ตอนที่แล้วChapter 798 เหรินซุน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 800 ระฆังแห่งความโกลาหล.

Chapter 799 แลกเปลี่ยนกับเต๋าจวินเซิ่งหยา.


แดนเทพอมตะ!

เต๋าจวินเซิ่งหยาที่เดินทางกลับ ใบหน้าที่บูดบึ้งขุ่นเคืองไม่พอใจเป็นอย่างมาก แม้นว่าเต๋าจวินเซิ่งหยาจะไม่พอใจเป็นอย่างมากที่กงเหล่ยเทียนไม่สามารถสังหารจงซานได้ ทว่าก็สามารถมองได้อีกมุมว่าจงซานนั่นแข็งแกร่งน่าเกรงขาม.

ตี้เสวียนชาที่ก้าวไปถึงระดับ 12 สวรรค์แท้! การต่อสู้ของเขาและตี้เสวียนชานั้น ไม่ได้เปรียบเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังดูเหมือนตี้เสวียนชาจะเก็บอะไรเอาไว้อีกด้วย ตี้เสวียนชาผู้นี้ น่าเกรงขามจริง ๆ .

จงซานยังไม่ตาย ดูเหมือนว่าจะแผนการในครั้งนี้จะล้มเหลวอีกแล้ว เต๋าจวินเซิ่งหยาที่รู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก ผู้ก่อตั้งได้บอกกับเขาด้วยว่าจงซานนั้นมีสองร่าง อีกร่างเป็นไปได้ว่าคงถูกผู้ก่อตั้งสังหารไปแล้ว.

สร้างร่างสองร่างได้ ไม่ใช่ว่ามันคือทักษะเทวะที่มีแต่ระดับมหาเซียนเท่านั้นที่มีหรอกรึ? จงซานจะน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!

"ท่านประมุข!"

"คารวะท่านประมุข!"

"คารวะท่านประมุข!"

"ท่านประมุข!"

เมื่อมาถึงแดนเทพอมตะ ทุกคนที่ออกมาทำความเคารพประมุขในทันที ประมุขแน่นอนว่าก็คือเต๋าจวินเซิ่งหยานั่นเอง.

เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ก้าวเข้ามาในแดนเทพอมตะ คิ้วขมวดไปมา เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า.

"กรรมวาสนา? นี่เย่ชิงเฉิงใช้กรรมวาสนาของแดนเทพอมตะอย่างงั้นรึ? เกิดอะไรขึ้น?"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

ขณะที่สัมผัสเทวะกวาดตามองไปรอบ ๆ  ก็พบเย่ชิงเฉิงอยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่ง ก่อนที่เขาจะพุ่งตรงไปยังตำแหน่งของเย่ชิงเฉิงในทันที!

ภายในหุบเขาแห่งหน่ง เย่ชิงเฉิงที่นั่งอยูบนบ่อน้ำแห่งหนึ่ง โดยที่สะกดกระบี่เซียนเซียนเอาไว้ พร้อมกับบำเพ็ญวิถีกระบี่ต่อไป.

"ตูมมมมมมมมมม!"

ทันใดนั้นน้ำในบ่อที่ปรากฏเป็นคลื่นใหญ่ขณะที่เต๋าจวินเซิ่งหยามาถึง ราวกับว่าเกิดการระเบิด.

ดวงตาของเย่ชิงเฉิงที่ลืมตาขึ้นมาในทันที แววตาที่สาดประกายแสงปะทุขึ้นมาในทันที.

"ท่านประมุข?"เย่ชิงเฉิงที่ตื่นตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะลุกขึ้นในทันที.

เต๋าจวินเซิ่งหยาที่จับจ้องมองไปยังกระบี่เซียนเซียนที่เย่ชิงเฉิงกุมเอาไว้แน่น เห็นชัดเจนว่าเย่ชิงเฉิงนั้นหวาดกลัวที่จะสูญเสียการควบคุมมันไป.

บางทีด้วยเต๋าจวินเซิ่งหยามองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้แววตาของเย่ชิงเฉิงรู้สึกภาคภูมิไม่น้อย ในมือของเขาที่กุมกระบี่เซียนเซียนแน่น

"กรรมวาสนาของแดนเทพอมตะ เจ้าเป็นคนใช้ไปอย่างงั้นรึ?"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ครับ หลายวันก่อน เกิดเรื่องเล็กน้อยขึ้น กระบี่เซียนเซียนสูญเสียการควบคุม ข้าจึงจำเป็นต้องใช้อำนาจของกรรมวาสนามาสนับสนุน เพื่อกำราบกระบี่เซียนเซียนเอาไว้!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิ.

"หืม? แดนเทพอมตะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?มีคนบุกรุกเข้ามาหรือไม่?"

"ไม่ ไม่เลยนับตั้งแต่ท่านออกไป ทุกอย่างก็สงบเงียบไม่มีอะไรเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแค่เรื่องของกระบี่เซียนเซียนที่สูญเสียการควบคุมเท่านั้น!"

"หืม? เมื่อไหร่?"ดวงตาของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่หรี่เล็กลง.

"อืม น่าจะเป็นหลังจากวันที่หยิงจากไปแล้ว!"เย่ชิงเฉิงครุ่นคิด.

"ครับ? สามวันหลังจากที่หยิงจากไปอย่างงั้นรึ?"เต๋าจวินเซิ่งหยาดวงตาหดเกร็ง.

"ครับ มีอะไรอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่เผยท่าทางสงสัย.

ใช่เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับกระบี่จูเซียน ใคร? เป็นใครกันที่เรียกกระบี่จูเซียนและกระบี่จิวเซียน? เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ตกอยู่ในการครุ่นคิดในทันที.

"ผู้ก่อตั้งกลับมาหรือไม่?"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่รู้สึกไม่ดีขึ้นมาในทันที.

"ไม่ ผู้ก่อตั้งยังไม่กลับมา หรือเป็นไปได้ว่าในวันนั้นเป็นผู้ก่อตั้งเป็นคนอัญเชิญกระบี่เซียนเซียน? เป็นไปได้ด้วยรึ?ที่ผู้ก่อตั้งต้องการใช้กระบี่เซียนเซียน?"เย่ชิงเฉิงที่เผยท่าทางสงสัย.

"ไม่ใช่ เป็นไปไม่ได้!"ดวงตาของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่หรี่เล็ก.

"ท่านประมุข หรือว่าผู้ก่อตั้งจะเกิดเรื่องขึ้นหรือไม่?"แววตาของเย่ชิงเฉิงที่กล่าวด้วยความอัศจรรย์ใจ.

"เป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้ ไม่มีใครที่จะคู่ควรกับผู้ก่อตั้ง แม้แต่หยิง บางทียังเทียบไม่ได้ ไม่มีทางที่ผู้ก่อตั้งจะเรียกกระบี่เซียนเซียนไป!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ส่ายหน้าไปมา.

"แล้วเป็นใครกันที่อัญเชิญกระบี่ไป? ด้วยพลังความแข็งแกร่ง ราวกับว่าผู้อัญเชิญนั้นได้หลอมรวมกับกระบี่มาหลายพันปีแล้วด้วย แม้แต่ข้ายังจำเป็นต้องใช้กรรมวาสนาของแดนเทพอมตะช่วย ถึงจะสามารถหยุดมันเอาไว้ได้."เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"หรือว่า?"ใบหน้าของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

"หรือว่าจะเป็น!"

เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ราวกับว่าคาดเดาอะไรบางอย่างได้ และหวังว่ามันจะไม่เป็นดังเช่นที่เขาคิด.

"ไป ไปยังที่พักของผู้ก่อตั้งพร้อมกับข้า!"เต๋าจวินเซิ่งหยากล่าว.

"ที่พักของผู้ก่อตั้ง? ไม่ใช่ว่ามันคือเขตหวงห้ามหรอกรึ? ที่ห้ามทุกคนเข้าไป!"เย่ชิงเฉิงขมวดคิ้วไปมา.

"ข้าเคยเข้าไปมาก่อน โปรดวางใจ เพียงมากับข้า ไม่มีอะไรต้องห่วง หากว่ามันจะไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่เช่นนั้นล่ะก็ถึงเจ้าตายเป็นหมื่นครั้งก็ยังยากจะชดใช้!"แววตาของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา.

เย่ชิงเฉิงที่เห็นแววตาที่เย็นชานั่น ดวงตาถึงกับหดเกร็งราวกับว่าพอจะรับรู้อะไรบางอย่าง.

เย่ชิงเฉิงไม่กล้ากล่าวอะไรต่อไปอีกเร่งรีบบินตามเต๋าจวินเซิ่งหยาไปในทันที พวกเขาที่ไปหยุดอยู่ในภูเขาเทือกเขาที่มีหลายชั้น และไปหยุดยังสถานที่แห่งหนึ่ง.

ที่ตำแหน่งตรงกลางนั้นมีตำหนักขนาดใหญ่อยู่ ทั้งคู่ที่ร่อนลงไป.

พร้อมกับก้าวเข้าไปด้านใน.

ที่ภายในห้องโถงตรงกลางนั้น มีแท่นบูชา แท่นบูชาที่สลักด้วยอักษรรูนที่ดูผิดปรกติมากมาย ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.

เย่ชิงเฉิงที่รู้สีแปลกประหลาดและประหลาดใจกับอักษรรูนมากมายที่ไม่เคยเห็น ส่วนเต๋าจวินเซิ่งหยาเวลานี้ถึงกับใบหน้าขาวซีด.

"! หายไปแล้ว!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กล่าวออกมาเสียงสั่น.

"มีอะไรหายไปรึ?!"เย่ชิงเฉิงที่หันหน้าจดจ้องมองมายังเต๋าจวินเซิ่งหยา.

ร่างของเย่ชิงเฉิงถึงกับนิ่งงันสั่นสะท้านกับสายตาของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารที่หนักหน่วงรุนแรง น่าหวาดกลัวในครั้งนี้.

"ท่านประมุข มีอะไรหายไปอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางหวาดกลัว.

...

สิบวันหลังจากนั้น ห้องโถงใหญ่แดนเทพอมตะ.

"ข้าได้ส่งศิษย์ออกไปเพื่อสอบหาข้อมูลแล้ว กับความผิดพลาดของเจ้าครั้งนี้ ไว้ให้ผู้ก่อตั้งกลับมา ค่อยตัดสินใจอีกครั้ง!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กล่าวด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก.

"ท่านประมุข ข้า!"เย่ชิงเฉิงที่รู้สึกราวกับว่าตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างที่สุด.

กลุ่มของหนี่ปู่ซาที่ลอบเข้ามาก่อนหน้านี้ ด้วยการใช้วิชาลับสวรรค์ลี้ลับ แม้แต่กงเชียนยังไม่สามารถพยากรณ์ได้ ลำพังเย่ชิงเฉิงนะรึ?เรื่องนี้เป็นกงเชียนประมาทเองที่ไม่ได้วางค่ายกลล้อมรอบโลงศพเอาไว้ นั่นจึงเป็นเหตุให้ต้องประสบเหตุการณ์เช่นนี้ต่างหาก.

เขาสูญเสียกระบี่เซียนเซียนไปแล้วรึ? ทำไมเต๋าจวินเซิ่งหยาทำกลับว่าเขาได้ทำกระบี่เซียนเซียนหายไปแล้ว.

"ท่านประมุข ใครอยู่ในโลงศพอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่ลอบสอบถามออกมา.

"หุบปาก เรื่องนี้ใช่เรื่องที่เจ้าต้องสอบถามเหรอ!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ตวาดออกมาด้วยเสียงเย็นชา ไม่แม้แต่ให้เย่ชิงเฉิงได้พูด.

"รายงานท่านประมุข เจิ้นจวินฮามะไลกลับมา!"ศิษย์คนหนึ่งที่กล่าวรายงานออกมาในทันที.

"ฮามะไล? คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะรอดมาได้? ให้มันเข้ามา!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่เต็มไปด้วยความสงสัย.

จากนั้นไม่นาน ฮามะไลก็ถูกนำตัวมา.

"ท่านประมุข ข้าได้พยายามสุดความสามารถทุกข์แค้นยากลำบาก ท้ายที่สุดก็รอดมาจากเงื้อมมือปิศาจจงซานได้!"ฮามะไลกล่าวออกมา.

ใบหน้าของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่เผยท่าทางเหยียดหยัน ลำพังขยะเช่นเจ้านะรึ?

"ไม่ใช่ว่าจงซานปล่อยเจ้ามารึอย่างไร?"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเคร่งขรึม.

"ข้าคิดว่าเขาไม่มีความสามารถมากกว่า!"ฮามะไลที่กล่าวยืดอกคุยฟุ้ง.

ทว่าในเวลานี้ใบหน้าของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่เริ่มมืดครึ้มไม่พอใจมากขึ้นและก็มากขึ้น ฮามะไลก็รับรู้ว่าตัวเองคงจะโม้มากไปหน่อย.

"เอิ่ม จงซานได้ให้ข้ากระทำบางอย่าง ขณะที่อยู่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว เขาต้องการนำความอับอายมาให้กับท่านประมุขจึงปล่อยข้ามา ข้า ข้าไม่กล้ากระทำตามที่เขาบอกและไม่ได้กล่าวออะไรออกมาเลย!"ฮามะไลที่กล่าวยืนยัน.

"สร้างความอับอาย? จงซานมันมีเวลาว่างขนาดนั้นรึไง!"ใบหน้าของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่ไม่เชื่อ.

สร้างความอับอาย? จงซานมีเวลาที่จะมาสร้างความอับอายให้เขาอย่างงั้นรึ? เต๋าจวินเซิ่งหยามีเหรอที่จะเชื่อ?

เห็นเต๋าจวินเซิ่งหยาไม่เชื่อ ฮามะไลที่ร้อนรนและกล่าวออกมว่า "แน่นอนว่าจงซานต้องการสร้างความอับอายให้กับท่านประมุข จึงแสดงโลงศพโลงหนึ่งให้ข้าเห็น ข้าเข้าใจทันทีที่เห็นโลงศพนั่นและให้จงยังยังสั่งให้ข้ามาบอกท่าน แต่ฝันไปเถอะ ข้าคิดว่า.....!"

"ช้าก่อน โลงศพอะไร?"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ดวงตาเป็นประกาย.

ทันใดนั้น เต๋าจวินเซิ่งหยาก็ตระหนักได้ในทันที แน่นอน จงซาน เป็นมันอย่างแน่นอน.

เห็นท่าทางผ่อนคลายของเต๋าจวินเซิ่งหยา ฮามะไลที่งงไปในทันที นี่จงซานกำลังต้องการทำให้ท่านอับอาย ไม่ได้โกรธเกรี้ยว ด่าว่าจงซานเลยรึ?

"ใช่เป็น โลงศพยักษ์สีม่วง!"ฮามะไลที่ค่อย ๆ กล่าวพร้อมลอบมองใบหน้าเต๋าจวินเซิ่งหยา.

ทันทีที่เต๋าจวินเซิ่งหยาได้ยิน ใบหน้าก็เผยท่าทางดีใจออกมา ฮามะไลถึงกับพูดไม่ออก คนอื่นกำลังทำให้ตัวเองอับอาย แต่กับมีความสุขอย่างงั้นรึ? หรือว่าเต๋าจวินเซิ่งหยาจะเป็นพวกยอมการด่าว่าเย้ยหยันอย่างงั้นรึ?

"จงบอกคำพูดทั้งหมดของมันออกมาอย่าให้ตกหล่น ห้ามตกหล่นแม้แต่คำเดียว.”

เย่ชิงเฉิงที่ราวกับตระหนักได้ถึงบางอย่าง จดจ้องมองไปยังฮามะไลด้วยความจริงจังเช่นกัน.

ฮามะไลที่รู้สึกไม่ดีขึ้นมา ใบหน้าทีเผยท่าทางแปลก ๆ  เกิดอะไรขึ้น?

"ครับ เรื่องนี้ จงซานบอกว่า.....!"ฮามะไลเริ่มเล่าใหม่อีกครั้งนับตั้งแต่ตัวเองถูกลากไปสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวจากต้นจนจบ.

"จงซานบอกว่าต้องการแลกเปลี่ยนโลงศพสีม่วงกับอนุสาวรีย์อมตะอย่างงั้นรึ?"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ใช่ จงซานกล่าวเช่นนี้ เพราะต้องการทำให้ประมุขอับอาย ข้าคิดว่าทาน..!"

"หุบปาก!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ตะโกนออกไปเสียงดังเปี่ยมไปด้วยความเย็นชา.

ฮามะไลที่ได้แต่เงียบ แม้นว่าจะเต็มไปด้วยความสงสัยก็ตาม.

"ท่านประมุข จงซานเขากำลังวางแผนอะไรอยู่หรือไม่?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ถึงจะมีแผนการ หากว่าสามารถแลกโลงศพสีม่วงกลับมาได้ ความบกพร่องในหน้าที่ของเจ้า ความผิดนี้ก็จะลดลง!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย.

อนุสาวรีย์อมตะ 11 อันนั้นอยู่ในมือของเต๋าจวินเซิ่งหยา ไม่มีใครสามารถชิงมันไปได้ ทว่ากับสถานการณ์เช่นนี้ หากว่าสามารถแลกมันคืนกลับมาได้ก่อนที่ผู้ก่อตั้งจะกลับมา อย่างน้อยโทษของเย่ชิงเฉิงก็จะลดน้อยถอยลง เขาเองก็จะไม่ถูกตำหนิด้วย.

สิ่งดังกล่าวนั้น ไม่สามารถปล่อยให้อยู่ในมือจงซานได้ เต๋าจวินเซิ่งหยารับรู้ถึงความสำคัญของมันดี.

"เย่ชิงเฉิง เจ้าเดินทางไปยังสวนสวรรค์ลอยฟ้าพร้อมกับข้า!"เต๋าจวินเซิ่งหยากล่าว.

"รับทราบ!"เย่ชิงเฉิงที่รับคำในทันที.

ห้าวันหลังจากนั้น ที่ใกล้ ๆ สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.

เป็นพื้นที่ที่ยื่นออกมาจากกำแพงของสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ตอนนี้มีคนมากมายที่กำลังจับจ้องมองพื้นที่ดังกล่าว.

สายตาของผู้คนมากมายต่างก็จับจ้องด้วยความสงสัย.

ที่ด้านนอกนั้นเป็นประตูสวรรค์ทิศใต้ในเวลานี้มีคนกลุ่มหนึ่งที่บินมา.

หนึ่งสะพายน้ำเต้าสีทองซึ่งก็คือเต๋าจวินเซิ่งหยานั่นเอง ส่วนอีกหนึ่งก็คือคนที่สะพายกระบี่เซียนเซียน เย่ชิงเฉิง.

โลงศพยกสีม่วงนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก พวกเขาที่เร่งรีบเดินทางมาอย่างรวดเร็ว.

ที่ประตูสวรรค์ทิศใต้นั้น จงซานที่นำตี้เสวียนชาและข้าราชบริพารอีกหลายคน มาพบกับเต๋าจวินเซิ่งหยา.

"เต๋าจวินเซิ่งหยาพบกันอีกแล้วสินะ!"จงซานที่กล่าวออกไปด้วยรอยยิ้ม.

อารมณ์ของจงซานตอนนี้ดูยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ด้วยการกลืนกินกระบี่จูเซียน ได้รับพลังมหาศาล ตอนนี้พลังฝึกตนของเขาก้าวขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้มีระดับ 8 สวรรค์แท้! เพิ่มขึ้นมาสองขั้นเลยทีเดียว.

นอกจากนี้ ยังเป็นระดับแปดขั้นปลายอีกด้วย!

จะไม่ให้จงซานมีความสุขได้อย่างไร ขณะที่พูดกับเต๋าจวินเซิ่งหยา สายตาก็ลอบมองไปยังกระบี่เซียนเซียนที่สะพายอยู่ด้านหลังของเย่ชิงเฉิงด้วย.

กระบี่ลู่เซียน กระบี่จิวเซียนและกระบี่จูเซียนถูกจงซานฉกมาหมดแล้ว ขณะที่เย่ชิงเฉิงเห็นสายตาของจงซาน แววตาที่เผยท่าทางเย็นชาออกมา ก่อนที่จะเร่งรีบกุมกระบี่เซียนเซียนเอาไว้อย่างรวดเร็ว ด้วยเกรงว่าจะถูกจงซานฉกไป.

"บอกว่ามาเจ้าต้องการสิ่งใด?"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"เจ้ามอบอนุสาวรีย์อมตะให้ข้า ข้ามอบโลงศพม่วงให้เจ้า!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

ในอดีตนั้นเป็นเต๋าจวินเซิ่งหยาที่สะกดข่มเขาโดยสมบูรณ์ ในเวลานี้กลายเป็นเต๋าจวินเซิ่งหยาถูกสะกดข่มแทน.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด