Chapter 785 พลังของหยิง
เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กวาดตามองเหล่ายอดฝีมือของแดนเทพอมตะ.
"เย่ชิงเฉิง ความปลอดภัยของแดนเทพอมตะขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง.
"ประมุขโปรดวางใจ ชิงเฉิงจะไม่สร้างความผิดพลาดขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน."เย่ชิงเฉิงกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"อืม!"เต๋าจวินเซิ่งหยาพยักหน้า.
เต๋าจวินเซิ่งหยาที่สั่งการพร้อมกับแบกน้ำเต้าสังหารเซียนเดินทางออกจากแดนเทพอมตะ ซึ่งมีชายในชุดสีม่วงถือกระบี่จูเซียน ก้าวตามเต๋าจวินเซิ่งหยามาด้วย.
ใบหน้าของชายชุดม่วงนั้นดูไร้อารมณ์ ดวงตาคล้ายเหม่อลอย แต่กับคมกล้าไร้ที่สิ้นสุด หากจดจ้องมองอย่างละเอียดล่ะก็ จะพบว่าคนผู้นี้ก็คือจื่อจุ้นเผ่ากบ ฮามะไล ทว่าตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นคนอีกคน กลิ่นอายที่เขาปล่อยออกมานั้น เต็มไปด้วยจิตสังหารที่ไร้สิ้นสุด.
.....
ระหว่างทางจงซานและตี้เสวียนชากำลังพุ่งตรงไปยังต้าฉิน.
"เจ้ามั่นใจอย่างงั้นรึ? ว่ากงเชียนจะเดินทางไปยังสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ข้ามั่นใจ."จงซานกล่าว.
"ทำไม?"
"ข้อแรก แดนเทพอมตะต้องคิดจะล้อมสังหารร่างทั้งสองของข้า ส่วนกงเชียนนั้นแน่นอนว่าต้องรับหน้าที่ลำบากสุด ที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวที่ข้าสามารถยืมพลังฟ้าดินของต้าเจิ้งมาช่วยได้ ดังนั้นกงเชียนต้องเป็นคนเดินทางไปยังสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวอย่างแน่นอน."
"ข้อสอง กงเชียนไม่ต้องการปะทะกับหยิง ดังนั้นจึงไม่ต้องการเผยตัวออกมาต่อหน้าต้าฉิน!"
"ข้อสาม กงเชียน แม้ว่าจะพยากรณ์ข้าได้บ้าง ทว่าเขาก็ไม่สามารถเข้าใจข้าได้ทั้งหมด.
ฟังข้อหนึ่งกับข้อสอง ตี้เสวียนชาพยักหน้ารับ ส่วนข้อที่สามตี้เสวียนชาที่จ้องมองจงซานแปลก ๆ ไม่ใช่แค่กงเชียนที่ไม่เข้าใจเจ้า ข้าคิดว่าแม้แต่ข้าเองหรือคนอื่น ๆ จะมีใคร เข้าใจเจ้าได้กัน?
"หากไม่ใช่กงเชียน การต่อสู้ของพวกเราครั้งนี้ก็ไม่มีปัญหา!"ตี้เสวียนชากล่าว.
"อืม!"
....................
ต้าฉิน เมืองเซียนหยาง.
เมืองขนาดใหญ่ เวลานี้กำลังเปล่งแสงออกมา กองทัพขนาดใหญ่ได้เข้าไปในเมืองแล้ว เหล่าทหารนับพันนับหมื่น บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยประกายแสงสีทองของดอกบัวขนาดใหญ่.
ดอกบัวขนาดใหญ่ที่ดูผิดปรกติ พลังงานบริสุทธิ์ที่แผ่ออกมา ฟุ้งกระจายไปทั่วทิศ พร้อมกับปรากฏภาพเงาของเมืองเซียนหยางสะท้อนไปทั่วทิศ.
บนท้องฟ้าที่มีเผ่ามังกรมากมาย หลายตนที่บินเข้ามาในเมือง หลายตนก็เลือกที่จะจากไป.
อ้าวซือไห่ที่ยืนอยู่ที่เมืองหลวงทิศใต้ของเมืองเซียนหยาง.
"อ้าวซือไห่ เจ้าคงคิดดีแล้วสินะว่าไม่ต้องการติดตามพวกเรา?"หลี่ซือที่ขมวดคิ้วจ้องมองไปยังอ้าวซือไห่.
"ฮ่าฮ่าฮ่า หยิง หยิงทำเกินไปแล้ว ติดตามเจ้ารึ? จะให้คนทรยศของแดนเทพพิสุทธิ์ ปู่ซามังกรสวรรค์ที่ไปเป็นนักบวชของแดนเทพพิสุทธิ์ในอดีต เป็นผู้นำ หนำซ้ำพลังฝึกตนก็ยังด้อยกว่าข้าอีก คิดจะให้ข้ารับใช้มันอย่างงั้นรึ?"ดวงตาของอ้าวซือไห่ดวงตาเบิกกว้าง.
"นี่เป็นการตัดสินใจของข้า ไม่ได้เกี่ยวกับฝ่าบาท ต้าฉิน คงอยู่มาหลายยุค มีชีวิตที่แทบจะเป็นนิรันดร์ พลังอำนาจนั้นไม่ได้ยึดกันที่พลังฝึกต้น จื่อจุ้นมังกรสวรรค์ แม้นว่าพลังฝึกตนจะด้อยกว่าเจ้า ทว่าศักยภาพของเขาเหนือกว่าเจ้า นอกจากนี้มุมมองของเขายังเหนือกว่าเจ้าด้วย ข้าไม่เคยมองคนผิด!"หลี่ซือกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ถุยยยย!"อ้าวซือไห่ที่แค่นเสียงเย็นชา.
"อ้าวซือไห่ ข้าจะขอถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าจะไม่ติดตามพวกเราแล้วใช่หรือไม่?"หลี่ซือที่สอบถามออกไปอีกครั้ง.
"เกินไปแล้ว มันเกินไปแล้ว!"อ้าวซือไห่สะบัดแขนเสื้อ สะบัดหน้าบินหนีไปในทันที.
เหล่ามังกรที่เห็นจื่อจุ้นจากไป หลายตนที่บินตามไปด้วย และแน่นอนว่ายังมีเผ่ามังกรอีกไม่น้อยที่ยังคงอยู่ มังกรเหล่านี้ยอมรับต้าฉินแล้วนั่นเอง.
จ้องมองอ้าวซือไห่จากไปแล้ว หลี่ซือไม่ได้สนใจนัก ก่อนที่จะสะบัดแขนเสื้อและบินกลับเข้าเมือง.
เมืองเซียนหยาง เดิมที่ทิศเหนือเป็นตำหนักของกุยกู ซึ่งเป็นตำหนักของตระกุลกุยกู เวลานี้ได้ปรากฏแสงสีม่วงปกคลุมไปทั่งหมด กลายเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ที่ปลดปล่อยพลังที่หนักหน่วงรุนแรงน่าเกรงขามออกมาไม่หยุด.
กว่าสามเดือน ที่ค่ายกลแห่งนี้ได้สะสมพลังวิเศษเอาไว้ อำนาจฟ้าดินที่ถูกค่ายกลนี้ดูดซับมา กำลังโคจรไปรอบ ๆ เมืองเซียนหยางอย่างไม่หยุดหย่อน.
ดอกบัวขนาดใหญ่นี้แท้จริงแล้วก็คือพลังงานฟ้าดินที่กำลังโคจร เป็นหนึ่งในรูปร่างของค่ายกลเมื่อเปิดใช้งานนั่นเอง.
จงซานที่นำตี้เสวียนชามาถึงก่อนกำหนดสามวัน ซึ่งได้มองเห็นภาพความงดงามของเมืองเซียนหยางได้ อีกทั้งยังมีกลิ่นที่หอมละมุนบริสุทธิ์แผ่ออกมาจากท้องฟ้าด้วย.
คนทั้งสองไม่ได้เข้าไปในเมืองเซียนหยางตอนนี้กำลังจดจ้องมองไปยังยอดเขาลูกหนึ่งเท่านั้น.
ที่ไกลออกไปนั้นบนยอดเขาดังกล่าว เป็นเต๋าจวินเซิ่งหยาที่เดินทางมาถึงนั่นเอง.
ในเวลานี้คนทั้งสาม เต๋าจวินเซิ่งหยา กงเหล่ยเทียนและฮามะไล.
กงเหล่ยเทียนที่จดจ้องมองไปยังจงซานเขม็ง นี่นับเป็นครั้งที่ห้าแล้ว.
สามครั้งแรก คนผู้นี้เขาสามารถบีบให้แหลกสลายได้ในทันที ทว่าตอนนี้กลับเติบโตต่างจากเดิม แม้แต่คุกคามเขาได้ อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ จงซานจะต้องตาย!
เต๋าจวินเซิ่งหยาที่จ้องมองจงซาน จากนั้นก็จ้องมองไปยังตี้เสวียนชา สายตาของเขาที่จ้องมองตี้เสวียนชานั้นทำให้เต๋าจวินเซิ่งหยาต้องขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย เพราะว่าเต๋าจวินเซิ่งหยา ในเวลานี้เพิ่งทะลวงผ่านระดับไป จดจ้องมองตี้เสวียนชาที่ดูเหมือนว่าจะทรงพลังขึ้นไปกว่าก่อนหน้านี้ เป็นไปได้ว่า.....เขาเข้าใจผิดหรือไม่?
ส่วนอีกคน ฮามะไล ที่ตอนนี้ยืนนิ่งเป็นรูปปั้น ที่ด้านหลังสะพายกระบี่ลู่เซียน ร่างกายของเขาที่เต็มไปด้วยปราณกระบี่แผ่ออกมา.
ที่ไกลออกมา จงซานที่จ้องมองกงเหล่ยเทียน แววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารจดจ้องมองสบตากงเหล่ยเทียนไม่วางตาทีเดียว.
ที่ด้านหลังเต๋าจวินเซิ่งหยา ฮามะไลที่แปลกประหลาดไปจากเดิม จงซานที่จดจ้องมองด้วยท่าทางแปลกประหลาด.
ฮามะไลก่อนหน้านี้เป็นคนที่รักตัวกลัวตาย ทำไมเวลานี้คนผู้นี้ถึงสุขุมน่าเกรงขามขึ้นได้กัน?
"ฮามะไลคงจะถูกสิง!"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ถูกสิงอย่างงั้นรึ?"แววตาของจงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ดูเหมือนว่าเขาจะถูกกระบี่จูเซียนสิง จิตกระบี่จูเซียนตอนนี้ควบคุมร่างของฮามะไล เขาที่ถือกระบี่จูเซียน กระบี่เซียนที่ควบคุมเขา ตอนนี้เขาเป็นเพียงหุ่นเชิด ในเวลาเดียวกัน เขาก็จะสามารถใช้ความสามารถทั้งหมดของกระบี่จูเซียนได้ทั้งหมดด้วย!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ แววตาที่เปลี่ยนเป็นจริงจังเป็นอย่างมาก.
ทั้งสองฝ่ายต่างจดจ้องมองกันและกัน ที่หน้าผากของจงซานยังคงปรากฏบัวหลังหลวนเทียนสีน้ำเงิน ไม่คืนกลับ นิมิตโชคร้ายยังไม่หายไป.
ภายในมืองเซียนหยางไม่ได้ออกมาต้อนรับแขก และไม่จำเป็น เพราะว่าเหตุการณ์นี้ก็เหมือนกับการแยกสวรรค์อย่างหนึ่งเช่นกัน.
การโบยบินสู่สวรรค์? การบินเข้าไปสู่ด้วยโลกใบใหญ่ หรือการผ่านม่านพลังของโลกใบเล็ก ไม่ใช่สิ่งที่ปุถุชนทั่วไปจะทนได้ ทว่าพวกเขาเวลานี้เป็นการนำเมืองทั้งเมืองเซียนหยางจากไป? ดังนั้นม่านพลังที่ต้องเปิดออกมาก็ต้องกว้างมาก เป็นเรื่องที่ยากลำบากไม่น้อย.
เวลาจากไปใกล้เข้ามาแล้ว ภายในท้องพระโรง มีเหล่าข้าราชบริพารที่ได้รับเลือก กำลังรอคอยอยู่.
"ครืนนนนนนน!"
หยิงในชุดมังกร พร้อมกับมงกุฎหยกสีดำก้าวออกมา.
ขณะที่ก้าวออกมานั้น หยิงจดจ้องมองไปยังยอดเขาสองฝั่ง เป็นฝั่งของจงซานและกงเหล่ยเทียน หยิงที่เผยยิ้มออกมา ราวกับว่าเป็นไปตามความต้องการของเขา.
จ้องมองไปยังหยิงที่เผยยิ้มออกมา จงซานและกงเหล่ยเทียนต้องขมวดคิ้วไปมา ทว่าก็ไม่มีใครกล่าวสิ่งใดออกมา.
หยิงที่สะบัดมือ ท้องพระโรงของเขาก็ถูกเก็บไป ในเวลานี้ปรากฏวิหารขนาดใหญ่ยักษ์ขึ้น.
"เซียนเซิง เริ่มได้เลย!"หยิงเอ่ยออกมา.
เซียนเซิง ที่หยิงกล่าวออกมานี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ก็คือ กุยกูซือ.
ที่ตำหนักกุยกู แสงสีม่วงที่รวมตัวกันขึ้น จากนั้นก็กลายเป็นหมอกควันสีม่วง.
"เปรี้ยง!!!"
ท้องฟ้าที่เสียงดังกระหึ่ม เมฆสีดำที่ที่บดบังท้องฟ้ากระจายไปทั่วทุกสารทิศ สายฟ้ามากมายที่กำลังสั่นระรัวบ้าคลั่ง ราวกับว่าโลกกำลังล่มสลาย.
สายลมที่พัดกระหน่ำ หมุนวนเมืองเซียนหยาง ภูเขาที่อยู่รอบ ๆ เวลานี้กำลังกำลังสั่นไหว จงซานที่สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่หนักหน่วงรุนแรงปรากฏออกมา แรงกดดันนี้ ไม่ใช่จากสวรรค์ ทว่ามาจากตำหนักกุยกู กุยกูซือปลดปล่อยพลังออกมาอย่างงั้นรึ?
ภายใต้แรงกดดันที่บ้าคลั่งนี้ ดอกบัวของเมืองเซียนหยางพริบตาเดียวเท่านั้นก็ถูกย้อมกลายเป็นสีดำ.
"ตูมมมมมมมมมมมมมมมมม!"
เกิดระเบิดอย่างรุนแรง ปรากฏขึ้นที่ตำหนักกุยกู ก่อนที่จะปรากฏช่องสีดำขนาดใหญ่ที่ถูกปลดปล่อยออกไปจากตำหนักกุยกู.
นี่ไม่ใช่หลุมดำ เป็นอะไรที่แปลกประหลาดมาก อากาศรอบ ๆ นี้ไม่ได้ฉีกขาด ราวกับว่ามันแข็งแกร่งขึ้น ทว่ามันเป็นเหมือนแท่งแสงสีดำสูงเป็นลำกำลังแผ่นออกเป็นระลอกคลื่น.
ลำแสงสีดำที่มีขนาดใหญ่ยืดยาวออกมาเรื่อย ๆ ก่อนที่จะแผ่ขยายออกไปเท่ากับขนาดของเมืองเซียนหยาน แล้วก็หยุดลง.
ช่องว่างสีดำที่ปรากฏขึ้นนี้ ยืดยาวขึ้นสู่ท้องฟ้าพุ่งทะลวงออกไปไร้ที่สิ้นสุด เป็นการเปิดช่องอุโมงค์ที่มองไม่เห็นปลายทาง.
ดวงตาของจงซานที่หรี่เล็ก แท่งแสงสีดำนี้ จงซานสามารถบอกได้ว่ามันก็คืออุโมงค์ที่ยืดยาวออกไปเป็นช่องผ่านเข้าไปยังยังโลกใบใหญ่นั่นเอง.
ขณะที่แผ่นดินรอบ ๆ เมืองเซียนหยานเวลานี้กำลังแบ่งแยกยกขึ้นจากผืนดิน.
ต้าฉินกำลังเปิดช่องทางด้วยพลัง? ช่องที่เกิดขึ้นนี้ ไปที่ใหนไม่ต้องบอกเลย ย่อมเป็นโลกใบใหญ่นั่นเอง เป็นการนำส่วนหนึ่งของโลกใบเล็กไปยังโลกใบใหญ่?
ขณะที่จงซานเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ช่องทางที่ทอดยาวออกไปนั้น ปรากฏเป็นรอยแตกออกมาในทันที.
"แคก ๆ !"
รอยแตกที่ลามขึ้นไปเรื่อย ๆ สูงขึ้นไปไม่หยุด.
"ฝ่าบาท มีปัญหาเล็กน้อย หากแต่ไม่จำเป็นต้องกังวล ดำเนินการต่อไปได้เลย!"เสียงของกุยกูซือที่กล่าวออกมาทันที.
หยิงพยักหน้าเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า.
"เปรี้ยง!!!"
บนผืนฟ้า ทันใดนั้น ปรากฏเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ที่กำลังหมุนวน ราวกับปรากฏประตูที่เปิดออกสู่อวกาศ.
"กาลอวกาศ? นี่คือพลังกาลอวกาศที่ล้ำค่าที่สุด?"
บนท้องฟ้าที่เหนือขึ้นไปนั้น ทันใดก็ได้ยินเสียงของผู้คนประหลาดใจ ยินดีและเผยความโลภออกมา
เป็นคนจากโลกใบใหญ่? เป็นยอดฝีมือที่กำลังปิดล้อมโลกใบเล็กแห่งนี้เอาไว้นั่นเอง.
หยิงที่จ้องมองท้องฟ้าด้วยความเย็นชา.
ขณะผู้คนมากมายเต็มไปด้วยความโลก ฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ยืดยาวออกไปต้องการคว้าไปยังประตูที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า.
ทันใดนั้นฝ่ามือหนึ่งก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับขยายออกไปเป็นนับล้านเท่า จงซานเคยเห็นในอดีต เป็นพลังฝ่ามือที่เคยฉีกกระชากม่านพลังในภพหยิน
"สามหาว!"
หยิงแค่นเสียง ก่อนที่จะตวัดฝ่ามือ ฟาดไปบนท้องฟ้า.
ฝ่ามือของหยิงนั้นเต็มไปด้วยประกายแสงดวงดาราที่โชติช่วง ฉีกอากาศเป็นรอย กระแทกขึ้นไปบนท้องฟ้า.
"วีด...ตูมมมมมมมมมมมมม!"
บนอากาศ เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ปรากฏเป็นหลุมดำที่ใหญ่โตยืดยาวปกคลุมพื้นที่รอบ ๆ แม้แต่ตำแหน่งของจงซาน และคนที่มาดูในครั้งนี้ ยกเว้นเมืองเซียนหยางที่อยู่ด้านล่าง.
"ครืนนนนนน!"
สองฝ่ามือที่เข้าปะทะกัน ทว่าเสียงที่ดังสนั่นเลื่อนลั่นปฐพีนั้น ทำให้ทุกคนถึงกับหูดับ.
จงซานจ้องมองฝ่ามือที่ใหญ่ยักษ์สองสายเข้าปะทะกัน บดบี้กันอยู่ห้าลมหายใจ.
"แก๊ก ๆ ๆ ๆ !"
ราวกับว่าเสียงกระดูกที่แตกหักดังผ่านออกมาจากฝ่ามือใหญ่ยักษ์ฝั่งโลกใบใหญ่ก่อนที่จะถูกผลักออกไปพร้อมกับระเบิดดั่งสนั่น.