Chapter 1111 สวรรค์ที่ไร้ประตูและเส้นทาง.
ท้องฟ้าในเวลานี้ที่มีเมฆทมิฬมากขึ้นเรื่อย ๆ กัวซือฝูที่พบเข้าในทันที เหล่าศิษย์ของกงซูจื่อเองก็พบความผิดปรกติเช่นนั้น ทุกอย่างเริ่มกลายเป็นวุ่นวายเล็กน้อยแล้ว.
กัวซือฝูที่โบกมือ เหล่าคนของต้าหลี่มากมายก็กระจายไปทั่วทุกสารทิศ ส่วนคนของกงซูจื่อในเวลานี้ก็เช่นกันเริ่มค้นหาความผิดปรกติแล้ว.
จงซานที่ราวกับว่าจะรับรู้ได้ในทันที เขาจ้องมองไปยังค่ายกลฮวงจุ้ยทิศใต้ รู้สึกราวกับว่าเส้นทางน้ำพุเหลืองนั้นถูกค่ายกลปกคลุมอยู่ ปราณทมิฬเริ่มปะทุเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ราวกับว่าต้องการเปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นหนึ่งในค่ายกลฮวงจุ้ย.
อีกฝั่ง เทียนฉู่ที่สั่งการเหล่าผู้เยาว์ตระกุลเทียน โบกมือให้มาอยู่ใต้บัลลังก์ก่อนที่จะปรากฎแสงสีเงินขึ้นปกคลุมพื้นที่บัลลังก์ของตัวเอง พื้นที่รอบ ๆ ส่องประกายแสงเรื่อ ๆ สีเงินออกมา.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังเทียนฉู่ ทุกคนต่างก็ไม่เข้าใจเทียนฉู่มีแผนการร้ายอะไร!
ปราณทมิฬที่หนาขึ้นเรื่อย ๆ มากขึ้นและก็มากขึ้น เมฆสีดำเองก็เช่นกัน เพียงแค่ครึ่งชั่วยามเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ปกปิดท้องฟ้า แดนเทวะกงซูเวลานี้กลายเป็นมืดครึ้มในทันที.
เมฆที่มืดครึ้มยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ กระจายออกไปรอบ ปราณปิศาจที่ดูเหมือนว่าจะมากขึ้นด้วย เหล่าผู้ฝึกตนที่มีพลังฝึกตนต่ำเวลานี้หัวใจเต็นไปมาไม่เป็นจังหวะ.
กัวซือฝูที่ปล่อยคลื่นพลังพุ่งออกไปบนท้องฟ้า กวาดล้างเมฆบนอากาศ เกิดเสียงดังสนั่น เมฆสลายหายตัวไป ทว่าเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น จากนั้นก็กลับมารวมกันใหม่และยังหนากว่าเดิมด้วย.
ฟ้าดินเปลี่ยนแปลงเป็นดำมืด ทำให้ทุกคนขนลุกพร้อม ๆ กัน.
ในเวลานั้น บนท้องฟ้าที่ดำมืด ปรากฎเมฆสีเหลืองขึ้นในทันที!
เมฆสีเหลือง? หมายความว่าอย่างไร?
"ตูมมม!“”ตูมมม!“”ตูมมม!”..........................................
ภายในเมฆสีเหลืองนั้น มีเจตภูตมากมายที่กำลังร่วงหล่นลงมา มันมาจากภพหยิน เจตภูตที่น่าหวาดกลัวปรากฎตัวแล้ว.
"อ๊ากกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~! ”
เสียงโหยหวนดังขึ้น ภายในสภาพแวดล้อมที่มืดมิด มีบางคนถูกเจตภูตสังหารไปแล้ว.
"เปิดค่ายกลกงซู!"เสียงจากพื้นที่ไกลออกไปดังขึ้น.
"นักรบต้าหลี่ เตรียมเข้าปะทะศัตรู!"กัวซือฝูออกคำสั่ง.
เมฆสีเหลืองที่ปรากฎขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนสามารถมองเห็น ที่ด้านในนั้นปรากฎลมหนาวเย็นยะเยือกแผ่ออกมา.
บนเส้นทางน้ำพุเหลืองนั้น มีอะไรบางอย่างร่วงหล่นลงมา จากนั้นบนอากาศ เจตภูมิมากมายก็ถูกปล่อยออกมา ปิศาจร้ายที่บ้าคลั่ง ปิศาจที่ไร้เชาว์ปัญญาจากภพหยิน กลับมาปรากฎที่นี่ ปิศาจร้ายที่ทำลายทุกสิ่งมีชีวิต กำจัดทุกอย่างให้สลายหายไปด้วยความกระหายโลหิต.
เสียงโหยหวนที่ดังขึ้นทุกที่ การต่อสู้ที่น่าสะพรึงเกิดขึ้นมาแล้ว.
"ถอยก่อน!"กัวซือฝูที่ตะโกนออกมาในทันที.
ทันทีที่กัวซือฝูสั่งการ เหล่านักรบต้าหลี่ถอยกลับมารวมกันในทันที เตรียมที่จะหนีออกจากที่นี่.
ทว่าในเวลานี้ ภายใต้เมฆที่มืดมิด ราวกับว่าไร้ที่สิ้นสุด ไม่มีใครรู้ว่ามันยืดยาวออกไปมากมายขนาดใหน.
เจตภูตมากมายที่เริ่มผุดออกมาจากน้ำพุเหลืองมากขึ้นและก็มากขึ้น ร่วงหล่นจากท้องฟ้าไม่หยุดเช่นกันซึ่งพื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยเจตภูตที่แข็งแกร่ง.
การถอยออกมา ไม่เพียงไม่คืบหน้า ยังกลายเป็นเสี่ยงอันตรายที่จะหลงทิศอีกด้วย.
จากบนอากาศเส้นทางน้ำพุเหลือง เจตภูตมืดฟ้ามัวดินออกมาไม่หยุด พื้นที่รอบ ๆ เหล่าเจตภูตไล่ล่าสังหารสิ่งมีชีวิตในทันที.
จากบนท้องฟ้าที่เหมือนกับไร้ซึ่งประตู ท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง กลายเป็นสวรรค์ที่ไร้ประตูและเส้นทาง เวลานี้ทำได้แค่หนีเท่านั้น ผู้คนมากมายที่หลบหนี หลายคนที่หลงทิศ จมอยู่ในความมืด ถูกเจตภูตมากมายสังหารไป แม้แต่กองทัพขนาดใหญ่ก็ยังยากที่จะต้านทาน ราวกับภัยพิบัติที่น่าสะพรึงได้มาเยือน.
กัวซือฝูในเวลานี้ ทำได้แค่ปกป้องเหล่าคนสำคัญของต้าหลี่ การจะปกป้องทุกคนเอาไว้นั้น แทบเป็นไปไม่ได้.
แทบจะในทันที อาณาเขตน้ำพุเหลืองได้จมลงสู่ความวุ่นวาย กลายเป็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ อสุรกายปิศาจปรากฎขึ้นทุกแห่งหน.
กลุ่มของจงซานที่แยกจากกลุ่มของกัวซือฝู.
เป็นจงซานที่จงใจทำเช่นนั้น จงซานต้องการปกป้องคนที่ใกล้ชิดเท่านั้น ภายใต้ความวุ่นวายนี้ ยากที่จะปกป้องทุกคนได้ นอกจากนี้ยิ่งอยู่ในกลุ่มคนที่กระจายไปทั่ว หลิงเอ๋อและคนอื่น ๆ ก็จะยิ่งได้รับอันตราย เพราะว่าไม่รู้ว่าเจตภูตที่ดุร้ายนั้นมาจากทิศใด.
นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของเจตภูตเองก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลานี้ จงซานสามารถมองเห็นได้ว่ามันมีระดับเซียนโบราณแล้ว.
อย่างไรก็ดี เซียนบรรพชนนั้นยังมีทักษะสร้างโลกเขตแดนและนำคนอื่นเข้าไปอยู่ด้านใน ทว่าเมื่อสร้างโลกเขตแดนแล้ว ก็จะมองไม่เห็นด้านนอก การจะถูกทะลวงจากเจตภูตที่น่าเกรงขามนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เมื่อโลกเขตแดนพังทลาย ไม่เพียงแต่ทุกคนจะได้รับอันตราย จิตวิญญาณของตัวเองก็ได้รับอันตรายด้วย.
ดังนั้นแล้ว ถึงแม้นว่ากัวซือฝูจะทรงพลังขนาดใหน ในเวลานี้ก็ไม่กล้าใช้ทักษะโลกเขตแดนของตัวเองออกมา.
"เซิ่งหวัง!"
ก่อนหน้านี้เต้าเหรินถูซ่อนตัวอยู่ในเขตแดนแม่น้ำเหลืองเพื่อรอจงซาน และจินเผิงที่กลับไปแจ้งข่าวและมอบดาบปิงเสวี๋ยคืนให้ พร้อมกับนำเขาออกมา.
เมื่อเต้าเหรินถูเห็นจงซาน แววตาที่ส่องประกายด้วยความเคารพ เต้าหรินถูแม้นว่าก่อนหน้านี้ที่รู้สึกหัวใจแทบสลาย แม้นว่าจงซานจะใช้เรื่องนี้บีบบังคับเขา ก็ยังทำให้เขาเคารพจงซานเช่นเดิม.
กลุ่มของจงซานในเวลานี้ มีจงซาน จินเผิง เต้าเหรินถู หวังจิงเหวิน เห่าเม่ยลี่ เนี่ยชิงชิง มังกรน้อยเสี่ยวจินและเทียนหลิงเอ๋อ ภายในใจของจงซานที่ต้องการดูแลคนเพียงเท่านี้ ส่วนคนอื่น ๆ นั้นเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้.
"จินเผิง เต้าเหรินถู กวาดตามองพื้นที่รอบ ๆ ให้ดี อย่าให้เจตภูตตนใดเข้ามาใกล้พวกเรา!"จงซานที่เอ่ยสั่งการในทันที.
"รับทราบ!"ทั้งสองที่รับคำในทันที.
ในเวลานี้ เจตภูตมากมายที่ร่วงหล่นลงมาจากเมฆสีเหลือง ก่อนที่จะคลุ้มคลั่งกระจายไปทั่ว สายตาของมันที่แดงซาน พุ่งมายังตำแหน่งของเนี่ยชิงชิง.
"ตูมมมม!”
ง้าวฟางเทียนฮวาจีที่ตวัดออกไป สังหารเจตภูตพร้อมกันหลายตัว เกิดระเบิดเป็นระยะ ๆ !
"เซิ่งหวัง มีเจตภูตมากเกินไป ไม่สามารถจัดการได้ทั้งหมด พวกเราแทบจะถอยออกไปไม่ได้ ตอนนี้ทำอย่างไรดี?"เต้าเหรินถูกล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
"พยายามถอยออกมาให้ได้มากที่สุด!"จงซานเอ่ย.
"รับทราบ!"
อีกฝั่ง กลุ่มของศาลเทพต้าหลี่ และฝั่งของศิษย์กงซูจื่อเวลานี้แตกกระจายออกไปรอบ ๆ เจตภูตที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ฝึกตนภายในลานที่กระจายหายไปอย่างรวดเร็ว.
ที่มุมหนึ่ง เหล่าคนของตระกูลเทียนที่ยังคงสงบนิ่งไม่เดือนร้อนใด ๆ .
เหล่าคนของตระกูลเทียน ดูเหมือนว่าจะมีค่ายกลที่ผิดปรกติ ตราบเท่าที่เจตภูตเข้ามาใกล้ พวกมันก็จะบินหนีหายไปไม่เข้ามาใกล้ ดังนั้นสถานที่คนของตระกูลเทียนจึงปลอดภัย.
"พวกเจ้าป้องกันที่นี่เอาไว้! รอให้ข้ากลับมา!"เทียนฉู่ที่นั่งบนบัลลังก์ก่อนจะลุกขึ้นทันที.
"รับทราบ!"เหล่าผู้เยาว์ตระกูลเทียนที่ตอบรับ.
จากนั้นเทียนฉู่ก็หายไปพุ่งตรงเข้าไปในโลกที่บ้าคลั่ง มุ่งไปยังทิศทางหนึ่งเป็นทิศทางที่จงซานจากไปนั่นเอง!
--------------------------------------------------------------------------
เขตแดนน้ำพุเหลือง หยินหยางพลิกกลับ.
อาวุโสเทียนและเซียนเซิงซือที่ยังก้าวเข้ามาด้านในของภพหยิน.
ลึกเข้ามาในภพหยิน ต้นน้ำของน้ำพุเหลือง.
สถานที่แห่งนี้มีเทือกเขาสีดำทะมึน อาวุโสเทียนและเซียนเซิงซือที่ไปยืนอยู่ที่ตรงนั้น พร้อมกับกวาดตามองพื้นที่รอบ ๆ .
บนภูเขาแห่งหนึ่ง มีเสียงการต่อสู้กันดังกึกก้อง.
ภายในหุบเขาแห่งนั้น มีโลกศพหลายพัน ที่ด้านในนั้นมีปราณที่ดุร้ายบ้าคลั่ง เซียนเซิงซือที่โบกมือ ส่งโลงศพสิบโลงลอยขึ้นมาจากพื้นดิน ก่อนที่จะใช้วิชาลับบางอย่างถอนตะปูสองร้อยดอกออกมาในทันที.
เซียนเซิงซือที่นำกระดิ่งออกมา ก่อนที่จะสั่นเบา ๆ โลงศพทั้ง 200 ปรากฏร่างเจียงซือสองร้อยตน พุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง.
ด้วยความเร็วที่มากมาย จนแม้แต่เจตภูตไม่สามารถตามทันได้.
จากนั้นเจียงซือที่ควบคุมเจียงซือหลายพันพุ่งตรงบุกไปด้านหน้า.
ทว่าพื้นที่รอบ ๆ นั้นมีเจตภูตมากมาย ปกคลุมทั่วท้องฟ้า แม้แต่รวมตัวกันให้กลายเป็นตัวตนที่ใหญ่โตขึ้น แม้นว่าเซียนเซิงซือจะมีเจียงซือหลายพันตน ทว่าศัตรูกลับมีจำนวนมหาศาลย่อมไม่สามารถทนได้เช่นกัน.
ใต้สวรรค์แห่งนี้มีเส้นทางน้ำพุเหลืองสามแห่ง แต่ละแห่งนั้นแตกต่างกันออกไป.
สถานที่แห่งนี้มีเจตภูตมากมาย และยังมีตัวตนที่น่าเกรงขาม ทรงพลังเป็นอย่างมาก เต็มไปด้วยความดุร้ายที่พร้อมเข้ามาทำร้ายทุกคนโดยไร้ซึ่งลังเล.
เจตภูตเหล่านี้ทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ เวลานี้ใบหน้าของอาวุโสเทียนที่เปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์มากขึ้นเช่นกัน.
"เซียนเซิงซือ ข้าได้ยินมาว่าสถานที่แห่งนี้มีเศษกระดูกมากมายของอสุรกายปิศาจ แม้แต่เซียนบรรพชนบางคนที่เข้ามาที่นี้ยังต้องตกตายไป ภายในสถานที่แห่งนี้มีเจตภูตที่แข็งแกร่งมาก เมื่อเส้นทางหยินหยางถูกปรับเปลี่ยน สถานที่แห่งนี้ก็จะยิ่งอันตรายมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ฝึกตนฮวงจุ้ย บางทีพวกเราจะถูกสังหารไปอย่างรวดเร็วเลยก็ได้!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.
เป็นความจริงในเวลานี้เหล่าเจตภูตที่ทรงพลังแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น จนแม้แต่เริ่มทำลายเจียงซือของเซียนเซิงซือได้แล้ว.
ทั้งที่เจียงซือก่อนหน้านี้สามารถสังหารพวกมันได้เพียงการโจมตีเดียว.
เซียนเซิงซือที่กวาดตามองจดจ้องมองอย่างไม่แยแส พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล "โปรดวางใจ มีข้าอยู่!"
ระหว่างที่กล่าวนี้ เซียนเซิงซือเริ่มร่ายอาคมบางอย่างออกมา ยากที่จะกล่าวอะไร ปราณทมิฬมากมายที่พวยพุ่งขึ้นก่อนที่จะตรงดิ่งมายังทิศทางหน้าผากของเซียนเซิงซือ.
ที่หน้าผากของเซียนเซิงซือเวลานี้ปรากฎรอยแยกออกมา.
ใบหน้าของอาวุโสเทียนที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน นี่มัน วิชาลับอะไร?
หน้าผากของเขาที่ขยายกว้างใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นก็ปรากฎโลงศพใหญ่ยักษ์ที่ผุดออกมาจากด้านใน.
อาวุโสเทียนที่แววตาสั่นไปมา "นี่มัน ไม่ใช่ว่า คือโลงศพม่วงที่บรรจุศพทงเทียน ในโลกใบเล็กหรอกรึ?"
เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ ทว่าไม่ได้คิดจะอธิบายอะไรออกมา.
โลงศพยักษ์สีม่วง ที่ปล่อยกลิ่นอายสยบพื้นที่รอบ ๆ เอาไว้ในทันที.
เซียนเซิงซือที่ค่อย ๆ เปิดฝาของโลงศพออกมาเบา ๆ อย่างนุ่มนวล.
ขณะที่เปิดฝาของโลกศพออกมานั้น ราวกับว่าได้ยินเสียงแตรเขาสัตว์ดังขึ้นมาดังกึกก้องไปทั่วสวรรค์และปฐพี.
“!”
เสียงที่ดูมืดมนขมุกขมัว เคร่งขรึมน่าหวาดหวั่น.
เมื่อโลงศพเปิดออก อาวุโสเทียนที่ลอบมองเข้าไปด้านใน ปราณทมิฬที่อบอวลหนาแน่นอัดกันอยู่ด้านใน ก่อนที่จะรวมตัวเป็นศพ ๆ หนึ่ง ศพดังกล่าวนั้นสวมชุดที่ดูหรูหราอลังการ ส่องประกายเงาสีดำออกมา.
มือทั้งสองข้างที่ขยับเล็กน้อย บนศีรษะสวมมงกุฎหยกสีดำ ดูเหมือนกับว่ามีสถานะที่ไม่ธรรมดา ใบหน้าที่ดูขาวซีด ไม่มีริ้วสีแดง ดวงตาที่หลับลงทว่าแผ่ปราณความตายอย่างบ้าคลั่งออกมา.
นี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญที่อาวุโสเทียนเห็นใบหน้าดังกล่าวนั่น ใบหน้านี้......
อาวุโสเทียนที่เผยท่าทางตื่นตระหนกออกมาเหมือนกับเซียนเซิงซือยิ่งนัก หากไม่เพราะว่าเซียนเซิงซือยืนอยู่ตรงนี้ อาวุโสเทียนต้องคิดว่านี่คือศพของเซียนเซิงซืออย่างแน่นอน.
มีศพที่เหมือนกับเซียนเซิงซือขนาดนี้ด้วยอย่างงั้นรึ?
ทว่ากลิ่นอายที่ปล่อยออกมาจากศพนั้น ทำไมถึงได้ดูยิ่งใหญ่น่าประหลาดใจ กลิ่นอายนี้ อาวุโสเทียนแทบหายใจติดขัด เหมือนกับ เหมือนกับใคร..
ใช่แล้ว กงซูจื่อ! อาวุโสเทียนรู้สึกเหมือนกลิ่นอายของกงซูจื่อนี่เอง.
กลิ่นอายปราชญ์เทพ กลิ่นอายที่น่าเกรงขาม นี่คือศพของปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?
แววตาของอาวุโสเทียนที่เผยท่าทางตื่นตระหนกตกใจออกมา นี่มันคล้ายกับศพของปราชญ์เทพอย่างคาดไม่ถึง พู พรึด พู! อาวุโสเทียนที่รู้สึกราวกับดวงวิญญาณที่กำลังสั่นสะเทือน.
ใบหน้าของอาวุโสเทียนที่เปลี่ยนไปในทันที ในเวลานั้น ดวงตาของอาวุโสเทียนหดเกร็ง แววตาที่ส่ายไปมาด้วยความหวาดหวั่น ขณะที่จะเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่าง.
ศพปราชญ์เทพที่ลุกขึ้นมานั้น ดวงตาทั้งสองข้างที่ลืมขึ้นมาในทันที! ดวงตาที่ส่องประกายแสงสีเขียว อำนาจพลังแห่งความตายที่ราวกับจะชอนไชเข้าไปในจิตวิญญาณ.
อาวุโสเทียนเร่งรีบถอยห่างออกมา ร่างกายของเขาที่ขยับออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่กล้ามองศพดังกล่าว.