Chapter 1125 ปราชญ์เทพหยิงเห่า.
เสวียนหยวน พร้อมกับแสงชำระล้าง!
ราวกับฝนแห่งแสงที่ร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน.
จงซานที่มายังโลกใบใหญ่ พบเห็นเผ่าต่าง ๆ มากมายนับไม่ถ้วน ส่วนเผ่าเทวทูตนั้น นับเป็นเผ่าพิเศษ ที่ไม่คิดว่าจะมีอยู่ในโลกใบใหญ่แล้ว.
มีเพียงบันทึก ที่เอ่ยเกี่ยวกับร่างต้นกำเนิดโลก ร่างกายของคนเหล่านี้ จะกลายเป็นแหล่งต้นกำเนิด โลกเขตแดนของพวกเขา สามารถสร้างร่างมายาของเทวทูตขึ้นมาได้.
ร่างแสงดังกล่าว ดูเหมือนว่าจะถูกปล่อยออกมาจากโลกเขตแดน เป็นเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่ปล่อยออกมา และหายไปในอากาศอย่างรวดเร็วเช่นกัน.
แน่นอน ร่างภาพลวงตาเหล่านี้ ไม่มีอยู่จริง เป็นร่างลวงตาที่เกิดจากโลกเขตแดนของร่างต้นกำเนิดโลก ความจริงทุก ๆ คนหากสามารถศึกษาอย่างจริงจัง หลายคนก็สามารถสร้างร่างเงาแสงขึ้นมาจากภายในโลกเขตแดนของตัวเองได้ ทว่าหากเป็นร่างจากร่างสถิตต้นกำเนิดโลกแล้ว จะบริสุทธิ์ จนเหมือนกับพลังศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสามารถมองเห็นเป็นเทวทูตมากมายนั่นเอง.
จุดแสงมากมายเหล่านี้ก็คือ เทวทูต.
การที่เทวทูตมาปรากฎขึ้นที่ด้านนอก ต้องบอกได้เลยว่าเสวียนหยวนเป็นคนที่ร้ายกาจที่สามารถสร้างมันขึ้นมาในโลกเขตแดนได้.
เทวทูตที่ต่อสู้กับอสูรโลหิต! การต่อสู้ขนาดใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว.
เสวียนหยวนที่สามารถสร้างโลกศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้ เทวทูตเวลานี้เข้าปะทะกับอสูรโลหิตจากธารโลหิต แม้นว่ามันจะไม่แข็งแกร่งเทียบกับอสูรโลหิต ทว่าตราบเท่าที่เสวียนหยวนยังไม่ตาย เหล่าเทวทูตก็จะสามารถกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร้ขีดจำกัดเช่นกัน.
การโจมตีที่รุนแรงหนักหน่วง ทำให้การต่อสู้นี้ดูสลับซับซ้อน.
การโจมตีของพลังศักดิ์สิทธิ์และอสุรกายโลหิต ทำให้การต่อสู้นี้หยุดนิ่งยังไม่มีฝั่งใหนได้เปรียบ.
"อาวุโสอวิ๋น เสวียนหยวนจะชนะหรือไม่?"อาวุโสอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ ที่ขมวดคิ้วไปมาขณะพูด.
"หืม ช่างน่าเศร้านัก!"อาวุโสอวิ๋นที่ส่ายหน้าไปมา.
"ช่างน่าเศร้า?"
"ตอนนี้ที่ข้าเห็น เหริ่นชุนและเสวียนหยวนมีพลังเท่ากัน ทว่าเหริ่นชุนนั้นใช้พลังจากค่ายกล ทำให้มีพลังให้ใช้ต่อเนื่องไม่มีวันหมด ตราบเท่าที่ค่ายกลยังอยู่ ส่วนเสวียนหยวนนั้น ผลาญพลังของตัวเอง นอกจากนี้เสวียนหยวนยังเคลื่อนย้ายอำนาจวิถีสวรรค์ด้วย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป.....!"อาวุโสอวิ๋นที่ส่ายหน้าไปมา.
"เสวียนหยวนจะไม่สามารถจัดการเหริ่นชุนได้อย่างงั้นรึ?"อาวุโสอีกคนที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
"เหริ่นชุนและเสวียนหยวนนั้นตอนนี้ยังเทียบกันไม่ได้ เสวียนหยวนนับว่ามีร่างสถิตก่อกำเนิดโลกที่ยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่เขายังไม่สามารถตระหนักรู้ ถึงร่างขั้นสามได้ หากเขาสามารถตระหนักรู้ ได้รับพลังจากโลกได้แล้วล่ะก็ พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นมาอีกสามเท่า สามารถที่จะล้มเหริ่นชุนได้อย่างแน่นอน ช่างน่าเสียดาย....!"อาวุโสอวิ๋นที่กล่าวออกมาด้วยความเศร้าใจ.
"ร่างขั้นสาม? เป็นหนึ่งในทักษะร่างที่ลึกล้ำที่สุดในโลก ช่างน่าเสียดายนับตั้งแต่โบราณคนที่มีร่างกำเนิดโลกขั้นสามนั้นมีอยู่น้อยนิด!"อาวุโสอีกคนที่กล่าวด้วยความเศร้าใจเช่นกัน.
"ร่างขั้นสาม?"จงซานที่เผยท่าทางแปลกประหลาด.
ยากรึ? ดูเหมือนว่าเสวียนหยวนที่อยู่ในโลกใบเล็กจะสามารถสร้างร่างสามร่างได้แล้ว ทว่าจงซานไม่มีทางเปิดเผยอย่างแน่นอน.
"อาวุโสอวิ๋น ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยผู้นี้ คงยากที่จะทะลวงค่ายกลเข้ามา และบนท้องฟ้ายังมีกุยเช่อคุ้มกันอีก ครั้งนี้นับว่าพวกเราอยู่ในอันตราย แดนเทวะซือเทียนเวลานี้คงยากจะต้าน พวกเราเวลานี้ ควรจะทำอย่างไรดี?"อาวุโสอีกคนที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.
"ข้าว่าขอเชิญหยิงเห่าช่วยดีหรือไม่?เขาเองก็จ้องมองพวกเรามานานแล้ว!"
"ไม่จำเป็น หยิงเห่านั้นไร้หัวใจ เป็นไปไม่ได้ที่จะช่วยพวกเรา นอกจากนี้ กุยเช่อที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาคนผู้นั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่หยิงเห่าจะล่วงเกินเขาเพื่อเผ่าหมาป่า!"อาวุโสอวิ๋นกล่าว.
"กุชเช่อเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาใคร? เป็นผู้ใดกัน?"อาวุโสอีกคนที่เผยท่าทางสงสัย.
อาวุโสอวิ๋นที่มองไปที่เขา ทว่าไม่ได้กล่าวอะไร.
จงซานที่อยู่ไม่ไกลออกมา ขณะที่จ้องมองไปยังหวังจิงเหวิน ทั้งคู่ที่เผยแววตาจริงจังออกมา.
พริบตาที่จงซานและหวังจิงเหวินสบตากัน เซียนเซิงซือ จินเผิง อาวุโสเทียน เต้าเหรินถูที่จ้องมองไปยังจงซานพร้อม ๆ กัน.
"ดูไปก่อน!"จงซานที่เอ่ยเสียงเคร่งขรึมกล่าวออกมาเบา ๆ .
ทุกคนที่พยักหน้ารับในทันที.
จงซานที่จ้องมองไปยังการต่อสู้ของเสวียนหยวนและเหริ่นชุน ทว่าจินเผิง เซียนเซิงซือ หวังจิงเหวินและคนอื่น ๆ ที่กวาดตามองไปรอบ ๆ .
หลังจากนั้น หวังจิงเหวินที่เอ่ยออกมาเบา ๆ "เซิ่งหวัง!"
ทุกคนที่หันหน้ามามองหวังจิงเหวินพร้อม ๆ กัน.
"ตำแหน่งเสวียน ห่างออกไป สามแสนลี้ บนตำหนักลอยฟ้าสูงขึ้นไป!"หวังจิงเหวินที่เอ่ยออกมาเบา ๆ .
จงซานที่เงยหน้าขึ้นไปมอง สายตาของเขาที่จ้องมองผ่านฝูงหมาป่า สูงขึ้นไปสามแสนลี้.
บนจุดที่สูงที่สุด มีซุ้มไม้ขนาดเล็กสีแดงเพลิง รอบ ๆ นั้นมีม่านไม้ไผ่ล้อมอยู่ ด้านนอกยากจะมองเข้าไปได้ ทว่าที่ด้านในนั้นสามารถมองเห็นด้านนอกได้ชัดเจน.
เป็นซุ้มไม้ที่ดูแปลกประหลาดที่หวังจิงเหวินเห็น.
พลังจิตในหมอกหงหลวนของจงซานที่แผ่เข้ามาในดวงตาของเขาเล็กน้อย.
ดวงตาของจงซานเป็นลำแสงทะลวงในทันที มองลอดม่านไม้ไผ่เข้าไป คาดไม่ถึงว่าจะสามารถมองเห็นด้านในได้.
ที่ด้านในนั้นมีโถสุรา มีชายในชุดสีแดงโลหิตนั่งอยู่ มีไหสุรารสเลิศ ชายที่อยู่ด้านในที่จิบสุรา ขณะที่จ้องมองการต่อสู้ของเสวียนหยวนและเหริ่นชุน.
นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญคือคนผู้นี้ใบหน้าเลือนลาง ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน.
ภายในตำหนักที่มีผนึกปิดกั้น แน่นอนไม่จำเป็นต้องคาดเดาใด ๆ การที่ไม่สามารถมองไม่เห็นใบหน้า คนผู้นั้นก็คือคนที่อาวุโสอวิ๋นเอ่ยถึง หยิงเห่า.
ปราชญ์เทพทวีปปฐพี ปราชญ์เทพหยิงเห่า?
เขาที่ยังคงนั่งมองการต่อสู้อยู่? เป็นเขาจริง ๆ รึ?
ขณะที่สายตาของจงซานกำลังจะถอนกลับมา ทันใดนั้นปราชญ์เทพหยิงเห่าที่หยุดดื่มสุรา ทันใดนั้นก็หันหน้ามายังทิศทางของจงซานในทันที.
ขณะที่เขาหันหน้ามา อำนาจของปราชญ์เทพที่ผลักออกมาในทันที.
แม้ว่าจะมองไม่เห็นใบหน้า ทว่าจงซานสัมผัสได้ถึงดวงตาที่คลุมเครือนั่นได้.
ดวงตาที่ดูทรงพลัง แม้แต่เนตรเทียนฟายังดูธรรมดาไป สิ่งนี้เต็มไปด้วยอำนาจทำลายล้าง เพียงแค่สายตาที่กวาดมา เพียงพอที่จะทำให้ได้รับภัยพิบัติแล้ว.
ดวงตาของปราชญ์เทพดูน่าเกรงขามมาก แม้นว่าจะมองไม่เห็นชัด ทว่าก็บอกได้ว่าดูทรงพลังอหังการเท่าใด ประกายแสงที่ดุร้ายนั้น หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น คงทำให้ดวงวิญญาณหลุดลอยแตกสลายแล้ว.
บางทีเพราะว่าจงซานดวงวิญญาณไม่ได้หลุดลอยแตกสลาย ดังนั้นจึงทำให้ปราชญ์เทพหยิงเห่าเผยท่าทางสงสัย.
จงซานที่เห็นปราชญ์เทพหยิงเห่าพยักหน้าให้ ก่อนที่จะถอนสายตากลับมา.
ไม่ว่าอย่างไร การตรวจสอบความเป็นส่วนตัวของคนอื่น หากพบว่าฝ่ายตรงข้ามกระทำ แม้นว่าจะขออภัยแล้วก็ตาม ทว่าก็ไม่มีทางรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามคิดอะไร?ดังนั้นจึงต้องรีบถอนสายตากลับคืน.
จงซานที่ถอนสายตากลับมาแล้ว ด้านในม่านไม้ไผ่เวลานี้ ปราชญ์เทพหยิงเห่าที่ไม่ได้แสดงท่าทางสบาย ๆ อีกต่อไป.
เขาที่วางสุราลงแสดงท่าทางจริงจัง ก่อนที่จะจ้องมองมายังทิศทางของจงซานอีกครั้ง.
ภายใต้การตรวจสอบของเขา ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะมองผ่านเข้ามาได้ คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมองผ่านเข้ามาอย่างงั้นรึ? แม้แต่ปราชญ์เทพหยิงเห่ายังรู้สึกได้ถึงสายตาของอีกฝ่ายอย่างคาดไม่ถึง.
มองเห็นสายตาของเขา? เขาเป็นใคร?
"เซิ่งหวัง!"จินเผิงและคนอื่น ๆ ที่จ้องมองจงซานด้วยความสงสัย.
"เป็นปราชญ์เทพหยิงเห่าจริง ๆ อย่าได้ล่วงเกินเขา ข้ามองเขาก่อนหน้านี้ ทว่าเขารู้ตัว เป็นการเสียมารยาทก่อน เวลานี้ไม่ต้องมองไปยังทิศทางนั่นอีกต่อไป!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"
แม้ว่าทุกคนจะไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา ทว่าภายในใจที่รู้สึกหนักอึ้ง ไม่ใช่ว่าหวาดกลัว การที่ปราชญ์เทพได้มาปรากฎกายขึ้นที่นี่?
กล่าวได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับปราชญ์เทพ ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่.
ทุกคนที่ยังคงรอคอยเฝ้ามองการต่อสู้อย่างอดทนผ่านไปแล้วสองชั่วยาม.
เป็นความจริงดั่งที่อาวุโสอวิ๋นกล่าว ถึงแม้นว่าเสวียนหยวนจะเคลื่อนย้ายอำนาจวิถีสวรรค์ ทว่าในเวลานี้ก็หาได้ไร้เทียนทาน ธารโลหิตที่ดูทรงพลังขึ้นเรื่อย ๆ .
บรรพชนชราหมิงเห่อ ที่ปลดปล่อยอสูรโลหิตมากมายมหาศาล ราวกับไร้ที่สิ้นสุดออกมา!
จิตสังหารที่รุนแรงหนักหน่วงโชติช่วงปิดผืนฟ้าแทบจะปกคลุมเสวียนหยวน.
เสวียนหยวนที่คล้ายกับไม่สามารถควบรวมวิถีสวรรค์อีกต่อไป ทว่าเวลานี้วิถีสวรรค์ขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้นที่ด้านข้างของเขาในทันที.
วิถีสวรรค์ของเสวียนหยวนที่อ่อนแรงลงไม่น้อย.
ธารโลหิตที่ผสานวิถีสวรรค์ ก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังทิศทางของเสวียนหยวน เทวทูตมากมายที่พ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า.
เห็นเสวียนหยวนที่กำลังพ่ายแพ้.
ทว่าในเวลานั้น ดวงตาของเสวียนหยวนที่หรี่เล็กลง ดวงตาสีเงินที่ส่องประกายแสงสีเงินเข้มออกมา แสงสีเงินที่ปล่อยออกมานั้นส่องประกายแสงสีเงินสว่างวับวาว.
แสงสีเงินที่ปล่อยออกมาในครั้งเดียว ทำให้วิถีสวรรค์ของเสวียนหยวนส่องสว่างอีกครั้ง เทวทูตที่ขยายออกไปอีกครั้ง เข้าต่อกรกับอสูรโลหิตอย่างบ้าคลั่ง.
"ร่างขั้นสาม? คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีร่างกำเนิดโลกขั้นสาม!"เสียงของบรรพชนหมิงเหอที่ดังขึ้นมาจากด้านในธารโลหิต.
แสงสีเงินที่สว่างจ้าค่อย ๆ สลายหายไป ทุกคนที่ปรากฎเห็นเสวียนหยวนอีกครั้ง.
เสวียนหยวนที่มีปีกเหมือนกับก่อนหน้านี้ ทว่าเวลานี้มีวิถีสวรรค์สามเส้น คาดไม่ถึงเลยว่าจะปรากฎร่างที่เหมือนเขาขึ้นด้วย.
แยกร่างสามร่าง แต่พลังไม่ลดลงแม้แต่น้อย ซ้ำยังทรงพลัง มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมสามเท่าด้วย.
เทวทูตที่ขยายเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า แสงสีขาวที่ส่องสว่างมากกว่าเดิมสามเท่า พร้อมกับปล่อยลำแสงเข้าปะทะธารโลหิตอีกด้วย.
ก่อนหน้านี้เสียเปรียบ เวลานี้เริ่มสร้างแรงกดดันได้แล้ว.
"โฮกก!”
เหล่าเผ่าหมาป่าที่คำรามเชียร์เสียงดัง.
"ร่างขั้นสาม คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีร่างขั้นสาม!"อาวุโสอวิ๋นที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ดูเหมือนจะสามารถกำราบความอหังการของเหริ่นชุนได้แล้ว!"อาวุโสอีกคนที่เผยท่าทางตื่นเต้นดีใจ.
"ระวังบนท้องฟ้า!"อาวุโสอวิ๋นที่ไม่ได้ตื่นเต้นไปด้วย ซ้ำยังเปลี่ยนเป็นจริงจังอีกด้วย.
เป็นความจริง กุยเช่อบนอากาศที่เห็นเหริ่นชุนเสียเปรียบก็ไม่อยู่เฉย.
"กวีก ๆ ~~ ~~~~~~~~~!”
"กวีก ๆ ~~ ~~~~~~~~~!”
"กวีก ๆ ~~ ~~~~~~~~~!”
........................
............
......
เสียงของหงส์คำรามเก้าครั้ง ก่อนที่กุยเช่อจะปลดปล่อยปราณทมิฬออกมารอบ ๆ ในทันที ก่อนที่จะพุ่งตรงเข้ามาในสนามรบ.
"ไม่ได้การ เขาต้องการจัดการเสวียนหยวน!"อาวุโสคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ไม่สามารถให้เขาทำได้อย่างแน่นอน!"อาวุโสอีกคนเอ่ย.
"เจ้าออกไปขวางกุยเช่อ ตราบเท่าที่รั้งเอาไว้ให้เสวียนหยวนเอาชนะอีกฝั่ง ภัยพิบัติครั้งนี้ก็จะผ่านไปได้!"อาวุโสอวิ๋นที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"อาวุโสทั้งสองที่บินขึ้นไปบนอากาศอย่างรวดเร็ว.
"ตูมมม!“ ”ตูมมม!”........................
บนท้องฟ้าทิศตะวันตกเฉียงใต้ เกิดการระเบิดขึ้น ห้วงอากาศที่สั่นไหว กุยเช่อที่ต่อสู้กับอาวุโสหมาป่าสองคน.
"อาวุโสหมาป่าทั้งสอง ดูเหมือนว่าจะเพิ่งก้าวไปถึงเซียนบรรพชน ไม่ใช่คู่มือของกุยเช่อ!"จินเผิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"กุชเช่อนั้น เขาที่เป็นเซียนบรรพชนที่ร้ายกาจ ยังทรงพลังน่าเกรงขาม สองเซียนบรรพชนระดับต้นคงทำได้แค่มอง!"เต้าเหรินถูพยักหน้ารับ.
"จินเผิง เต้าเหรินถู!"จงซานเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เฉินอยู่นี่แล้ว!"
"ช่วยอาวุโสหมาป่าทั้งสอง จัดการกับกุยเช่อ!"