Chapter 767 ต้าเจิ้งยกระดับ.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย! ท้องพระโรง.
เหล่าข้าราชบริพารที่โค้งคำนับยืนอยู่ด้านข้างสองฝั่ง ที่ตรงกลางมีบัลลังก์มังกร โดยมีกงเหล่ยเทียนที่แสดงท่าทางเฉื่อยชา มือขวาที่วางค้ำบนพนักพิงและค้ำคางของตัวเอง.
แววตาของกงเหล่ยเทียนที่จับจ้องมองเหล่าข้าราชบริพาร อีกมือหนึ่งที่กำลังเคาะเบา ๆ ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.
ภายในท้องพระโรง เหล่าข้าราชบริพารกำลังรอคอยอย่างเงียบ ๆ รอการตัดสินใจของกงเหล่ยเทียน.
"หวังเฉิน!"กงเหล่ยเทียนที่เอ่ยออกมาในทันที.
ทันทีที่ได้ยิน หวังเฉินที่ก้าวออกมา.
หวังเฉิน ในอดีตก็คือจงซือจิว ครั้งหนึ่งเคยเป็นบุตรบุญธรรมของจงซานนั่นเอง.
"เฉินอยู่นี่แล้ว!"หวังเฉินกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งกำลังจะยกระดับอย่างงั้นรึ?"กงเหล่ยเทียนที่สอบถามออกมาเล็กน้อย.
"ครับ! จะยกระดับเป็นราชวงศ์สวรรค์ในเร็ว ๆ นี้!"หวังเฉินกล่าวรายงาน.
เซอคงที่อยู่ด้านข้างจดจ้องมองออกไปด้วยความสงสัยไปยังกงเหล่ยเทียน.
"เจ้ารู้สึกอย่างไร?"กงเหล่ยเทียนที่เผยยิ้มอย่างมีเลศนัย
หวังเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา แววตาที่เผยท่าทางลึกล้ำอย่างช่วยไม่ได้.
"ฝ่าบาท เฉินและต้าเจิ้งนั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์ใด ๆ กัน เฉินนั้นจงรักภัคดีต่อฝ่าบาท หากว่าฝ่าบาทไม่เชื่อจะให้เฉินตกตายไปต่อหน้าขุนนางทุกคนก็ยังได้!"หวังเฉินที่กล่าวออกมาในทันที.
กงเหล่ยเทียนที่หรี่ตาจ้องมอง หากแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.
ที่หน้าผากของหวังเฉินที่ปรากฏเส้นสีแดงขึ้นทันที หวังเฉินที่ยื่นมืออกไปจ่อที่ตำแหน่งหน้าผาก.
"ด้วยโลหิตพันธะของเฉิน ทุกคำสั่งของฝ่าบาท เฉินพร้อมที่จะทำลายสายโลหิตของตัวเอง เพื่อถวายความภัคดี เมื่อสายโลหิตถูกทำลาย เฉินก็จะไม่สามารถฟื้นคืนพลังได้อีก นับแต่อดีตจนถึงเวลานี้ ภายในใจของเฉินก็ภัคดีต่อฝ่าบาท หวังว่าฝ่าบาทจะรวบรวมแผ่นดินได้สำเร็จและสามารถแยกสวรรค์สะบั้นปฐพีได้!"หวังเฉินที่กล่าวออกมา.
ทันทีที่พูดจบ นิ้วของหวังเฉินที่โจมตีมายังหน้าผากตัวเอง ด้วยพลังความเร็วไม่ธรรมดา ถึงแม้ว่าจะหยุดก็ไม่มีเวลาพอแล้ว.
"โครม!"
หวังเฉินที่ลอยกระเด็นออกไป นิ้วของเขาก็ไม่ได้ทะลวงหน้าผาก เห็นชัดเจนว่ามีใครบางคนขัดขวาง.
"ข้าบอกตอนใหนว่าไม่เชื่อเจ้า?"กงเหล่ยเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.
หวังเฉินที่ลุกขึ้นมาคุกเข่า "ขอบพระทัยฝ่าบาท!"
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นกงเหล่ยเทียนที่ช่วยหวังเฉินก่อนหน้านี้.
เซอคงที่อยู่ใกล้ ๆ จ้องมองไปยังหวังเฉิน แววตาที่มีประกายตาที่แสดงท่าทางเสียดายอยู่ไม่น้อย เซอคงนั้นมีทักษะสัมผัสพิเศษมาตั้งแต่เกิด เขาที่พบเข้ากับจงซาน เขารู้สึกหวาดกลัวไปจนถึงจิตวิญญาณ ทว่าเมื่อมองเห็นหวังเฉินในเวลานี้ เซอคงก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันตรายจากเขา ดังนั้นเซอคงไม่ค่อยชอบหวังเฉินนัก การที่เห็นหวังเฉินไม่ตาย แววตาจึงรู้สึกเสียดายไม่น้อย.
"ต้าเจิ้งกำลังจะยกระดับเป็นราชวงศ์สวรรค์ในไม่ช้า พวกเราเองก็ควรจะไปแสดงความยินดีสักหน่อย เพื่อแสดงถึงเกียรติของต้าสุ่ยของเรา และเพื่อตรวจสอบสถานะการณ์ความเป็นไปของต้าเจิ้งด้วย!"กงเหล่ยเทียนกล่าว.
ได้ยินคำพูดของกงเหล่ยเทียน เซอคงที่สั่นสะท้านตัวสั่นเทิ้มขนลุกทั่วร่าง ร่างกายที่ถอยหลังโดยไม่รู้ตัว.
ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งต้าเจิ้งยกระดับเป็นราชวงศ์ราชันย์ เซอคงที่เป็นตัวแทน ในครั้งนั้นเขาที่หนีออกมาได้ เซอคงก็ปฏิญาณกับตัวเองว่าหลังจากนี้จะไม่ไปเหยียบที่นั่นอีก.
หวังเฉินที่ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้น ต้องไม่ลืมว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นบุตรบุญธรรมของจงซาน ไม่ว่าเขาตอบสนองอย่างไรล้วนแล้วแต่จะกลายเป็นเหตุให้กลายเป็นสงสัยได้ทั้งนั้น.
ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย และต้าเจิ้ง ระหว่างสองราชวงศ์เป็นศัตรูและเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เซิ่งซ่างคนก่อนของต้าสุ่ย ลู่กุยเทียน ร่วมมือกับแดนเทพอมตะเพื่อลอบสังหารจงซาน และนั่นจึงเป็นที่รู้กันดี อีกทั้งแดนเทพอมตะและต้าเจิ้งในเวลานี้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ใครกันที่จะกล้าไปล่ะ?
ดังนั้น เหล่าขุนนางทุกคนเอง ย่อมไม่มีใครกล้าเอ่ยปากอย่างแน่นอน.
กงเหล่ยเทียนไม่สนใจเหล่าข้าราชบริพารแต่อย่างใด ดวงตาของเขาเปล่งประกายจ้องมองลงไปด้านล่าง เหล่าขุนนางทุกคนที่ก้มหน้าก้มตา กงเหล่ยเทียนที่จ้องมองไปยังตำแหน่งของหวังเฉิน.
กงเหล่ยเทียนที่จ้องมองไปยังหวังเฉินดวงตาหรี่เล็กลง.
"หวังเฉิน ในเมื่อเจ้าตัดขาดกับต้าเจิ้งแล้ว ในครั้งนี้การเลื่อนระดับของต้าเจิ้ง เจ้าก็เป็นทูตตัวแทนของต้าสุ่ยเดินทางไปยังต้าเจิ้งก็แล้วกัน!"กงเหล่ยเทียนกล่าวเล็กน้อย.
หวังเฉินที่เงยหน้าขึ้นมองด้วยท่าทางประหลาดใจ แววตาที่สั่นไหวไปมา จากนั้นก็สูดหายใจลึกและกล่าวออกมาว่า"น้อมรับบัญชา!"
หวังเฉินที่รับหน้าที่.
เซอคงที่จ้องมองหวังเฉินดวงตาหรี่เล็กลง เซอคงตระหนักได้ถึงความตั้งใจของกงเหล่ยเทียน ในเวลานี้กงเหล่ยเทียนต้องการทดสอบหวังเฉิน เพราะว่าเขาไม่เชื่อในตัวหวังเฉินอย่างแน่นอน.
..............
ทวีปศักดิ์สิทธิ์ หุบเขาแห่งหนึ่ง ที่ด้านกลางหุบเขามีกระท่อมมุงจากอยู่.
แม้ว่าจะเป็นกระท่อมที่ค่อนข้างหยาบ แต่ก็มีกลิ่นอายที่บริสุทธิ์แผ่ออกมา บนหลังคากระท่อมนั้นมีหญ้าแปลกประหลาดพันอยู่ หญ้าที่แปลกประหลาดนี้ไม่ได้มีสีเขียว หากแต่เป็นสีม่วง ดูเหมือนกับพืชที่ทำให้ภายในใจรู้สึกสงบ.
ที่ด้านนอกกระท่อมดูสะอาดสะอ้าน มีแท่นศิลาแห่งหนึ่งด้านนอก บนท่านศิลานั้นมีชายชราที่ผอมแห้งนั่งอยู่ ชายชราผมขาว ผิวหนังเหี่ยวย่น ดูชราเป็นอย่างมาก.
ชายชราที่จ้องมองไปด้วยหน้า ที่ด้านหน้าเป็นโต๊ะอันหนึ่งที่มีกระดองเต่าวางอยู่ ทั้งหมดเก้าอัน เก้ากระดองเต่าที่วางซ้อนกัน ที่ด้านในมีเปลวเพลิงที่ลุกโชน ราวกับว่ากำลังเพิ่มความร้อนขึ้นเรื่อย ท้ายที่สุดมันก็ค่อย ๆ แตกออกมา.
"แค๊ก..........!"
ชายชราที่จ้องมองดูรอยแตกบนกระดองเต่าทั้งเก้า ราวกับว่าสามารถมองเห็นร่องรอยบางอย่างในนั้นได้.
ทันใดนั้น ดวงตาของชายชราที่ดวงตาหดเกร็ง แววตาที่เผยท่าทางตื่นตกใจ.
"ผลคำนวณ? ถึงกับต้องตกตายอย่างเลยรึ?!"เสียงของชายชรากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน.
ทว่าทันใดนั้นชายชราก็เงยหน้าจ้องมองไปรอบ ๆ ที่ไกลออกไปนั้น บนยอดเขา ปรากฏชายในชุดสีดำขึ้นมาในทันที.
คนในชุดสีดำที่มาหยุดอยู่ไม่ไกลจากชายชรา.
"แขกจากโลกใบใหญ่ ได้กระจายไปทุกทิศทุกทาง เจ้านับว่าเป็นตัวอันตรายคนหนึ่ง! ข้าพบเจอเจ้ามาก่อนหน้านี้แล้ว!"ชายในชุดสีดำที่กล่าวออกมาเบา ๆ
"ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังกล่าวสิ่งใด!"ชายชราที่กล่าวเสียงแหบเครือจ้องมองไปยังชายในชุดสีดำ.
"ไม่รู้ว่าข้าพูดอะไรอย่างงั้นรึ? ในโลกใบใหญ่นั้น มีตระกูลจื่อหยาง! เจ้าคือคนทรยศของตระกูลจื่อหยาง? เป็นเพียงแค่คนรับใช้ กลับกล้าสังหารประมุขตระกูล บางทีเรื่องเจ้าคงคิดว่าผ่านมาแล้วพันปี คงไม่มีใครจำได้แล้วสินะ ทว่าเจ้ากลับไม่ยอมอยู่เงียบ ๆ ถึงกับกล้าเดินทางมายังโลกใบเล็กเพื่อสร้างปัญหา ช่างน่าเสียดาย!"ชายในชุดสีดำที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
ได้ยินคำพูดของชายชุดดำ ชายชราดวงตาหดเกร็ง แววตาที่เผยท่าทางตื่นตกใจ.
"ใครส่งเจ้ามา? เจ้าเป็นใคร? เจ้าต้องการอะไร?"ชายชราที่กล่าวออกมาด้วยความด้วยความตกใจ.
"ข้าเป็นใคร? ดี ก่อนที่เจ้าจะตายไป ข้าจะให้เจ้าได้รับรู้ เจ้าเรียกข้าว่า เซียนเซิงเสวียน"ชายในชุดสีดำที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
.............
ราชวงศ์สวรรค์ต้าเจิ้ง สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว! ภายในตำหนักเทียนหยวน!
จงซานในเวลานี้ ในชุดฉลองพระองค์สีทอง ใบหน้าที่ดูจริงจัง ที่ด้านหน้าของเขานั้นคือเห่าเม่ยลี่ ที่บนไหล่ของนางนั้น เป็นมังกรทองที่เคยติดตามนางมาตั้งแต่ยังเล็ก ในครั้งนี้นางเดินทางไปยังทิศตะวันออก เห่าเม่ยลี่ก็ได้พบกับมังกรทองเสี่ยวจินอีกครั้ง.
มังกรทองเสี่ยวจิน ไม่ได้ขยายขนาด จึงบอกไม่ได้ว่าเติบโตเท่าใดแล้ว หากแต่เวลานี้ดูเหมือนว่ามันจะพึงพอใจเป็นอย่างมากเมื่อได้มาอยู่บนไหล่ของเห่าเม่ยลี่อีกครั้ง.
"จงซาน ท่าทางเจ้าวันนี้ ดูดีจริง ๆ !"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวพลางหัวเราะ.
"เจ้านำเสี่ยวจินมา ได้บอกกล่าวต่ออ้าวซือไห่หรือไม่?"จงซานสอบถามออกไป.
"ข้าไม่ต้องการทำให้เขาตกตายไป! เพราะข้าไม่ต้องการมีเรื่องกับเขาเพื่อเห็นแก่หน้าเสี่ยวจิน ทว่าเรื่องของข้า ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องรายงานเขา!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาราวกับว่าไม่สนใจอ้าวซือไห่แม้แต่น้อย.
"ทว่าเจ้านำเสี่ยวจินมา และยังมีเผ่ามังกรอีกจำนวนมากมาที่ทะเลตะวันออก? แล้วพวกเขาเต็มใจอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวสอบถามด้วยความสงสัย.
"แน่นอนว่าต้องเป็นเป็นเสี่ยวจินที่สั่งให้พวกเขามา ข้ารู้แต่ว่าเจ้ากำลังจะยกระดับเป็นราชวงศ์สวรรค์ ข้าจึงบอกว่าต้องการนำเผ่ามังกรมาช่วยปกป้องเจ้าโดยเฉพาะ และบอกพวกเขาเพียงแค่ช่วยสหายเท่านั้น!"เห่าเม่ยลี่กล่าวตามความต้องการของนางเอง.
จงซานไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอะไรเช่นกัน เผ่ามังกรนั้นเป็นอาณาจักรคู่บารมีของต้าฉิน ตอนนี้เห่าเม่ยลี่ ลวงพวกเขามาช่วยต้าเจิ้ง ดูแล้วมันค่อนข้างแปลก ๆ อยู่เช่นกัน.
"ตกลง เจ้าดูแลพวกเขาก็แล้วกัน อย่าได้สร้างปัญหาต่อข้า!"จงซานกล่าว.
"พวกเขากล้ารึ!"เห่าเม่ยลี่ที่ดวงตากลมโต.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
"เจ้าไปเถอะ ไม่ต้องสนใจข้า พิธียกระดับราชวงศ์สวรรค์กำลังจะเริ่มแล้ว มีคนอีกไม่น้อยกำลังรอเจ้าอยู่!"เห่าเม่ยลี่กล่าวขณะกินผลไม้บนโต๊ะ ขณะกล่าวออกมา.
"อืม!"
วันที่ 7 ฉีเย่ว ตลอดทั้งปี ท้องฟ้าแจ่มใส ท้องฟ้าสว่าง อากาศอบอุ่น!
ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้ง วันนี้ได้ทำพิธีบวงสรวง เฉลิมฉลองไปทั่วแผ่นดิน! สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ประกายแสงสีทองที่ส่องสว่างออกไปนับล้านจั้ง สาดส่องไปทั่วแผ่นดิน จนคนมากมายต้องยกมือขึ้นมาอังเมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ทุกคนต่างก็รับรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันสำคัญ ต้าเจิ้งกำลังยกระดับแล้ว.
ที่ด้านหน้าตำหนักซ่างเฉิง เวลานี้มีเหล่าข้าราชบริพารหลายร้อยคน เหล่าแม่ทัพนายกอง ตี้เสวียนชา หนี่ปู่ซาและเหล่าหวงโหวทั้งหมด สองไท่จื่อ ทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นจดจ้องมองไปยังจงซานในตำหนักซ่างเฉิง.
เวลานี้นับตั้งแต่ราชวงศ์กษัตริย์ ยกระดับไปเป็นราชวงศ์จักรพรรดิ จะมีการบวงสรวงสวรรค์ โดยพิธีการบวงสรวงนั้นจะเป็นการเซ่นไหว้ฟ้าดิน!
และเมื่อก้าวมาจากระดับจักรพรรดิไปยังราชวงศ์ราชันย์ พิธีกรรมก็จะยกระดับขึ้นอีกครั้ง เป็นเพียงการคำนับสวรรค์แทน!
ตอนนี้ จากราชวงศ์ราชันย์ยกระดับไปยังราชวงศ์สวรรค์ ภายในใจของทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ว่าพิธีกรรมนั้นจะเป็นเช่นไร?
จงซานที่จ้องมองไปยังเหล่าข้าราชบริพารด้วยแววตาพึงพอใจ ก่อนที่จะเดินไปยังลานตรงกลางของตำหนักซ่างเฉิงช้า ๆ .
ที่ใจกลางนั้น จงซานที่ยืนอยู่อย่างองอาจ พร้อมกับนำของวิเศษสองสิ่งของต้าเจิ้งออกมา ที่ด้านซ้ายเป็นตราลัญจกรครรลองสวรรค์ ส่วนด้านขวานั้นคือ โองการฟ้า.
จงซานที่จ้องมองขึ้นไปบนสวรรค์ พร้อมกับสูดหายใจลึก ก่อนที่จะเริ่มกล่าว :
ข้าจงซาน ผู้นำปวงประชาของต้าเจิ้ง ราชันย์โดยโชคชะตา ผู้กุมทุกสิ่งมีชีวิตของแผ่นดินนี้ ขอเรียนแจ้งต่อสวรรค์ รายงานบุญบารมีต่อเหล่าทวยเทพ.
ราชันย์ผู้มีสิทธิ์ขาด ขอวิงวอนต่อสวรรค์ ขอวิงวอนต่อฟ้าดิน โปรดประทานตำแหน่งมรรคาต่อต้าเจิ้ง มรรคาระดับสูง เพื่อให้คู่ควร! ต่อการยกระดับราชวงศ์ราชันย์!
ระหว่างที่จงซานกล่าวนั้น ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เงียบสงบ บนท้องฟ้าวาสนามากมายและกรรมวาสนามากมายต่างก็เงียบงัน!
ทว่าขณะที่จงซานกล่าวจบ ทะเลวาสนาบนท้องฟ้ามังกรทองวาสนาขนาดมโหฬาร ทันใดนั้นก็เริ่มกวัดแกว่งเลื้อยไปมา.
"โฮกกกกกกกกกกกกก!"
เสียงคำรามที่ดังก้องกังวาน เสียงคำรามของมังกรที่ดังไปทั่วสวนสวรรค์ลอยฟ้า และยังดังก้องแผ่ไปทั่วแผ่นดินทุกเมืองของต้าเจิ้ง ทุกคนภายในแผ่นดินต้าเจิ้งจะได้ยินเสียงคำรามของมังกร.
มังกรทองวาสนา 19 เล็บจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมกับคำรามเสียงดัง ทุกสรรพสิ่งที่เปลี่ยนเป็นเงียบงัน สายลมที่กำลังโบกพัดเปลี่ยนแปลง ราวกับว่าเสียงคำรามของมังกรนั้น กำลังแจ้งคำพูดของจงซานต่อสวรรค์ แจ้งส่งต่อขึ้นไปสู่โลกใบใหญ่.
"เปรี้ยง!!!"
เสียงสายฟ้าคำราม ท้องฟ้าที่กลายเป็นสีม่วงไปในทันที ท้องฟ้าสีม่วง สายฟ้าที่ส่องประกายวับวาว สวรรค์ของจงซาน ตอนนี้ได้กลายเป็นสีม่วงปกคลุมสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวทั้งหมด.
มังกรทองวาสนา 19 เล็บ พุ่งลงมาจากบนท้องฟ้าตรงเข้าไปในร่างของจงซาน.
มังกรตัวใหญ่ยักษ์ที่เข้าไปอยู่ในร่างของจงซานโดยสมบูรณ์ ร่างของจงซานเวลานี้ส่องประกายแสงสีทอง ทุก ๆ คนที่แทบไม่สามารถลืมตาได้เลย แสงสว่างจ้าจนมองไม่เห็นจงซานและมังกรทอง 19 เล็บที่กำลังผสานรวมตัวกัน คาดไม่ถึงเลยว่าจงซานที่จะกลายเป็นมังกรทอง 19 เล็บไปทั้งหมด ก่อนที่จะพุ่งตรงขึ้นไปบนทะเลวาสนา บนท้องฟ้าที่สูงขึ้นไป.