Chapter 774 เทียนถังและเทียนไล
มารชราหมื่นปีได้จากไปแล้ว จงซานยังคงยืนอยู่บนป้อมประตูทิศใต้ จดจ้องมองไปยังทิศทางที่มารชราหมื่นปีจากไป.
ดูเหมือนว่าเขาจะได้เปิดมุมมองหลายอย่างจากคำพูดของมารชราหมื่นปี จงซานสามารถคาดการณ์ถึงอันตรายมากมายจนคาดไม่ถึงรออยู่! กับเหล่าตัวตนอันดับหนึ่งของโลกใบนี้ เมื่อในอดีตอย่างงั้นรึ?
และก็ยังมีโลหิตสืบทอดที่จงซานยังไม่เข้าใจนัก ที่จงซานรับรู้ตอนนี้ก็มีเป่ยชิงซือ เนี่ยนโหยวโหยว หนานป้าเทียน เห่าเม่ยลี่และยังมีอีกเป็นจำนวนมาก!
และอีกคน แน่นอนว่าจะต้องเป็นยอดฝีมือของโลกใบใหญ่ที่เหมือนกับเป่าเอ๋ออีก.
"จงซาน!"เทียนหลิงเอ๋อที่เห็นจงซานที่จับจ้องนิ่งงัน จึงได้เอ่ยออกมาเล็กน้อย.
"ข้าไม่เป็นไร!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมากล่าวตอบสตรีของเขา.
"อืม!"เป่าเอ๋อที่พยักหน้าพร้อมกับบอกเทียนหลิงเอ๋อ ว่าจงซานยังมีเรื่องจัดการ สามีและภรรยาต้องรู้หน้าที่ รอคอยให้จงซานจัดการเรื่องอื่น ๆ เสร็จก่อน ค่อยพูดคุยกันอีกครั้ง.
"กลับตำหนักซ่างเฉิง!"จงซานกล่าว.
"รับทราบ!"
ภายในท้องพระโรง เหล่าข้าราชบริพารและนักรบทุกคนที่กล่าวแสดงแซ่ซ้องสรรเสริญ ในเวลานี้ได้มีการจัดการเกี่ยวกับการปกครองของราชวงศ์สวรรค์อีกครั้ง เมื่อมีการยกระดับเป็นราชวงศ์สวรรค์ จึงต้องมีการจัดการตำแหน่งต่าง ๆ ใหม่.
การประชุมในวันที่สอง.
"รายงานฝ่าบาท ที่ด้านหน้าประตูสรรค์ทิศใต้ ทูตของราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยขอเข้าพบ!"องค์รักษ์ที่เข้ามารายงาน.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย?
เหล่าขุนนางและเสนาธิการที่พูดคุยเสียงดังเซ็งแซ่ ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยและราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้งนั้นเป็นศัตรูคู่แค้นกัน ตอนนี้กับขอเข้าพบอย่างงั้นรึ?
"ใครเป็นทูตอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เคร่งขรึม.
"ซิวเฉินกง หวังเฉิน!"องค์รักษ์ที่กล่าวรายงานออกมาในทันที.
"หวังเฉินอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
ทว่าในห้องโถง เหล่าข้าราชบริพารที่จับจ้องมองไปยังจงซานทันที หวังเฉิน?
เหล่าข้าราชบริพารส่วนใหญ่ไม่รู้จักหวังเฉินและจงซานนั้นมีความสัมพันธ์กัน ทว่าก็เห็นได้ว่าจงซานที่ให้ความสำคัญอยู่ไม่น้อย หวังเฉินอดีตคือจงซือจิว เป็นบุตรบุญธรรมของจงซานที่เขาเอ็นดูที่สุด หากแต่กลับทรยศจงซานนั่นเอง!
เรื่องที่เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก คนที่รู้ไม่มีใครกล้ากล่าวถึงเรื่องนี้ต่อหน้าจงซาน วันนี้คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกลายเป็นทูตของต้าสุ่ยเดินทางมายังต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ?
จงซานที่เคาะนิ้วไปบนบัลลังก์มังกรเบา ๆ เหล่าข้าราชบริพารที่นิ่งงันรอคอย.
เหล่าข้าราชบริพารทุกคนราวกับตระหนักบางอย่างได้ ไม่มีใครกล้ากล่าวขัด หวังเฉินนั้นมีความหลังกับฝ่าบาท แม้ว่าตอนนี้จะเป็นทูตของต้าสุ่ย แม้นว่าจะไม่เข้าใจเรื่องราวมากนัก หากแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของฝ่าบาท จะต้องให้ฝ่าบาทตัดสินใจด้วยตนเอง.
"พวกเขามากันกี่คน?"จงซานสอบถาม.
"สิบเอ็ดคน นำมาโดยหวังเฉิน!"องค์รักษ์กล่าวรายงานในทันที.
จงซานที่หลับตาครุ่นคิดเล็กน้อย สูดหายใจลึก ก่อนที่จะลืมตาขึ้นในทันที"ข้ารู้สึกเหนื่อย ให้พวกเขาไปอยู่ที่ตำหนังซังอู๋ พรุ่งนี้ค่อยเข้าพบที่ท้องพระโรง!"
เหนื่อย? ฝ่าบาทนะรึที่รู้สึกเหนื่อย?
ทว่าก็ไม่มีใครกล้ากล่าวค้าน องค์รักษ์ที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ "รับด้วยเกล้า!"
"เลิกประชุม!"
เหล่าข้าราชบริพารที่ถอยกลับไป จงซานเองก็ออกจากตำหนักซ่างเฉิงไปด้วยเช่นกัน.
"ไปเรียกจงเทียนมา!"จงซานกล่าว.
"รับด้วยเกล้า!"ขันทีชราที่รับคำเร่งรีบไปในทันที.
จากนั้น จงเทียนก็เข้ามา.
"ฟู่หวง จงซือจิวเจ้าสารเลวน้อยนั่นมาอย่างงั้นรึ?"แววตาของจงเทียนที่เต็มไปด้วยความเย็นชาโกรธเกรี้ยว.
"คืนนี้ข้าให้เขาไปพักอยู่ที่สวนซังอู๋."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"สวนซังอู๋? ไม่ใช่ว่ามันคือสวนของเจ้าสารเลวน้อยนั่นหรอกรึ?ฟู่หวง!"จงเทียนที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เจ้าจงไปจับตาดูเขาเอาไว้"จงซานกล่าว.
"หืม?"จงเทียนที่ชำเลืองมองออกไป.
"ครับ!"จงเทียนที่พยักหน้ารับ ดูเหมือนว่าจะเข้าใจความตั้งใจของจงซานได้.
........
ภพหยิน นรกหมื่นจั้ง ตระกูลเทียน.
ในวันนี้ ตระกูลเทียนที่อยู่ในความวุ่นวาย! เหล่าผู้เยาว์ของตระกูลเทียนได้ชักอาวุธออกมาพร้อมกับชี้ไปยังกลุ่มคนด้านหน้า.
คน 16 คน มีสองคนที่ดูเหมือนว่าจะดูเต็มไปด้วยความอหังการเจ้ายศเจ้าอย่าง ซึ่งมี 14 คนล้อมรอบพวกเขา.
พวกเขาที่สวมชุดที่โอ่อ่าอลังการ คนผู้หนึ่งสวมชุดสีแดง ส่วนอีกคนสวมชุดสีเขียว ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะถักเปียเป็นรอนยาว ดูสูงส่งน่าเกรงขาม ที่เอวพกกระบี่ที่งดงามเอาไว้ด้วย.
เหล่าผู้คุมประตูถูกแหวกออก คนทั้ง 16 ที่ก้าวตรงไปในตระกูลเทียน.
เหล่าผู้เยาว์ของตระกูลเทียนที่เข้าล้อมกรอบ หากแต่ไม่มีใครกล้าลงมือ คนทั้ง 16 ที่รุกเข้ามา พวกเขาที่ถอยครั้งแล้วครั้งเล่า.
พวกเขาที่ไม่สนใจก้าวรุกเข้ามาด้านใน ก่อนที่จะหยุดลง.
เทียนเซียวจื่อที่นำยอดฝีมือตรงมายังประตูทางเข้า.
"ท่านประมุข อาวุโสเทียนที่ออกมาขวางพวกเขาก่อนนี้ ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บหนัก ตอนนี้ขยับไม่ได้ เป็นเขา!"ผู้เยาว์ตระกูลเทียนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่ตื่นตระหนก.
"พวกเจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงได้รุกเข้ามาในตระกูลเทียน?"เทียนเซียวจื่อที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเคร่งขรึม.
ชายสองคนที่มีองค์รักษ์ล้อมรอบจ้องมองไปยังป้ายขนาดใหญ่ที่หน้าประตู.
"พี่สาม โลกใบเล็กมีตระกูลเทียนด้วยรึ? คนพวกนี้ไม่ใช่ว่าเป็นกบฏจากโลกใบใหญ่หรอกรึ?ทว่าเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมอยู่กับเป็นค่ายกลเทียม?"ชายในชุดสีเขียวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"นี่ก็โลกใบเล็กที่แปดแล้ว ที่พวกเราไปพบ."ชายในชุดสีแดงที่ส่ายหน้าไปมา.
"อีกอย่าง สายโลหิตของคนเหล่านี้ ดวงวิญญาณไม่มีสัญลักษณ์ของวิญญาณตระกูลเทียนเลย ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าไม่มีชะตาวิถีของคนตระกูลเทียน!"ชายในชุดสีเขียวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ทว่า สถานที่แห่งนี้นั้น!"ชายในชุดสีแดงที่สูดหายใจลึก.
"หืม?"
"ข้าสัมผัสได้ กลิ่นอายบ่อคลื่นสงบ ไม่ผิดแน่ นี่จะต้องเป็นกลุ่มกบฏของโลกใบเล็กแน่!"ชายในชุดสีแดงที่เผยแววตาตื่นเต้นดีใจขึ้นมา.
"จริง ๆ รึ?"ชายในชุดสีเขียวที่ดวงตาเป็นประกาย.
ชายในชุดสีแดงที่จ้องมองไปยังเทียนเซียวจื่อ "ข้ามีนามว่าเทียนถัง มาจากตระกูลเทียนโลกใบใหญ่ แจ้งไปยังประมุขตระกูลเทียน ข้าต้องการพบเขา!"
เทียนถัง? ดวงตาของเทียนเซียวจื่อที่ดวงตาหดเกร็ง ตระกูลเทียนโลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ?
เทียนเซียวจื่อที่จดจ้องมองพร้อมกับกล่าวออกมาว่า "ข้าคือประมุขตระกูลเทียน เทียนเซียวจื่อ! มีสิ่งใดก็กล่าวออกมา!"
"เจ้านะรึ?"ชายในชุดสีเขียวที่เผยสีหน้าแววตาประหลาดใจ.
"เป็นความจริง!"เทียนเซียวจื่อที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เคร่งขรึม.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เล่นตลกอย่างงั้นรึ? เจ้านะรึเป็นประมุขตระกูลเทียน?"ชายในชุดสีเขียวหัวเราะออกมาเสียงดัง.
"ข้าคือประมุขตระกูลเทียน มีอะไรก็กล่าวออกมา!"เทียนเซียวจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไปให้พ้น เส้าเหยี่ยไม่ได้มีเวลาเล่นกับเจ้าหรอกนะ ไปเรียกประมุขของเจ้าออกมา!"ชายในชุดสีเขียวที่ร้องออกมาเสียงดัง.
กำลังเสียงหัวเราะของชายชุดสีเขียว ทำให้เหล่ายอดฝีมือตระกูลเทียนด้านหลังเทียนเซียวจื่อ ชักกระบี่ยาวออกมาในทันที.
"เฮ้เฮ้ คิดที่จะชักกระบี่ออกมาพูดอย่างงั้นรึ?"ชายในชุดสีเขียวที่กล่าวหยัน.
เทียนเซียวจื่อที่ยกมือขึ้นห้าม แต่กระนั้นพวกเขาก็ไม่ยินดีที่จะเก็บกระบี่.
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น เสียงที่ทรงพลังดังก้องผ่านออกมาจากด้านในตระกูลเทียน.
"แขกผู้มีเกียรติมาเยือน ท่านประมุข โปรดต้อนรับพวกเขา เชิญพวกเขาเข้ามาด้านในตำหนักชีพจรสวรรค์."
เสียงที่ดังรอดออกมานั้น ทำให้เทียนถังขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย แววตาของคนอื่นเองก็แสดงท่าทางสงสัยด้วยเช่นกัน.
"ประมุข เสียงอาวุโสใหญ่!"
เทียนเซียวจื่อพยักหน้า.
"ทุก ๆ ท่านเชิญ!"เทียนเซียวจื่อกล่าว.
"เจ้าเป็นประมุขจริง ๆ รึ?"ชายในชุดสีเขียวที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เทียนไล เข้าไป!"เทียนถังที่กล่าวต่อชายในชุดสีเขียว.
ทุกคนที่เข้าไปในวิหารชีพจรสวรรค์พร้อมกับเทียนเซียวจื่อ.
ภายในวิหารชีพจรสวรรค์.
เทียนเฉินจื่อที่รอคอยอย่างสุขุม ที่ด้านหน้าประตูทางเข้า เหล่าผู้ติดตามของเทียนถังอีก 14 คนไม่ได้เข้ามาด้านในห้องโถง มีเพียงแค่เทียนเซียวจื่อ เทียนถังและเทียนไลเข้ามา.
เมื่อเข้ามาภายในห้องโถงทุกคนที่จ้องมองไปยังเทียนเฉินจื่อ.
"อาวุโสใหญ่!"เทียนเซียวจื่อแสดงความเคารพ.
เทียนเฉินจื่อพยักหน้า.
"ดี มีกลิ่นอายของคนตระกูลเทียนเล็กน้อย ทว่ากลับเบาบางนัก!"เทียนไลกล่าว.
"ผู้น้อยเทียนเฉินจื่อ ไม่รู้ว่าทุกท่านเดินทางมา มีประสงค์อะไร?"เทียนเฉินจื่อที่โบกมือเชิญพวกเขานั่ง.
เทียนถังและเทียนไลก้าวเข้ามานั่งอย่างไม่เกรงใจในทันที.
"เจ้าคือประมุขตระกูลเทียนอย่างงั้นรึ?"เทียนถังที่จ้องมองไปยังเทียนเฉินจื่อ.
"เรื่องของตระกูลเทียนนั้นค่อยซับซ้อน เรื่องนี้...!"เทียนฉินจื่อขณะที่จะกล่าวอะไรบางอย่าง.
"พอแล้ว อย่าพูดอะไรให้เสียเวลา ตราสวรรค์? ส่งตราสวรรค์มา!"เทียนไลที่กล่าวออกมาทันที.
"ข้าไม่มีตราสวรรค์จริง ๆ !"เทียนเฉินจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
"เจ้าต้องการจะล้อพวกเรารึไง?"เทียนไลที่เผยแววตาที่เย็นชาออกมา.
"เทียนไล ฟังเทียนเฉินจื่อพูด!"เทียนถังกล่าว.
"อืม!"
เทียนเฉินจื่อที่จ้องมองเทียนถังด้วยความลึกล้ำ พยักหน้าและกล่าวออกมาว่า "เรื่องนี้ เกี่ยวกับตราสวรรค์มีอยู่จริง ทว่าตระกูลเทียนภพหยินของข้านั้น ไม่ได้มีมันอยู่......!"
เทียนเฉินจื่อที่เล่าเรื่องราวระหว่างตระกูลเทียนภพหยินและภพหยางอย่างระมัดระวัง.
กับเรื่องเล่าที่ดูซับซ้อน เทียนไลที่ต้องขมวดคิ้วไปมา.
"งั้นแปลกว่าเจ้าไม่มีตราสวรรค์อีกต่อไปแล้วอย่างงั้นรึ? เช่นนั้นส่งบ่อคลื่นสงบมาให้ข้า!"เทียนไลที่กล่าวออกมาตรง ๆ .
"ต้องขออภัย บ่อคลื่นสงบนั้นเป็นสมบัติตระกูลเทียน ทุกคนเป็นคนตระกูลเทียน หากต้องการนั้นจะต้องมีตราสวรรค์เท่านั้น ผู้น้อยถึงจะยอมมอบบ่อคลื่นสงบคืน ตอนนี้พวกเราไม่สามารถรับปากได้."เทียนเฉินจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
"ไม่ยอมอย่างงั้นรึ?"เทียนไลที่ลุกขึ้นพร้อมแค่นเสียงเย็นชา.
"เทียนไล!"เทียนถังที่กล่าวเสียงเคร่งขรึม.
"พี่สาม ทำไม?"
"อย่าได้เสียมารยาท!"เทียนถังกล่าว.
เทียนไลที่จดจ้องมองเทียนถังด้วยท่าทางแปลกประหลาด.
เทียนถังไม่สนใจเทียนไล ทว่าจ้องมองไปยังเทียนเฉินจื่อ "ดี เป็นไปตามนั้น รอให้ข้าได้ตราสวรรค์ ข้าจะมารับบ่อคลื่นสงบ และนับให้พวกเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล!"
"ขอบคุณ!"เทียนเฉินจื่อที่เผยยิ้มออกมา.
"อืม!"
"ทุกท่านเพิ่งมาถึงโลกใบเล็ก เชิญพักผ่อนก่อนดีหรือไม่ พรุ่งนี้ข้าจะให้ท่านประมุขพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ของโลกใบเล็กนี้ให้ฟัง?"เทียนเฉินจื่อกล่าว.
"ตกลง!"เทียนถังที่จ้องมองไปยังเทียนเฉินจื่อ พร้อมกับพยักหน้ารับ.
"เข้ามา นำแขกผู้ทรงเกียรติไปยังตำหนักต้อนรับกุยปินทันที!"เทียนเซียวจื่อที่กล่าวออกมาในทันที.
"ครับ!"จากนั้นผู้เยาว์ตระกูลเทียนก็นำคนทั้ง 16 คนออกจากตำหนักชีพจรสวรรค์ไป.
หลังจากที่ทุกคนจากไป เทียนเซียวจื่อขมวดคิ้วไปมาพร้อมกับสอบถาม "อาวุโสใหญ่? ท่านต้องการ........!"
เทียนเฉินจื่อเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"พรุ่งนี้ เจ้าบอกเรื่องราวต่าง ๆ ของโลกใบเล็กให้พวกเขาฟัง ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร!"
ไม่จำเป็นต้องปิดบัง เรื่องที่ควรปกปิด กับสิ่งที่เทียนเซียวจื่อรู้ แน่นอนว่าเขาย่อมมีความสามารถที่จะบอกกล่าวเรื่องที่เหมาะสมออกมาได้.
"ครับ!"เทียนเซียวจื่อรับคำและเข้าใจเจตจำนงของเทียนเฉินจื่อได้.
...........
ภายในตำหนักกุยปิน.
"พี่สาม ทำไมต้องพูดดีกับมันด้วย? เจ้าเฒ่านั้น.....!"
"เขาร้ายกาจกว่าเจ้ามาก!"เทียนถังที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"จะเป็นไปได้อย่างไร?"
"เทียนเฉินจื่อ? เป็นคนที่ร้ายกาจมาก ก่อนหน้าที่จะหาตราสวรรค์พบ พวกเราคงจะทำอะไรกับพวกเขาไม่ได้ชั่วคราว!"เทียนถังกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"