ตอนที่แล้วChapter 774 เทียนถังและเทียนไล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 776 กุยกูซือ.

Chapter 775 จิตใจของหวังเฉิน.


ราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้ง สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว! ฮาเร็ม ตำหนักหลวงเชวียนเป่าเอ๋อ!

จงซานที่นั่งอยู่ในสวนของเป่าเอ๋อ ที่ด้านในสวนนั้นมีโต๊ะที่จัดเตรียมอาหารชั้นดีเอาไว้ เหล่าคนรับใช้ที่ถอยห่างออกไปหมดแล้ว.

จงซานที่นั่งบนม้านั่ง จดจ้องมองพระจันทร์บนท้องฟ้า พลางขมวดคิ้วไปมา ราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่างที่ลึกล้ำ.

หวงโหวเชวียนเป่าเอ๋อที่คอยรินสุราในแก้วให้กับจงซาน.

"เหล่าเย่ เทียนเอ๋อไปหาซือจิวแล้วอย่างงั้นรึ?"เชวียนเป่าเอ๋อที่จอ้งมองสอบถามจงซาน.

"อืม หลังจากที่เขาหยั่งเชิงแล้ว ก็จะกลับมา!"จงซานพยักหน้า พลางถอนหายใจ.

"ข้าเข้าใจความคิดเหล่าเย่ ที่จริงแล้วในอดีตนิสัยของของเหล่าบุตรบุญธรรมเป็นอย่างไร หากเหล่าเย่ศึกษาให้ดี ย่อมเข้าใจได้อย่างชัดเจน ทว่าเหล่าเย่นั้นก็ไม่ได้ทำ."เป่าเอ๋อกล่าวพลางลูบเบา ๆ ที่ไหล่จงซาน.

"ตอนแรกนั้น เพราะว่าข้าต้องการ เม็ดยาโพวจวิน ดังนั้นจึงได้ฝึกฝนพวกเขามากมาย แน่นอนว่าข้าต้องการให้พวกเขากลายเป็นสุดยอดฝีมือด้วย ข้าได้ละเลยความรู้สึกพวกเขา ในโลกนี้มีที่ใหนที่บิดาคิดแต่เรื่องเช่นนั้นกับบุตรตนเอง?"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"ไม่ เพราะว่าเหล่าเย่เผยความรู้สึกอื่นมากเกินไป กับความรู้สึกที่มอบให้กับเหล่าบุตรบุญธรรม ที่คาดหวังเม็ดยาโพวจวินกับพวกเขา ดังนั้นจึงทำให้รู้สึกผิด อีกทั้งเหล่าคนที่สามารถคาดหวังได้ ยังเอาใจพวกเขาเป็นอย่างดี แม้นว่าจะรักทุกคนเท่านั้น หากแต่การกระทำต่อแต่ละคนก็แตกต่างกัน ทำให้ความรู้สึกที่แท้จริง ๆ ไม่สามารถแสดงออกมาได้เด่นชัด จนทำให้พวกเขาคิดว่าเป็นความรู้สึกที่หวังเพียงผลประโยชน์เท่านั้น."เป่าเอ๋อที่กล่าวจีบปากเล็กน้อย.

กับคำพูดของเป่าเอ๋อ จงซานไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด.

"เหล่าเย่กำลังลังเลใจครุ่นคิดว่าซือจิว จงใจทรยศจริงหรือไม่อย่างงั้นรึ?"เป่าเอ๋อที่เผยท่าทางอยากรู้.

"มันมีตัวแปรหลายอย่าง ที่จะต้องนำมาใช้ตัดสินไม่ใช่รึ?"จงซานที่ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"เหล่าเย่ตอนนี้รู้สึกว่าจะสุขุมยิ่งกว่าก่อนหน้ามาก."เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"หืม?"

"หากเป็นเมื่อก่อน แน่นอนท่านต้องคิดว่าบุตรที่ล้ำค่าทรยศเป็นเรื่องเข้าใจผิด หรือหวังว่าพวกเขาทรยศนั้นจะต้องเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด ทว่าตอนนี้ท่านยังคงสุขุมไม่สรุปในทันที ยังคงวิเคราะห์อย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะสรุปถึงความจริง!"เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน.

"สุขุมอย่างงั้นรึ? อาจะใช่ ยิ่งเรื่องราวซับซ้อนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องสุขุม เพราะว่ามันเป็นสิ่งหนึ่งที่จะกลายเป็นปมในใจของข้าได้!"จงซานกล่าว.

"ไม่ว่าอย่างไร พวกเราก็อยู่ข้างท่าน!"เป่าเอ๋อที่ซบใบหน้าบนไหล่มือของนางที่ลูบไปมากล่าวปลอบจงซานอย่างอ่อนโยน.

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.

ขณะที่คนทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น เวลาก็ผ่านไปราว ๆ หนึ่งชั่วยาม.

"ฟู่หวง!"ทันใดนั้นเสียงของจงเทียนจากด้านนอกสวนก็ดังขึ้น.

เชวียนเป๋าเอ๋อกลับมานั่งเป็นปรกติทันที จ้องมองไปยังใบหน้าของจงซาน.

"เข้ามา!"จงซานกล่าว.

"ครับ!"

จากนั้นจงเทียนก็เข้ามาในสวน พร้อมกับยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะ.

"เป็นอย่างไร?"

"คงต้องให้ฟู่หวงเป็นคนตัดสิน!"จงเทียนครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"หืม?"

"หวังเฉิน ขณะที่เข้าไปในสวนซังอู๋ ก็หยุดลงสองลมหายใจก่อนที่จะเข้าไปด้านใน หลังจากนั้นเขาก็หยุดสามลมหายใจขณะที่เข้าไปในสวน จากนั้นก็จัดแจงให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเขาพักในที่ต่าง ๆ  ส่วนเขานั้นเข้าไปอาศัยในห้องเดิมในอดีตของตัวเอง!"จงเทียนกล่าวรายงาน.

จงซานที่กำลังเคาะนิ้วไปบนโต๊ะเบา ๆ  ฟังอย่างระมัดระวัง.

"หลังจากที่ข้าเฝ้าดูอยู่นั้น ข้าก็เห็นเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาเข้ามา ขณะที่เขาพูดคุยกับเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาเรื่องปรกติ! เรื่องที่เขาพูดนั้นไม่มีน้ำรั่วสักหยด ไร้ซึ่งข้อบกพร่อง ไม่ได้กล่าวอะไรแตกต่างจากทูตที่ควรจะพูดเลย!"จงเทียนกล่าว.

"อืม!"จงซานพยักหน้า.

"เหล่าเย่? เป็นอย่างไรบ้าง?"เป่าเอ๋อกล่าว.

"ไม่สามารถบอกได้ พรุ่งนี้ เจ้า จงเทียน จงเจิ้ง พวกเจ้าซ่อนอยู่ข้าง ๆ ตำหนักซ่างเฉินคอยจับตามอง จากนั้นพวกเราค่อยมาพูดกันอีกครั้ง!"จงซานที่สูดหายใจลึก.

เช้าวันถัดมา.

"ประกาศ ให้ทูตราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย เข้าตำหนักซ่างเฉิงได้!"

หวังเฉินที่นำกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าสู่ตำหนักซ่างเฉิง.

หวังเฉินในชุดสีแดง ที่หน้าผากนั้นมีอักษรเหยาส่องประกายแสงเรื่อ ๆ ออกมา สัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์สีโลหิต ที่ด้านหลังนั้นเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาสองคน.

ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง หวังเฉิงที่ดวงตาหดเกร็ง.

เพราะว่าภายในตำหนักซ่างเฉิงนั้นมีคนเพียงคน ๆ เดียว เป็นจงซานที่นั่งอยู่บนบัลลังก์สูงสุด เหล่าข้าราชบริพารที่ไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ ทั่วทั้งห้องโถงมีแค่จงซานเท่านั้น.

และผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสองคนที่เขานำมาก็แสดงท่าทางแปลกประหลาด ที่ดวงตาของพวกเขา ที่ปรากฏเรื่องแปลกประหลาด เหมือนกับว่าพวกเขามองเห็นภาพลวงตา รู้สึกเหมือนตัวเองก้าวเข้ามาในท้องพระโรง แต่พวกเขานั้นกลับยืนนิ่งอยู่หน้าห้องโถง ไม่ได้ก้าวเข้ามาด้านใน.

หวังเฉินที่ก้าวเข้ามา ทว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาที่หยุดแล้ว ไม่ได้ก้าวตามเข้ามา.

หวังเฉินที่ก้าวเข้ามาถึงกลางห้องโถง พร้อมทั้งจ้องมองไปมองจงซาน.

คนสองคนสายตาที่จับจ้องมองกัน ริมฝีปากของหวังเฉินที่สั่นไปมาเล็กน้อย แววตาที่สั่นไหว ขมวดคิ้วไปมา ใบหน้าที่ราวกับว่าแสดงท่าทางรู้สึกผิดออกมา เขาที่ขยับเล็กน้อยคล้ายต้องการคุกเข่า แต่ยั้งเอาไว้ ร่างกายสั่นไหว.

"หวังเฉิน? เจ้ามีอะไรจะกล่าวกับข้าหรือไม่?"จงซานที่สอบถามออกมาด้วยด้วยเสียงที่เคร่งขรึม.

แววตาของจงซาน ความคาดหวังที่มลายหายไปจนสิ้น.

หวังเฉินจ้องมองจงซาน กัดริมฝีปากเล็กน้อย ขณะที่หันหน้าไปมองผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสองที่กำลังสับสน พริบตานั้นก็เข้าใจอะไรบางอย่างได้.

หวังเฉินที่กำหมัดแน่น จดจ้องมองไปยังจงซาน ร่างกายที่ไหวเอน เหมือนจะคุกเข่า หากแต่ทันใดนั้น ดวงตาของหวังเฉินที่หดเกร็ง ขมวดคิ้วไปมา ราวกับว่าคิดเรื่องสำคัญบางอย่างได้.

ใบหน้าของหวังเฉิงที่เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม พร้อมกับสูดหายใจลึก กวาดความรู้สึกที่มี ให้หายไป จดจ้องมองไปยังจงซานแล้วกล่าวออกมาว่า "ทูตราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย คารวะเซิ่งซ่างต้าเจิ้ง"

จงซานยังคงนั่งบนบัลลังก์อย่างสุขุม จดจ้องมองจงซาน ดวงตาที่หรี่เล็กลง.

"อืม มีอะไรก็กล่าวมา!"จงซานที่จ้องมองหวังเฉิน.

"ต้าสุ่ยและต้าเจิ้ง สองราชวงศ์นั้นมีบุญคุณความแค้นกันในอดีต เซิ่งซ่างต้าสุ่ยนั้นได้ให้ข้าส่งข้อความมา เรื่องแรก คือยินดีต่อราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้งที่ยกระดับสำเร็จ เรื่องที่สอง หวังให้ต้าเจิ้ง เปลี่ยนความแค้นเป็นมิตรภาพ ลืมความแค้น พร้อมกับร่วมมือกันแบ่งแยกทวีปศักดิ์สิทธิ์กับต้าเจิ้งคนละครึ่ง!"หวังเฉินกล่าว.

แบ่งแยกทวีปศักดิ์สิทธิ์คนละครึ่งอย่างงั้นรึ? นี่คิดจะให้ต้าเจิ้งกับต้าสุ่ยจับมือกันกำจัดต้าฉินอย่างงั้นรึ? จงซานเผยท่าทางเหยียดหยัน.

"จริง ๆ รึ? กงเหล่ยเทียนให้เจ้าส่งคำพูดนี้มาจริง ๆ รึ?"จงซานที่กล่าวด้วยเสียงเย็นชา.

"ครับ ด้วยความจริงใจ ขอให้เซิ่งซ่างต้าเจิ้งพิจารณาเรื่องนี้ด้วย!"หวังเฉินกล่าว.

จงซานจ้องมองหวังเฉิน สูดหายใจลึกและกล่าวออกมาว่า"ส่งแขก!"

จงซานที่ปฏิเสธหวังเฉินไปในทันที.

หวังเฉินที่จ้องมองจงซาน พร้อมกับแสดงความเคารพ ก่อนที่จะก้าวออกนอกห้องโถงพาผู้ใต้บังคับบัญชาจากไป.

ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสองเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแตกต่างจากหวังเฉิน.

หวังเฉินจากไปแล้ว จงซานที่จ้องมองไปที่มุมแห่งหนึ่งพร้อมกับให้สัญญาณบางอย่าง..

"หากว่าต้องการให้ข้าช่วยล่ะก็บอกได้ ข้าเองก็กำลังยุ่ง ขอไปก่อนก็แล้วกัน!"เสียงของสตรีผู้หนึ่งที่ดังขึ้น.

เป็นหวนจีนั่นเอง เสียงหวนจีที่ดังไม่น้อย หากแต่ช่างน่าเศร้าที่มีเพียงจงซานที่ได้ยิน จงซานที่ไม่ต้องพูดออกมาตรง ๆ  หวนจีก็เข้าใจได้ จากนั้นก็จากไป.

ทว่าในเวลาเดียวกัน ที่อีกมุมหนึ่งของตำแหน่งซ่างเฉิน เป่าเอ๋อ จงเทียนและจงเจิ้ง.

"เหล่าเย่?"เป่าเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา.

"อืม พวกเจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร?"จงซานเอ่ยสอบถามคนทั้งสาม.

คนทั้งสามที่ครุ่นคิดเล็กน้อย.

"เจิ้งเอ๋อ เจ้าพูดก่อน!"จงซานกล่าว.

"ครับ บุตรเชื่อว่าหวังเฉินนั้นไม่ใช่จงซือจิวอีกต่อไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีเยื่อใยในอดีต ฟู่หวงได้ให้โอกาสต่อเขาแล้วเมื่อสักครู่ ทุกคนเองก็ได้เห็น ต่อหน้าฟู่หวง ไม่มีอะไรต้องปกปิดอีกต่อไป? เขากลับเลือกที่จะตัดสัมพันธ์ในอดีต ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะให้โอกาสกับเขาอีกต่อไป!"จงเจิ้งกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"อืม เทียนเอ๋อ เจ้าล่ะ!"จงซานที่จ้องมองไปยังจงเทียน.

"ความคิดของบุตรต่างกับจงเจิ้ง ข้าคิดว่าเขาคือซือจิว ไม่เปลี่ยนไป ฟู่หวงยังจำเรื่องของเสี่ยวหวังได้หรือไม่? ไม่ใช่ว่าบุตรบุญธรรมของเสี่ยวหวังเป็นตัวอย่างหรอกรึ? ในเวลานั้นสถานการณ์เช่นนั้นมันยากที่จะเอ่ย แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็กลับมา แต่ทุกอย่างตอนนี้มันสายไปแล้วเท่านั้นเอง ฟู่หวงเองก็เห็นอารมณ์ของเขา เหมือนว่าเขาต้องการคุกเข่า ต้องการจะสารภาพกับฟู่หวง ทว่าบางทีเขาอาจจะคิดอะไรบางอย่าง หรือว่ากงเหล่ยเทียนกุมจุดอ่อนอะไรเขาเอาไว้ จึงไม่สามารถแสดงออกมาได้ ก่อนหน้านี้ท่าทางของเขา ข้าคิดว่าเขายังคงมีเยื่อใย เขายังคงเป็นจงซือจิว!"จงเทียนที่กล่าวตอบ.

"ไม่ จะนำเรื่องของเสี่ยวหวังมาอธิบายได้อย่างไร? ท่านยังคงจำจงตี้ได้หรือไม่? ก่อนหน้านี้แม้นว่าเขาเข้าสู่สำนักเซียนแล้ว เขายังมีความคิดต้องการสังหารฟู่หวงในท้ายที่สุด และก่อนที่หยิงหลานจะตายไป มีจดหมายสองฉบับที่ถูกส่งมา ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นจดหมายของเขาที่ล่อให้หยิงหลานเข้าไปสู่กับดักแห่งความตาย!"จงเจิ้งที่ส่ายหน้าไปมา.

"เนื้อหาในจดมายนั้นเป็นการล่อหยิงหลานให้เข้าไปติดกับ ทว่าหยิงหลานนั้นไม่ได้เชื่อคำพูดของหวังเฉินแต่อย่างใด หรืออาจจะมีการคำนวณเรื่องนี้เอาไว้แล้วก็ได้ ดังนั้นก็ไม่สามารถนำมาอธิบายได้เช่นกัน."จงเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.

ขณะที่ไท่จื่อทั้งสองกำลังโต้เถียงกันนั้น จงซานก็จ้องมองไปยังเชวียนเป่าเอ๋อ ไท่จื่อทั้งสองก็หยุดลง.

"ข้าจำได้ว่าจงซือจิว นับว่าเป็นบุตรที่อยู่ในโอวาทท่านที่สุด ก่อนหน้าที่ข้าจะไปบำเพ็ญตน ท่านก็เอ็นดูเขาที่สุด ในเวลานั้นเองเขาก็เป็นคนที่ท่านเอาใจที่สุดด้วย ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเหล่าเย่นั้นน่าจะเป็นคนที่ต้องการพูดอะไร?"เป่าเอ๋อสอบถาม.

คนทั้งสามที่จ้องมองไปยังจงซานพร้อมกัน.

จงซานที่สูดหายใจลึก พร้อมกับขมวดคิ้วไปมา "ข้าเอ็นดูเขาที่สุดอย่างงั้นรึ? เฮ้เอ้ จงซือจิว คือคนที่ข้าดูแลดีที่สุดรึ? ไม่เลย เป็นเขาที่ฉลาดในการเชื่อฟังและร้องขอเรื่องต่าง ๆ  เขามีเชาว์ปัญญาที่เหนือกว่าพี่น้องทุกคน เพราะเหตุนั้นจึงดูเหมือนว่าข้าโปรดเขาที่สุด เขาเป็นคนที่สามารถรับรู้ความรู้สึกของคนอื่น ๆ ได้ดี ด้วยความสามารถด้านนี้ของเขาจึงไม่สามารถที่จะคาดเดาอะไรต่อไปได้ เหมือนเช่นในการประลองประตูมังกร ก็ไม่สามารถนำมาวัดเรื่องในอดีตได้ การจะตัดสินดูเหมือนว่าคงจะต้องใช้เวลาในการดูออกไปอีก!"

"ครับ!"ไท่จื่อทั้งสองที่พยักหน้ารับ.

หลังจากที่ไท่จื่อทั้งสองจากไปแล้ว เป่าเอ๋อที่นำมือไปวางที่ไหล่จงซานและกล่าวออกมาว่า "เหล่าเย่ ไม่มีใครสามารถหลุดรอดสายตาของท่านไปได้ หวังเฉินนั้นจำเป็นต้องดูไปอีกอย่างงั้นรึ?"

"ข้าต้องการให้เวลาเขา เฝ้ามองเขาอีกสักครั้ง!"จงซานที่ยกมือกุมมือของเป่าเอ๋อขณะพูด.

"อืม!"

..........

ภพหยิน บ่อคลื่นสงบ.

เหล่าอาวุโสของตระกูลเทียนที่นั่งอยู่ เทียนเซียวจื่อที่ยืนอยู่ด้านหน้าเทียนเฉินจื่อ.

"อาวุโสใหญ่ ท่านต้องการให้พวกเขาช่วยหา ตราสวรรค์อย่างงั้นรึ? ท่านพ่อเองก็น่าจะอยู่ในภพหยางเรียบร้อยแล้ว!"เทียนเซียวจื่อที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เทียนจี้จื่อ? เขาตายไปเรียบร้อยแล้ว!"เทียนเฉินจื่อส่ายหน้าไปมา.

"ตาย? ใครสังหารกัน?"เทียนเซียวจื่อที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีด.

เทียนเฉินจื่อจ้องมองไปยังเทียนเซียวจื่อ ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าวออกมาว่า"เจ้าไม่ใช่คู่มือของเขา อย่าได้คิด."

"แต่ว่า..!"สายตาของเทียนเซียวจื่อที่เผยความโกรธ.

"ไม่ ทว่า ถึงแม้นว่าข้าจะต้องการตราสวรรค์ก็ตาม ทว่าข้าก็ยังไม่รู้ว่ามันมีความลับอะไร หน้าที่นี้ เจ้าควรจะค่อย ๆ เรียบเคียงถามกับเทียนถังและเทียนไลเกี่ยวกับวิธีใช้งานตราสวรรค์มา มันมีความลับใด พวกเราจะต้องรับรู้ก่อน!"เทียนเฉินจื่อกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"ครับ!"เทียนเซียวจื่อที่พยักหน้ารับพร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด