Chapter 1110 เกิดปัญหา
เขตแดนน้ำพุเหลือง ภายในค่ายกลฮวงจุ้ย.
อาวุโสเทียน เซียนเซิงซือ เซียนเซิงซี คนทั้งสามนำคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา ก้าวเข้ามาภายในค่ายกล.
ด้านนอกนั้นเห็นเพียงแค่ความมืดมิดเท่านั้น ทว่าเมื่อเข้ามาด้านในแล้วก็เต็มไปด้วยแสงสว่าง.
ค่ายกลฮวงจุ้ย โลกที่เชื่อมต่อ ดูเหมือนจะเป็นมิติขนาดเล็ก ทว่าตัดขาดจากโลกภายนอก.
"ฮึม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ฟ้าดินรอบ ๆ นั้นเต็มไปด้วยเสียงครวญครางโหยหวน.
"!"เหล่าศิษย์เซียนเซิงซีที่อุทานออกมาด้วยความตื่นตกใจ.
ทุกคนที่กวาดตามองไปรอบ ๆ .
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ทุกคนที่สูดหายใจที่เย็นเยือบเข้ามา.
ทางเข้าที่ใหญ่โตนั้น.
ลึกเข้าไปด้านในปรากฎลาวาสีเหลืองมากมายนับไม่ถ้วน ยืดยาวออกไปปรากฎเป็นทะเลน้ำพุเหลือง มีเจตภูตมากมายที่กำลังปีนป่าย เหล่าเจตภูตที่กำลังต้องการก้าวผ่านน้ำพุเหลืองเพื่อไปยังภพหยาง.
นี่คือเส้นทางน้ำพุเหลืองเริ่มต้น น่าจะเป็นด่านล่างของน้ำพุเหลือง ทว่าในเวลานี้ไม่ใช่มันกำลังสลับกลับข้างกันอยู่รึ?!
เจตภูตมากมายที่กำลังตะเกียกตะกาย พุ่งออกไปรอบ ๆ ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด.
หากเป็นเรื่องปรกติบนเส้นทางน้ำพุเหลืองเจตภูตนั้นยากจะปีนขึ้นไปได้จากภพหยางได้ ทว่าเส้นทางในเวลานี้มันถูกสลับปรับเปลี่ยนทำให้เจตภูตมากมายร่วงหล่นลงไปด้านล่าง กลายเป็นว่าด้านล่างได้กลายเป็นแดนภพหยาง.
เจตภูตที่รวมตัวใหญ่ยักษ์กำลังดิ้นรนตะเกียกตะกายลอยเคว้งอยู่บนอากาศ.
เจตภูตที่หลอมรวมตัวกันขนาดใหญ่ทรงพลังน่าเกรงขาม ยากที่จะสามารถข้ามไปถึงภพหยางได้ ทว่าในเวลานี้แผ่นดินได้ถูกกลับพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินทำให้เจตภูตที่แข็งแกร่งน่าเกรงขามร่วงหล่นลงไป.
"นี่มัน นี่มัน!"อาวุโสเทียนที่เผยท่าทางตื่นตระหนกตกใจ.
"อาจารย์ เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเส้นทางน้ำพุเหลืองถึงได้กลับข้างเช่นนั้น?"ศิษย์คนหนึ่งของเซียนเซิงซีที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.
เซียนเซิงซีที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร.
สถานที่แห่งนี้มันพลิกกลับหมด เส้นทางน้ำพุเหลืองกลับข้าง ซ้ำห้วงมิติแห่งนี้ยังดูใหญ่โตไม่น้อย.
"อาวุโสเทียน เจ้าคิดว่าอย่างไร?"เซียนเซิงซีเอ่ยสอบถาม.
"ไม่ ไม่ได้การ!"อาวุโสเทียนที่เผยท่าทางตื่นตะหนก.
"เจ้ารู้จักค่ายกลนี้อย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซีที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
"นี่คือค่ายกลที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเทียน ใต้สวรรค์แห่งนี้คือค่ายกลฮวงจุ้ยที่แข็งแกร่งที่สุด ค่ายกลยักษ์น้ำพุเหลืองหยินหยางพลิกกลับ! และยังใช้เส้นทางน้ำพุเหลืองจริงในการใช้งานด้วย."อาวุโสเทียนที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นมึนงง.
"แล้วจะทำลายอย่างไร?"
"ทำลายรึ? ลำพังพวกเราไม่สามารถทำลายได้ และยังมีเวลาแค่สามชั่วยาม ไม่น้อยกว่าสามชั่วยามด้วยซ้ำ!"อาวุโสเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"หากเลย สามชั่วยามแล้วจะเป็นอย่างไร?"เซียนเซิงซีเอ่ย.
"ภพหยินหยางจะกลับด้าน พื้นที่เส้นทางน้ำพุเหลืองจะเชื่อมต่อกัน เชื่อมไปยังภพหยาง และเจตภูตมากมายก็จะบุกรุกภพหยางทันที เหล่าเจตภูตที่ดุร้ายทารุณ ทำลายล้างทุกอย่าง พื้นที่ภพหยางของพวกเราจะพังทลายล่มสลาย ทุกสิ่งมีชีวิตจะตกตายไปทั้งหมด!"อาวุโสเทียนกล่าวด้วยท่าทางตื่นตระหนก.
"เปลี่ยนพื้นที่กันอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซีที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"เปลี่ยนพื้นที่กัน นอกจากนี้พื้นที่ภพหยินที่อยู่ข้าง ๆ ยังมีอสุรกายปิศาจมากมาย พวกมันไร้เหตุผล รู้จักเพียงแค่ฆ่าและทำลาย กลายเป็นเรื่องที่แย่ซะแล้ว!"อาวุโสเทียนที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ทำอย่างไรดี? แจ้งไปยังเซิ่งหวังและกงซูจื่อ ให้พวกเขา...!"เซียนเซิงซีทีขมวดคิ้วไปมา.
"ไร้ประโยชน์ พวกเราออกไปไม่ได้ ทำได้แค่เพียงหยุดค่ายกลเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางออกไปได้ นอกจากนี้ถึงจะเป็นปราชญ์เทพก็ไม่สามารถป้องกันได้ ค่ายกลนี้ได้ผสานเข้ากับสวรรค์และปฐพี ตลอดจนน้ำพุเหลือง ไม่มีทางเลยที่ปราชญ์เทพจะแก้ได้ เว้นแต่ปราชญ์เทพภพหยางสองคนและปราชญ์เทพภพหยินสองคนลงมือพร้อม ๆ กัน ทว่าในเวลานี้ จะไปหาปราชญ์เทพสี่คนที่ใหนกัน?"อาวุโสเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.
"พวกเราค้นหาผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยด้านใน แล้วสังหารเขาล่ะ?"เซียนเซิงซือที่ออกความเห็น.
"ไม่มีทางหาพบ ค่ายกลนี้ปกคลุมไปทั่ว ไม่มีกลิ่นอายแผ่ออกมา นอกจากนี้ถึงพบ เขาก็ต้องอยู่ท่ามกลางอสุรกายปิศาจปกป้อง แล้วเจ้าจะสังหารเขาอย่างไร?"อาวุโสเทียนที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า.
"ไม่ลอง แล้วจะรู้ได้อย่างไร?"เซียนเซิงซือเอ่ย.
ในเวลาเดียวกันนั้น ไม่ไกลออกไปปรากฎเงาร่าง ๆ หนึ่งเกิดขึ้นในทันที.
ดวงตาของเซียนเซิงซือเปลี่ยนเป็นเย็นชา ที่ด้านหน้านั้นปรากฎเจียงซือสีทองร่างหนึ่งโผล่ออกไป!
"ตูมมมม!”
เจียงซือสีทองที่พุ่งออกไปนั้น พร้อมกับกระแทกเงาร่างดังกล่าวระเบิดออกมา เห็นเป็นปิศาจค้างคาวนั่นเอง.
เจตภูตปิศาจค้างคาวที่มีดวงตาสีแดง เมื่อมันพ่ายแพ้ บินออกไป.
เป็นเจียงซือสีทองของเซียนเซิงซือนั่นเองที่ผุดออกมารับมือศัตรู.
"นี่แค่เพียงเริ่มต้น!"อาวุโสเทียนกล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"เอาเถอะ อย่าได้เสียเวลา ข้าจะเข้าไปในน้ำพุเหลืองทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ค้นหาผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยฝ่ายตรงข้ามให้เจอ!"เซียนเซิงซือกล่าวยืนยัน.
"ได้!"อาวุโสเทียนที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
อาวุโสเทียนที่หันหน้ามามองเซียนเซิงซี "เซียนเซิงซี ข้าและเซียนเซิงซือจะเข้าไปด้านใน ส่วนเจ้าจัดการโลกที่เชื่อมต่อนี้ ไม่ให้ขยายออกไปอีก เพื่อถ่วงเวลาเท่าที่จะทำได้!"
"ตกลง!"เซียนเซิงซีพยักหน้ารับ.
------------------------------------------------------------------
ห้ามไม่ให้ค่ายกลฮวงจุ้ยขยายออกไป ทว่ากลับทำให้ปราณทมิฬภายในอาณาเขตน้ำพุเหลืองเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ .
สายตาของทุกคนยังคงมองขึ้นไปบนอวกาศ ส่วนจงซานเวลานี้จ้องมองเทียนฉู่ด้วยความระมัดระวัง สายตาของเทียนฉู่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย แววตาที่ซ่อนแผนร้ายเอาไว้ ราวกับว่ากำลังจะลงมือ ทว่ารอคอยอะไรสักอย่าง.
จงซานที่จ้องมองเทียนชู ทันใดนั้นภายในใจสัมผัสความผิดปรกติขึ้นมาได้ เขาที่ตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ มีบางอย่างแปลกไป ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับเทียนฉู่แน่.
ศาลเทพต้าหลี่และแดนเทวะกงซู กำลังเปิดศึกกัน ในเวลานี้ได้ส่งข่าวไปยังพื้นที่รอบ ๆ เรียบร้อยแล้ว.
ดังนั้นพื้นที่รอบ ๆ ต่างก็หลีกหนีออกไปไกล คล้ายกำลังเฝ้ามองอยู่.
ถึงแม้นว่าจะไม่ได้เข้าร่วม ทว่าการต่อสู้ที่น่าตื่นตะลึงเช่นนี้ คงไม่มีใครพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกงซูจื่อและเนี่ยฟ่านเฉินที่เป็นสองยักษ์ใหญ่ที่ทรงพลัง.
บนเทือกเขาแห่งหนึ่ง มีกลุ่มชายชุดดำ ชายชุดดำที่สวมหมวกไม้ไผ่เหมือน ๆ กัน.
หนึ่งในนั้น ดูเหมือนว่าจะมีหนึ่งสตรีที่สูงศักดิ์ที่สุดคนหนึ่ง.
สตรีผู้สูงศักดิ์ที่นำกลุ่มคนชุดดำซ่อนอยู่ในพื้นที่ลับ ไม่เผยตัวออกมาให้ใครเห็น และไม่มีใครสนใจพวกเขาด้วย.
เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของนางที่จดจ้องมองการต่อสู้ของเนี่ยฟ่านเฉินและกงซูจื่อบนอากาศ ส่วนสตรีผู้สูงศักดิ์นั้นตั้งแต่ต้นจนจบนางไม่ได้สนใจมองคนอื่นเลย สายตาของนางที่จ้องมองไปยังคนเพียงผู้เดียว สายตาของนางที่จับจ้องมองจงซานเขม็ง.
ก่อนหน้านี้จงซานที่ออกไปต่อสู้ แม้นว่าจะกำชัยได้ ทว่านางก็ลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วย.
ในเวลานั้น เนี่ยฟ่านเฉินและกงซูจื่อยังคงต่อสู้กันบนอวกาศ สตรีผู้สูงศักดิ์ที่จ้องมองไปยังจงซานไม่หยุด ทว่าในเวลานี้เห็นจงซานที่จ้องมองไปยังพื้นที่รอบ ๆ ราวกับว่ากำลังหาอะไรบางอย่าง นางที่เร่งรีบถอนสายตากลับมา ก่อนที่จะเร่งรีบซ่อนตัวอย่างระมัดระวัง.
ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้ใต้บังคับบัญชาของสตรีผู้สูงศักดิ์ คุกเข่าลงข้างหนึ่ง "เจ้าตำหนัก!"
"มีอะไร?"สตรีผู้สูงศักดิ์ที่เอ่ยปากออกมา.
"เทพอสูรจักรพรรดิตะวันออกไท่อี้ เวลานี้ได้ออกจากเขตแดนน้ำพุเหลืองแล้ว."ผู้ใต้บังคับบัญชาเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไท่อี้กำลังสร้างศาลสวรรค์อีกไม่นานนี้ ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจะมายังทวีปตะวันตกจริง ๆ รึ? เขาต้องการทำอะไร?"สตรีผู้สูงศักดิ์ที่เผยท่าทางสงสัย.
"ผู้น้อยเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ทว่าผู้น้อยรู้สึกว่าเทพอสูรตนนี้ต้องการมาดูชีพจรฟ้า ของเนี่ยฟ่านเฉิน ไม่รู้เช่นกันว่ากำลังคิดอะไร จากนั้นก็ได้จากไป!"ผู้ใต้บังคับบัญชาของนางเอ่ย.
"ไท่อี้จุติใหม่ เขาคือร่างโคลนของราชันย์เทพจวิน ราชันย์เทพจวินชุบชีวิตเขาขึ้นมา ไท่อี้และเทพอสูรจำนวนมากเข้ากำราบเผ่าอู เผ่าอูเวลานี้ไม่ได้มีเซียนบรรพชนอูทั้งสิบสองอีกแล้ว ไท่อี้ที่จุติขึ้นมานี้ เทียบกับในอดีตเขาแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า ใต้สวรรค์แห่งนี้คงกำลังวุ่นวายแน่นอน!"สตรีผู้สูงศักดิ์ที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางทอดถอนใจ.
"ทวีปตะวันออกนั้นมีศาลสวรรค์ต้าฉิน ทวีปตะวันตกที่นี่ ศาลสวรรค์ต้าโจวจะต้องกำเนิดขึ้นในไม่ช้า ส่วนทิศใต้มีจักรพรรดิเทพจวินที่เป็นเผ่าอสูรกำลังสร้างศาลสวรรค์ขึ้นอีก ใต้สวรรค์แห่งนี้คงปรากฎยักษ์ใหญ่เกิดขึ้น เมื่อถึงเวลานั้น! เจ้าตำหนัก พวกเราจะต้องทำอย่างไรดี?"ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เอ่ยออกมาด้วยความกังวล.
"ปรากฎสามสุดยอดอย่างงั้นรึ?ใต้สวรรค์มีทวีปเก้าทวีปเพิ่มยอดฝีมือขึ้นมาอีกสามรึ?ความวุ่นวายกำลังปะทุขึ้นแล้ว เหล่ายอดฝีมือเหล่านี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนความวุ่นวาย นี่เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น แจ้งไปยังทุกคน พวกเราจะเดินทางในทันที ไล่ตามเทพอสูรไป!"สตรีผู้สูงศักดิ์ที่กล่าวตอบรับอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"ผู้ใต้บังคับบัญชาที่รับคำในทันที.
จากนั้น ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งที่ออกไปแจ้งทุกคน.
ทว่าในเวลานั้นสตรีผู้สูงศักดิ์ยังคงหันกลับมามองจงซาน ด้วยแววตาลึกล้ำ.
และเมื่อชายในชุดดำสวมหมวกไม้ไผ่มาครบ.
"ไป!"สตรีผู้สูงศักดิ์ได้นำผู้ใต้บังคับบัญชาบินออกไปจากสถานที่ดังกล่าวอย่างรวดเร็ว จากอาณาเขตน้ำพุเหลือง.
ที่ไกลออกไปนั้น จงซานราวกับรู้สึกหัวใจสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่จะกวาดตามองไปรอบ ๆ ขณะที่จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป ในกลุ่มชายชุดดำ มีคนมากมายจนมองไม่ออกว่าเป็นใคร ทว่าจงซานกลับรู้สึกแปลก ๆ ราวกับว่าภายในใจรู้สึกมีบางอย่างขาดหายคะนึงหาอย่างไร้ซึ่งเหตุผล.
"จงซาน มีอะไรอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามออกมาในทันที.
"ไม่มีสิ่งใด."จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"จินเผิง!"จงซานที่เอ่ยต่อจินเผิง.
"เฉินอยู่นี่แล้ว!"
"แจ้งไปยังเต้าเหรินถู ให้เขามาในทันที ข้าสังหรณ์ใจไม่ดีนัก."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"จินเผิงที่รู้สึกประหลาดใจพยักหน้ารับ.
สังหรณ์ใจไม่ดีอย่างงั้นรึ? จินเผิงเองก็รู้สึกเช่นกัน ทว่าอยู่ทิศทางใหน? ทว่าในเวลานี้เมื่อจงซานสั่งการก็มีแต่ต้องทำตามในทันที.
ไม่ไกลออกไป เหล่าผู้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ บัลลังก์มังกร เส้าเฟยโห่วที่ก้าวออกไปหากัวซือฝูทันที.
กัวซือฝูที่ในเวลานี้ตั้งสมาธิจดจ้องมองแต่บนอวกาศ จดจ้องมองการต่อสู้ของเนี่ยฟ่านเฉินและกงซูจื่อ ภายในใจไม่ได้สนใจสิ่งใดนัก จวบจนเส้าเฟยโห่วก้าวเข้ามาใกล ๆ จึงได้ถอนสายตากลับมาเผยท่าทางสงสัย.
"เสนาบดี ไม่ดีแล้ว!"เส้าเฟยโห่วที่แสดงท่าทางจริงจังออกมา.
ไม่ดีอย่างงั้นรึ? ดวงตาของกัวซือฝูที่ส่ายไปมา เส้าเฟยโห่วเป็นใคร? แม้ว่าจะไม่ได้รู้จักกันนานนัก ทว่ารับรู้ความสามารถของคนผู้นี้ดี เมื่อเส้าเฟยโห่วเอ่ยว่าไม่ดี แน่นอนจะต้องเกิดเรื่องแน่นอน.
"พบสิ่งใดอย่างงั้นรึ?"กัวซูฝูที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เสนาบดี เจ้าจ้องมองดูท้องฟ้าที่มืดครึ้มนั่น!"เส้าเฟยโห่วที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
แม้นว่ากัวซือฝูจะจ้องมองท้องฟ้าอยู่ตลอดเวลา ทว่ากลับจ้องมองไปยังด้านนอก ทว่ากลับไม่ดูพื้นที่รอบ ๆ เลย ทันใดนั้นดวงตาของเขาที่หดเกร็ง บนท้องฟ้า เมฆสีดำคล้ำที่มากขึ้นเรื่อย ๆ เพิ่มจำนวนไม่หยุด และกลิ่นอายที่แผ่ออกมานี้เป็นอำนาจหยินที่รุนแรงมากและยังมีกลิ่นอายปิศาจอีกด้วย!
"เส้าเฟยโห่ว ขอบคุณที่เตือน!"กัวซือฝูที่เอ่ยออกมาในทันที เซิ่งหวังมอบหน้าที่ให้ตัวเองดูแลคนอื่น ๆ หากว่าเกิดปัญหาใดขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะกล่าวรายงานเซิ่งหวังอย่างไรเช่นกัน.
เวลานี้เกิดปัญหาแล้วจริง ๆ .