ตอนที่แล้วChapter 797 การปะทุของสวีฉี.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 799 แลกเปลี่ยนกับเต๋าจวินเซิ่งหยา.

Chapter 798 เหรินซุน.


สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว จงซานที่ปล่อยฮามะไลไป.

ฮามะไลที่หนีจากสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว รู้สึกว่าตัวเองกำลังฝันไป นี่ข้าถูกปล่อยตัวอย่างงั้นรึ? บ้าไปแล้ว ฮามะไลที่บินหนี ไม่กล้าแม้แต่หันหน้ากลับไปมอง.

ฮามะไลหนีออกจากสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวแล้ว.

"ฟูหวง ทำไมแลกเปลี่ยนเพียงแค่อนุสาวรีย์อมตะล่ะ? ทำไมไม่แลกกับกระบี่เซียนเซียนด้วยเลย?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

ใช่แล้ว โลงศพยักษ์สีม่วงนี้ ดูทรงมูลค่าเป็นอย่างมาก ทำไมฝ่าบาทถึงได้แลกเปลี่ยนกับของเพียงเล็กน้อยเท่านั้น.

"อนุสาวรีย์อมตะถือว่าดีที่สุดแล้ว หากว่าต้องการกระบี่เซียนเซียนเพิ่ม เกรงว่าคงจะล้มเหลว!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวตอบออกมา.

"หืม?"

"พวกเราจะทำการแลกเปลี่ยนกับเต๋าจวินเซิ่งหยา ไม่ใช่แลกเปลี่ยนกับกงเชียน.

"หมายความว่าอย่างไร?"

"กงเชียนนั้นไม่ได้อยู่ในแดนเทพอมตะเวลานี้ มีเพียงแค่เต๋าจวินเซิ่งหยาเท่านั้น หากว่าเราเรียกร้องมากเกินไป เต๋าจวินเซิ่งหยาย่อมไม่มีความสามารถที่จะตัดสินใจได้ ต้องรอให้กงเชียนกลับมา ซึ่งเมื่อเลยเวลานั้นเขาคงใช้กำลังแย่งชิงโลงศพนี้กลับไปอย่างแน่นอน!"อี้เหยี่ยนกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"อืม!"ทุกคนที่พยักหน้าเข้าใจเรื่องที่จะเกิดขึ้นในทันที.

"แต่ว่า ท่านรู้ได้อย่างไรว่ากงเชียนไม่ได้อยู่ที่แดนเทพอมตะ?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

อี้เหยี่ยนเผยยิ้มเล็กน้อย "เพราะว่าเขาตอนนี้อยู่ที่ทะเลน้ำพุเหลือง!"

"ทะเลน้ำพุเหลือง?"

"ใช่แล้ว ข้าเพิ่งได้รับข้อความ หลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บหนักก่อนหน้านี้ กงเชียนได้เดินทางไปยังทะเลน้ำพุเหลือง บางทีทะเลน้ำพุเหลืองอาจจะสามารถบรรเทาอาการบาดเจ็บให้กับเขาได้!"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"นี่เขาเดินทางไปยังภพหยินอย่างงั้นรึ? คาดไม่ถึงเลยว่าจะเดินทางผ่านไปยังเส้นทางน้ำพุเหลืองได้?"กู่เฉียนโหยวขมวดคิ้วไปมา.

"ไม่มีปัญหา ในภพหยินนั้น เขาคงไม่สนใจ! ไม่ใช่สิ คงไม่มีมีเวลาแม้แต่จะสนใจดินแดนภพหยิน!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"อืม!"

ขณะที่ทุกคนกำลังปรึกษาพูดคุยกันอยู่นั้น ในเวลาเดียวกันเซียนเซิงซือที่ก้าวเดินไปอยู่ด้านหน้าโลงศพยักษ์สีม่วง.

แม้นว่าตะปูจะผนึกพลังส่วนใหญ่ของโลงศพม่วงเอาไว้แล้ว ทว่าเซียนเซิงซือยังคงเดินไปรอบ ๆ โลงศพดังกล่าว พร้อมกับพิจารณาใคร่ครวญอย่างละเอียด.

ทุกคนที่จับจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือที่ตอนนี้ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อนจริงจังมากขึ้นและก็มากขึ้น.

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยปรึกษากันอยู่นั้น ก็จับจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยความสงสัย.

"เซียนเซิงซือ ท่านพบอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

เซียนเซิงซือที่สูดหายใจลึกจดจ้องมองไปยังจงซาน "ฝ่าบาท สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีนัก!"

"หืม?"

"ฝ่าบาทเชิญทอดพระเนตรตรงนี้!"

ทุกคนที่ก้าวเข้ามาจดจ้องมองไปยังตำแหน่งที่เซียนเซิงซือชี้ เป็นสถานที่มีรอยด่างขนาดเล็กเกิดขึ้น.

"มันคือ? ใช่พวกเราได้ตรวจสอบก่อนที่จะนำมาแล้วโลงศพนี้ไม่มีรอยด่างก่อนหน้า!"หนี่ปู่ซาที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่แล้ว ไม่มีรอยด่าง ทว่าตอนนี้กลับมี!"เซียนเซิงซือที่สูดหายใจลึก.

"รอยด่างนี้หมายความว่าอย่างไร?"

"นี่คือซือปัน(รอยด่างของศพ) เป็นอำนาจการเสื่อมสลายของศพ บนโลกศพมีทั้งหมด 80 จุด รวมตรงนี้กลายเป็น 81 ซือปัน."เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง.

"มันหมายถึงอะไร?"

"การปะทุจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เป็นหนึ่งในกระบวนการการปะทุของปราณความตาย ดูเหมือนว่าตะปูผนึกนั้นกำลังถูกต่อต้าน เวลานี้มีรอยด่างทั้งหมด 81 รอย กระบวนการดังกล่าวนี้ได้เริ่มต้นแล้ว ศพด้านในนั้นกำลังดูดซับ กลิ่นอายสวีฉี มีมานานแล้ว เพียงแต่กระบวนการมันกำลังดำเนินไปอย่างช้า ๆ  เมื่อมันมีเวลา อีกไม่ช้าก็เร็วมันจะต้องปะทุอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น ฟ้าจะถล่มแผ่นดินจะทลาย!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความหวั่นเกรง.

กับคำพูดที่น่าหวั่นเกรงของเซียนเซิงซือ ทำให้เทียนหลิงเอ๋อหวาดกลัวกุมแขนของจงซานแน่น.

"ตอนนี้ไม่มีปัญหา ข้าคิดว่า อย่างน้อยต้องใช้เวลา 300 ปี สามร้อยปีหลังจากนี้ คงบอกไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง."เซียนเซิงซือที่กล่าวอย่างจริงจัง.

"300 ปีอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ฝ่าบาท เหมือนว่าเวลาจะไม่คอยท่าแล้ว!"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ไม่ว่าจะเร่งรีบอย่างไร ภายในสามร้อยปี จะต้องรวบรวมผืนแผ่นดินแห่งนี้เข้าด้วยกัน กำจัดแดนเทพอมตะและราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยให้สิ้น!"แววตาของจงซานที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นจริงจัง.

"รับทราบ!"ทุกคนที่พยักหน้ารับในทันที.

"ดินแดนภาคเหนือที่ต้าฉินจากไป กองทัพของพวกเราเดินทางไปยังภาพเหนือได้เลย เริ่มดำเนินการได้! อี้เหยี่ยน ข้าขอมอบหน้าที่จอมพลให้กับเจ้า จงยึดครองดินแดนภาคเหนือให้ได้เร็วที่สุด!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"รับด้วยเกล้า!"

........

ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย ห้องอักษรกงเหล่ยเทียน.

กงเหล่ยเทียนที่กลับมาถึง ซึ่งเวลานี้มีหวังเฉินอยู่ด้านหน้า.

"กลุ่มของเซอคง ยังไม่กลับมาเลยรึ?"กงเหล่ยเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ยังไม่เห็นเลยขอรับ!"หวังเฉินที่ส่ายหน้าไปมา.

"หากเขากลับมา ให้เขารายงานด้วยว่าลัทธิหงหรูทำไมถึงไม่ประสบความสำเร็จตามแผน ชิ!"กงเหล่ยเทียนที่แค่นเสียงเย็นชา.

"ข้าคิดว่าเซอคงนั้นได้ทำเต็มที่แล้ว แม้นว่าเขาจะไม่ได้ไปสอดส่องนิกายมากนัก ทว่าข้าคิดว่าโครงสร้างที่เขาวางไว้นั้นยอดเยี่ยมทีเดียว."หวังเฉินกล่าว.

หวังเฉินที่ราวกับว่าพูดช่วยเหลือเซอคง แต่ฟังดูแล้วกลับทำให้กงเหล่ยเทียนรู้สึกไม่ดี ไม่เคยไปดูเลยอย่างงั้นรึ?

"เอาล่ะ เรื่องนี้ เขากลับมาข้าจะเป็นคนสอบถามด้วยตัวเอง ว่าแต่เรื่องของเจ้าเวลานี้ล่ะ!"กงเหล่ยเทียนที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"ข้า?"

"ข้าได้ยินมาว่าเจ้าได้สร้างหลุมศพของจงซานเอาไว้ที่เรือนที่พักเมื่อหลายวันก่อน?"กงเหล่ยเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

หวังเฉินที่ขมวดคิ้วและเร่งรีบกล่าวออกมาทันที "ฝ่าบาทโปรดอภัย ไม่ว่าอย่างไรครั้งหนึ่งจงซานก็เคยเป็นฟู่อี้ของกระหม่อม แม้ว่าฝ่าบาทและจงซานจะมีความแค้นต่อกัน ทว่าหวังเฉินก็หวังว่าฝ่าบาทจะอนุญาตให้หวังเฉินสร้างป้ายวิญญาณของเขาได้!"

"จงซานยังไม่ตาย!"กงเหล่ยเทียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางขุ่นเคือง.

"ยังไม่ตาย?"หวังเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เอาล่ะ เจ้าที่สร้างป้ายวิญญาณให้กับจงซาน ข้าจะไม่ตำหนิเจ้า อย่างไรก็ตามเพราะว่าเจ้าคิดว่าเขาตายแล้ว คนตายไปแล้ว จะสร้างป้ายวิญญาณขึ้นมาหาได้มีอะไรแตกต่าง ข้าเพียงแค่ต้องการที่จะให้เจ้าทำงานให้กับข้าด้วยความเต็มใจอย่างสุดกำลัง โปรดวางใจ ไม่ว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร เมื่อก้าวไปถึงโลกใบใหญ่ ตระกูลกงของข้าที่มีปราชญ์เทพ เป็นตัวตนที่น่าเกรงขามในใต้หล้าเช่นกัน!"กงเหล่ยเทียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ครับ!"หวังเฉินที่ก้มหน้าแสดงความเคารพ ทว่าที่มุมปากของเขาเผยยิ้มอย่างมีเลศนัยน์ออกมา.

"หยิงได้จากไปแล้ว ตอนนี้ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นจอมพล นำทัพตะลุยดินแดนทางตะวันออก เก็บเกี่ยวอาณาเขตแดนของต้าฉินกลับมาให้หมด!"กงเหล่ยเทียนกล่าว.

"น้อมรับคำสั่ง!"หวังเฉินที่เร่งรีบรับคำในทันที.

"ทว่าก่อนหน้านั้น ข้ามีเรื่องที่ต้องการให้เจ้าไปจัดการ!"กงเหล่ยเทียนกล่าว.

"ฝ่าบาทเชิญกล่าว."

"ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยนั้น มีผู้ฝึกตนฮวงจุ้นสองคน หนึ่งคือเฉินซิ่ว อีกหนึ่งก็คือเหรินชุน เฉินซิ่วนั้นได้ตกตายไปแล้ว ตายไปอย่างไร้ประโยชน์ ส่วนอีกคนก็คือเหรินชุน เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับแดนเทพอมตะเป็นอย่างมาก ภูมิหลังไม่ธรรมดา ทว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นมากมายกว่าจะคาดคิด!"กงเหล่ยเทียนกล่าว.

"มีความแข็งแกร่งที่เกินธรรมดาอย่างงั้นรึ?"หวังเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่แล้ว เหรินชุนที่ปรกติทำตัวไม่โดดเด่น ทว่าเซิ่งซ่างองค์ก่อนลู่กุยเทียนนั้นบอกได้เลยว่าไม่ใช่คู่มือของเหริ่นชุน เดิมที่จื่อจุ้นเผ่าอีกาคนก่อน อู่หวน แท้จริงแล้วก็คือศิษย์ของเหริ่นชุนเช่นกัน."กงเหล่ยนเทียนกล่าว.

"นี่เหริ่นชุนร้ายกาจขนาดนั้นเลยรึ? นี่เขาไม่ใช่แค่เพียงผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยหรอกรึ? เขาซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ เพื่ออะไรกัน?"หวังเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ข้าเองก็ไม่รู้ ก่อนหน้านี้ข้าเคยเห็นเขาเคยเดินทางมายังราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย เซิ่งซ่างคนเก่า อู่เหินดูเหมือนว่าจะไม่เชื่อใจเขานัก แม้แต่เต๋าจวินเซิ่งหยาและคนอื่น ๆ เองก็ไม่เชื่อใจเขาเช่นกัน ด้วยเหตุนนี้การล้อมสังหารจงซานพวกเราจึงไม่มีใครเรียกเหริ่นชุนเข้าร่วมนั่นเอง!"กงเหล่ยเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"นั่นก็หมายความว่าการที่เหรินชุนเข้าร่วมราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย แน่นอนเขาจะต้องมีแผนการอย่างแน่นอน!"หวังเฉินที่กล่าวยืนยัน.

"ข้าเองก็คิดเช่นนั้น มีอะไรในต้าสุ่ยที่เขาสนใจอย่างงั้นรึ? มีอะไรกันที่พวกเรายังไม่รู้?"กงเหล่ยเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.

"ฝ่าบาทต้องการให้ข้าตรวจสอบเหรินอย่างงั้นรึ?"หวังเฉินที่กล่าวออกมาในทันที.

"ใช่ ข้าต้องการให้เจ้าตรวจสอบเหรินชุน ในบรรดาเสนาธิการทั้งหมดเจ้านับว่าเป็นคนที่เก็บความรู้สึกได้ดีที่สุด เรื่องนี้ข้าจึงต้องการมอบให้เจ้า เกี่ยวกับเรื่องในโลกนี้ ข้าเองก็ต้องการทราบ ทำไมเขาถึงได้ต้องการเข้ามาข้องเกี่ยวกับแดนเทพอมตะ เหรินชุนผู้นี้ลึกลับเกินไปแล้ว แม้แต่ข้ายังไม่สามารถมองเห็นเป้าหมายของเขาได้ เขาต้องการเข้ามาเป็นเพียงเบี้ยหมากในเกมนี้ทำไม หากรับรู้เป้าหมายของเขาได้ เขาจะกลายเป็นคนสำคัญที่ช่วยเราบุกเบิกแผ่นดินก็ได้!"กงเหล่ยเทียนที่กล่าวออกมาอย่างมั่นคง.

"ขอรับ เฉินจะไม่ทำให้ฝ่าบาทผิดหวัง!"หวังเฉินที่กล่าวรับในทันที.

.................

ภพหยิน ภายในนรกหมื่นจั้ง สถานที่แห่งนี้ที่อยู่ใกล้กับน้ำพุเหลือง.

ภายในเส้นทางของน้ำพุเหลืองจากภพหยาง มีเหล่าเจตภูตมากมายที่ร่วงหล่นลงมา และภายในหุบเขาแห่งหนึ่งของเส้นทางน้ำพุเหลือง มีชายชราผู้หนึ่งที่มีโลหิตอาบไปทั่วร่าง.

เดิมที่เขาก็คืออาวุโสใหญ่ของตระกูลเทียนภพหยิน เทียนเฉินจื่อ หลังจากที่เขารับฝ่ามือของหยิง เขาก็หนีอย่างไม่คิดชีวิต หยิงที่บอกว่าหากรับฝ่ามือของเขาได้หนึ่งฝ่ามือ จะไม่จับตัวเขานั่นเอง.

เทียนเฉินจื่อที่หนีมายังเส้นทางน้ำพุเหลือง หลังจากที่สร้างค่ายกลรอบ ๆ  เขาก็ทำการรักษาบาดแผลของตัวเอง.

ทว่าเมื่อเขาตรวจสอบร่างกายของตัวเอง เทียนเฉินจื่อถึงกับหวาดผวาขึ้นมา ฝ่ามือของหยิงนั้นไม่ได้ทำให้เขาต้องตกตายก็จริง ทว่าอาการบาดเจ็บของเขานั้นแปลกประหลาเป็นอย่างมาก พิษบาดแผลที่ได้รับไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แม้จะกินโอสถเทวะแล้วก็ตาม อาการไม่ดีแม้แต่น้อย หนำซ้ำมันยังมีอาการแทรกซ้อนขึ้นทุก ๆ วันด้วย.

ผิวหนังของเขาที่ค่อย ๆ หลอมละลาย กล้ามเนื้อเองก็ระเบิดออกมาเป็นระยะ ๆ สร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก.

สภาพของเขาในเวลานี้ ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น ทว่าเทียนเฉินจื่อที่มีอายุกว่า 80,000 ปีมาแล้ว เขาย่อมไม่ยอมให้สิ้นสุดเท่านั้น เขายังสามารถอดทนต่อความเจ็บปวดที่รุนแรงนี้ได้.

ในเวลานี้เขาทำได้แค่รักษาอาการบาดเจ็บตามบาดแผลตามอาการแทรกซ้อนที่ปรากฏได้เท่านั้น แววตาของเทียนเฉินจื่อที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทำไมถึงได้เป็นเช่นนี้? ต้าฉินทรงพลังขนาดนี้เลยรึ?

ในวันหนึ่งขณะที่เขากำลังรักษาบาดแผลของตัวเองอยู่นั้น เทียนเฉินจื่อที่ใช้สัมผัสเทวะตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ ในทุก ๆ วัน เขาจะได้รับรู้ได้ในทันทีว่ามีใครบางคนที่ข้ามผ่านมาหรือไม่ และก็พบว่าผู้ที่ผ่านข้ามมานั้นคือองค์รักษ์เงาหยิงเหว่ยของราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้งนั่นเอง.

ราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้ง! ปัญหาทั้งหมดล้วนมาจากราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้ง จงซาน หากไม่เพราะจงซาน ตัวเขาคงไม่ต้องพบกับสถานการณ์เช่นนี้?

อย่างไรก็ตาม เทียนเฉินจื่อก็ไม่ได้เร่งรีบ เขาจะต้องรักษาแผลให้ดีกว่านี้ก่อน ไม่รู้ว่าจะพอเยี่ยวยาให้หายขาดได้หรือไม่?

จากนั้นอีกไม่กี่วัน เทียนเฉินจื่อก็พบว่าหยิงเหว่ยของต้าเจิ้ง ทันใดนั้นก็ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อน พร้อมกับเร่งรีบหนีจากไป.

"ตูมมมมมมมมมมมมมมม!"

เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น รอบ ๆ ทะเลน้ำพุเหลืองที่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง.

เทียนเฉินจื่อที่ตื่นตกใจอย่างแรก จดจ้องมองไปยังทะเลน้ำพุเหลืองทันที.

บนท้องฟ้าเวลานี้ปรากฏเจตภูตที่กำลังรวมตัวกันขึ้น.

เจตภูตก็คือภูตที่ยังไม่เปิดเชาว์วิญญาณ สามารถหลอมรวมกันได้ จะทำให้มีร่างกายที่ใหญ่โตและมีพลังเป็นอย่างมาก เวลานี้มันได้ปรากฏออกมาที่เส้นทางน้ำพุเหลือง มีเจตภูตมากมายที่กำลังปีนป่ายไปมา พยายามหลบหนี ทว่าทันใดนั้นก็หายไปในอากาศ.

พื้นที่รอบ ๆ ที่สั่นไหว ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างที่กำลังปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดของทะเลน้ำพุเหลือง เจตภูตหายไปใหน.

"โฮกกกกกกกก!"

เสียงที่ดังสนั่นรุนแรงดังขึ้น ทำให้เทียนเฉินจื่อต้องก้าวออกมาดู.

ทะเลน้ำพุเหลือง จู่ ๆ ก็สั่นไหวและลดฮวบลงไปในทันที.

เทียนเฉินจื่อที่รู้สึกขนลุกขึ้นมาในทันที น้ำพุเหลืองจมลงไปด้านล่างอย่างงั้นรึ? น้ำทะเลน้ำพุเหลืองที่อยู่ ๆ ก็ลดลง? หรือมีอะไรที่ดูดกลืนน้ำทะเลของน้ำพุเหลืองไป นี่คือของเหลวที่ไม่ว่าจะมนุษย์คนใหนก็ไม่กล้าดูดซับไม่ใช่รึ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด