมาป่าทิ้งเอาไว้หรอกรึ? เจ้าไม่เคยได้ยินอะไรเลยอย่างงั้นรึ?"เสวียนหยวนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

"บรรพชนหมาป่าเคยเอ่ยเอาไว้ ตราบเท่าเคลื่อนดวงดาราไปยังตำแหน่งที่ถูกต้องได้ ตราบเท่าที่โลกยังไม่ล่มสลาย บรรพชนหมาป่าจะหวนกลับคืนมา!"อาวุโสอวิ๋นกล่าว.

"บรรพชนหมาป่าหวนกลับคืนมา? ไม่ใช่ว่าบรรพชนหมาป่าตายไปแล้วรึ?"เสวียนหยวนที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ไม่รู้เลย!"อาวุโสอวิ๋นที่ส่ายหน้าไปมา.

"ไม่รู้อย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่ไม่เข้าใจ.

"ในอดีตนั้น บรรพชนได้สร้างค่ายกลที่แปลก ๆ นี้ขึ้น พร้อมกับกล่าวออกมาสิ่งนี้ก่อนที่จะตกตายไป หากทะลวงค่ายกล ก็ไม่สามารถกลับมาได้ หลังจากนั้น เผ่าหมาป่าของพวกเราก็เชิญเหล่ายอดฝีมือมากมายมา เพื่อที่จะทะลวงค่ายกล ทว่าก็ไม่มีใครสามารถทำได้สำเร็จ จึงไม่รู้ว่าเป็นไปได้หรือไม่!"อาวุโสอวิ๋นที่ขมวดคิ้วไปมา.

"อาจจะไม่สามารถกลับมาก็ได้อย่างงั้นรึ?"เห่าเม่ยลี่ที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

"อืม!"อาวุโสอวิ๋นที่ส่ายหน้าไปมา.

ทุกคนที่ได้แต่เงียบ จินเผิงที่เอ่ยออกมา "บรรพชนหมาป่า มีอายุขัยอยู่จนถึงเวลานี้เลยรึ?"

"บรรพชนหมาป่าไม่ใช่ปราชญ์เทพ ไม่สามารถมีอายุขัยไร้ขีดจำกัดได้!"อาวุโสอวิ๋นสายหน้าไปมา.

"จากวันนั้นถึงเวลานี้ผ่านมากี่ปีแล้ว?"

"98 ล้านปี!"อาวุโสอวิ๋นที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

ทุกคน".....................!”

"เขา ในเมื่อไม่ได้เป็นปราชญ์เทพ  98 ล้านปี ไม่ใช่ว่าตายไปแล้วรึ? แล้วจะฟื้นคืนกลับได้อย่างไร?"จินเผิงที่ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย.

"ไม่รู้ ทว่ามันเป็นคำพูดของบรรพชนหมาป่าที่ทิ้งไว้จริง ๆ  แดนเทวะซือเทียนสืบทอดส่งมาจนถึงวันนี้ ที่จริงเวลานี้เป้าหมายเดียวก็คือ ทะลวงผ่านเท่านั้น!"อาวุโสอวิ๋นกล่าว.

"ข้าเห็นมีโลกเขตแดนอยู่ด้านใน ทว่าไม่สามารถมองเห็นทั้งหมดได้!"เสวียนหยวนกล่าวออกมาเบา ๆ .

"เจ้าเห็นอย่างงั้นรึ?"อาวุโสอวิ๋นที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

ทุกคนที่จ้องมองเสวียนหยวนด้วยความประหลาดใจ.

"ดวงตาของข้าพิเศษ!"ดวงตาของเสวียนหยวนที่เป็นประกายสีเงินเล็กน้อย.

"โอ้ว!"อาวุโสอวิ๋นถอนหายใจ.

"เรื่องที่เอ่ยว่าบรรพชนจะกลับมา ไม่สามารถเปิดเผยออกมาใช่หรือไม่?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ถูกแล้ว ค่ายกล พรของดวงดารานั้น บรรพชนหมาป่าได้ทิ้งเอาไว้ในอดีต ตอนนี้มีผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาของตำหนักจื่อหยางกำลังช่วยกันแก้อยู่!"อาวุโสอวิ๋นกล่าว.

"พรจากดวงดารา?" ( 星祝词)

สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังป้ายหยก.

------------------------

"คำอวยพรของดวงดารา"

ค่ายกลดวงดาราโบราณไร้จำกัด ทะลวงสวรรค์สะบั้นปฐพี ทำลายล้างปิศาจ หมื่นพันไม่เคยล้ม....................................

..................

............

-----------

"แต่ละดวงดารานั้นมีอักษรรวมทั้งสิ้น 3333 อักษร! เป็นตัวอักขระทั้งหมดที่ถูกบันทึกเอาไว้ถูกสลักเอาไว้ทั้งแนวตั้งและลึก ไม่มีใครเข้าใจได้!"อาวุโสอวิ๋นที่ส่ายหน้าไปมา.

โลกเขตแดนด้านใน คำพูดนี้ทำให้จินเผิง เต้าเหรินถู เสวียนหยวนและคนอื่น ๆ ต่างก็กลืนน้ำลายคำโต ครุ่นคิดไปต่าง ๆ นานา .

"ข้าสัมผัสได้ว่าด้านในนั้นมีค่ายกลชุดหนึ่ง!"

"ไม่ ข้ารู้สึกว่าโลกเขตแดนด้านในนั้นถูกสร้างขึ้นด้วยวิชาที่ทรงพลัง!"จินเผิงที่ส่ายหน้าไปมา.

"ข้าสัมผัสได้ถึงวิชาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร!"เต้าเหรินถูที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ไม่ ข้าคิดว่าเป็นวิชาที่เต็มไปด้วยจิตวิญาณแห่งการต่อสู้ ไม่มีจิตสังหาร!"จินเผิงที่กล่าวแย้งเต้าเหรินถู.

อาวุโสอวิ๋นที่ส่ายหน้าไปมา "ทุก ๆ คนล้วนแต่เห็นแตกต่าง ทว่าข้าคิดว่าเสวียนหยวนใกล้เคียงสุด มันต้องเกี่ยวข้องกับค่ายกลแน่!"

ในเวลานั้น ที่ด้านหน้าพวกเขาชายในชุดสีดำทั้งสามคนที่นั่งอยู่ไม่ไกล ก็ปรากฎฟองอากาศเกิดขึ้น เป็นฟองอากาศสิบสี.

"ปัง!"ฟองอากาศที่ระเบิดออก ก่อนที่ทั้งสามคนจะลืมตาขึ้นมา.

"วูซซซซ!"

"ทั้งสาม เสร็จสิ้นการตระหนักรู้แล้วรึ?"อาวุโสอวิ๋นที่ก้าวเข้าไปหาทันที.

ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาทั้งสามที่จ้องมองหน้ากันและกัน ก่อนที่จะพยักหน้าให้กัน.

"อาวุโสอวิ๋น คำพูดดังกล่าว นับว่าเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ เป็นอะไรที่ลึกซึ้ง ถึงแม้ตอนนี้จะไม่กล้าบอกว่าเข้าใจ ทว่าก็พอมีความคิดอยู่ ข้าคิดว่าจะสามารถทะลวงค่ายกลนี้ได้!"สามผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาเอ่ย.

"ดี ดี ดีเลย ทั้งสามรบกวนแล้ว แม้นว่าแดนเทวะซือเทียนจะยังคงปิดอยู่ ข้าอาวุโสภายนอกต้องตอบแทนทุกท่านอย่างแน่นอน.

คนทั้งสามที่ส่ายหน้าไปมา "ไม่จำเป็น พวกเราเดินทางมาเพื่อทะลวงค่ายกลนี้ด้วยความต้องการของพวกเราเอง!"

จากนั้น ยอดฝีมือทั้งสามก็ลอยขึ้นบนอากาศ พุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นเป็นจุดสามจุด.

ทุกคนต่างจ้องมองด้วยความสนใจ.

หลังจากนั้นหลายชั่วยามบนอวกาศ สามยอดฝีมือ ที่รวบรวมวิถีสวรรค์ ก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนย้ายดวงดารา.

ในเวลานั้นทั้งสามที่เคลื่อนไหวตำแหน่งของดวงดาราช้า ๆ

"ปัง!"

จากบนอากาศสายฟ้ามากมายที่มารวมตัวกัน นอกจากดวงดาราทั้ง 20,000จะเคลื่อนที่ช้า ๆ แล้ว แรงกดดันพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่กำลังโถมทับลงมาบนผืนปฐพีอย่างหนักหน่วงรุนแรง.

ในเวลานั้นแดนเทวะซือเทียนรอบนอก ปรากฎสนามวายุที่หนักหน่วงรุนแรงขึ้นทันที เศษดิน ก้อนศิลาแม้แต่สายฟ้าที่โถมกระหน่ำฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ.

"แจ้งไปยังเผ่าหมาป่าทุกตน ให้พวกเขาอดทนเอาไว้!"อาวุโสอวิ๋นที่เอ่ยปากสั่งการในทันที.

"รับทราบ!"

บนอวกาศนั้น สามยอดฝีมือยังคงเคลื่อนย้ายดวงดารา จากนั้นก็สับเปลี่ยนตำแหน่ง แรงกดดันจากบนอวกาศนั้นมากขึ้นและก็มากขึ้น จนแม้แต่เกิดหลุมดำเขามา แม้แต่คนที่อยู่ไกลออกไปยังเผยความหวาดกลัว.

"สามผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาร้ายกายนัก การเคลื่อนย้ายดวงดาราเช่นนี้ ไม่มีใครสามารถทำได้"เสวียนหยวนที่อุทานออกมา.

ทุกคนที่พยักหน้ารับ ทว่าก็มีหลายคนไม่เข้าใจ.

"หมายความว่าอย่างไร?"เทียนหลิงเอ๋อที่ไม่เข้าใจ.

เสวียนหยวนที่จ้องมองเทียนหลิงเอ๋อ จ้องมองไปยังจงซาน ก่อนที่จะอธิบายออกมาว่า "ค่ายกลในอวกาศนั้นซ่อนตัวอยู่ พวกเขาทั้งสามคนกำลังเคลื่อนย้ายดวงดาราเพื่อเผยค่ายกลออกมา นับว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก เมื่อค่ายกลเผยออกมาก็จะสามารถแก้ไขได้!"

ดวงตาของเทียนหลิงเอ๋อที่เป็นประกาย แต่ไม่เข้าใจ.

เสวียนหยวนถึงกับพูดไม่ออก.

เกิดระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ ๆ  กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงก็ยิงเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น.

หนึ่งวันหลังจากนั้น เสวียนหยวนที่อ้าปากเอ่ยออกมา "ร้ายกาจมาก เคลื่อนไหว โลกเขตแดน ไม่ใช่ว่าเริ่มปรากฎออกมาแล้วรึ? สามผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตายอดเยี่ยมจริง ๆ !"

"ย้ายตำแหน่งจริง ๆ รึ?"เทียนเหลิงเอ๋อที่จ้องมองจงซาน.

"ย้ายตำแหน่ง เพียงเล็กน้อย!"จงซานพยักหน้า.

"หากเป็นเช่นนี้ ต้องสำเร็จแน่!"อาวุโสอวิ๋นที่เผยความตื่นเต้น.

"ใช่ จะทะลวงได้แล้ว!"จินเผิงเอ่ย

..................

............

......

จ้องมองทุกคนที่ต่างถอนหายใจด้วยความร้ายกาจของค่ายกลจากการทะลวงมัน เทียนหลิงเอ๋อที่รู้สึกต่างไป ไม่สบายใจนัก ราวกับพบอะไรบางอย่างเข้า ทว่านางก็ไม่กล้าเอ่ยออกมา เพียงแค่เก็บเอาไว้ในใจไม่เอ่ยออกมา.

ทว่าไม่รู้มาจากใหน ปรากฎร่าง ๆ หนึ่งปรากฎขึ้นมาในทันที.

ชายในชุดสีแดง ที่ไม่ได้ปล่อยกลิ่นอายออกมา แต่กับทำให้ทุกคนต้องการเคารพอย่างไม่มีเหตุผลชายในชุดสีแดงที่มีผมยาว แต่ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้.

"คารวะปราชญ์เทพหยิงเห่า!"อาวุโสอวิ๋นที่เอ่ยปากออกมา.

"คารวะปราชญ์เทพหยิงเห่า!"คนอื่น ๆ เองก็เอ่ยออกมาเช่นเดียวกัน.

หยิงเห่าที่ไม่เอ่ยสิ่งใด ทว่ายังคงจ้องมองอย่างตั้งใจไปบนท้องฟ้า.

สองวันหลังจากนั้น.

"เป็นค่ายกลที่ลึกล้ำมาก ยิ่งผ่านไปยังทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น ข้าไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย!"อาวุโสเทียนที่เอ่ยออกมาพลางถอนหายใจ.

แน่นอนทุกคนต่างก็พยักหน้ารับ เพราะว่าจากบนอวกาศนั้น ดวงดาราแต่ละดวงปลดปล่อยพลังออกมาจนน่าหวั่นเกรง.

"ใกล้แล้ว อีกนิดเดียว ก็จะทะลวงผ่านได้แล้ว!"อาวุโสอวิ๋นที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"ภายในโลกใบเล็กนั่น ปรากฎพายุที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด!"เสวียนหยวนพยักหน้า.

ขณะที่ทุกคนเตรียมที่จะเป็นพยานในความยอดเยี่ยมนี้.

บนอวกาศนั้น ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาคนหนึ่ง ก็พ่นโลหิตออกมาอย่างบ้าคลั่ง!

จากนั้น ทุกคนก็มองเห็นดวงดารามายที่เคลื่อนกระแทกผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาทั้งสาม พลังอำนาจที่ระเบิดเสียงดังสนั่น โถมทับมายังพวกเขา.

เป็นค่ายกลที่น่าหวาดกลัวมาก เวลานี้มันหันกลับมาโจมตีผู้ฝึกตนทั้งสามแล้ว เวลานี้พวกเขาที่ได้รับบาดเจ็บหนัก ทันใดนั้นพวกเขาก็หนีจากการบดขยี้ของค่ายกลดังกล่าวทันที.

"เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?"เสวียนหยวนที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"การทะลวงค่ายกลล้มเหลว?"อาวุโสเทียนที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ไม่ได้การ ไม่ได้การแล้ว!"อาวุโสอวิ๋นที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

จากนั้น อาวุโสอวิ๋นที่จ้องมองไปยังปราชญ์เทพหยิงเห่า.

"ปราชญ์เทพ อวิ๋นเทียนซีเป็นตัวแทนของแดนเทวะซือเทียนร้องขอให้ช่วยเหลือคนทั้งสาม ซึ่งเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของแดนเทวะซือเทียน!"อาวุโสอวิ๋นที่กล่าวต่อปราชญ์เทพหยิงเห่าในทันที.

หยิงเห่าที่ไม่มีอารมณ์จ้องมองท้องฟ้าอีกต่อไป ทั้งยังเผยท่าทางดูแคลนอาวุโสอวิ๋นอีกด้วย จากนั้นก็ไม่สนใจก้าวออกไปหายไปในทันที.

อาวุโสอวิ๋นที่ก้าวไปได้แค่ครึ่งก้าว ใบหน้ากระตุก ก่อนหน้านี้รับรู้ว่าหยิงเห่าใจไม้ใส้ระกำ ไม่คิดเลยว่าจะเฉยเมยเช่นนี้ ปราชญ์เทพที่ควรช่วยเหลือทุกสิ่งมีชีวิต คาดไม่ถึงเลยว่าหยิงเห่าจะนิ่งดูดายเช่นนี้.

"จินเผิง เต้าเหรินถู ช่วยเหลือพวกเขาทั้งสามคนอย่างเต็มกำลัง!"จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.

"รับทราบ!"

คนทั้งสองที่พุ่งขึ้นไปบนอากาศอย่างรวดเร็ว.

ถึงแม้นว่าจะไม่ได้ใส่ใจ ความเป็นไปของเผาหมาป่า ทว่าจงซานก็ต้องการช่วยเหลือคนทั้งสาม ต้องไม่ลืมว่าคนทั้งสามนั้นมีสถานะที่ไม่ธรรมดา ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตา ต้าเจิ้งเองก็ต้องการคนเช่นนี้ ถึงแม้นว่าจะไม่สามารถกำราบ อย่างน้อยก็หากมีความสัมพันธ์อันดีก็นับว่าเป็นเรื่องดี.

"ตูมมม!”

บนอวกาศที่เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาทั้งสามที่ถูกแรกกระแทกโถมกระหน่ำ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จินเผิงและเต้าเหรินถูจะช่วยออกมาได้ พวกเขากระดูกทั่วร่างแทบแตกสลาย อยู่ในสภาพอ่อนแอ.

"ขอบคุณ!"ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาที่เอ่ยต่อจงซาน.

"ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ ไม่รู้ว่าทั้งสามรับรู้อะไรได้บ้าง?"จงซานสอบถามออกไป.

"น่าอาย น่าอายยิ่งนัก!"ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาที่ใบหน้ากลายเป็นเคร่งขรึม.

"กับค่ายกลเช่นนี้ พวกท่านทั้งสามไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเอง!"จงซานเอ่ย.

"ไม่ ที่จริง ค่ายกลบนอวกาศนั้น กล่าวได้ว่าเป็นพวกเราที่สร้างขึ้นมา การที่สูญเสียการควบคุมจนหันมาทำร้ายพวกเรา นับเป็นเรื่องที่ซับซ้อน การตระหนักรู้ของพวกเรายังไม่เพียงพอ!"ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาที่ส่ายหน้าไปมา.

"อาวุโสอวิ๋น ข้าต้องการตระหนักรู้อีกหลายปีที่นี่ ครั้งต่อไปต้องแก้ไขได้อย่างแน่นอน!"ผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตาเอ่ยต่ออาวุโสอวิ๋น.

"ทั้งสามต้องการ เผ่าหมาป่าย่อมยินดี การทะลวงค่ายกลนี้เป็นความต้องการมาหลายยุคหลายสมัย ดวงดาราเหล่านั้นได้กลับตำแหน่งเดิมแล้ว ครั้งหน้าค่อยเริ่มใหม่ การทะลวงค่ายกลนี้ ความปลอดภัยต้องมาก่อน!"อาวุโสอวิ๋นกล่าว.

"อืม!"

ทุกคนที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดวงดารากลับตำแหน่งเดิมแล้ว ทำให้ทุกอย่างกลับคืนสู่ปรกติ.

"เป็นค่ายกลที่ร้ายกาจนัก!"เสวียนหยวนที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

"ใช่ ไม่คิดว่าจะทรงพลังขนาดนี้!"อาวุโสเทียนพยักหน้า.

"ร้ายกาจจริงรึ? ข้าไม่คิดว่ายาก!"เทียนหลิงเอ๋อที่อดไม่ได้เอ่ยออกมาในที่สุด.

ได้ยินคำพูดดังกล่าวทุกคนที่หันหน้ามามองเทียนหลิงเอ๋อ เสียสติไปแล้ว นางคิดว่ามันง่ายอย่างงั้นรึ? หรือว่าต้องการกล่าวอะไร?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด