Chapter 778 คำเชิญจากหยิง.
หลุมดำขนาดใหญ่ที่ค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมาช้า ๆ หลุมดำที่เกิดจากการระเบิดของหลุมสังสารวัฏนั้นรุนแรงมาก ยืดยาวไปจนถึงเมืองซ่าง โชคดีที่มีค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลว จึงสามารถรับประกันความปลอดภัยของเมืองซ่างได้.
จงซานที่เต็มไปด้วยความระวังคนทั้งสาม ในเวลานี้คนทั้งสามเองก็จ้องมองจงซานด้วยความระวังเช่นกัน.
โดยเฉพาะเทียนไล ในเวลานี้ดวงตาของเทียนไลเต็มไปด้วยความมืดครึ้ม เทียนไลที่มีอุปกรณ์มหาเซียน พลังของมันถึงแม้ว่าจะถูกจำกัดเอาไว้ แต่ก็สามารถกำราบโลกใบเล็กได้เลย.
"เซิ่งซ่างต้าเจิ้ง จงซานรึ?"
ขณะที่พวกเขากำลังประจันหน้ากันอยู่นั้น จากที่ไกลออกไปก็ได้ยินเสียงดังขึ้นในทันที!
ได้ยินเสียงดังกล่าว จงซานที่ต้องขมวดคิ้วไปมา แววตาที่ตื่นตระหนก เพราะว่าจงซานไม่รู้สึกการมาของคนที่เอ่ยเลย เป็นใครกัน?
ฝั่งของเทียนไลทั้งสามคนก็เช่นกัน.
ทุกคนที่หันหน้าไปพร้อม ๆ กัน.
ที่ยอดเขาสูงที่ไกลออกไปนั้น ราวกับว่าพวกเขาแหวกอากาศออกมา คนสองคนไม่รู้ว่ามาจากใหน?
ร่างของทั้งสองที่แปลกประหลาด ร่างกายเป็นสีเขียว ดูเลือนใสเล็กน้อย คล้ายกับเจตภูต.
ไม่ ไม่ใช่ภูต แต่เป็นเพียงดวงวิญญาณ?
เหยี่ยนฉงจื่อเคยกล่าวให้เขาฟังว่าเมื่อคนตายไป วิญญาณก็จะกลายเป็นภูต และดวงวิญญาณนั้นก็สามารถกลับมามีชีวิตได้หากว่ามีศพที่เข้ากันได้ สำหรับคนที่ยังไม่ตาย มีบางคนที่มีความสามารถแยกวิญญาณออกมาและสามารถกลับสู่ร่างเดิมได้ ส่วนภูตนั้นทำได้แค่ครอบครองร่างเท่านั้น ศพถึงแม้นว่าจะเพิ่งตายก็ตามเมื่อวิญญาณกลายเป็นภูตกลับมา ก็จะถูกเรียกว่าสิงร่างเท่านั้น.
ดวงวิญญาณนี้เป็นสีเขียวอ่อน ๆ ทว่าภูตนั้นจะมีสีเขียวเข้ม.
เป็นไปได้ว่า วิญญาณนี้ยังไม่ได้แยกจากร่าง เพียงแค่ออกมาจากร่างกาย วิญญาณที่ออกมาจากร่างกายปรกติแล้วจะแตกสลายได้ง่าย ทว่าหากผสานกลับปราณหยินที่รุนแรงก็จะกลายเป็นภูต.
ที่ปรากฏตอนนี้หมายความว่าอย่างไร? ดวงวิญญาณสองดวง? วิญญาณจริง ๆ รึ?
วิญญาณแต่ละดวง ยังถือกระบี่อีกด้วย กระบี่นั่น ไม่สามารถมองเห็นใบกระบี่.
ดวงวิญญาณ? คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นวิญญาณกระบี่ด้วย? คนทั้งสองเป็นใคร? พวกเขายังคงมีร่างเนื้ออยู่ เตรียมกลับเข้าร่างอย่างงั้นรึ? แต่ว่า...........
"เจ้าเป็นใคร?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"ต้าฉิน หวังเจียน คารวะเซิ่งซ่างต้าเจิ้ง!"
"ต้าฉิน เมิ่งเทียน คารวะเซิ่งซ่างต้าเจิ้ง!"
คนทั้งสองที่กล่าวออกมาในทันที.
"หวังเจียน? เมิ่งเทียน?"จงซานที่ดวงตาหดเกร็ง.
"ข้าและเมิ่งเทียนเพิ่งกลับมาจากโลกใบใหญ่ โดยได้รับคำสั่งจากเซิ่งซ่าง ให้เดินทางมาช่วยเซิ่งซ่างต้าเจิ้ง!"หวังเจี้ยนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"เพิ่งกลับมาจากโลกใบใหญ่รึ?พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องใช้วิธี ดวงวิญญาณหวนกลับหรอกรึ?"จงซานที่ต้องขมวดคิ้วไปมา.
"เซิ่งซ่างต้าเจิ้งคาดไม่ถึงเลยว่าจะรับรู้เรื่องราวกับต้าฉินอย่างดี ข้าและเมิ่งเทียนนั้นรับหน้าทีในการดูแลอาณาจักรแห่งหนึ่ง! ข้าและเมิ่งเทียนสามารถถอดดวงวิญญาณได้ ไม่จำเป็นต้องใช้วิถีเช่นสวีฝู!"หวังเจี้ยนกล่าวพลางถอนหายใจ.
"หยิง? หยิงรับรู้ว่าข้าจะมีอันตรายอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"รอให้ข้าจัดการศัตรูของต้าเจิ้งก่อน แล้วค่อยกล่าวรายละเอียดก็แล้วกัน!"หวังเจียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จงซานที่จ้องมองดวงวิญญาณทั้งสอง พร้อมกับพยักหน้า.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า? พูดจาใหญ่โตหน้าไม่อาย ดวงวิญญาณสองดวง คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้ากล่าวว่ามาจากโลกใบใหญ่?"เทียนไลที่หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงดูแคลน.
หวังเจียนจ้องมองไปยังเทียนไล พร้อมกับกล่าวออกมาว่า "เมิ่งเทียน รีบจัดการเลยดีกว่า!"
"อืม!"เมิ่งเทียนพยักหน้ารับ.
หวังเจี้ยนที่ชักกระบี่ออกมาจากเอวช้า ๆ ใบกระบี่ที่ส่องประกายแสงสีแดงสว่างจ้าระเบิดออกมา แสงสีแดงที่ปกคลุมพื้นที่รอบ ๆ จิตสังหารที่ดุร้ายรุนแรงแผ่ออกไป แรงกดันที่ทำให้หัวใจคนที่จ้องมองสั่นไหว กลิ่นอายแห่งการฆ่าฟันมากมายมหาศาล จงซานที่รับรู้ว่าดูคล้ายกับกระบี่ลู่เซียนเป็นอย่างมาก.
อย่างไรก็ตาม ที่แตกต่างจากกระบี่ลู่เซียน กระบี่ของหวังเจี้ยนนั้น เต็มไปด้วยความกระหายโลหิตอย่างรุนแรง แม้แต่ทำให้จิตใจสับสน จงซานที่รับรู้ได้ว่า เขาได้ยินเสียงของวิญญาณร้ายกำลังร้องโหยหวนบ้าคลั่งจากระบี่ของหวังเจียน.
ส่วนเมิ่งเทียน กระบี่ที่เขาชักออกมานั้นเป็นกระบี่สีดำทมิฬ จิตสังหารที่รุนแรงไม่ได้ด้อยกว่าหวังเจียนแม้แต่น้อย เป็นกระบี่ที่ยากจะมีใครเทียบได้เช่นกัน..
"กระบี่โลหิตอย่างงั้นรึ? กระบี่นั่นดื่มโลหิตคนมากมายขนาดใหนกันถึงได้มีจิตสังหารที่รุนแรงขนาดนั้น?"เทียนไลที่เผยใบหน้าหวาดหวั่นเป็นครั้งแรก.
"มากมายเท่าไหร่อย่างงั้นรึ? ข้าจำไม่ได้ จำได้เมื่อเร็ว ๆ นี้ เพิ่งสังหารคนไปสองราชวงศ์สวรรค์!"หวังเจียนกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
สังหารไปสองราชวงศ์สวรรค์อย่างงันรึ?
"ถอย!"
ไร้ซึ่งลังเล เทียนไลนำผู้ใต้บังคับบัญชาสองคนหนีไปในทันที.
เทียนไลนั้นแข็งแกร่ง จงซานเข้าใจชัดเจน คาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่เห็นกระบี่ของหวังเจียน กลับวิ่งหนีอย่างงั้นรึ? หวังเจียนมีความแข็งแกร่งขนาดใหนกัน?
หวังเจียนและเมิ่งเทียนที่พุ่งออกไปไล่ล่าในทันที.
แทบจะในทันที ที่ทุกคนหายไป จงซานที่จ้องมองอย่างเย็นชา กวาดตามองรอบ ๆ ไม่มีใครแล้ว.
"ปัง!"
ร่างของจงซานที่ระเบิดออกมาเสียงดัง สลายหายไปในอากาศ นี่ไม่ใช่ร่างหลักจงซาน เป็นเพียงร่างโคลนของจงซานเท่านั้นเอง.
ส่วนร่างจริง ในเวลานี้ยืนอยู่ด้านหน้าวิหารปูซือ.
ที่ด้านหน้าตำหนักปู่ซือ จงซานที่โบกมือให้เหล่าเสนาธิการแยกย้ายกันไป.
"หนานกงเซิ่ง ปลดค่ายกล!"จงซานออกคำสั่ง.
"รับทราบ!"
จากนั้นเมืองซ่างก็ยกเลิกค่ายกล จงซานที่ยืนรออยู่ด้านหน้าตำหนักปู่ซือ.
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม หวังเจียนและเมิ่งเทียนก็กลับมา!
"แม่ทัพทั้งสอง? เป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานสอบถาม.
"ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสองถูกพวกเราสังหารแล้ว มีเพียงตัวหัวหน้าที่หนีไปได้ ทว่าเขาถูกกระบี่ข้าไป คงจะมีชีวิตได้อีกไม่นานเท่าไหร่!"ใบหน้าของหวังเจี้ยนที่กล่าวรับรอง.
จงซานจ้องมองไปยังหวังเจี้ยน พร้อมกับพยักหน้า.
เหยี่ยนฉงจื่อและหนานกงเซิ่งที่อยู่ข้าง ๆ ตอนนี้ขมวดคิ้วไปมา.
"ดวงวิญญาณ? คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถอยู่ในสภาพวิญญาณได้? หนำซ้ำดวงวิญญาณยังสามารถสังหารคนเหล่านั้นได้อีก!"เหยี่ยนฉงจื่อที่เผยใบหน้าที่ตื่นตระหนก.
จงซานที่จ้องมองไปยังหวังเจียน.
"เพราะว่าอยู่ในรูปลักษณ์วิญญาณ พวกเราจึงสามารถเข้ามาในโลกใบเล็กได้ ไม่เช่นนั้นก็ต้องใช้วิธี ดวงวิญญาณหวนกลับ พลังของพวกเราจะลดลงเป็นอย่างมาก!"หวังเจี้ยนกล่าว.
"แม่ทัพหวังเจี้ยน ท่านยังไม่ตอบข้าเลยว่า ทำไมถึงได้รู้ว่าเมืองซ่างกำลังประสบความยากลำบาก?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง.
"เป็นเซียนเซิงกุยกู่ซือที่พยากรณ์ แม้นว่าใต้ซือกุยกูซือจะบอกแค่ว่าเมืองซ่างกำลังยากลำบาก ทว่าฝ่าบาทก็ส่งพวกเรามาที่นี่ ให้ข้าและเมิ่งเทียนมาช่วยเหลือ! เพื่อสร้างมิตรภาพ!"หวังเจี้ยนที่กล่าวออกมาตรง ๆ .
ดูเหมือนว่าจะกล่าวออกมาตรง ๆ คาดไม่ถึงเลยว่าหวังเจียนจะกล่าวออกมาตรง ๆ เลยรึ?
"หืม?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ฝ่าบาทให้ข้าส่งข้อความมาด้วย เรื่องนี้จึงไม่จำเป็นต้องปิดบังเซิ่งซ่างต้าเจิ้ง เพราะมันไม่จำเป็นแม้แต่น้อย."หวังเจียนกล่าว.
"หยิง? นับเป็นคนที่ตรงไปตรงมาจริง ๆ !"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
หวังเจียนที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"เป็นกุยกู่ซือ ปรจารย์ฮวงจุ้ยของต้าฉินอย่างงั้นรึ? ว่าแต่ใต้ซือกุยกูซือสืบทอดชีพจรอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"ต้องขออภัย เรื่องนี้เป็นเรื่องสวนตัวของเซียนเซิงกุยกู่ซือ พวกเราไม่สะดวกที่จะตอบ!"หวังเจียนส่ายหน้าไปมา.
จงซานพยักหน้า สูดหายใจลึกและกล่าวออกมา "มีคำพูดใดที่หยิงฝากมาถึงข้าอย่างงั้นรึ?"
"ฝ่าบาทเชิญร่างหลักของท่าน ไปยังเมืองเซียนหยาง! พูดคุยกับฝ่าบาทเกี่ยวกับโลกใบเล็ก!"หวังเจียนกล่าว.
"หืม?"จงซานที่ดวงตาหดเกร็ง.
เมืองเซียนหยางอย่างงั้นรึ? หยิงต้องการพบอย่างงั้นรึ? แล้วทำไมต้องเป็นเมืองเซียนหยาง?
"ไปหรือไม่นั้น แล้วแต่เซิ่งซ่างต้าเจิ้ง ข้าและเมิ่งเทียนนั้นเพียงแค่มาส่งสารเท่านั้น! ขอลา!"หวังเจี้ยนกล่าว.
จากนั้น หวังเจียนและเมิ่งเทียนก็แสดงความเคารพ และหายไปจากเมืองซ่างในทันที.
จ้องมองดวงวิญญาณที่คืนกลับแล้ว จงซานสูดหายใจลึก.
"ฝ่าบาท ดวงวิญญาณทั้งสองนั่น การที่แยกออกมาจากร่างต้นได้ พลังน่าจะเทียบเท่ากับเซียนสวรรค์เป็นอย่างต่ำ!"เหยี่ยนฉงจื่อกล่าว.
"หืม?"
"ดวงวิญญาณ นับว่าเป็นส่วนที่อ่อนแอที่สุดของชีวิต คาดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่ในรูปลักษณ์วิญญาณยังสังหารยอดฝีมือได้ หากกลับสู่ร่างตน เฉินไม่กล้าที่จะประมาณการณ์เลย!"เหยี่ยนฉงจื่อกล่าวพลางสูดหายใจลึก.
"ต้าฉิน ลึกล้ำจนคาดไม่ถึง!"หนานกงเซิ่งที่สูดหายใจลึกเช่นกัน.
..................
ภพหยาง สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ตำหนักเทียนหยวน.
เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่ภพหยิน จงซานไม่ได้ปกปิดต่อเหล่าเสนาธิการคนสำคัญ.
"หวังเจียน? รูปลักษณ์วิญญาณ คาดไม่ถึงเลยว่าจะแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ความแข็งแกร่งของต้าฉินนั้น ควรจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชวงศ์สวรรค์ มีพลังที่แข็งแกร่งเกินจะคาดได้ ทำไมพวกเขายังคงอยู่ในโลกใบเล็กกัน?"จ้าวโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมา.
จงซานที่เคาะไปที่พยักพิงเบา ๆ พลางครุ่นคิดไปมา.
"ฝ่าบาท หยิงเชิญ จะตัดสินใจอย่างไร?"สุ่ยอู๋เหินที่จ้องมองไปยังจงซาน.
เหล่าข้าราชบริพารจ้องมองไปยังจงซาน เดินทางไปยังเซียนหยาง? หยิงเชิญฝ่าบาทไปยังเมืองหลวงของเขาอย่างงันรึ?
"ฝ่าบาท เฉินมีข้อสงสัย!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"
"หวังเจียนและเมิ่งเทียน เป็นคนของตาฉินจริงรึ? คนที่ส่งคำพูดต่อฝ่าบาท เป็นคำพูดของหยิงจริง ๆ หรือไม่?"อี้เหยี่ยนที่แสดงท่าทางแคลงใจ.
เหล่าข้าราชบริพารต่างก็พยักหน้าตาม เรื่องนี้จะประมาทไม่ได้เช่นกัน.
"โปรดวางใจ คนทั้งสองเป็นคนของต้าฉิน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่จงรักภักดีต่อหยิงมาก!"จงซานที่กล่าวยืนยัน.
"เช่นนั้นแล้วฝ่าบาทตัดสินใจอย่างไร? กับความคิดของหยิงยากที่จะมีใครบอกได้ ต้าฉินตอนนี้ พวกเขาต้องการจะทำอะไรอย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ฝ่าบาท หยิงกำลังคิดร้ายกับฝ่าบาทหรือไม่?"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
จงซานที่ครุ่นคิดและส่ายหน้าไปมา.
"อี้เหยี่ยน พรุ่งนี้เจ้าเดินทางไปต้าฉินพร้อมกับข้า!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"ครับ!"อี้เหยี่ยนที่รับคำในทันที.
เกี่ยวกับความปลอดภัย จงซานไม่ได้สนใจ เพราะว่าจงซานรู้ว่าไม่มีอันตรายแน่ เพราะว่าบัวหงหลวนนั้นไม่ได้เปลี่ยนสี ในทางตรงข้าม จงซานก็รู้สึกว่าต้องการรู้ว่าต้าฉินจะอยู่เฉย ๆ หรือว่ากำลังเตรียมแผนการใหญ่อะไรหรือไม่?
เช้าวันถัดมา จงซานที่นำอี้เหยี่ยนเดินทางไปยังต้าฉิน ระหว่างทาง.
"ฝ่าบาท ครั้งนี้ นำเฉินมาด้วยต้องการทำอะไรอย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนสอบถาม.
"ข้าจะไปพบหยิง ส่วนเจ้าไปพบกุยกู่ซือ!"
"ครับ!"
หลังจากนั้นสิบวัน จงซานก็นำอี้เหยี่ยนเดินทางไปถึงเมืองเซียนหยาง ขณะที่ใกล้เข้ามา กับพบคนกลุ่มหนึ่งที่มารออยู่ ผู้นำของพวกเขาก็คือเสนาบดีต้าฉิน ลู่ปู้เหว่ย.
"เซิ่งซ่างต้าเจิ้ง ไม่พบกันนาน!"หลู่ปู้เหว่ยเผยยิ้มออกมา.
"เสนาบดีลู่? ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าจะเดินทางมาเซียนหยางในวันนี้?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เซียนเซิง กุยกูซือได้ทำนายเอาไว้วันนี้ ฝ่าบาทจึงได้ส่งข้ามาตอนรับท่านโดยเฉพาะ!"ลู่ปู้เหว่ยกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เป็นกุยกูซืออย่างงั้นรึ? นี่เขาทำนายได้แม้กระทั่งการเดินทางของข้าที่จะมาถึงวันนี้เลยรึ? กุยกูซือจะมีความสามารถที่จะไม่ธรรมดาซะแล้ว นี่เขาเป็นเพียงแค่ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยจริง ๆ รึ?
พยากรณ์อย่างงั้นรึ? หลายปีภายในทวีปศักดิ์สิทธิ์ จงซานยังไม่เคยเจอใครที่เป็นยอดฝีมือด้านพยากรณ์เลยไม่ใช่รึ?
"เชิญ!"ลู่ปู้เหว่ยกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
จากนั้นพวกเขาก็นำทางจงซาน บินตรงไปยังเมืองเซียนหยาง.
อี้เหยี่ยนที่ขอตัว ไปยังหอการค้าต้าหรง แน่นอนว่าเขาต้องการข้อมูลสักเล็กน้อยจากหอการค้าต้าหรง.
จงซานที่ถูกนำไปยังวังหลวง ไม่ได้เข้าไปในท้องพระโรง หากแต่ถูกนำไปยังตำหนักแห่งหนึ่งโดยลู่ปู้เหว่ย.
"ฝ่าบาทรออยู่ด้านใน ท่านเข้าไปพบกับฝ่าบาทได้เลย!"ลู่ปู้เหว่ยกล่าว.