Chapter 1127 มีก็เหมือนไม่มี.
เสวียนหยวนจ้องมองจงซาน หัวใจที่สั่นไหว "เจ้ามาที่นี่ เพราะว่าเขาอยู่ที่นี่อย่างงั้นรึ?
"คนที่นี่ กลับบอกไม่เคยเห็น!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"ด้วยความสามารถของเขา มีเหรอที่จะไม่มีใครรู้จัก!"เสวียนหยวนเอ่ย.
"ควรจะเป็นเช่นนั้น ทว่าเจ้ามายังแดนเทพหมาป่า มีธุระอะไรที่นี่อย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไปด้วยความสงสัย.
"เจ้ายังคงจำหยกไร้เจียรไนได้หรือไม่?"
"เป็นหยกที่เก็บรักษาดวงวิญญาณที่ได้รับบาดเจ็บของเจ้าใช่หรือไม่?"จงซานที่ครุ่นคิด.
ในอดีตนั้นจงซานที่ช่วยเสวียนหยวนนำมันมาจากบ่อคลื่นสงบตระกูลเทียนนั่นเอง.
"ใช่!"
"เจ้ามีวิธีฟื้นฟูแล้วอย่างงั้นรึ?"
"มันยังขาดของสิ่งหนึ่ง น้ำพุมรกตซือเทียน ซึ่งมีเดียงแค่แดนเทวะซือเทียนที่มี ช่างน่าเศร้าที่มันเป็นสมบัติล้ำค่าของเผ่าหมาป่า!"เสวียนหยวนเอ่ย.
"อย่างน้อยก็ถือว่ายังมีหวัง!"จงซานที่พยักหน้ารับ.
"ใช่!"เสวียนหยวนที่ไม่ได้เผยยิ้มออกมาอย่างใด ไม่ใช่เพราะว่าคำพูดของจงซาน ทว่าคิดถึงเรื่องราวของภรรยาตนในอดีต.
"ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเหลือ เผ่าหมาป่าจึงสามารถหลบเลี่ยงภัยพิบัติไปได้!"อาวุโสอวิ๋นที่ก้าวเข้ามาหาในทันที.
"อาวุโสอวิ๋น ก่อนหน้านี้ข้าและเจ้า.....?"เสวียนหยวนที่เอ่ยออกมาด้วยความกังวลจ้องมองไปยังอาวุโสอวิ๋น.
อาวุโสอวิ๋นพยักหน้ารับ "ข้านั้นเป็นเพียงอาวุโสขั้นต่ำ ไม่มีความสามารถที่จะจัดการเรื่อง น้ำพุมรกตซือเทียนได้ ทว่าเจ้าช่วยเผ่าหมาป่าผ่านภัยพิบัติในวันนี้ ข้ามั่นใจว่าจะร้องขออาวุโสระดับสูงได้ ทว่าน้ำพุมรกตซือเทียนนั้นนับเป็นของสูงค่า หากอาวุโสระดับสูงไม่เห็นด้วย ข้าก็หมดหนทาง!"
"ขอบคุณอาวุโสอวิ๋น!"เสวียนหยวนที่เอ่ยปากออกมาทันที.
ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้อาวุโสอวิ๋นไม่สามารถตกปากรับคำได้.
"รอให้แดนเทวะซือเทียนเปิดออกมา ข้าจะต้องช่วยเจ้าอย่างสุดความสามารถ!"อาวุโสอวิ๋นกล่าว.
"ดี!"เสวียนหยวนพยักหน้า.
"อาวุโสอวิ๋น!"จงซานทีเอ่ยปากออกมาในทันที.
"สหายเต๋าจง?"อาวุโสอวิ๋นที่กล่าวออกมาด้วยความสุภาพ.
แม้นว่าจงซานจะไม่ได้ลงมือ ทว่าสองผู้ใต้บังคับบัญชาที่ลงมือนั้นทำตามคำสั่งของจงซาน ดังนั้นบุญคุณครั้งนี้อาจนับได้ว่าเป็นจงซาน นอกจากนี้สองเซียนบรรพชนนั้นทรงพลังมากยังเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชา เห็นชัดเจนว่าจงซานนั่นน่าเกรงขาม ดังนั้นอาวุโสอวิ๋นจึงต้องสุภาพกับจงซาน.
"การที่พวกเราเดินทางมายังอาณาเขตเทพหมาป่านั้น พวกเราต้องการมาหาสหาย ดังนั้นจึงต้องการให้อาวุโสอวิ๋นช่วย!"จงซานกล่าว.
"สหายเผ่าหมาป่า? แน่นอน เจ้าต้องการหาผู้ใด ข้าจะเร่งรีบตรวจสอบให้ทันที!"อาวุโสอวิ๋นเอ่ย.
"เขามีนามว่าตี้เสวียนชา!"จงซานเอ่ย.
"ตี้เสวียนชา?"อาวุโสอวิ๋นที่ขมวดคิ้วไปมา จ้องมองไปยังจงซานด้วยความแปลกประหลาด.
"รู้จักอย่างงั้นรึ?"
"ไม่ เพียงแต่แซ่นั่น.... มันคือแซ่ของบรรพชนหมาป่าในอดีต เหล่าลูกหลานของบรรพชนทุกคนล้วนตกตายไปทั้งหมด ดังนั้นเผ่าหมาป่าจึงไม่มีใครใช้แซ่นี้ หรือหากมีใครเปลี่ยนเป็นแซ่นี้โดยไม่ตั้งใจ ปรกติแน่นอนว่าไม่มีใครที่กล้าใช้แซ่ของผู้ก่อตั้งแดนซือเทียน! เจ้ามั่นใจว่าเขามีแซ่ ตี้ จริง ๆ รึ?"อาวุโสอวิ๋นที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ไม่เคยได้ยินเลยรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่เคยได้ยินจริง ๆ !"
จงซานที่สูดหายใจลึก กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม "เรื่องนี้ หลายร้อยปีก่อน มีอาวุโสเผ่าหมาป่าที่กล่าวว่าต้องการนำเขาไปยังแดนเทวะซือเทียน ข้าเองก็ไม่รู้จักอาวุโสดังกล่าว ทว่าจำรูปร่างหน้าตาของเขาได้ ท่านลองดูให้สักหน่อย!"
จงซานที่ใช้พลังฝึกตนสร้างภาพชายในชุดสีม่วง ที่ได้นำตัวของตี้เสวียนชาไป.
"อาวุโสจื่อหร่าน?"อาวุโสอวิ๋นเอ่ยด้วยความประหลาดใจ.
"ท่านรู้จัก!"จงซานที่พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ .
"อาวุโสจื่อหร่าน เป็นอาวุโสระดับสูง ทว่าเป็นความจริงที่ข้าไม่เห็นตี้เสวียนชา เหล่ายอดฝีมือในแดนเทวะซือเทียน ไม่มีใครที่ข้าจะไม่เคยเห็น แดนเทวะซือเทียนที่กำลังเปิดออกมา เมื่อข้าพบกับอาวุโสจื่อหร่าน ในเวลานั้นเจ้าค่อยสอบถามเขาก็ยังได้!"อาวุโสอวิ๋นที่ส่ายหน้าไปมา.
ไม่เคยได้ยินตี้เสวียนชาอย่างงั้นรึ? เป็นไปไม่ได้ที่ตี้เสวียนชาจะไม่มีคนรู้จักเลย ความจริงเป็นเช่นไรกัน? ภายในใจของจงซานที่เผยท่าทางเป็นกังวล.
"อีกกี่ปี? ไม่ใช่ว่าแดนเทวะซือเทียนควรจะเปิดออกมาแล้วรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่สามารถเปิดได้ มีเพียงแค่คนด้านในจะเปิดออกมาเอง ด้านนอกไม่สามารถเปิดเข้าไปได้ หลายปีมานี้ ภายในแดนเทวะซือเทียนมีเรื่องสำคัญต้องทำ ดังนั้นจึงไม่เปิด คงต้องรออีกหลายปี!"อาวุโสอวิ๋นที่ส่ายหน้าไปมา.
"ทว่าพวกเราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นาน หลายปีคงนานไป ไม่มีวิธีอื่นเลยอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไปอีกครั้ง.
อาวุโสอวิ๋นที่ส่ายหน้าไปมา.
"อาวุโสอวิ๋นไม่ใช่ว่ายังมีอีกวิธีหนึ่งหรอกรึ?"จางหยงหัวที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยออกมาในทันที.
ได้ยินคำพูดของจางหยงหัว แทบทุกคนก็ขมวดคิ้ว โดยเฉพาะจงซาน ยังมีวิธีหนึ่งอย่างงั้นรึ? ทำไมอาวุโสอวิ๋นถึงบอกว่าไม่มีล่ะ?
อาวุโสอวิ๋นจ้องมองไปยังจางหยงหัว ไม่ได้กล่าวตำหนิ ทว่าส่ายหน้าไปมา "วิธีนี้มีก็เหมือนไม่มี กี่ปีมาแล้ว ไม่เคยมีใครสามารถทำได้สำเร็จ จนแทบจะไม่ถูกเรียกว่าวิธี!"
กับคำพูดของอาวุโสอวิ๋น ทำให้จงซานเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"ขอให้อาวุโสอวิ๋นอธิบาย?"จงซานสอบถามออกไป.
"ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทุกท่านโปรดตามข้ามา!"อาวุโสอวิ๋นกล่าว.
"พวกเจ้าทั้งสอง คอยอยู่ปลอบขวัญเผ่าหมาป่าทั้งหมด!"อาวุโสอวิ๋นหันหน้าไปกล่าวต่ออาวุโสหมาป่าทั้งสอง.
"อืม!"
กลุ่มของจงซาน เสวียนหยวน จางหยงหัวก็บินตามอาวุโสอวิ๋นไป.
บินไปยังสถานที่อยู่สูงขึ้นไป.
เกาะลอยฟ้า 3000 เกาะที่กำลังลอยหมุนวนดอกบัวขนาดใหญ่อยู่ ด้านบนของดอกบัวนั้นคือทางเข้าของแดนเทวะซือเทียน.
ทว่าบนดอกบัวนั้น กับมีเกาะพิเศษเกาะหนึ่ง เป็นเกาะที่ส่องประกายแสงสีน้ำเงินออกมา แสงสีน้ำเงินที่สว่างจ้ามากกว่าเกาะอื่น ๆ .
ทุกคนที่บินไปหยุดอยู่ที่เกาะลอยฟ้าดังกล่าว.
เกาะลอยฟ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ดูผิดปรกติแตกต่างจากเกาะอื่น ไม่มีใครรู้ว่ามีปัญหาอะไร บนเกาะลอยฟ้ามีสิ่งก่อสร้างที่พิเศษ เมื่อขึ้นมาอยู่ที่นี่ สามารถมองขึ้นไปบนท้องฟ้า บนท้องฟ้าที่ปรากฎดวงดาราที่สว่างจ้าเป็นอย่างมาก.
บนเกาะลอยฟ้าแห่งนี้มีหุบเขาแห่งหนึ่ง.
ภายในหุบเขานั้นมีป้ายหยกขนาดใหญ่มีอักขระมากมายสลักเอาไว้ คำอวยพรจากดวงดารา.
------------
"คำอวยพรของดวงดารา"
ค่ายกลดวงดาราโบราณไร้จำกัด ทะลวงสวรรค์สะบั้นปฐพี ทำลายล้างปิศาจ หมื่นพันไม่เคยล้ม....................................
..................
............
-----------
คำอวยพรของดวงดารานั้นมีมากมายหลายพันตัวอักษรจนไม่สามารถมองเห็นได้ทั้งหมด.
ทว่าในหุบเขาเวลานี้มีคนสี่คน คนเหล่านั้นเพิ่งมาถึง หนึ่งคนคุ้มกัน ส่วนอีกสามคนที่อยู่ในชุดสีดำ กำลังนั่งอยู่ ไม่เคลื่อนไหว.
"อาวุโสอวิ๋น!"ขณะที่เข้ามาใกล้ก็แสดงความเคารพออกมา.
"อืม ทั้งสามยังคงพยากรณ์อยู่อย่างงั้นรึ?"อาวุโสอวิ๋นที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่ ผ่านมาห้าสิบปีแล้ว พวกเขาแทบไม่เคลื่อนไหว ไม่รู้ว่าพยากรณ์ได้อย่างไร!"หนึ่งในผู้คุ้มกันที่เอ่ยออกมา.
"ตระกูลจื่อหยาง ผู้สืบทอดวิชาช่วงชิงชะตา คนทั้งสามนั้นเป็นผู้ที่เคยได้รับตำแหน่งประมุขตระกูลมาทั้งนั้น ผ่านมาห้าสิบปีแล้วรึ? เฮ้อ...!"อาวุโสอวิ๋นที่ถอนหายใจเบา ๆ .
"อาวุโสอวิ๋น ไม่คิดจะอธิบายอะไรกับพวกเราอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไปด้วยความสงสัย.
"ทุกท่านจ้องมองขึ้นไปบนดวงดาราบนท้องฟ้า?"อาวุโสที่ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า.
"ท้องฟ้านี้ค่อนข้างแปลก มีดวงดารากว่า 20,000 ดวงที่ส่องสว่าง."เทียนหลิงเอ๋อที่เอ่ยออกมาด้วยความสนใจ.
"เป็นความจริง นี่คือค่ายกล!"อาวุโสอวิ๋นกล่าว.
"ค่ายกลอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"ใช่แล้ว ตราบเท่าที่สามารถแก้ค่ายกลนี้ได้ เกาะทั้งสามพันก็จะเคลื่อนไหว จนทำให้ดอกบัวบานออกมา และแดนเทวะซือเทียนก็เปิดออกมาด้วย!"อาวุโสอวิ๋นที่กล่าวตอบ.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองอย่างระมัดระวัง.
---------------------------------
ภพหยิน เขตแดนจวงหลุน.
"เรียกตัวหนานกงเซิ่งเข้าพบ!"ร่างแยกเงาจงซานที่เอ่ยออกมา.
ไม่นานหลังจากนั้น หนานกงเซิ่งก็ถูกเรียกมา.
"เซิ่งหวัง!"หนานกงเซิ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความเคารพ.
"มีเรื่องสำคัญ เจ้าดูว่าค่ายกลนี้จะสามารถทะลวงผ่านอย่างไร?"จงซานเอ่ย.
จงซานที่โบกมือใช้พลังสร้างท้องฟ้าและดวงดาราทั้ง 20,000 ออกมา.
หนานกงเซิ่งที่ดวงตาส่ายไปมา จากนั้นก็จดจ้องมองด้วยความสนใจ.
หลังจากนั้นก็เผยท่าทางแปลกประหลาด และใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"อย่างไร?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"เซิ่งหวัง ไม่ใช่ว่ามันไม่ใช่ค่ายกลหรอกรึ?"หนานกงเซิ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ไม่ใช่ค่ายกลอย่างงั้นรึ?"
"ใช่ ไม่ใช่ค่ายกล ไม่มีการโคจรขับเคลื่อน! สิ่งสำคัญที่สุด ดวงดาราทั้ง 20,000 นั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย จะเป็นค่ายกลได้อย่างไร?"หนานกงเซิ่งที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"เจ้ามั่นใจอย่างงั้นรึ?"
"เฉินศึกษาค่ายกลมาตลอดชีวิต ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าสามารถทะลวงค่ายกลมามากมาย การจะพิจารณาว่าเป็นค่ายกลหรือไม่ไม่ยาก แต่ชัดเจนที่เห็นเวลานี้ไม่ใช่ค่ายกล!"หนานกงเซิ่งเอ่ย.
---------------------------------
ภพหยาง ดินเทพอสูร จงซานที่เงยหน้ามองท้องฟ้า ทว่าดูแปลกประหลาด กล่าวต่ออาวุโสอวิ๋น "นี่คือค่ายกลอย่างงั้นรึ?"
อาวุโสอวิ๋นที่ฝืนยิ้มออกมา "ไม่กล้าปิดบังความจริงจากสหายเต๋าจง ความจริงค่ายกลนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนค่ายกลคนใหนก็คิดว่าไม่ใช่ค่ายกล เพราะไม่มีเค้าเหมือนกับค่ายกลทั่วไปเลย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ข้าเองก็รู้ไม่มากนัก สหายเต๋าทั้งสามที่นั่งอยู่นี่ สหายเต๋าจงรู้หรือไม่?"
"ข้าได้ยินที่เจ้ากล่าวก่อนหน้านี้ พวกเขาคือคนของตระกูลจื่อหยาง!"จงซานเอ่ย.
"ใช่ ตระกูลจื่อหยาง พวกเขาคือตระกูลผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตา คนทั้งสามนี้ล้วนแต่เคยเป็นประมุขมาก่อน ทว่าหลังจากที่สละตำแหน่งแล้ว ห้าสิบปีที่ผ่านมา พวกเขาได้เดินทางมายังแดนหมาป่าเทวะ พยากรณ์วิธีที่จะทะลวงผ่านค่ายกลนี้ให้กับพวกเรา จวบจนถึงตอนนี้นั่นล่ะ!"อาวุโสอวิ๋นที่ส่ายหน้าไปมา.
"ค่ายกลนี้มีความเป็นมาอย่างไร?"จงซานเอ่ยถาม.
"นับตั้งแต่ก่อตั้งแดนเทวะซือเทียน ค่ายกลนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว มันมีดวงดารากว่า 20,000 ดวง กล่าวได้ว่ามันเป็นค่ายกลที่มีหลักอยู่ที่การวางตำแหน่ง ถึงจะก่อให้เกิดเป็นค่ายกลแท้จริงได้ ในเวลานี้พวกเราไม่สามารถมองเห็นได้ แต่มีข่าวลือว่าเซียนบรรพชนระดับสูงแม้แต่ปราชญ์เทพยังไม่สามารถที่จะทำอะไรดวงดาราทั้ง 20,000 นี้ได้."อาวุโสอวิ๋นกล่าว.
"อยู่ที่วางตำแหน่ง? ไม่สามารถมองเห็นค่ายกล แล้วจะทะลวงอย่างไร?"เสวียนหยวนที่เผยท่าทางแปลกประหลาด.
อาวุโสอวิ๋นที่ส่ายหน้าไปมา "ค่ายกลนี้ ไม่มีใครสามารถทะลวงได้ ในอดีตแม้แต่ปราชญ์เทพยังทำไม่สำเร็จ!"
จงซานที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ในเวลานี้ บัวหงหลวนที่ปล่อยพลังจิตไหลมาสู่ดวงตา.
จงซานที่จดจ้องมองดวงดาราทั้ง 20,000 ดวง
รังสีทะลวง!
ทันใดนั้น จงซานที่สามารถ มีห้วงอากาศ คล้ายกับโลกใบเล็ก มีภูเขาและแม้น้ำที่กว้างใหญ่ ภายในใจของจงซานมั่นใจ อาวุโสอวิ๋นไม่ได้กล่าวอะไรไร้สาระ.
ทว่าภูเขาและแม่น้ำนั้นกว้างใหญ่มาก จนจงซานไม่สามารถมองเห็นได้ทั้งหมด.
โลกใบเล็กที่มีแม่น้ำและขุนเขา นี่คือค่ายกลอะไร? บางทีแม้จะมองเห็นโลกใบเล็ก แล้วจะมีวิธีใดในการแก้ค่ายกลนี้กัน?