บทที่ 11 โชคดีสุดๆ! สมบัติล้ำค่าจากสวรรค์: แก่นหินวิญญาณลม!

[กระบี่สายลม]

[ประเภท: ทักษะแอคทีฟ]

[ระดับ: ขั้น 1]

[ธาตุ: ลม]

[พลังเวท: 30 หน่วย]

[เวลาร่ายคาถา: 1 วินาที]

[เวลาคูลดาวน์: ไม่มี]

[ผลลัพธ์: เรียกใช้กระบี่ลมโจมตีศัตรูระยะไกล]

ทักษะนี้ธรรมดามาก

เป็นพื้นฐานของทักษะธาตุลมสำหรับนักเวททุกคน

เหมือนกับลูกไฟนั่นแหละ

แต่ข้อดีของคมลมเมื่อเทียบกับลูกไฟคือ มันมองไม่เห็นและเคลื่อนที่เร็วมาก

ทำให้เป้าหมายหลบได้ยาก

อีกทั้งใช้เวลาร่ายคาถาสั้นมาก เพียงแค่ 1 วินาที

แต่ในทางกลับกัน พลังทำลายล้างของกระบี่สายลมก็มีเพียงครึ่งเดียวของลูกไฟ

ทักษะแต่ละธาตุของนักเวทมีเอกลักษณ์ชัดเจน

ธาตุลมเน้นความคล่องแคล่ว ความเร็ว และความฉับไว

ส่วนธาตุไฟเน้นการโจมตีที่รุนแรง

แน่นอนว่าหลินอี้สามารถพัฒนาทักษะกระบี่สายลมถึงขั้นสูงได้ภายในไม่กี่วัน มันจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงสุดขีดเช่นกัน...

ลมหายใจมังกรเพลิงสวรรค์ระดับ 7 ยังสร้างความเสียหายขนาดนี้ได้

แล้วเวทมนตร์ระดับ 8 หรือแม้แต่คาถาต้องห้ามระดับ 9 จะน่ากลัวขนาดไหน? แค่คิดหลินอี้ก็รู้สึกเต็มไปด้วยความตื่นเต้น!

ตอนนี้เขามีแรงจูงใจมากขึ้นที่จะพัฒนาลมหายใจมังกรเพลิงสวรรค์ของตัวเองให้เป็นคาถาต้องห้ามระดับเก้าโดยเร็ว!

หลินอี้มองไปรอบๆ พบว่าไม่มีร่องรอยของสัตว์ร้ายอีกแล้ว

ท้องฟ้ามืดลง เปลวเพลิงจากลมหายใจมังกรที่เผาผลาญต้นไม้จนหมดสิ้นก็ค่อยๆ มอดลง

บนท้องฟ้ามีจันทร์เสี้ยวลอยเด่น

ไร้ซึ่งร่มเงาของต้นไม้ สายลมยามราตรีพัดเย็นเฉียบ ทำให้หลินอี้รู้สึกหนาวสั่น

หลินอี้พบสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจอย่างยิ่ง

นั่นคือ เลเวลของเขาได้เพิ่มขึ้นถึง 30 แล้วโดยไม่รู้ตัว! เพียงแค่หนึ่งวัน เลเวลของเขาก็พุ่งทะยานถึงขีดสุดของการปลุกอาชีพครั้งแรก!

เลเวล 30 เขาสามารถไปรับภารกิจเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สองที่วิหารในเมืองเจียงเฉิงได้แล้ว!

ลมหายใจมังกรเพลิงสวรรค์เมื่อครู่นี้ คงสร้างความเสียหายมากกว่าที่เขาคาดไว้มาก!

หลินอี้ตรวจสอบบันทึกการได้รับค่าประสบการณ์

พอถึงตอนท้าย หลังจากขึ้นเลเวล 30 ค่าประสบการณ์ที่ได้รับก็กลายเป็น 0 ทั้งหมด

นี่คือค่าประสบการณ์ส่วนเกินทั้งสิ้น!

เพราะถ้าไม่ทำภารกิจเปลี่ยนอาชีพเพื่อปลดล็อกการอัพเกรดครั้งที่สอง เขาก็ไม่สามารถเพิ่มเลเวลต่อไปได้

ดังนั้น เหตุผลที่จะอยู่ที่นี่ต่อก็หมดลงแล้ว

เพราะระดับของสัตว์ร้ายในป่าคร่ำครวญไม่สามารถให้ค่าประสบการณ์กับหลินอี้ได้มากอีกต่อไป

หลินอี้หยิบม้วนกระดาษที่เรืองแสงสีม่วงอ่อนๆ ออกมาจากพื้นที่เก็บของส่วนตัว

นี่คือม้วนกระดาษกลับเมืองที่เจียงหยาให้เขาไว้ก่อนหน้านี้

พิกัดที่ระบุไว้บนม้วนกระดาษคือห้องเทเลพอร์ตในเมืองเจียงเฉิง

ดึกแล้ว พ่อกับแม่คงรอกินข้าวอยู่ที่บ้าน เพื่อไม่ให้พวกเขากังวล หลินอี้ตัดสินใจกลับบ้านทันที

แต่ขณะที่หลินอี้กำลังจะบีบม้วนกระดาษเพื่อเทเลพอร์ตกลับ จู่ๆ เขาก็สังเกตเห็นแสงสีเขียวมรกตเล็กๆ ในความมืด ซึ่งดึงดูดความสนใจของเขา

หลินอี้ยกมือขึ้น ปีศาจเปลวเพลิงที่เขาเพิ่งส่งกลับไปยังมิติธาตุไฟก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เวทมนตร์เรียกสัตว์อสูรประเภทนี้ ใช้ครั้งเดียวก็สามารถอยู่ได้ตลอดทั้งวัน

ในช่วงเวลานี้ หลินอี้ผู้เรียกสามารถเลือกให้ปีศาจเปลวไฟทั้งสองตัวกลับสู่มิติธาตุเพื่อพักฟื้นได้ตลอดเวลา แล้วเรียกกลับมาใหม่ โดยไม่ต้องเสียพลังเวท

ด้วยความช่วยเหลือของยักษ์ไฟทั้งตัวนี้ หลินอี้ชี้นิ้ว ปีศาจเพลิงก็เดินไปยังจุดที่มีแสงสีเขียวมรกตกะพริบอย่างว่าง่าย ราวกับเป็นโคมไฟขนาดใหญ่

ด้วยแสงสว่างจากปีศาจเพลิง หลินอี้ก็พบต้นกำเนิดของแสงสีเขียวมรกตอย่างรวดเร็ว มันอยู่ในถ้ำที่ราชาเสือเดินออกมาก่อนหน้านี้!

ด้วยปีศาจเปลวเพลิงคอยคุ้มกัน รวมถึงก่อนหน้านี้มีเวทมนตร์ระดับ 7 กวาดล้างไปแล้ว หลินอี้จึงไม่กังวลว่าจะมีอะไรซุ่มโจมตีเขาภายในถ้ำนี้

แต่เพื่อความไม่ประมาท หลินอี้ก็ให้ปีศาจเปลวเพลิงสร้างโล่หินหลอมละลายให้เขา แล้วเดินตามหลังเข้าไปในถ้ำอย่างช้าๆ

ทันทีที่เข้าไปในถ้ำ หลินอี้ก็รู้สึกถึงลมแรงที่พัดมาปะทะ แม้จะถูกร่างยักษ์ของปีศาจเปลวเพลิงบังไว้ครึ่งหนึ่ง

หลินอี้ก็ยังรู้สึกว่าความเร็วลมนี้ช่างผิดปกติ ในถ้ำนี้มีอะไรกันแน่ ถึงได้มีลมหนาแน่นขนาดนี้

นอกเหนือจากความคาดหมายของหลินอี้ ถ้ำนี้ลึกกว่าที่เขาคิดมาก หลังจากเดินไปได้สักพัก ทิศทางของถ้ำก็เริ่มทอดลงสู่ใต้ดิน

โชคดีที่ความลาดชันไม่มากนัก หลินอี้ย่อตัวลงก็สามารถค่อยๆ ไต่ลงไปได้

หลายนาทีต่อมา หลินอี้ก็เห็นต้นกำเนิดของแสงสีเขียวมรกตที่เห็นก่อนหน้านี้ และรู้สึกตกตะลึง!

หลังจากผ่านทางเดินถ้ำที่แคบและยากลำบากมาแล้ว ไม่คิดว่าที่นี่จะกว้างขนาดนี้

ทั้งถ้ำกลายเป็นห้องโถงที่มีเพดานสูงลิบ ลมพายุแรงระดับ 10 พัดกระโชกไปทั่ว

ต้นกำเนิดของลมพายุเหล่านี้คือผลึกสีเขียวมรกตนับไม่ถ้วนที่งอกออกมาจากผนังถ้ำทั้งสี่ด้าน

หลินอี้สัมผัสได้ว่าผลึกเหล่านี้อุดมไปด้วยพลังธาตุลมที่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง!

นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ถ้ำนี้มีลมพายุแรงตลอดทั้งปี เพราะในส่วนลึกของถ้ำมีแร่ธาตุชนิดที่หลินอี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนจำนวนมาก!

แม้หลินอี้จะไม่เคยเห็นแร่ธาตุชนิดนี้มาก่อน แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามันคล้ายคลึงกับ "สมบัติล้ำค่าจากสวรรค์" ที่เคยอ่านในตำราเรียน

กล่าวง่ายๆ คือ หลังจากที่โลกน้ำเงินเปลี่ยนแปลงไป แร่ธาตุ พืช และแม้แต่สัตว์หลายชนิด เมื่อสัมผัสกับพลังงานบางอย่างที่มีวิญญาณแฝงอยู่ ก็มักจะเกิดการเปลี่ยนแปลง

และการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ นานวันเข้า สิ่งเหล่านี้จึงถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ "สมบัติล้ำค่าจากสวรรค์" หรือ "วัตถุศักดิ์สิทธิ์"

หลินอี้รู้สึกดีใจ

วันนี้โชคดีจริงๆ!

นอกจากตำราทักษะนั้นแล้ว ยังมีของขวัญพิเศษอีก!

สิ่งเหล่านี้ถ้านำไปขายที่ตลาดซื้อขาย คงได้ราคาดีทีเดียว?

อืม ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาทางเรียนรู้ทักษะการประเมินค่าด้วย

ไม่อย่างนั้น แม้จะรู้ว่าผลึกเหล่านี้เป็นของมีค่า แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรและมีมูลค่าเท่าไหร่ ก็คงจะลำบากเหมือนกัน

หลินอี้สังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วน

ผลึกสีเขียวมรกตในถ้ำกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ

มีผลึกจำนวนน้อยงอกอยู่บนเพดานและผนังถ้ำที่สูงมาก ซึ่งเขาไม่มีทางเอื้อมถึงแน่นอน

แต่โชคดีที่มีกลุ่มผลึกเจ็ดแปดกลุ่มงอกอยู่ในที่เดียวกัน ตำแหน่งไม่สูงนัก แม้เขาจะเอื้อมไม่ถึง แต่ยักษ์ข้างๆ เขาเอื้อมถึงนี่!

หลินอี้สั่งให้ปีศาจไฟเปลวเพลิงเดินไปยังกลุ่มผลึกขนาดใหญ่นั้น

เนื่องด้วยแสงไฟ ทำให้ลินอี้ก็เห็นรายละเอียดมากขึ้น

ใต้กลุ่มผลึกสีเขียวมรกตขนาดใหญ่นั้น มีกระดูกสัตว์มากมายอยู่ รวมถึงเศษขนสัตว์กระจัดกระจาย

จากความหยาบและความยาวของขนสัตว์ สามารถบอกได้ว่าน่าจะร่วงจากราชาเสือตัวนั้น

ราชาเสือตัวนั้นคงพักผ่อนอยู่ใต้แหล่งแร่ผลึกนี้มาเป็นเวลานาน จึงไม่แปลกที่มันจะได้รับพลังพิเศษบางอย่างของธาตุลม

นี่อาจถือเป็นความสัมพันธ์แปลกๆ ระหว่างสมบัติล้ำค่ากับสัตว์ร้ายก็ได้

(จบบท)