Chapter 776 กุยกูซือ.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าฉิน เมืองเซียนหยาง ท้องพระโรง.
"หยิง เต้าฉินของเจ้าจะต้องลงโทษจงซาน เผ่ามังกรของข้าเห็นชัดเจนว่าเป็นอาณาจักรคู่บารมีของต้าฉิน ทำไมจะต้องไปปกป้องจงซานด้วย นี่เป็นการดูแคลนต้าฉิน เป็นการเหยียดหยามต้าฉินที่สุด!"อ้าวซือไห่ที่กล่าวออกมาเสียงดังลั่นท้องพระโรง.
"หืม? เจ้าคิดว่าข้าควรทำอย่างไร?"หยิงที่กล่าวออกมาอย่างไม่แยแส.
ใบหน้าของหยิงที่มองไม่เห็นท่าทางความรู้สึก ดวงตาของเขานั้นดูลึกจนมองไม่เห็นก้น.
"นี่คือการดูแคลนระดับราชวงศ์ ต้าเจิ้งดูแคลนต้าฉินอย่างที่สุด พวกเราจะต้องแก้แค้น จะต้องสร้างสงคราม!"อ้าวซือไห่ที่กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ.
"อย่างงั้นรึ?"หยิงที่กล่าวอย่างไม่แยแสกับความไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย.
"นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว!"อ้าวซือไห่ที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.
"อ้าวซือไห่ เจ้าคือจื่อจุ้นเผ่ามังกร ไม่ใช่จงซาน ทำไมเจ้าไม่รู้จักดูแลเผ่ามังกรของเจ้า?"หยิงสอบถาม.
"เพราะว่า เพราะว่ามีคนทรยศ เรื่องนั้น.....!"อ้าวซือไห่ที่รู้สึกไม่ดี.
"เจ้าไม่คิดจะจัดการเผ่ามังกรของเจ้าหรอกเหรอ ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นสิ่งแรกที่เจ้าต้องทำด้วยซ้ำ!"หยิงกล่าวอย่างเฉยเมย.
อ้าวซือไห่จ้องมองไปยังหยิง แววตาที่เผยท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้รู้สึกคั่งแค้น ทำได้แค่เพียงสะบัดหน้า หันหน้ากลับ จากไปด้วยความไม่ยินดี.
"เลิกประชุม!"หยิงกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส.
หยิงที่ลุกขึ้นยืน สะบัดแขนเสื้อและหายไปจากห้องโถง.
ในห้องโถง หลี่ซือไม่ได้อยู่ในตำหนักมีเพียงแค่ลู่ปู้เหว่ยที่จดจ้องมองอ้าวซือไห่จากไปพร้อมกับเผยท่าทางเหยียดหยัน.
"เซียนเซิงลู่!"ไป๋ฉีที่เอ่ยออกมาในทันที.
"หืม? แม่ทัพไป๋?"ลู่ปู้เหว่ยที่จ้องมองไป๋ฉีด้วยความสงสัย.
"ทำไมฝ่าบาทถึงยอมทนเรื่องนี้อย่างงั้นรึ? ถึงแม้นว่าอ้าวซือไม่จะไม่ได้ดูแลเผ่ามังกรของตัวเอง แม้นว่าเผ่ามังกรจะเล็กและอ่อนแอ ทว่าฝ่าบาทก็ไม่ควรที่จะยอมทนให้ต้าเจิ้งดูแคลน หากเป็นฝ่าบาทในอดีตนั้นไม่มีทางปล่อยต้าเจิ้งเอาไว้อย่างแน่นอน ทำไม?"ไป๋ฉีที่ขมวดคิ้วไปมาแสดงท่าทางสงสัย.
"เฮ้เฮ้ เรื่องนี้นะรึ? ข้อแรก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ไม่จำเป็นต้องเอามาใส่ใจทั้งนั้น เรื่องทั้งหมดนั้นเป็นปัญหาของอ้าวซือไห่ ข้อสอง อ้าวซือไห่ตีค่าตัวเองสูงจนเกินไป ทั้งแสดงท่าทางกดดันฝ่าบาท เป็นเหตุให้ฝ่าบาทไม่พอใจ ข้อที่สามสำคัญที่สุด เจ้ายังไม่รู้รึ? ฝ่าบาทสนใจผลประโยชน์มากกว่าชื่อเสียงสะอีก."ลู่ปู่เหว่ยที่ตบไปที่ไหล่ของไป๋ฉี.
ไป๋ฉีที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้ารับ "ขอบคุณเซียนเซิงลู่ที่แนะนำ!"
อ้าวซือไห่เก็บความคับแค้นเดินออกมาด้านนอกตำหนัก ที่ด้านหลังของเขามีมังกรกลุ่มหนึ่ง.
"จื่อจุ้น ทำไมถึงได้ห่อเหี่ยวเช่นนั้น?"เหล่าเผ่ามังกรที่ขมวดคิ้วสอบถามออกไป.
"กลับทะเลตะวันออก!"ใบหน้าของอ้าวซือไห่ไม่ค่อยดีนัก ไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด.
เมื่อเผ่ามังกรเพิ่งก้าวออกมาจากเมืองเซียนหยางไม่นาน.
"ดวงวิญญาณหวนกลับ!"
บนท้องฟ้าของต้าฉิน เสียงสายฟ้าดังกระหึ่ม ดังลั่นไปทั่วเมืองเซียนหยาง.
"เปรี้ยง!!"
ท้องฟ้าเริ่มแตกระแหง เกิดระเบิดใหญ่ดังกระหึ่มไม่หยุด สายฟ้าที่ลามไปทั่วเมือง จากนั้น ปราณหยินบริสุทธิ์มากมายที่ปะทุขึ้นมาในทันที.
ทว่าหลังจากนั้นกลิ่นอายที่น่าเกรงขามที่พวยพุ่งนั้น กระแทกเมฆวาสนาของต้าฉิน ความรุนแรงที่ทำให้เมฆวาสนาสั่นไหวไปมา ปราณสีดำที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า พร้อมกับแผ่จิตสังหารที่หนักหน่วงรุนแรงออกไปกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด.
แรงกดดัน ถึงแม้นว่าอ้าวซือไห่ จะเป็นจื่อจุ้นเผ่ามังกร ยังรู้สึกหวาดผวาด้วยความหวาดกลัวด้วย.
พื้นที่รอบ ๆ ฝูงมังกร ปรากฏสายฟ้ามากมายที่ส่องประกายแสงแปบ ๆ แรงกดดันที่หนักหน่วงที่โถมกระหน่ำ กดทับฝูงมังกรให้แนบไปกับพื้น แม้แต่อ้าวซือไห่ยังร่วงหล่นลงไปกับพื้นด้วย.
หมายความว่าอย่างไรกัน? กลิ่นอายที่น่าหวาดกลัวนี้คืออะไร?
กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ปกคลุมไปทั่วเมืองเซียนหยาง เป็นเวลาถึงหนึ่งชั่วยาม จากนั้นถึงค่อย ๆ สลาย ถูกดึงกลับไปยังสถานที่แห่งหนึ่งช้า ๆ .
หลังจากที่ทุกอย่างกลับเป็นเช่นเดิม เหล่ามังกรที่เพิ่งออกมารู้สึกหวาดผวาปาดเหงื่อที่เย็นเยือบทีเดียว.
"จือจุ้น ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกัน?"เหล่ามังกรที่กล่าวออกมาเสียงสั่น.
"ลานที่พักตรงนั่น เป็นใครอาศัยอยู่อย่างงั้นรึ?"อ้าวซือไห่เองก็รู้สึกหวั่นเกรงด้วยเช่นกัน.
"ข้ารู้ ข้าเคยได้ยินมาก่อน."มังกรตนหนึ่งที่เร่งรีบกล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"
"ที่นั่นคือตำหนักกุยกู ที่ตำหนังของเมืองเซียนหยานนั้น นอกจากตำหนักหลวง สถานที่แห่งนั้น ใหญ่โตที่สุด."เผ่ามังกรตนนั้นกล่าว.
"ตำหนักกุยกู? เป็นสถานที่ของใต้ซือกุยกู ก่อนหน้านี้เป็นตำแหน่งแห่งความตาย?"มังกรอีกตนที่ขมวดคิ้วไปมา.
ส่วนอ้าวซือไห่ที่จดจ้องมองไปยังสถานที่ดังกล่าวดวงตาหดเกร็ง.
"กุยกูซือ? กุยกูซือ ของต้าฉินฟื้นคืนชีพแล้วอย่างงั้นรึ?"อ้าวซือไห่ที่เผยใบหน้าแววตาตื่นตกใจ.
"จื่อจุ้น? เขาเป็นใครกัน? ใครคือกุยกูซือ?"
"ไป กลับไปยังทะเลตะวันออก!"อ้าวซือไห่ไม่ตอบ ทว่าเร่งรีบสั่งการออกไปในทันที.
...............
ภพหยิน ราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้ง เมืองซ่าง.
ในวันนี้ ที่ยอดเขาแห่งหนึ่งห่างออกไปจากเมืองซ่างไม่ไกล ปรากฏคนหกคนขึ้น.
เทียนเซียวจื่อ เทียนไล และอีกสี่คนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเทียนไล! นอกจากเทียนเซียวจื่อ อีกห้าคนคือคนจากโลกใบใหญ่นั่นเอง.
"ที่นี่อย่างงั้นรึ?"เทียนไลที่จดจ้องมองไปยังเทียนเซียวจื่อ.
"ใช่ ที่นี่ล่ะ จงซานอยู่ที่นี่ ในอดีตนั้นเขาเคยแสดงภาพเงาของตราสวรรค์ออกมาให้พวกเราได้เห็น นอกจากนี้เขายังเป็นศิษย์ของประมุขตระกูลเทียนภพหยาง แน่นอนว่าเขาจะต้องรู้ว่าตราสวรรค์อยู่ที่ไหน!"เทียนเซียวจื่อกล่าวออกมาในทันที.
"เจ้ามั่นใจอย่างงั้นรึ?"
"จริงแท้แน่นอน ข้าต้องหลอกเจ้าด้วยรึ? ด้วยเชาว์ปัญญาของเจ้า ข้ารู้ว่าข้าหลอกเจ้าหรือไม่?"เทียนเซียวจื่อกล่าวออกมาในทันที.
เทียนไลจดจ้องมองไปยังเทียนเซียวจื่อ ดวงตาขวาง ใบหน้าไม่เชื่อใจเทียนเซียวจื่อแม้แต่น้อย "ข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังหลอกใช้ข้า?เจ้าต้องการให้ข้าช่วยจัดการจงซานให้เจ้าอย่างงั้นรึ?"
"แล้วอย่างไร? ทำไมข้าต้องการหลอกเจ้าด้วย? นอกจากนี้ พี่สามของเจ้า เทียนถังไม่ใช่ว่ารับคำของข้าแล้วรึ? เช่นนั้นเจ้าจะมาหาจงซานกับข้ารึอย่างไร!"เทียนเซียวจื่อกล่าวออกมาในทันที.
"ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น หลังจากที่พวกเรามาที่นี่ ข้าได้ยินว่าเจ้าพ่ายแพ้ให้กับจงซาน คุนเผิงล่ะ? เจ้าไม่ได้มีคุนเผิงแล้วอย่างงั้นรึ?"เทียนไลที่จ้องมองไปยังเทียนเซียวจื่อ.
"คุนเผิง ได้บินสู่สวรรค์ ออกจากโลกใบเล็ก เดินทางไปอาศัยที่โลกใบใหญ่แล้ว!"เทียนเซียวจื่อที่กล่าวตอบออกไปในทันที.
เทียนไลจ้องมองไปยังเทียนเซียวจื่อ เงียบไปชั่วครู่แล้วกล่าวออกมาว่า "ครั้งนี้ข้าจะเชื่อเจ้าก่อนก็ได้!"
"นั่นแน่นอน ข้าเทียนเซียวจื่อไม่เคยโกหกใคร."เทียนเซียวจื่อที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เทียนไลที่หันหน้าจ้องมองออกไป จดจ้องมองวาสนาที่มีอยู่เต็มท้องฟ้า.
"พวกเจ้าทั้งสี่!"เทียนไลที่กล่าวออกมาทันที.
"ผู้น้อยอยู่นี่แล้ว!"ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสี่กล่าวรับในทันที.
"เรียกจงซาน!"เทียนไลกล่าว.
"ต้องการให้ออกแรงระดับใหนขอรับ?"
"ระดับใดอย่างงั้นรึ? ทำลายเมืองซ่างไปเลย ดูซิว่าจงซานมันจะออกมาไหม?"เทียนไลกล่าวออกมาด้วยความอหังการ.
"ขอรับ!"คนทั้งสี่ที่กล่าวตอบออกมาในทันที.
ที่มุมปากของเทียนเซียวจื่อที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
คนทั้งสี่ที่บินออกไปจากยอดเขา ลอยอยู่บนอากาศ ทันใดนั้นก็ปรากฏเป็นบอลสีแดงที่ส่องประกายแสงวับวาวถูกยิงออกมาพร้อมกัน เป็นเปลวเพลิงที่รุนแรงปะทุอย่างหนักหน่วง มันกำลังใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้น พริบตาเดียวก็มีขนาดใหญ่ราวกับดวงตะวันขนาดย่อม ๆ
อากาศรอบ ๆ ตอนนี้เริ่มส่งเสียงดังลั่นสั่นไหวไปมา ด้วยผลของความร้อนที่หนักหน่วงรุนแรง มิติอากาศกำลังสั่นไหวเป็นระลอกคลื่น!
"ครืนนนนนนนนนนนนนน!"
ดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่ขยายขนาดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว.
จากนั้น ดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่นั้นก็กลายร่างเป็นมังกรเพลิงพุ่งตรงไปยังเมืองซ่างด้วยความเร็วสูง.
เสียงระเบิดที่ดังลั่นแผ่ออกไปรอบ ๆ ก่อนที่จะหยุดอยู่ที่ตำแหน่งหนึ่ง กำลังผลักดันม่านป้องกันเมือง.
เพลิงมังกรขนาดใหญ่ ที่ทำให้มิติฉีกขนาดสั่นไหว มิติรอบ ๆ ที่กำลังแตกเป็นรอยกระจายไปรอบ ๆ .
พื้นที่กว่า หนึ่งแสนจั้ง ลุกไหม้ด้วยเพลิงมังกร เสียงของมังกรยักษ์ที่กำลังดังสนั่นหวั่นไหว แรงกดดันวิญญาณที่โถมกระหนำ อัดปะทะลงมายังเมืองซ่าง.
"เปรี้ยง!!!"
ความเร็วของเปลวเพลิงมังกรที่ก่อให้เกิดฟ้าฟ้าลามกระจายไปทั่วเมือง.
เพลิงมังกรที่อัดปะทะม่านพลังป้องกัน.
บนท้องฟ้าที่ปรากฏสะเก็ดสายฟ้า แสงสีเขียวที่ร่วงหล่นลงจากท้องฟ้า ม่านพลังที่โปร่งใสดังกระหึ่ม ปกป้องเพลิงมังกร.
"ตูมมมมมมมมมมมมมม!"
เสียงระเบิดจากการปะทะนั้น ก่อให้มังกรเพลิงระเบิดดังสนั่นไปในที่สุด เปลวเพลิงที่ถูกผลักดันออกมาด้วยม่านป้องกัน แตกสลายกลายเป็นเสี่ยง ๆ บนอากาศ พริบตาเดียวบนท้องฟ้าที่กลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ พื้นที่รอบ ๆ ที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง ม่านพลังของเมืองซ่างที่สั่นไหวไปมาอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้ยอดเขารอบ ๆ พังทลายล่มสลาย.
ม่านขนาดใหญ่ที่ปกป้องเมือง สั่นไหว ราวกับว่าจะไม่ยอมหยุดลง ทำให้พื้นที่รอบ ๆ เสียหายอย่างหนัก.
เทียนไลที่จ้องมองดูค่ายกลคุ้มเมือง ดวงตาที่หรี่เล็ก เทียนเซียวจื่อรู้สึกราวกับว่าเป็นไปตามที่เขาคาด.
ทว่าซือ ผู้ใต้บังคับบัญชาของเทียนไล จดจ้องมองมายังเทียนไล ว่าจะตัดสินใจอย่างไร.
เมืองซ่าง ตำหนักหลวง ร่างเงาจงซานที่กำลังประชุมอยู่.
พริบตาเดียวที่ดวงตะวันขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น จงซานก็จดจ้องมองขึ้นไปด้านบนท้องฟ้า จากนั้นก็ออกมาจากตำหนักปู่ซือ.
ส่วนค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลว เป็นเจี้ยนเจิ้งอี้เทียนเจี้ยน หนานกงเซิ่งเปิดการใช้งานนั่นเอง.
ขณะที่จงซานออกมาจากตำหนักปู่ซือ หนานกงเซิ่งก็ออกมาอยู่ข้าง ๆ จงซาน จงซานที่จ้องมองไปยังสถานที่ไกลออกไปยอดเขาแห่งหนึ่งนอกเมืองซ่าง.
เปลวเพลิงที่ลุกไหม้ไปทั่ว ความร้อนที่ทำให้มิติบิดเบี้ยวได้เลย บนยอดเขาที่ไกลออกไปมีคนหกคนยืนอยู่.
เทียนไลที่จ้องมองไปบนท้องฟ้าจดจ้องมองประกายดวงดารา.
"นับเป็นค่ายกลที่ยอดเยี่ยม มีพลังเทียบเท่ากับค่ายกลของโลกใบใหญ่คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีอยู่ในโลกใบเล็กแห่งนี้ ราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ? ก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง!"เทียนไลที่กล่าวชมเล็กน้อย.
"ประมุขตระกูลเทียน เจ้ามีจุดประสงค์อะไร? ต้องการมาระลึกความเจ็บปวดอีกรึไง? ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าเจ้าควรจะคิดได้แล้ว ทว่ายังไม่พออีกรึ?"จงซานกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
แม้นว่าจะอยู่ไกลออกไป ทว่าจงซานก็สามารถส่งเสียงผ่านออกไปได้ ภายในแผ่นดินต้าเจิ้ง จงซานมีทักษะในการส่งเสียงไปทั่วทิศนั่นเอง.
ได้ยินคำพูดของจงซาน ดวงตาของเทียนเซียวจื่อเต็มไปด้วยความเกลียดชัง หากแต่ไม่กล่าวตอบแต่อย่างใด.
"คนนี้คือ จงซาน!"เทียนเซียวจื่อที่กล่าวรายงานต่อเทียนไล.
"หืม?"เทียนไลที่จ้องมองไปยังตำแหน่งของจงซาน.
สายตาของทั้งคู่ที่จดจ้องมองกันและกัน แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา.