บทที่ 13 นักสู้ระดับ 3 สัตว์ร้ายเริ่มโกลาหล!
ยาของอันกรุ๊ปคือประเด็นแรกของการฟื้นฟูพลังวิญญาณ!
จากก่อนหน้านี้ อันกรุ๊ปได้มีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นมาก!! !
แต่ก็ยังไม่ห่างไกลจากบริษัทอื่นๆ เหล่านั้นมากนัก
เพราะตอนนี้พวกเขาตามมาจากข้างหลังแล้ว!
จากการแสดงของอันกรุ๊ป ตอนนี้ไม่ทราบว่ามีบริษัทยักษ์ใหญ่กี่แห่งในต้าเซียที่ประกาศจะเข้าสู่วงการยาแล้ว
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเห็นผลกำไรจากเม็ดยานี้
มันคือการแข่งขัน!
ไม่ว่าจะเป็นเม็ดยาชนิดใดก็ตาม ตราบใดที่มีประโยชน์ต่อศิลปะการต่อสู้ ก็ถือเป็นกำไรมหาศาล
สำหรับเหตุการณ์นี้ อันเซวียนและคนอื่นๆ ต่างก็ดีใจที่ได้เห็นมัน
ยิ่งมีคนศึกษามากขึ้น โอกาสก็จะมีมากขึ้น
ถ้าสามารถค้นคว้าได้จริงๆ มันก็จะสามารถช่วยคนทั้งประเทศให้ฝึกฝนได้
และยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งอีกด้วย!
แม้ในตอนนี้จะมีเสียงบ่นมากมายในต้าเซีย
แต่ก็มีผู้ที่ติดอยู่ในฝึกศิลปะการต่อสู้มากกว่า
เพราะพวกเขาต้องคว้าโอกาสที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้ไว้!
ทางสหพันธ์นักสู้เองก็เริ่มประชาสัมพันธ์จัดตั้งสาขาย่อยอยู่แม้จะไม่เร็วมาก
...
1 เดือนผ่านไปไวเหมือนกระพริบตา!
อันเซวียนได้มาถึงช่วงเวลาสำคัญแล้ว
เขาได้ขัดเกลากระดูกครบร้อยชิ้นแล้วและมาถึงจุดสูงสุดของระดับที่ 2
ยิ่งคุณขัดเกลากระดูกมากเท่าไหร่ กระดูกแต่ละชิ้นก็จะยิ่งเสียเวลามากขึ้นเท่านั้น!
แต่ความเร็วของอันเซวียนก็น่ากลัวพอๆ กัน
ต้องขอบคุณพรจากโอกาสต่างๆ ของเขา!
จากการประมาณการครั้งก่อนของเขานั้น เขาถือได้ว่าเขาทำได้เร็วกว่าเดิมมาก
"บูม!"
การขัดเกลากระดูกชิ้นที่ 101 เสร็จสิ้นแล้ว
อันเซวียนประสบความสำเร็จในการก้าวสู่นักสู้ระดับ 3!
หลังจากที่ทำให้ระดับมั่นคงแล้ว อันเซวียนก็ลืมตาขึ้น
“มันไม่ง่ายเลยจริงๆ!”
แม้แต่อันเซวียนเองก็แทบจะทนไม่ไหว
เพราะครั้งนี้การทะลวงระดับของเขามันเหมือนกับระเบิด! !
หากเขาไม่สามารถทะลวงได้สำเร็จขวัญกำลังใจของเขาคงจะลดลง
และมันอาจอุปสรรคขัดขวางความเร็วในการฝึกเขาได้!
ตอนนี้อันเซวียนนอกจากระดับที่เพิ่งคงที่แล้ว อันเซวียนก็ยังไม่มีอะไรเลย
ฉะนั้นตอนนี้เขาต้องฝึกฝนวิชาการต่อสู้ด้วย
เพราะเขารู้ว่าการปั่นป่วนของสัตว์กลายพันธุ์ได้เริ่มขึ้นแล้ว
แม้ว่าเขาจะใช้ความแข็งแกร่งของนักสู้ระดับ 3 แต่เขาก็ไม่สามารถใช้มันได้อย่างเต็มที่
เขาจำเป็นต้องอาศัยวิชาการต่อสู้ที่ได้จากการลงชื่อเข้าใช้
ไม่เช่นนั้นมันจะยิ่งแย่ยิ่งขึ้น!
หลังจากคิดอยู่สักพักหนึ่งในที่สุดอันเซวียนก็เลือก "วิชาการชักดาบ"!
ด้วยพลังปราณโลหิตของนักสู้ระดับ 3 ที่แข็งแกร่งของเขา พลังดาบที่ส่งออกไปจะต้องทรงพลังอย่างมากแน่นอน
และวิชาดาบนี้สามารถสร้างความเสียหายได้มากเกินระดับปัจจุบันของเขาได้
แต่ยังมีจุดสำคัญที่สุดอีกจุดหนึ่งคือมันกินพลังปราณโลหิตค่อนข้างมาก
หากต้องใช้วิชานี้ อันเซวียนต้องการคือพลังการฟื้นคืนของปราณโลหิตเขา!
แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับอันเซวียน เพราะเขามียาจากการลงชื่อเข้าใช้ระบบ และมันจะมีผลทันทีเมื่อกินเข้าไป
ตราบใดที่เขากินยา เขาก็จะใช้พลังปราณโลหิตได้เรื่อยๆ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการต่อสู้
เมื่อได้ตัดสินใจแล้ว อันเซวียนก็เริ่มการฝึกฝนทัน
สำหรับอาวุธดาบแล้วพวกมันได้ถูกเตรียมไว้มาก่อนหน้า
และตอนนี้เมื่ออันเซวียนได้ทะลวงสู่นักสู้ระดับ 3
อันหมิงเยว่เองก็ได้ก้าวเข้าสู่นักสู้ระดับที่ 2 ด้วยเช่นกัน
ก่อนที่ช่วงการระเบิดของพลังวิญญาณจะสิ้นสุด ในที่สุดเธอก็ได้บรรลุความก้าวหน้าของตัวเองแล้ว
รวมถึงลูกหลานของตระกูลอันทุกคน ก็มีความก้าวหน้าอย่างมาก
ในบรรดาพวกเขา อันเหวินจือซึ่งเป็นคนแรกที่ได้เปิดเส้นทางศิลปะการต่อสู้ เขาได้ไปถึงระดับกึ่งนักสู้แล้ว
อีกเพียงไม่นานเขาก็จะได้เป็นนักสู้ที่แท้จริงคนที่สามของตระกูลอัน!
นอกจากนี้ชาวต้าเซียทั้งหมดก็ยังได้เปิดเส้นทางศิลปะการต่อสู้แล้วด้วย
แต่ทว่าความก้าวหน้าของทุกคนย่อมไม่เท่าเทียมกัน!
สำหรับกลุ่มคนที่ได้รับเม็ดยาเปิดเส้นทางศิลปะการต่อสู้
ค่าปราณโลหิตพวกเขามีอย่างน้อย 200 ค่าไปแล้ว
ตรงกันข้ามกับผู้ที่ยังไม่ได้รับเม็ดยาส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มเปิดเส้นทางได้
ความแตกต่างนี้ถือไม่ใหญ่มากนัก!
ขณะเดียวกัน สัตว์กลายพันธุ์ในที่สุดก็เริ่มอาละวาด
เมืองที่อยู่ใกล้ภูเขาสูงหรือป่าลึกเหล่านี้คงเป็นเมืองแรก ๆ ที่จะถูกคุกคามอย่างไม่ต้องสงสัย
เมืองอวิ๋นเฉิงก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
ที่หมู่บ้านแถวชานเมืองแห่งหนึ่งพวกเขาเป็นกลุ่มแรกที่พบสัตว์กลายพันธุ์เหล่านี้
พวกเขารีบรายงานโดยทันที!
แต่สัตว์ร้ายพวกนี้มีสติปัญญามากขึ้นหลังจากการกลายพันธุ์
เมื่อกองทัพต้าเซียมาถึง พวกมันก็หลบหนีไปแล้ว
มีสถานที่อีกหลายที่เหมือนกับเมืองอวิ๋นเฉิง
มันเกือบทั้งต้าเซีย!
หรือแม้แต่เกือบทั่วทั้งโลกก็เป็นแบบนั้น
"ไม่นะ! ในเขตเสินหนงเจียได้มีงูยักษ์บุกโจมตีแถวชานเมือง!!"
“พวกลิงที่อยู่เขตเหนือของเอ๋อเหมยมันมีสติปัญญาที่เฉียบแหลมมาก พวกมันเพิ่งแสดงตัวในฐานผู้ปกครองและขับไล่อย่างเรามนุษย์ออกมา”
"ไม่ใช่แค่ในต้าเซียนะ แต่ต่างประเทศเองก็เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายเหมือนกัน"
-
มีการพูดคุยกันอย่างมากบนอินเทอร์เน็ต และสัตว์แปลกๆ จากทั่วทุกมุมโลกก็กำลังครองตำแหน่งการค้นหายอดนิยมเป็นอย่างมาก
ขณะนี้หลายคนในที่สุดก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการฟื้นตัวของพลังวิญญาณ! !
และความสำคัญของศิลปะการต่อสู้!
ทางสหพันธ์นักสู้เองก็ยังได้จัดการประชุมฉุกเฉินขึ้น!
มีรายงานกรณีที่สัตว์กลายพันธุ์ต่างถิ่นบุกโจมตีในพื้นที่ต่างๆ มากกว่า 1,000 กรณี
และพวกมันก็ยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ดูเหมือนว่าท้องฟ้าจะเปลี่ยนแปลงไปชั่วข้ามคืน!
ทุกสิ่งทุกอย่างนอกเมืองกลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามที่มนุษย์ไม่สามารถก้าวไปได้
ทุกๆ ส่วนของต้าเซียได้ถูกแบ่งแยกโดยสัตว์ร้ายเหล่านี้
หากยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป
ต้าเซียก็ยังไม่ทราบว่าจะมีผู้สูญหายกี่คนที่เพิ่มขึ้น
หลังจากหารือกันสักพัก ในที่สุดทางต้าเซียตัดสินใจได้
มีคำสั่งระดมพลให้ประชาชนจากทั่วประเทศอพยพไปอยู่ในมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุด
และย้ายไปยังที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางให้มากเท่าที่จะทำได้
และเมืองต่างๆ ทั่วต้าเซียต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อปิดล้อมพื้นที่ที่อยู่อาศัยทั้งหมด
ในเวลานี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องกลับไปสู่วิถีโบราณในการปกป้องเมืองอีกครั้ง
แต่นี่มันไม่ใช่การสิ้นหนทาง!
แต่มันเป็นการตัดสินใจหลังจากคิดดีแล้ว
สาเหตุเนื่องมากจากหลังจากสัตว์ร้ายหลายชนิดกลายพันธุ์ พวกมันก็มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
ตราบใดที่กำแพงเมืองสูงพอ พวกสัตว์กลายพันธุ์ก็ไม่สามารถข้ามมาได้
และบนกำแพงยังให้ติดตั้งตะแกรงป้องกันและอื่นๆ
ติดตั้งกำดักไว้สักสองสามอย่าง!
หากสัตว์กลายพันธุ์ทุกตัวที่ต้องการจะเข้ามาในเมืองไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
พวกมันจะต้องถูกบล็อคออกไป
แต่ว่าทุกคนก็ไม่สามารถหลบหนีจากที่นี่ได้เช่นกัน!
นี่เป็นโครงการระดับชาติ
นอกจากนี้ สหพันธ์นักสู้ยังได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าเนื้อสัตว์กลายพันธุ์เหล่านั้นมีผลต่อการฝึกฝนด้วย
สัตว์กลายพันธุ์ที่ถูกล่าจะสามารถนำกลับมาใช้ได้
มันคือการเปิดตัวของอุตสาหกรรมใหม่
ในเวลาเดียวกัน อันหมิงเยว่ยังได้รับเซอร์ไพรส์จากสหพันธ์นักสู้ด้วย
เธอได้เป็นประธานสหพันธ์นักสู้สาขาเมืองอวิ๋นเฉิง! ?
“เป็นไปได้ยังไง!?”
ตอนแรกแม้แต่ตัวของอันหมิงเยว่เองก็ยังตกใจเช่นกัน
เธอแค่อยากมีส่วนสนับสนุนกับสหพันธ์นักสู้เพื่อที่เธอจะได้มีตำแหน่งบางอย่างในอนาคตเท่านั้น!
แต่เธอไม่คาดหวังว่าเธอจะได้เป็นประธานสหพันธ์นักสู้สาขาเมืองอวิ๋นเฉิง
ก่อนที่เธอจะเกิดใหม่อีกครั้ง!
ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธอว่าตำแหน่งประธานนี้มีอำนาจมากเพียงใด
เพราะประธานสหพันธ์นักสู้เมืองอวิ๋นเฉิงนั้นสามารถควบคุมชีวิตของศิลปะการต่อสู้ของผู้คนนับสิบล้านคนได้
ก่อนที่เธอจะได้เกิดใหม่ ถ้าหากอยากได้ตำแหน่งนี้
ต้องเป็นนักสู้อย่างน้อยระดับ 5 ขึ้นไป!