chapter 783 กงเชียน.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย ห้องอักษรกงเหล่ยเทียน.
"เจ้าพูดอีกครั้งสิ!"กงเหล่ยเทียนที่จ้องมองไปยังเซอคง.
"ฝ่าบาท หยิงได้กระทำเรื่องที่โหดร้ายเป็นอย่างมาก ลัทธิของพวกเราที่อยู่รอบ ๆ ต้าฉิน ถูกลบออกไปในคืนเดียว! สาวกของพวกเราทั้งหมด ถูกจับไปฝังทั้งเป็น ส่วนสำนักของพวกเราก็ถูกเผาไหม้จนวอดวายไปทั้งหมด!"เซอคงกล่าว.
"สารเลว ต้าฉินเจ้าพวกบัดซบ เจ้าชั่วหยิง!"ใบหน้าของกงเหล่ยเทียนที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
"การไล่ล่าสังหารนี้ เป็นไปได้ว่าจะมีความนัยมากกว่านั้น!"หวังเฉินที่หรี่ตาจ้องมอง.
"หมายความว่าอย่างไร?"
"เกี่ยวกับลัทธิของฝ่าบาท มีเจ้าหน้าที่และขุนนางชั้นสูงของเมืองต่าง ๆ มากมาย ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาจะกลายเป็นของฝ่าบาทในวันข้างหน้า หยิงจึงได้ใช้แผนการยืมมือสังหารทุกคนไปพร้อมกับลัทธิของพวกเรา!"หวังเฉินที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ยืมมือฆ่าอย่างงั้นรึ? เขาต้องการสังหารเจ้าหน้าที่และชันชั้นสูง หยิงทำการสังหารคนเหล่านั้นไปพร้อมกับสาวกของพวกเรา!"ใบหน้าของเซอคงที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
"ถูกแล้ว พวกเขาได้ใช้ลัทธิของพวกเราเป็นข้ออ้างสังหารคนเหล่านั้น ซึ่งต่อไปเขตแดนที่เคยเป็นของหยิงนั้นก็จะกลายเป็นเขตแดนที่ไร้เจ้าของ เมื่อถึงตอนนั้นต้าเจิ้งและต้าสุ่ยก็จะต่อสู้กันได้อย่างไม่เสียเปรียบ เหล่าขุนนางและชนชั้นสูงที่เคยปกครองพื้นที่แถบนี้ก็จะไม่สามารถไปภัคดีอีกฝ่ายใดได้เลยไม่ใช่รึ?"หวังเฉินที่กล่าวหลังจากที่ครุ่นคิดแล้ว.
เป็นแผนการที่ร้ายกาจฉกฉวยประโยชน์จากสถานการณ์อย่างงั้นรึ?
"หยิงคิดจะขัดแข้งขัดขาพวกเรา เพื่อช่วยต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ?"แววตาของกงเหล่ยเทียนที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.
"เผาตำราและฝังสาวกของพวกเราทั้งที่มีชีวิต ด้วยพลังอำนาจของหยิงในเวลานี้ จะยิ่งทำให้ต้าเจิ้งสามารถขยายดินแดนได้มากยิ่งขึ้น."หวังเฉินที่พยักหน้ารับ.
"รายงานฝ่าบาท ต้าฉินได้ส่งสารมา!"ที่ด้านนอกห้องนั้นมีเสียงที่ดังขึ้นมาในทันที.
"ต้าฉินส่งสารมาอย่างงั้นรึ?"ทุกคนที่ขมวดคิ้วตกใจเล็กน้อย.
"เข้ามา!"กงเหล่ยเทียนที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นดำมืด.
จากนั้น ขันทีผู้หนึ่งที่นำสารเดินเข้ามา.
"เป็นสารเชิญอย่างงั้นรึ?"กงเหล่ยเทียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เป็นสารเชิญเข้าร่วมการจากไป."
"จากไป!"กงเหล่ยเทียนที่รับบัตรเชิญดังกล่าวมา.
จากนั้นขันทีก็ออกจากห้องโถงไป กงเหล่ยเทียนที่เปิดบัตรเชิญออก.
"นี่มัน?"ใบหน้าของกงเหล่ยเทียนที่เปลี่ยนไปเป็นแปลกประหลาดในทันที.
ขณะที่หวังเฉินและเซอคงแสดงท่าทางสงสัย กงเหล่ยเทียนที่ยื่นบัตรเชิญมาให้พวกเขาดู.
"หกเดือนหลังจากนี้ ต้าฉินก้าวสู่สวรรค์ ขอเชิญเซิ่งซ่างต้าสุ่ยเข้าร่วมพิธีอย่างงั้นรึ?"เซอคงที่แสดงใบหน้าแปลกประหลาดขณะที่มองไปยังบัตรเชิญ.
หวังเฉินเองก็ต้องจดจ้องมองไปยังบัตรเชิญพลางขมวดคิ้วไปมา หยิงเซิ่งซ่างต้าฉิน เชิญต้าสุ่ยเข้าร่วมพิธีอย่างงั้นรึ?
"ฝ่าบาท? เรื่องนี้ดูไม่ชอบมาพากล!"หวังเฉินที่ขมวดคิ้วไปมากล่าวออกมาทันที.
กงเหล่ยเทียนสูดหายใจลึกและกล่าวออกมาว่า"ข้าจะเดินทางไปยังแดนเทพอมตะในทันที ครั้งนี้จะต้องพบกับเขาให้จงได้!"
"ครับ!"คนทั้งสองที่พยักหน้ารับ.
..............
ราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้ง สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ภายในห้องอักษรจงซาน.
จงซานที่นั่งอยู่บนโต๊ะ ที่ด้านหน้าที่อี้เหยี่ยน หวังคู หนี่ปู่ซา เซียนเซิงซือ ส่วนแม่ทัพคนอื่นนั้น ในเวลานี้ถูกส่งไปยังภาคเหนือภพหยินเพื่อบุกเบิกแผ่นดิน.
จงซานที่รับบัตรเชิญของหยิงเช่นกัน ขณะที่อ่านบัตรเชิญพลางขมวดคิ้วไปมา.
"ครึ่งปี ต้าฉินจะจากไป! มีข่าวคราวอะไรจากภาคเหนือบ้าง?"จงซานกล่าว.
"ได้ข่าวก่อนหน้านี้ว่ามีการเผาตำราและฝังเหล่าสาวกนิกายหงหรู เรื่องนี้ เป็นฝีมือของต้าฉิน ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่มี อย่างไรก็ตามสาวกหงหรูเองก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไร!"อี้เหยี่ยนที่เอ่ยปากออกมา.
"เมื่อหยิงไปแล้ว พวกเราจะต้องเผชิญหน้ากับแดนเทพอมตะ!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ฝ่าบาท กับเรื่องที่ได้พูดคุยกับหยิง เกี่ยวกับตัวตนของอสุรกายชราชราของแดนเทพอมตะ คนผู้นี้เป็นใครมาจากใหนอย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนที่จ้องมองไปยังจงซาน.
"อสุรกายชราแดนเทพอมตะอย่างงั้นรึ? เขาเป็นคนที่ไม่ธรรมดา ในอดีตในโลกใบใหญ่เขาก็คือยอดฝีมือที่มีชื่อเสียง!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หืม?"หวังคูที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"เขามีนามว่ากงเชียน!"จงซานที่สูดหายใจลึก.
นามนี้นับว่าสร้างแรงกดดันต่อจงซานไม่น้อย จงซานที่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเขาจากหยิง กงเชียน? เขาที่สามารถใช้แสงเทวะห้าสีซึ่งเป็นพลังที่ทรงพลังอำนาจเป็นอย่างมากได้.
เพียงแค่ได้ยินชื่อก็ทำให้จงซานรู้สึกกังวลขึ้นมาแล้ว.
เขาคือตัวตนที่เป็นตำนาน เป็นยอดฝีมือของเผ่านกยูงที่ไม่ธรรมดาอย่างงั้นรึ? เขาคือศัตรูของจงซาน?
"กงเชียน?"หวังคูและเซียนเซิงซือที่อุทานออกมาด้วยท่าทางหวั่นเกรงพร้อม ๆ กัน.
อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมาจดจ้องมองไปยังหวังคูและเซียนเซิงซือ!
"กงเชียนแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เขาเป็นผู้ติดตามของปราชญ์เทพหลายคน และได้รับสืบทอดหลายอย่างกับปราชญ์เทพ ทว่าหลังจากที่ปราชญ์เทพร่วงหล่นจากท้องฟ้า เขาก็หายไป ทิ้งไว้เพียงแค่ตำนาน."เซียนเซิงซือที่เป็นคนเอ่ยปากออกมา.
"เขาได้รับการสืบทอดจากปราชญ์เทพหลายคนอย่างงั้นรึ? สามารถรับปราชญ์เทพหลายคนเป็นอาจารย์ได้ด้วยอย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนที่เผยแววตาตื่นตกใจ.
กงเชียนนับว่ามีโชควาสนามาก ช่างเป็นคนที่มีโชคลาภที่ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้เลยรึ?
"ไม่ เขาไม่ได้เป็นศิษย์ของปราชญ์เทพเหล่านั้นไม่ได้นับถือพวกเขาเป็นอาจารย์ เขาที่คอยรับใช้และขโมยวิชาของปราชญ์เทพเหล่านั้นมาต่างหาก วิชาของกงเชียนนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นวิชาที่ขโมยมาทั้งนั้น!"หวังคูที่เอ่ยปากออกมา.
"แล้วมีปราชญ์เทพกี่คนที่เขาได้วิชามา? เรื่องนี้.......!"อี้เหยี่ยนที่เปี่ยมด้วยเชาว์ปัญญา แม้นว่าจะไม่เข้าใจเรื่องราวเท่าหมดได้ ทว่าเข้าใจดีว่า ปราชญ์เทพในโลกใบใหญ่นั้นถือเป็นตัวตนที่สูงส่ง คาดไม่ถึงเลยว่าปราชญ์เทพเหล่านั้นจะส่งมอบวิชาเหล่านั้นให้เขา?ทั้งที่ไม่ได้รับเป็นศิษย์อย่างงั้นรึ?
"กงเชียนนั้นแข็งแกร่งมาก นับว่าร้ายกาจยิ่งนัก เขาที่เคยกลืนกินเทพอรหันต์องค์หนึ่ง เทพอรหันต์องค์นั้นที่ร่างกายแตกสลาย ซึ่งทำให้เขาถูกคนประนาม ก่อนหน้านี้มีฉายาว่า ราชานกยูงต้าหมิง ในอดีตข้าและหนี่ปู่ซาเคยเข้าไปในแดนเทพอมตะ คนที่พวกเราพบนั้นคงจะเป็นเขา?"หวังคูที่กล่าวออกมา.
"เขานับว่าเป็นยอดฝีมือ เขาเดินทางมายังโลกใบเล็กนี้ได้อย่างไร? เขาเข้ามาที่นี่เพื่ออะไรกัน?"เซียนเซิงซือที่จ้องมองจงซานด้วยความสงสัย.
"กงเชียนเขาได้รับบาดเจ็บ เป็นอาการบาดเจ็บที่หนักหน่วงรุนแรงมาก! ไม่ใช่บาดแผลธรรมดา หากแต่เป็นอาการบาดเจ็บที่ชะตาวิถี แม้นว่าพลังของเขาจะไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังทรงพลังเช่นเดิม."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"กงเชียน พวกเราขอให้ต้าฉินจัดการได้หรือไม่?"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เป็นไปไม่ได้ ต้าฉินไม่มีทางลงมือ หยิงที่ช่วยพวกเราที่ภพหยินนั้น ก็เพื่อที่จะให้พวกเรามีพลังเพียงพอที่จะต่อกรกับต้าสุ่ยและแดนเทพอมตะ ให้การต่อสู้ของกลุ่มอิทธิพลทั้งสองสูสีกัน เขาไม่มีทางช่วยพวกเราอีกครั้งแน่."จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
ขณะที่จงซานกล่าวก็จดจ้องมองไปยังทุกคนด้วยสีหน้าจริงจัง.
"ฝ่าบาทโปรดวางใจข้าและทุกคนเป็นข้าราชบริพารของต้าเจิ้ง ไม่มีทางละทิ้งต้าเจิ้งไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น พวกเราก็จะไม่มีทางทรยศต้าเจิ้ง!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเคร่งขรึม.
คนอื่น ๆ เองก็ยืนยันเช่นกัน.
"อืม แต่ว่าทุกคนไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับกงเชียนมากจนเกินไป สิ่งที่ข้าได้ยินมาว่าการที่กงเชียนเดินทางเข้ามาในโลกใบเล็กนี้ยังได้นำสิ่งของชิ้นหนึ่งกลับมาด้วย เป็นของที่ล้ำค่าที่สุด เขาคอยปกป้องสิ่งนั้น! จนไม่ออกมาจากแดนเทพอมตะเลย."จงซานที่สูดหายใจลึก.
"ปกป้องอย่างงั้นรึ?"ดวงตาของอี้เหยี่ยนที่ดวงตาสั่นไหวไปมา.
"ดูเหมือนว่าเขาจะหวงแหนมันเทียบเท่าชีวิตตัวเองเลย!"จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"หากเป็นจริง ก็นับว่านี่เป็นจุดอ่อนของเขาสินะ!"อี้เหยี่ยนที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"การต่อสู้ที่หนักหน่วงกำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ การแยกสวรรค์เองก็เช่นกัน ส่วนตี้เสวียนชาท้ายที่สุดก็สามารถทะลวงผ่านระดับมาได้แล้ว พวกเจ้าเองก็เช่นกัน จงใช้ถ้ำร้อยสวรรค์ พัฒนาความสามารถตัวเองให้แข็งแกร่งที่สุด!"จงซานกล่าว.
"รับทราบ!"
..............
ใจกลางแดนเทพอมตะ.
"กงเหล่ยเทียน เจ้าไปซะ ผู้ก่อตั้งไม่ต้องการพบเจ้า!"เย่ชิงเฉิงที่ส่ายหน้าไปมา.
"ครั้งนี้ จะต้องพบเขาให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม!"กงเหล่ยเทียนที่ส่ายหน้าไปมาจ้องมองไปยังเทือกเขาซึ่งมีม่านพลังป้องกันหลายชั้นปกป้องอยู่.
"ไร้ประโยชน์น่า!"เย่ชิงเฉิงที่ยังคงส่ายหน้าไปมา.
กงเหล่ยเทียนที่สูดหายใจลึก จากนั้นก็ตะโกนคำรามออกมาเสียงดังในทันที "กงเชียน ข้าคือผู้เยาว์ผู้สืบทอดสายโลหิตของปราชเทพกงจื่อ เจ้าคือญาติพี่น้องสายโลหิตเดียวกันกับข้า ตระกูลกงเวลานี้ต้องการความช่วยเหลือ เจ้าจะนิ่งดูดายได้อย่างงั้นรึ? เจ้าที่อาศัยอยู่ในโลกใบเล็กแห่งนี้ หลังจากที่แยกสวรรค์ได้ เจ้ายังจะมีหน้าพบกับตระกูลกงได้อย่างงั้นรึ? เจ้าจะมีหน้าพบกับพรรพชนกงจื่อได้อย่างงั้นรึ?"
"กงเหล่ยเทียน เจ้าต้องการทำอะไร?"แววตาของเย่ชิงเฉิงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
ที่ใจกลางแดนเทพอมตะ มีเหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เฝ้าปกป้องพื้นที่ดังกล่าว แววตาของทุกคนที่เผยท่าทางโกรธเกรี้ยวออกมาเช่นกัน.
กงเหล่ยเทียนที่ไม่สนใจเย่ชิงเฉิงแม้แต่น้อย ทว่ายังคงจ้องมองไปยังเทือกเขาที่ไกลออกไป.
"กงชิวอย่างงั้นรึ? ก่อนหน้า เมื่อข้ามีชื่อเสียง มันยังไม่เกิดด้วยซ้ำ เจ้าต้องการใช้กงชิวมากดดันข้าอย่างงั้นรึ..............?"
เสียงจากเทือกเขา เสียงที่หนาวเย็นดำมือถูกส่งออกมา.
"คารวะผู้ก่อตั้ง!"เย่ชิงเฉิงและเหล่าศิษย์แดนเทพอมตะเร่งรีบแสดงความเคารพออกมาในทันที.
ใบหน้าของกงเหล่ยเทียนที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.กงเหล่ยเทียนหากไม่ใช้กงจื่อกดดันกงเชียน เกรงว่ากงเชียนคงไม่ตอบอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดเขาก็ตอบแล้ว.
"ตระกูลกง กงเหล่ยเทียนคารวะราชานกยูงต้าหมิง!"กงเหล่ยเทียนที่กล่าวออกไปพร้อมแสดงความเคารพ.
"ครืนนนนนนนน!"
ในเวลาเดียวกัน ที่หุบเขาอีกแห่งหนึ่ง เวลานี้เทือกเขารอบ ๆ ปรากฏรอยแยกแตกออกมา กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงปะทุออกมา ต้นไม้ที่อยู่รอบ ๆ ถึงกับล้มระเนระนาด.
"ท่านประมุขทะลวงผ่านระดับแล้ว."ดวงตาของเย่ชิงเฉิงที่เปล่งประกาย.
"เต๋าจวินเซิ่งหยาทะลวงผ่านระดับแล้วอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของกงเหล่ยเทียนที่เผยท่าทางมีความสุข.
"วูซซซซ!"
รอบ ๆ หุบเขาที่เต็มไปด้วยหมอกและควัน จากนั้นชายในชุดสีเหลืองก็ก้าวออกมา ที่ด้านหลังของเขานั้นมีน้ำเต้าขนาดใหญ่ บนน้ำเต้านั้นมีลายเส้นสีมากมาย ดูนุ่มนวลงดงามเป็นอย่างมาก.
เป็นเต๋าจวินเซิ่งหยานั่นเอง ตอนนี้เขาออกมาจากการเก็บตัวแล้ว!
"คารวะท่านประมุข!"เหล่าศิษย์ของแดนเทพอมตะที่กล่าวออกมาด้วยด้วยความเคารพ.
"กงเหล่ยเทียน เจ้ามาแดนเทพอมตะของข้าทำไม?"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ขมวดคิ้วไปมาจดจ้องมองไปยังกงเหล่ยเทียน.
"ต้าฉินหยิง กำลังจะจากไปแล้ว ข้าต้องการมาพบกับราชานกยูงต้าหมิง ในเมื่อเต๋าจวินเซิ่งหยาออกมาแล้ว เช่นนั้นก็ยอดเยี่ยมเลย!"กงเหล่ยเทียนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หืม?"ใบหน้าของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่เต็มไปด้วยความสงสัยอย่างชัดเจน.
.............
สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว จงซานที่กลับไปยังฮาเร็มส่วนตัว.
"จงซาน เมื่อเร็วนี้ข้าสัมผัสความรู้สึกแปลกประหลาดได้!"เป่ยชิงซือที่จดจ้องมองไปยังจงซานพลางขมวดคิ้วไปมา.
"หืม?"
"ข้ารู้สึกคล้ายว่ามีคนกำลังจ้องมองข้าอยู่ เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก บางทีมันคงมาจากที่ไกลออกไปมาก ทว่าภายในใจของข้านั้นกลับสัมผัสได้!"เป่ยชิงซือกล่าว.
"ข้าเองก็รู้สึกเช่นกัน!"เทียนหลิงเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ข้าเองก็รู้สึก!"กู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา..
"มีคนจ้องมองอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เผยสีหน้าประหลาดใจ.
"เหล่าเย่ ข้ารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้!"เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"
"ความรู้สึกนี้ ข้าเคยรู้สึกมานานแล้ว เป็นยอดฝีมือจากโลกใบใหญ่ที่กำลังจ้องมองมา บางทีพวกนาง.....!"เป๋าเอ๋อกล่าว.
ทันใดนั้น จงซานก็คิดถึงเซียน เซียนที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเป่าเอ๋อ.
ส่วนเป่ยชิงซือเป็นไปได้ว่าเป็นบรรพชนของนาง ซึ่งอดีตเคยเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของโลกใบนี้ บรรพชนของนางที่อยู่นอกโลกใบเล็กกำลังจ้องมองเป่ยชิงซืออยู่.
ส่วนหลิงเอ๋อและกู่เฉียนโหยวล่ะ ใครกันที่กำลังมองพวกนางอยู่?