Chapter 1112 ศพปราชญ์เทพที่เหมือนกับเซียนเซิงซือ.
ดวงตาของศพปราชญ์เทพที่เปิดขึ้น ส่องประกายสีเขียว แผ่กลิ่นอายแห่งความตายออกมา ทำให้อาวุโสเทียนสั่นไหวขึ้นมาทันที.
อาวุโสเทียนที่เผยท่าทางหวาดหวั่นขึ้นมาในทันที ร่างกายที่ของเขาที่ถอยออกไป ไม่กล้าจ้องมองศพนั่นอีก.
ดวงตาของศพปราชญ์เทพที่ลืมขึ้น ทำให้เสียงแตรเขาสัตว์ที่ดังขึ้นก่อนหน้าหยุดลง.
พลังกดดันพลานุภาพสยบที่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับฟ้าสวรรค์และปฐพีจะหยุดนิ่ง โลงศพที่ปรากฎขึ้นบนทะเลน้ำพุเหลือง ทำให้คลื่นทะเลที่บ้าคลั่งนั้นหยุดลง เจตภูตบนอากาศที่บินอยู่หยุดลงในทันที ทว่าเจตภูตหลายตนที่อยู่ไกลออกไป ราวกับว่าสัมผัสถึงกลิ่นที่น่าเกรงขามไร้ที่สิ้นสุดก็เตรียมการจะหนี.
พื้นที่รอบ ๆ เหล่าเจตภูตที่ค่อย ๆ สลายหายไปช้า ๆ เจียงซือมากมายของเซียนเซิงซือที่ร่อนลงพื้น พร้อมกับคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เผยความเคารพต่อศพปราชญ์เทพ.
เจตภูตที่อยู่รอบ ๆ หลังจากถูกแรงกดดันพลานุภาพมหาศาลสะกด หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นเทิดทูนศพปราชญ์เทพ.
อาวุโสเทียนที่เผยท่าทางหวาดผวาตื่นตระหนกลอบมองอยู่ด้านหลังเซียนเซิงซือ.
เซียนเซิงซือที่จ้องมองไปยังโลงศพด้วยสายตาไม่แยแส.
"กึก!"แขนที่ซีดจางยื่นออกมาจากโลงศพ พร้อมกับวางมือที่ขอบโลงศพ.
ศพปราชญ์เทพในชุดที่ดูหรูหราสีดำเงาลุกขึ้นนั่ง.
บนศพของปราชญ์เทพ กลิ่นอายที่เก่าแก่แต่ บรรพกาลแผ่ออกมา อำนาจที่ทำให้พื้นที่รอบ ๆ หวั่นไหวอย่างไร้เหตุผล กลิ่นอายที่ดูตึงเครียดตลบอบอวลไปทั่ว.
แม้แต่อาวุโสเทียนยังรู้สึกว่าแม้แต่กงซูจื่อยังไม่ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ตึงเครียดได้ขนาดนี้.
ศพปราชญ์เทพที่ลุกขึ้นยืนช้า ๆ ก้าวออกจากโลงศพ ทั่วร่างส่องประกายแสงสีขาวออกมา.
ร่างของศพปราชญ์เทพบินขึ้นบนอากาศ พร้อมกับกวาดตามองพื้นที่รอบ ๆ ทำให้พื้นที่ในรัศมี หนึ่งแสนลี้ ไม่มีเจตภูตตนใหนเข้าใกล้.
ดวงตาสีเขียวที่ส่องประกาย ศพปราชญ์เทพที่เงยหน้าขึ้นบนท้องฟ้า.
"โฮกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ศพปราชญ์เทพที่เงยหน้าขึ้นคำราม เสียงที่ราวกับทำให้ท้องฟ้าแยกออกเป็นสองส่วน ห้วงมิติที่กำลังสั่นไหวเป็นระลอกคลื่นกระจายออกไป.
จากนั้น บนท้องฟ้าที่กลายเป็นหลุมน้ำวนขนาดใหญ่ขึ้น ก่อนที่ปราณสวีมากมายจะผุดออกมา ปราณสวีที่น่าสะพรึงเป็นอย่างยิ่ง หมุนวนอยู่บนท้องฟ้าบนศีรษะของศพปราชญ์เทพ.
กลิ่นอายที่มีเพียงปราชญ์เทพถือครองกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แรงกดดันผลานุภาพสยบที่มากขึ้นเรื่อย ๆ .
ทันใดนั้น ภายในภพหยาง ก็ปรากฎเสียงคำรามก้องไปทั่ว อำนาจของศพปราชญ์เทพทำให้เจตภูตทุกตนหยุดนิ่งไปในทันที.
"แกร่ง! แกร่ง! แกร่ง!"
เซียนเซิงซือที่สั่นกระดิ่งเบา ๆ .
บนอากาศ ศพปราชญ์เทพที่น่าเกรงขามสั่นไปมา.
จากนั้น เกิดเรื่องที่แปลกประหลาดศพปราชญ์เทพที่กวาดตามองลอบ ๆ ขณะจ้องมองลงมายังเซียนเซิงซือ.
ใบหน้าของเซียนเซิงซือและศพปราชญ์เทพเหมือนกันมาก ๆ อาวุโสเทียนที่ยืนอยู่ด้านหลังเซียนเซิงซือ ภายในใจที่เย็นยะเยือบ เพราะว่าดวงตาของศพปราชญ์เทพนั้นทรงพลังร้ายกาจเกินไป ไม่กล้าแม้แต่สบตามอง.
แน่นอนว่า ดวงตาของปราชญ์เทพคนอื่นนั้นอาวุโสเทียนไม่เคยเห็น ต้องไม่ลืมว่าตัวตนของปราชญ์เทพนั้น ทุกคนไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน.
ทว่าใบหน้าของศพปราชญ์เทพเวลานี้สามารถมองเห็นได้ดูเหมือนกับเซียนเซิงซือมาก เวลานี้พวกเขากำลังจ้องมองกันและกัน ทำให้เกิดความรู้สึกที่แปลกประหลาด แม้แต่อาวุโสเทียนเวลานี้ยังรู้สึกหวั่นเกรงต่อเซียนเซิงซือ.
อาวุโสเทียนเพียงแค่รู้ว่าเซียนเซิงซือสามารถควบคุมศพได้ ก่อนหน้านี้มีศพหลากหลายประเภทที่ช่วยงานจงซาน ทว่าในวันนี้เวลานี้ คาดไม่ถึงเลยว่าเขายังมีพลังอำนาจในการควบคุมหุ่นเชิด บางทีการควบคุมของเขานั้นไม่ต่างจากการควบคุมหุ่นเชิด ที่หลอมขึ้นมาจากสุดยอดผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่ง.
ในเวลานี้ อาวุโสเทียนไม่กล้าประเมินเซียนเซิงซือต่ำอีกแล้ว สิ่งที่เขาเห็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ใต้สวรรค์แห่งนี้มีหลายคนที่ไม่สามารถใช้พลังฝึกตนในการวัดความแข็งแกร่งได้ ศพปราชญ์เทพรึ? คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถควบคุมศพปราชญ์เทพได้? น่าเกรงขามเกินไปแล้ว!
ศพปราชญ์เทพ อาวุโสเทียนที่จ้องมอง สัมผัสได้ถึงแรงกดดันอำนาจที่ยิ่งใหญ่โถมทับลงมา ทว่าในเวลานี้ เซียนเซิงซือกลับกำลังควบคุม แม้แต่ศพปราชญ์เทพที่จ้องมองลงมา ดวงตาของเซียนเซิงซือเวลานี้ยังแผ่แสงอำนาจที่น่าเกรงขามออกมาได้ด้วยเช่นกัน.
ปากของเซียนเซิงซือที่กำลังร่ายอาคมที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ ดวงตาที่ส่องประกายเงาความมืด แววตาที่ดุร้ายจดจ้องมองศพปราชญ์เทพที่อยู่ตรงข้าม.
ใบหน้าของศพปราชญ์เทพที่เผยความโกรธเกรี้ยวออกมาราวกับว่ากำลังถูกเซียนเซิงซือยั่วยุ.
ใบหน้าที่เหมือนกันเป็นอย่างมากทั้งสองที่กำลังจ้องมองกันและกัน.
เซียนเซิงซือยังคงบริกรรมคาถา ส่วนอาวุโสเทียนยืนอยู่ด้านกลัง ไม่กล่าวอะไร รับรู้ว่าเวลานี้ทั้งสองที่เหมือนกับกำลังเดิมพันกันอยู่.
เซียนเซิงซือต้องการควบคุมศพปราชญ์เทพ ส่วนศพปราชญ์เทพเองก็กำลังดิ้นรนจากการควบคุมเซียนเซิงซือ.
ใบหน้าของอาวุโสเทียนที่กระตุก หลังจากที่ตัวเองได้รับการช่วยเหลือจากเทียนเสิ่นจื่อ ทำให้พลังฝึกตนก้าวไปถึงระดับเซียนโบราณ ก็ทำให้ตัวเองพึงพอใจแล้ว ทว่าเวลานี้ตัวเองกับด้อยกว่าเซียนเซิงซือมาก จนเทียบกันไม่ได้เลย.
แน่นอน เพราะว่าผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยของตระกูลเทียน ล้วนแต่เป็นตัวตนระดับสูง หากไม่เพราะว่าค่ายกลน้ำพุเหลืองหยินหยางพลิกกลับ อาวุโสเทียนก็มั่นใจว่าจะไม่พ่ายแพ้ใคร.
"โฮก!"ศพปราชญ์เทพ.
"โฮกก!"เซียนเซิงซือที่คำรามออกมาเช่นเดียวกัน.
อาวุโสเทียนพบว่าเสียงคำรามของทั้งสองเหมือนกันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นคลื่นเสียง ความยาวเสียงที่ราวกับคัดลอกกันออกมา.
หลังจากที่ทั้งสองคำรามออกมาด้วยเสียงที่เหมือน ๆ กัน ศพปราชญ์เทพคาดไม่ถึงเลยว่าจะเปลี่ยนเป็นสุขุม ไม่ต่อต้านเซียนเซิงซืออีกต่อไป ใบหน้าที่เผยท่าทางเฉยเมยออกมา.
เซียนเซิงซือที่สั่นกระดิ่งเบา ๆ ศพปราชญ์เทพที่หันหลังกลับ ยอมให้เซียนเซิงซือควบคุมโดยสมบูรณ์.
"อาวุโสเทียน เขาสามารถควบคมเจตภูตได้เป็นจำนวนมาก พวกเราไปค้นหาผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยต่อ!"เซียนเซิงซือเอ่ย.
"เป็นเป็นปราชญ์เทพจริง ๆ รึ?"อาวุโสเทียนที่ไม่อยากเชื่อเท่าใดนัก.
"ในอดีตคือปราชญ์เทพ ตอนนี้เป็นเพียงศพ มีเพียงแค่กลิ่นอายที่น่าสะพรึงหลงเหลือ ทว่าความแข็งแกร่งนั้นยังเทียบปราชญ์เทพไม่ได้!"เซียนเซิงซือส่ายหน้าไปมา.
เพียงแค่กลิ่นอายอย่างงั้นรึ? อาวุโสเทียนไม่อยากเชื่อนัก ทว่าก็ไม่ถามอะไรต่อไป.
"ดี ควบคุมเจตภูตจำนวนมาก ก็ง่ายที่จะทำ ค่ายกลฐานน้ำพุเหลืองนั้น อยู่ในทะเลน้ำพุเหลือง ตราบเท่าที่เราค้นหาชีพจรค่ายกล เส้นโลหิตค่ายกล ที่ควบคุมเจตภูต ข้าคิดว่าจะสามารถค้นหาผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยฝ่ายตรงช้ามได้!"อาวุโสเทียนที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"ดี!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
-----------------------------------------------------------------------
ภพหยาง อาณาเขตน้ำพุเหลือง.
เส้นทางบรรจบของน้ำพุเหลือง เวลานี้มีเจตภูตจากภพหยินมากมายผุดออกมา เวลานี้กลายเป็นความวุ่นวายโกลาหลไปแล้ว.
เจตภูตที่มากขึ้นและก็มากขึ้น อีกทั้งยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แม้นว่ากลุ่มของจงซานเวลานี้จะพบเจอกับระดับเซียนโบราณเท่านั้น ทว่าก็มาไม่ขาดสาย สังหารไปเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหมดเลยแม้แต่น้อย.
กลุ่มของจงซานยังคงถอยเพื่อไปยังทางออก และระวังพื้นที่รอบ ๆ ด้วย.
จินเผิงและเต้าเหรินถูคอยปกป้อง เหวี่ยงง้าวและดาบสังหารเจตภูตไม่หยุด ขณะถอยออกไป.
"เซิ่งหวัง ไม่ว่าจะไปทางใหนก็เต็มไปหมด ซ้ำยังมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย อีกไม่นาน พวกเราคงไม่สามารถขยับได้แน่ เฉินคาดเดาได้ว่ามันปกคลุมทั่วอาณาเขตน้ำพุเหลือง หากเป็นเช่นนี้ไม่ว่าจะหนีไปที่ไหนก็เปล่าประโยชน์.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
"จินเผิง เช่นนั้นค้นหาหุบเขา ตั้งเป็นฐานที่มั่นชั่วคราว.
"รับทราบ!"จินเผิงที่ตอบรับในทันที.
จากนั้นไม่นาน จินเผิงก็ค้นพบหุบเขาขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ก่อนที่จะเร่งรีบสร้างค่ายกลปกคลุม ปกปิดพื้นที่ดังกล่าว คลุมท้องฟ้า เพื่อเป็นที่มั่นชั่วคราว.
"ทำไมพวกเราไม่หนี!"เนี่ยชิงชิงที่เอ่ยออกมาด้วยความกังวล.
"ไม่สามารถหนีได้ บนพื้นที่เส้นทางน้ำพุเหลือง ไม่ว่าไปที่ใหนก็เหมือนกัน กล่าวอีกอย่างหนึ่ง เหล่าเจตภูตมีอยู่ทุกที่ ยิ่งเราเคลื่อนที่ บางทีอาจจะเข้าปะทะกับเจตภูตที่น่าหวาดกลัวเข้า แม้นว่าจะไม่ได้หวาดกลัว ทว่าก็ไม่จำเป็นต้องลงมือต่อสู้ให้เสียเปล่า.
"แล้วพวกเราจะทำอย่างไรดี?"เห่าเม่ยลี่ที่แสดงท่าทางกังวล.
เห่าเม่ยลี่ที่มีวิชาคำสาปที่ไม่ว่าไปที่ใหนก็ราบรื่น ทว่ากับสถานการณ์ในเวลานี้ กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ฟ้าดินผันแปร คำสาปของนางใช้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย.
"รอ!"จงซานที่กล่าวออกมาดอย่างเคร่งขรึม.
"อะไรนะ?"
"เซียนเซิงซือและอาวุโสเทียนจะได้รับชัยชนะ!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"พวกเขารึ? มั่นใจอย่างงั้นรึ?"เนี่ยชิงชิงที่ดูไม่ค่อยอยากเชื่อนัก.
"แน่นอน "จงซานที่กล่าวยืนยันหนักแน่น.
ดังนั้น กลุ่มของจงซานจึงหยุดชั่วคราว เต้าเหรินถูและจินเผิงทั้งสองที่ผลัดเปลี่ยนเวรกันคนละสองชั่วยาม เพื่อจัดการเหล่าเจตภูตที่แข็งแกร่ง ส่วนเจตภูตที่อ่อนแอนั้นไม่สามารถทะลวงผ่านค่ายกลเข้ามาได้!
ในเวลาเดียวกันนั้น เต้าเหรินถูที่ออกไปจัดการเจตภูต จินเผิงที่นั่งพักผ่อนบำเพ็ญลมหายใจด้านใน.
ส่วนจงซานและคนอื่น ๆ เองก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา ยังคงรอคอยอย่างเงียบ ๆ .
ทันใดนั้น จินเผิงที่ลืมตาขึ้นในทันที ร่างกายผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว!
"มีอะไร?"เห่าเม่ยลี่ที่อุทานออกมา.
"มีเซียนบรรพชนมา และต่อสู้กับเต้าเหรินถูอยู่!"จินเผิงที่เอ่ยออกมาในทันที.
จินเผิงที่ก้าวออกไปในทันที ชัดเจนว่าออกไปช่วยเต้าเหรินถู.
"เซียนบรรพชน?"ทุกคนที่กลายเป็นงงงวย.
จงซานที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ จ้องมองขึ้นไปด้านนอกอย่างไม่แยแส ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่อยู่ข้าง ๆ จงซาน.
ที่ด้านนอกนั้น มีเสียงของเจตภูตที่ดังโหยหวนมากขึ้นและก็มากขึ้น และเริ่มมีเจตภูตมากมายเข้าโจมตีค่ายกล ทำให้เนี่ยชิงชิงและเทียนหลิงเอ่อหวาดหวั่น ขณะเข้าไปอยู่ข้าง ๆ จงซาน.
"จินเผิงและเต้าเหรินถูสู้กับเซียนบรรพชนอยู่รึ? ทำไมถึงได้นานเช่นนี้?"เห่าเม่ยลี่ที่เผยท่าทางร้อนใจ.
"ตูมมมมม!”
ที่ไกลออกไปนั้น จงซานที่มองไปยังท้องฟ้าที่มืดครึ้ม ก่อนที่จะสามารถมองเห็นศัตรูได้.
"ไม่ใช่เจตภูตเซียนบรรพชนอย่างงั้นรึ?"เห่าเม่ยลี่ที่เอ่ยออกมาในทันที.
"เป็นเทียนฉู่!"หวังจิงเหวินที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
เป็นความจริง เทียนฉู่ จินเผิงและเต้าเหรินถูที่ต่อสู้กันอยู่ ทั้งสามที่อยู่ในวิถีสวรรค์.
พลังกระแทกเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ห้วงมิติที่สั่นไหวอย่างรุนแรง จินเผิงและเต้าเหรินถูที่เป็นนักรบที่บ้าคลั่ง แน่นอนย่อมไม่หวาดกลัวเทียนฉู่.
"จินเผิง เจ้าไม่ต้องลงมือ ให้ข้าเอง!"เต้าเหรินถูที่เอ่ยออกมา.
จินเผิงไม่ลงมืออีกต่อไป ทว่าบินไปรอบ ๆ จัดการเจตภูตที่อยู่รอบ ๆ ในทันที.
ที่ไกลออกไปนั้น เต้าเหรินถูและเทียนฉู่ต่อสู้กัน เต้าเหรินถูที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร แม้แต่ดึงแรงอาฆาตจากเจตภูตจากพื้นที่รอบ ๆ มาใช้ด้วย ทำให้สามารถเพิ่มพลังให้กับวิถีสวรรค์ตัวเอง อำนาจของดาบโลหิตที่ฟุ้งกระจายพร้อมกับเข้าโจมตีวิถีสวรรค์สีเงินของเทียนฉู่.
"ตูมมมมม!"
วิถีสวรรค์ของเทียนฉู่ที่สั่นไปมา.
ทว่าเทียนฉู่นั้นสู้พลางถอยพลาง คอยจับจ้องมองหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ ดวงตาของเต้าเหรินถูที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.
เต้าเหรินถูนั้น มีประสบการณ์ในการต่อสู้มากมาย มีรึจะเผยจุดอ่อน?
"ซี่!"
ดาบโลหิตของเขาที่ฟันอะไรบางอย่าง เป็นร่างของเทียนฉู่ที่ถูกฟันขาดครึ่ง!