ตอนที่แล้วChapter 799 แลกเปลี่ยนกับเต๋าจวินเซิ่งหยา.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 801 สวาปามเส้นทางแม้น้ำเหลียง.

Chapter 800 ระฆังแห่งความโกลาหล.


เต๋าจวินเซิ่งหยาที่สะบัดมือออกไป อนุสาวรีย์อมตะ 11 อันก็ปรากฏขึ้นมาลอยอยู่บนอากาศ.

"อนุสาวรีย์อมตะ!"เต๋าจวินเซิ่งหยา.

จงซานที่ไม่ได้รู้สึกเคอะเขินอะไรแม้แต่น้อย โบกมือเบา ๆ  ให้คนนำโลงศพยักษ์สีม่วงมา.

เห็นโลงศพยักษ์แล้ว เต๋าจวินเซิ่งหยาดวงตาหดเกร็ง ใช่แล้ว นี่คือโลงศพยักษ์ที่เขาตามหา.

เหล่าเมืองด้านล่างใกล้ ๆ  ตอนนี้มีเหล่าประชาชนมากมาย เหล่าผู้ฝึกตนที่ลอบมองไปยังประตูเมืองประตูสวรรค์ทิศใต้ กำลังจดจ้องเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจดจำได้ ว่าที่ด้านหน้าคือเต๋าจวินเซิ่งหยาและเย่ชิงเฉิง นี่ฝ่าบาทกำลังแลกเปลี่ยนสิ่งของกับพวกเขาอย่างงั้นรึ?

จริงหรือเท็จกัน? ฝ่าบาทไม่ได้เตรียมการลอบโจมตีเต๋าจวินเซิ่งหยาหรอกนะ?

ทุกคนที่กำลังรอคอยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?

"จะแลกเปลี่ยนอย่างไร?"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

เต๋าจวินเซิ่งหยานั้นหวั่นเกรงว่าจงซานจะนำอนุสาวรีย์อมตะไปแล้วไม่ยินดีที่จะมอบโลงศพให้เขา ดังนั้นจึงได้ระมัดระวัง.

ทว่าจงซานในเวลานี้กับเผยยิ้มกว้าง แดนเทพอมตะก่อนหน้านี้ วางแผนล้อมสังหารเขาหลายต่อหลายครั้ง ในเวลานี้จึงรู้สึกขลาดเขลา เกรงว่าจงซานจะทำเช่นเดียวกับตัวเองงั้นรึ?.

จงซานรับรู้ว่าเต๋าจวินเซิ่งหยานั้นหวั่นเกรงว่าตัวเองจะถูกตำหนิจากกงเชียน ดังนั้นจึงจริงจังหวาดกลัวการแลกเปลี่ยนครั้งนี้จะล้มเหลว.

หากเป็นก่อนหน้านี้เต๋าจวินเซิ่งหยาคงจะไม่ยอมปล่อยอนุสาวรีย์อมตะออกมาง่าย ๆ เลยด้วยซ้ำ เนื่องด้วยนิสัยที่เต็มไปด้วยความอหังการ ข้ามอบอนุสาวรีย์อมตะให้เจ้าแล้ว หากเจ้าไม่มอบโลงศพให้ข้า ข้าจะสังหารล้างตระกูลเจ้า! นั่นคือปรกติของเขา.

เต๋าจวินเซิ่งหยาในเวลานี้ ช่างน่าเศร้านัก ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนไป ความฮึกเหิมดูจะเป็นรองจงซาน ไปแล้ว.

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"จงซานที่หัวเราะเสียงดัง.

เสียงหัวเราะของจงซาน ทำให้เต๋าจวินเซิ่งหยาต้องขมวดคิ้วไปมา แววตาที่เผยท่าทางงงงวยไม่เข้าใจ.

จงซานที่ผลักให้โลงศพยักษ์สีม่วงลอยออกไป อย่างง่าย ๆ สบาย ๆ .

จงซานนั้นไม่ได้หวาดกลัวว่าเต๋าจวินเซิ่งหยาจะกลับคำ เพราะว่าโลงศพยักษ์สีม่วงนั่นไม่สามารถเก็บเข้ามิติเก็บของได้ ทำได้แค่แบกมันไปเท่านั้น.

หากเต๋าจวินเซิ่งหยาไม่ยอมมอบอนุสาวรีย์อมตะล่ะก็ แน่นอนว่าตี้เสวียนชาและคนของเขา ก็สามารถไล่ตามแย่งโลงศพกลับมาได้ ซึ่งนั่นจะยิ่งเป็นปัญหาต่อเต๋าจวินเซิ่งหยาเป็นอย่างมาก.

เห็นจงซานที่หัวเราะเสียงดัง เต๋าจวินเซิ่งหยาย่อมเข้าใจได้ในทันที.

เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ส่งอนุสาวรีย์อมตะทั้ง 11 อันให้ลอยมาทางฝั่งจงซาน.

"วูซซซ!"

"ฟิ้ว!"

สิ่งของแลกเปลี่ยนกันแล้ว จงซานที่อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก ส่วนเต๋าจวินเซิ่งหยานั้นรู้สึกร้อนรุ่มโกรธเกรี้ยวจนต้องสูดหายใจลึก.

เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ตรวจสอบโลงศพยักษ์สีม่วง ส่วนจงซานที่ตรวจสอบอนุสาวรียอมตะ.

"เรียบร้อย เชิญประมุขแดนเทพอมตะกลับได้ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"จงซานหัวเราะก่อนที่จะสะบัดแขนเสื้อและกลับเข้าไปยังประตูสวรรค์ทิศใต้ไปในทันที.

"ประมุขแดนเทพอมตะขอลา!"เหล่าเสนาบดีที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

เสียงหัวเราะของจงซานยังคงก้องอยู่ในหูของเต๋าจวินเซิ่งหยา.

"สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว เคลื่อนที่ได้!"

บนสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว เสียงของลู่เจี้ยนปิงที่ดังก้อง.

เกาะลอยฟ้าใหญ่ยักษ์ ตอนนี้กำลังมุ่งตรงไปทางทิศเหนือกลับไปยังพื้นที่เดิมอีกครั้ง.

เหล่าประชาชนเมืองด้านล่างเผยท่าทางประหลาดใจ นี่เป็นโอกาสที่ดีแล้ว ทำไมฝ่าบาทไม่ทำอะไรเต๋าจวินเซิ่งหยา? หรือจัดการเย่ชิงเฉิงได้สักคนก็ยังนับว่าดี.

"ท่านประมุข ทำไมมันจบง่ายขนาดนี้?ไม่ใช่ว่าจงซานมีแผนการหรอกรึ?"เย่ชิงเฉิงที่ไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย.

"ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว กลับ!"เต๋าจวินเซิ่งหยาภายในใจรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีนัก.

"ครับ!"

...........

ภายในสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.

"ฝ่าบาทไม่ต้องการลอบโจมตีพวกเขาหรอกรึ? พวกเราน่าจะมีความสามารถพอ"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางสงสัย.

"เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเต๋าจวินเซิ่งหยาตอนนี้ ยังไม่พอสังหารเขา เป็นเรื่องยากที่จะสังหารเขาได้ ไม่ว่าอย่างไร หากเขาต้องการหนีก็ไม่มีใครขวางได้ การต่อสู้นี้เป็นการต่อสู้ที่ไร้ประโยชน์ โลงศพยักษ์สีม่วงนั้นไม่สามารถเก็บเอาไว้ในสวนสวรรค์ลอยฟ้าได้ ตอนนี้กงเชียนกำลังรักษาอาการบาดเจ็บ หากเขากลับมาแล้ว เขาจะต้องกลับมานำกลับไปด้วยตัวเอง จะยิ่งเป็นอันตรายต่อพวกเรานัก เสวียนเอ๋อบอกว่ากงเชียนต้องใช้เวลารักษาหนึ่งร้อยปี ข้าเชื่อคำพูดของเสวียนเอ๋อ!"จงซานกล่าวอย่างหนักแน่น.

"ครับ ฝ่าบาทช่างหลักแหลมนัก!"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวตอบรับคำในทันที.

"นอกจากนี้ ฝ่าบาทยังต้องการที่จะแลกเปลี่ยนโลงศพยักษ์นี้อย่างโจ่งแจ้ง เพื่อให้คนทั่วหล้าได้เห็นและรับรู้ว่ามันอยู่ในแดนเทพอมตะนี่คือแผนการอีกชั้น!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"หืม?"

"ฟ้าดินกำสรวล สวรรค์หลั่งน้ำตา แน่นอนว่าต้องกระจายไปทั่วหล้าอย่างรวดเร็ว อีกอย่างเมื่อถูกเชื่อมโยงเข้ากับโลงศพในครั้งนี้ สิ่งของดังกล่าวเวลานี้ได้ตกอยู่ในมือของเต๋าจวินเซิ่งหยาแล้ว ทั่วทั้งสวรรค์แม้แต่ปิศาจในเงามืด จะต้องเริ่มปรากฏตัวออกมาแน่."อี้เหยี่ยนที่เผยยิ้มออกมา.

"ปิศาจในเงามืด?"หลิวอู๋ซ่างที่ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย.

"หลังจากนี้เจ้าจะเข้าใจเอง."อี้เหยี่ยนที่เผยยิ้มออกมา.

.............

เต๋าจวินเซิ่งหยาและเย่ชิงเฉิงที่นำโลงศพยักษ์บินกลับแดนเทพอมตะ.

สองยอดฝีมือที่ลำเลียงโลงศพ ใครกล้าขวาง ใครจะสามารถขวางพวกเขาได้? จงซานเองยังไม่ขวาง ทั่วทวีปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จะมีใครอีกที่มีความสามารถพอ?

ความเงียบงันที่ปรากฏขึ้น อีกไม่ไกลก็จะถึงแดนเทพอมตะแล้ว.

"หยุดก่อน!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ท่านประมุข?"เย่ชิงเฉิงที่แบกโลงศพสีม่วงอยู่ เผยท่าทางสงสัย.

ในเวลานี้ที่ด้านหน้าของเขา เต็มไปด้วยภูเขาหินที่โล่งเตียนเท่านั้น.

"มีคนต้องการลองดีกับข้า คิดว่าจะใช้กำลังแย่งชิงของจากข้ารึ? สงสัยไม่อยากมีชีวิตแล้ว!"ดวงตาของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา.

เต๋าจวินเซิ่งหยาที่เก็บความขุ่นเคืองเอาไว้ คาดไม่ถึงเลยว่าใกล้จะถึงแดนเทพอมตะแล้ว กลับปรากฏคนออกมาแย่งชิงของจากเขา ปล้นระหว่างทางอย่างงั้นรึ? นี่ดูแคลนข้าอย่างงั้นรึ?

"ท่านประมุข ใครอยู่ที่ใหนอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ.

เพราะเย่ชิงเฉิงนั้นไม่พบใครที่อยู่รอบ ๆ เลยนั่นเอง.

เต๋าจวินเซิ่งหยาไม่สนใจเย่ชิงเฉิง ทว่าตวัดฝ่ามือฟาดออกไปในอากาศ.

ฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่ที่ขยายใหญ่พุ่งตรงออกไปฟาดเข้ากับภูเขาหินที่โล่งเตียนด้านหน้า.

"ตูมมมมมมมมมมม!"

เกิดระเบิดดังสนั่น มิติอากาศที่ฉีกกระชาก ประกายแสงสีทองที่ส่องประกายสว่างจ้าพุ่งออกมา.

เหมือนกับบอลสีทองที่พุ่งออกมากระแทกฝ่ามือของเต๋าจวิน ระเบิดออกมาเสียงดัง.

"เย่ชิงเฉิง ถอยออกไป!"เต๋าจวินเซิ่งหยากล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ครับ!"เย่ชิงเฉิงที่รับคำในทันที.

เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ไม่กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเย่ชิงเฉิงแต่อย่างใด ทว่าเขาเป็นกังวลเกี่ยวกับโลงศพยักษ์ต่างหาก เพราะว่าเขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของศัตรูฝ่ายตรงข้ามไม่ธรรมดาเช่นกัน.

"เต๋าจวินเซิ่งหยาร้ายกาจนัก คาดไม่ถึงเลยว่าจะทะลวงไปถึงระดับ 12 สวรรค์แท้แล้ว!"

ฝ่ามือของเต๋าจวินเซิ่งหยาก่อนหน้านี้ทำให้เกิดหลุมดำขนาดใหญ่ และภายในนั้นก็มีเสียงที่แปลกประหลาด แหบเครือดังผ่านออกมา.

เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ดวงตาหดเกร็ง มือของเขาที่แตะไปที่น้ำเต้าเซียน.

"ขอให้เป่าเป่ยพุ่งออกไป!"

สิ้นเสียงของเต๋าจวินเซิ่งหยา ประกายแสงเจ็ดสีก็พุ่งออกไปในทันที พุ่งตรงไปยังหลุมดำด้านหน้า ด้วยความเร็วที่เกินจะบรรยาย มิติอากาศที่แตกเป็นทางซ้ำอีกรอบ.

มีดบินสังหารเซียน เป็นหนึ่งในอาวุธที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก แม้แต่ตี้เสวียนชายังไม่กล้าประมาท ทว่าศัตรูด้านหน้าจะรับมันได้หรือไม่?

"ตูมมมมมมมมมมมม!"

หลุมดำขนาดใหญ่ ทันใดนั้นก็ขยายออกมานับร้อยเท่า มิติอากาศที่แตกออกเป็นเสี่ยง เกิดการปะทะกันด้านในเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นมีดบินสังการเซียนก็บินกลับคืนมา.

ทว่าด้านในหลุมดำนั้นปรากฏชายคนหนึ่งที่สวมหน้ากากพยัคฆ์พุ่งออกมา.

ชายที่สวมหน้ากากพยัคฆ์ มีระฆังลึกล้ำสีเหลืองกำลังสั่นไปมาอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้มีดบินสังหารเซียนจะพุ่งเข้าไปปะทะระฆังดังกล่าวอย่างแน่นอน.

"เต๋าจวินเซิ่งหยา? มีดบินสังหารเซียน ไว้พบกันโอกาสหน้า!"ชายคนที่ถือระฆังพุ่งหนีด้วยความเร็ว.

"ขอให้เป๋าเป่ยออกไป!"เต๋าจวินเซิ่งหยาตะโกนออกไปเสียงดัง.

มีดบินสังหารเซียนที่พุ่งออกไปอีกครั้งด้วยความเร็วพริบตาเดียวก็ไปอยู่ด้านหน้าของระฆังแล้ว.

ระฆังดังกล่าวที่ขยายออกมาหนึ่งร้อยจั้งในทันที.

"เคร้ง!!!!!!!!!"

เสียงของระฆังยักษ์ดังกังวาน เนื่องจากการโจมตีของมีดบินสังหารเซียน พื้นที่รอบ ๆ กลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง.

กับการโจมตีของมีดบิน ชายคนดังกล่าวอยู่ในสภาพอนาถไม่น้อย ทว่าเวลานี้เขากลับเดินทางหนีไปไกลแล้ว.

อย่างไรก็ตามเต๋าจวินเซิ่งหยาก็ไม่คิดจะไล่ตามแต่อย่างใด เพียงแค่ดวงตาหรี่เล็กจดจ้องมองตาม.

ชัดเจนว่า ชายคนดังกล่าวไม่ใช่คู่มือของเต๋าจวินเซิ่งหยา ทว่าเต๋าจวินเซิ่งหยาก็ไม่กล้าตาม เพราะหวั่นเกรงว่าจะเป็นแผนการล่อเสื้อออกจากถ้ำ ล่อเขาออกไปและส่งคนอีกกลุ่มมาแย่งชิงโลงศพสีม่วง.

"ระฆังแห่งความโกลาหล นี่คือหนึ่งในสิบสมบัติวิเศษโบราณ?"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ดวงตาหรี่เล็กลง.

"ระฆังแห่งความโกลาหล ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ ตอนนี้กลับเผยตัวออกมาอย่างงั้นรึ? ท่านประมุข พวกเรา........!"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"กลับแดนเทพอมตะ!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กล่าวขัดออกมาทันที.

"ครับ!"เย่ชิงเฉิงที่เร่งรีบรับคำในทันที.

สองวันหลังจากที่ระฆังแห่งความโกลาหลปะทะมีดบินสังหารเซียน ณ สถานที่ต่อสู่ดังกล่าว.

ร่าง ๆ หนึ่งที่รอคอยอยู่ที่นี่กว่าสองวัน ด้วยหวาดกลัวว่าเต๋าจวินเซิ่งหยาและอีกฝ่ายจะกลับมา จึงไม่ได้เร่งรีบ เขาก็คือราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย หวังเฉิน.

หวังเฉินที่จ้องมองไปยังทิศทางของแดนเทพอมตะ และจ้องมองไปยังอีกทิศทางของชายสวมหน้ากากและระฆังขนาดใหญ่จากไป ดวงตาของเขาที่หรี่เล็กลง.

"ระฆังแห่งความโกลาหล? เหริ่นชุน?"หวังเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา.

"แล้วโลงศพสีม่วงนั่นคืออะไรกัน?"หวังเฉินที่ครุ่นคิดไปมา.

เขาที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ไม่กล้าที่จะอยู่นาน ก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยด้วยความเร็วสูง.

............

ภพหยิน ทะเลแม่น้ำเหลือง.

เทียนเฉินจื่อที่จับจ้องมองการลดลงของทะเลน้ำพุเหลืองตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนว่ามันจะถูกใครสักคนสวาปามเข้าไป เทียนเฉินจื่อจับจ้องมองอสุรกายตนใหนกันที่อยู่ในทะเลน้ำพุเหลืองกัน ก่อนที่เขาจะเห็น นกยูงตนหนึ่ง เป็นนกยูงยักษ์ที่มีขนาดห้าพันลี้ นกยูงตนนี้ดูดซับพลังของทะเลน้ำพุเหลือง ตอนนี้มันกำลังกลืนกินดูดซับพลังจากน้ำพุเหลืองไปทั้งหมดเลยรึ?

นี่มันอสุรกายชัด ๆ  มันมาจากใหนกัน ภพหยางอย่างงั้นรึ? ภพหยางมีอสุรกายที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ซ่อนเอาไว้อยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

จากนั้นก็ผ่านมาอีกหนึ่งเดือน ท้ายที่สุดทะเลน้ำพุเหลืองก็มองเห็นก้นแล้ว น้ำทะเลมากมายถูกนกยูงยักษ์ดูดกลืนไปอย่างงั้นรึ?

"ครืนนนนนน!"

นรกหมื่นจั้ง ภายในทะเลน้ำพุเหลืองแห่งนี้ทุกอย่างนั้นล้วนแล้วแต่เป็นของล้ำค่าถูกนกยูงยักษ์กินไปทั้งหมด.

"แกว๊ก!!!"

นกยูงยักษ์ที่คำรามลั่น เวลานี้เหลือเพียงแค่น้ำพุเหลืองที่พุ่งสู่ด้านบนเป็นเส้นทางน้ำพุเหลืองที่เชื่อมกับท้องฟ้า.

ทันใดนั้นราวกับว่านกยูงยักษ์เต็มไปด้วยความกระหายอ้าปากพร้อมกับพุ่งเข้าไปหาเส้นทางน้ำพุเหลืองทันที.

"โฮก!!!!"

น้ำพุเหลืองที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นสายธารที่ตั้งตรงหมุนวนพัดขึ้นด้านบน เวลานี้นักยูงยักษ์กำลังกลืนกินเส้นทางน้ำพุเหลือง แม้แต่เส้นทางน้ำพุเหลืองก็จะกินไปทั้งหมดเลยรึ?.

เส้นทางน้ำพุเหลืองเป็นสมบัติของสวรรค์และปฐพีที่ล้ำค่ามาก ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกัน? เทียนเฉินจื่อที่ซ่อนตัวจากที่ไกลออกไปหวาดผวาไม่แม้แต่ กล้าขยับเข้าใกล้.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด