ตอนที่แล้วตอนที่ 129 เปิดประตูตรงๆ ใครจะรู้ว่าจะเห็นอะไร?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 131 พุ่งเข้าหา เย่เฉิน

ตอนที่ 130 ตอนกลางคืนพวกเธอสองคนก็ช่วยเบาๆ เสียง หน่อยล่ะ


น้องสะใภ้?

เมื่อได้ยินเสียงของ..จ้าว ซูซวน เพื่อนสนิทของเธอ เรียกอย่างเป็นกันเองแบบนั้น

พร้อมกับรอยยิ้มที่แปลกประหลาดบนใบหน้านั้นของเธอ ..อีกครั้ง

ซู หนิงซวง รู้สึกไม่ดีเลย

ดูท่าทางว่าเมื่อครู่นี้ ..ตัวเองคงคิดมากไปเอง

ต่างคนต่างเรียก เกรงว่าคงจะเป็นเธอที่คิดเพ้อเจ้อไปเพียงฝ่ายเดียว เพราะมันเห็นชัดอยู่ว่า ซูซวน ไม่เห็นด้วย

“พี่ นี่พี่เรียกว่าอะไรน่ะ?”

“ผม กับรุ่นพี่ ซู บริสุทธิ์ใจนะ”

“อย่าเรียกมั่วซั่วสิ”

เย่เฉิน เห็นท่าทางลำบากใจของ ซู หนิงซวง ดังนั้นเขาจึงออกหน้ามาช่วยแก้สถานการณ์

“เฮ้อ พึ่งจะอยู่ด้วยกัน ยังไม่ได้แต่งงานเลยด้วยซ้ำ”

“ก็เริ่มเข้าข้างภรรยาตัวน้อยของตัวเองแล้ว ฉันในฐานะพี่สาวเสียใจมากเลยนะ”

“กะซิก..กะซิก มีภรรยาแล้วก็ลืมพี่สาวสินะ..”

เมื่อได้ยินคำพูดของ เย่เฉิน จ้าว ซูซวน แสร้งทำสีหน้าเศร้าพลางพูดด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น

ยังไงก็ตาม ฉันเป็นแม่สื่อคนแรกที่คอยจับคู่ให้พวกเธอทั้งคู่นะ

ตอนนี้สองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้ว น้องชายตัวแสบที่ไร้หัวใจคนนี้ก็เริ่มจะเข้าข้าง หนิงซวง ทอดทิ้งพี่สาวผู้แสนดีคนนี้ไป

ฮึกกๆ~ สังคมสมัยนี้ ช่างเย็นชา หัวใจคนก็ไม่ซื่อสัตย์ เปลี่ยนไปได้ตลอดจริงๆ

ถึงแม้เธอจะบ่นในใจไปแบบนี้ แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของ จ้าว ซูซวน ยังคงอยู่

ในที่สุดวันนี้เธอก็บรรลุเป้าหมายเล็กๆ ของตัวเองแล้ว นั่นคือทำให้ ซู หนิงซวง ซื่อสัตย์ และยอมรับตัวเองอย่างเปิดเผย

หนิงซวง ดูจะอารมณ์ดี ไม่สิ ดีมากๆ เลยล่ะ

“ซูซวน…”

ซู หนิงซวง ยู่ปากทำหน้าบูดบึ้งใส่ จ้าว ซูซวน

ถ้าอยู่ในบ้านของ รุ่นน้อง เย่ แล้ว ซูซวน เรียกแบบนี้ก็ยังพอได้

แต่ถ้าเป็นในหอพัก หรือในชั้นเรียน ซูซวน เรียกแบบนี้ เธอเองคงตายด้วยความอับอายจริงๆ

“วางใจเถอะ ฉันไม่เรียกมั่วซั่วหรอกน่า~ คุณน้องสะใภ้~”

ดูเหมือนเธอจะมองออกถึงความคิดเล็กๆ น้อยๆ ของ หนิงซวง จ้าว ซูซวน จึงกล่าวขึ้น

พวกเธอเพียงแค่ล้อเล่น เพื่อแกล้งกันสนุกเท่านั้น

ถึงอย่างไร จ้าว ซูซวน ก็ยังรู้จักขอบเขตอยู่

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซู หนิงซวง ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ตอนนี้มีเพียงเธอ กับเย่เฉิน เท่านั้น เธอไม่อยากลองเรียกคุณพี่คนนี้ดูบ้างเหรอ~ จ๊ะ?”

จ้าว ซูซวน ถามด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม

เมื่อได้ยินแบบนี้ ซู หนิงซวง ก็อดรนทนไม่ไหวอีกต่อไป รีบรุดหน้าเข้าไปฝนเล็บกับ จ้าว ซูซวน ทันที

แต่เนื่องจาก ซู หนิงซวง สวมชุดคลุมอาบน้ำ การเล่นกันดูเหมือนจะมีบางส่วนเปิดเผยเล็กน้อย

เย่เฉิน มองดูทั้งสองคน โดยไม่ได้พูดอะไร

เรื่องของเพื่อนสนิททั้งสอง ปล่อยให้พวกเธอจัดการกันเองดีกว่า

ถ้าตัวเขาเปิดปากพูดเข้าข้างใครคนใด อีกคนก็คงไม่ยอมปล่อยตัวเองไปแน่ๆ

เย่เฉิน จึงหยิบแอปเปิ้ลผลหนึ่งขึ้นมากัดกิน แล้วเฝ้าดูชมเหตุการณ์นี้ต่อไป

“อ๊า”

สุดท้าย ซู หนิงซวง ก็ตระหนักถึงข้อเสียของการสวมชุดคลุมอาบน้ำในขณะเล่นกัน เธอรีบจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย

ซู หนิงซวง เม้มปากอย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนจะเหลือบมองไปที่ เย่เฉิน ที่กำลังเฝ้าดูเหตุการณ์นี้อยู่ ..ที่เขาคล้ายจะอมยิ้มแต่ไม่อมยิ้ม เห็นแบบนี้ หนิงซวง ยิ่งเก้อเขินขึ้นไปอีก รีบงุดหน้าลงต่ำ

นี่มัน.. เธอเสียหน้าครั้งใหญ่แล้ว

“พอแล้ว พอแล้ว ไม่เล่นแล้ว”

เธอรีบนั่งลง

ครืนโครม!

ขณะนี้ ข้างนอกฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว

มีสายฟ้าฟาดลงมา ตามด้วยเสียงฟ้าร้องดังสนั่น

ห่าฝนตกลงมาอย่างหนักด้านนอกคฤหาสน์ ดูเหมือนว่าจะไม่หยุดง่ายๆ

เวลานี้ก็ค่ำแล้ว และทั้งสามคนยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลย

ตอนนี้ฝนตกหนักจะออกไปทานข้าวข้างนอกก็คงไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องทำกินที่บ้านแทน

น่าเสียดาย ทั้ง จ้าว ซูซวน และซู หนิงซวง ต่างก็ทำอาหารไม่เป็น

ดังนั้น หน้าที่การทำอาหารอันยิ่งใหญ่นี้จึงตกไปเป็นของ เย่เฉิน

ก่อนหน้านี้ เย่เฉิน เคยซื้อทักษะการทำอาหารระดับสูงจากเกม การทำอาหารนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับ เย่เฉิน

จ้าว ซูซวน และซู หนิงซวง ช่วยกันล้างผัก ขณะที่ เย่เฉิน ทำอาหาร

หนึ่งชั่วโมงต่อมา อาหารเย็นอันหรูหราก็พร้อมเสร็จสรรพ

ซู หนิงซวง และจ้าว ซูซวน นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร พอได้กลิ่นหอมๆ ของอาหารจนต้องกลืนน้ำลาย

“หนิงซวง ดูสิๆ นี่แหละคือผลประโยชน์ของการเป็นน้องสะใภ้ฉันละน้า~”

จ้าว ซูซวน บอกกับ ซู หนิงซวง

“เป็นยังไง เย่เฉิน เป็นผู้ชายที่ดีใช่ไหม?”

“เย่เฉิน สุดยอดจริงๆ”

ซู หนิงซวง พลันตอบไปโดยไม่ทันคิดเช่นกัน

นี่เป็นครั้งที่สองที่ ซู หนิงซวง ได้กินอาหารที่ เย่เฉิน ทำ ครั้งแรกคือตอนออกไปเที่ยวเล่น และได้กินบาร์บีคิวที่ เย่เฉิน ทำ แต่ครั้งนั้นไม่นับ

ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ ซู หนิงซวง ได้เห็นทักษะการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมของ เย่เฉิน

รุ่นน้อง เย่ เก่งทุกอย่าง เขาทำได้ทุกอย่าง และแถมยังทำได้ดีมากด้วย

พอพูดจบ ซู หนิงซวง ก็พลันรู้สึกอาย

คำพูดของตัวเองเมื่อกี้เหมือนมีความหมายอื่นนะ

“ฉันหมายถึงทักษะการทำอาหารของ รุ่นน้อง เย่ นั้นยอดเยี่ยมมาก”

ซู หนิงซวง รีบอธิบาย

“กินข้าวเถอะ กินข้าวเถอะ”

เย่เฉิน รีบพูด เขารู้สึกว่า รุ่นพี่ ซู คืนนี้ดูแปลกๆ

หลังจากทานข้าวเสร็จ ทั้งสามคนได้มานั่งเล่นกันในห้องนั่งเล่น

แต่ด้านนอกยังคงมีฝนตกหนัก โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

“ดูท่าแล้ว คืนนี้คงจะไปไหนไม่ได้แล้ว”

จ้าว ซูซวน กล่าวด้วยความเสียดาย

“คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่ คงไม่ได้รบกวนเวลาส่วนตัวของพวกเธอใช่ไหม?”

จ้าว ซูซวน พูดถามเสียงอ่อนๆ

“ซูซวน”

ใบหน้าของ ซู หนิงซวง แดงก่ำทันที

“เดิมทีผมตั้งใจว่าจะไปส่ง รุ่นพี่ ซู กลับบ้านตอนดึกหน่อย แต่ดูท่าแล้ว คืนนี้คงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว”

เย่เฉิน พูด เพื่อเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“คืนนี้ฉันจะนอนกับ หนิงซวง”

ทันใดนั้น จ้าว ซูซวน พูดขึ้น

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทั้ง เย่เฉิน และซู หนิงซวง ต่างก็อึ้ง

“หากพวกเธอทำอะไรตอนกลางคืน มีเสียงเอะอะตึงตัง ไม่คิดว่าฉันจะอายบ้างหรือไง?”

จ้าว ซูซวน อธิบาย

นั่นไม่ใช่เรื่องแค่อายนะ แต่อายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะคืนนี้เธอออกไปไหนไม่ได้จริงๆ จ้าว ซูซวน ก็ไม่คิดอยากพักที่บ้านของ เย่เฉิน เพื่อรบกวนเวลาส่วนตัวของ หนิงซวง และเย่เฉิน หรอกนะ

“หนิงซวง คืนนี้เธอมานอนกับฉันเถอะ”

จ้าว ซูซวน เสนอ

“ผมไม่มีปัญหา”

เย่เฉิน กล่าว

แม้ว่า รุ่นพี่ ซู จะไม่นอนกับพี่สาวเขา แต่ระหว่างเขา กับรุ่นพี่ ซู ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก

ดังนั้นไม่ว่า รุ่นพี่ ซู จะนอนที่ไหนก็ไม่สำคัญ

“ตกลง”

ซู หนิงซวง พยักหน้า เธอเองก็ไม่มีปัญหาอะไร

และการไม่คัดค้านนั้นก็จะเท่ากับว่าไม่มีปัญหาอะไร.. แต่ถ้าหากเธอคัดค้านไป นั่นก็ยิ่งยากจะอธิบาย

ถ้าคัดค้าน นั่นไม่ใช่บอกกับ ซูซวน ตรงๆ เหรอว่าคืนนี้ต้องการทำอะไรกับ รุ่นน้อง เย่?

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาประมาณห้าทุ่มเกือบจะเที่ยงคืน

ซู หนิงซวง และจ้าว ซูซวน เดินเข้าไปในห้องรับรองห้องหนึ่ง พวกเธอจะนอนกันที่นี่คืนนี้

ขณะเดียวกัน เย่เฉิน นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นสักพัก ก็เตรียมตัวจะขึ้นไปชั้นบน กลับไปที่ห้องนอนเพื่อพักผ่อน

ตอนนั้นเอง จู่ๆ ประตูห้องของ ซู หนิงซวง ก็เปิดออก

ซู หนิงซวง เดินออกมา

“รุ่นน้อง เย่ รอแป๊บนะ”

เมื่อออกมา ซู หนิงซวง ก็ร้องเรียก เย่เฉิน

“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

เย่เฉิน ถามด้วยความไม่เข้าใจ

“รุ่นน้อง เย่ เธอช่วยหาห้องให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

ซู หนิงซวง พูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“ซูซวน บอกว่าบ้านนี้มีฉนวนกันเสียงดีมาก พ..เพื่อไม่ให้รบกวนพวกเรา เธอจึงอยากนอนคนเดียว”

ขณะนั้น ประตูห้องก็เปิดอีกครั้ง และจ้าว ซูซวน เดินออกมา

เดิมทีเธอกังวลเรื่องเสียงรบกวนตอนกลางคืน เธอจึงเสนอให้ หนิงซวง มานอนกับเธอ

แต่พออยู่ในห้องได้สักพัก จ้าว ซูซวน พบว่าบ้านหลังนี้ฉนวนกันเสียงดีมาก และเรื่องที่เธอกังวลนั้นย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นเลย

เพื่อไม่ให้น้องชายต้อง ‘นอนคนเดียว’ อย่างเปลี่ยวเหงาในคืนนี้ จ้าว ซูซวน จึงขับไล่ ซู หนิงซวง ออกมาอย่างใจกว้าง(ไม่เห็นแก่ตัว)

“ถึงแม้บ้านนี้จะมีฉนวนกันเสียงที่ดีมาก แต่ตอนกลางคืนพวกเธอสองคนก็ช่วยเบาๆ เสียง หน่อยล่ะ”

จ้าว ซูซวน พูดเตือนทั้งสองคนโดยเฉพาะ

หลังจากพูดจบ จ้าว ซูซวน ก็ปิดประตู

ที่นั่น เหลือเพียง เย่เฉิน และซู หนิงซวง ที่เวลานี้รู้สึกอายแบบสุดๆ

พี่สาวของเขาหมายถึงอะไร เขาไม่เข้าใจเลย(?)

เย่เฉิน พลันยักไหล่

ในวินาทีต่อมา จ้าว ซูซวน เปิดประตูออกมาอีกครั้ง พลางพูดด้วยท่าทางลึกลับว่า :

“ฉันมีเรื่องสำคัญมากเรื่องหนึ่งที่ลืมบอกพวกเธอไป...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด