Chapter 766 เป้าหมายแขกจากโลกใบใหญ่.
ภพหยิน เมืองซ่าง ห้องอักษรจงซาน.
"ฝ่าบาท ที่แนวหน้าได้รับชัยชนะได้อย่างล้นหลาม หลินเซียว สุ่ยจิง สุ่ยอู๋เหิน เจ้าโส่วเซี่ยว เสี่ยวหวัง ห้าทัพ ไร้เทียมทาน ไม่มีใครสามารถขวางทางกองทัพของราชวงศ์พวกเราได้!"อี้เหยี่ยนกล่าวรายงาน.
"อืม นับว่าเร็ว ภายในสิบปี ภาคใต้ ข้าต้องการวมทุกแห่งเข้าด้วยกันให้เสร็จ!"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"
"เหยี่ยนฉงจื่อ! ฝั่งเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานกล่าวสอบถาม.
"เรียนฝ่าบาท การสอบเคอจีนั้น ได้คัดเลือกเหล่าผู้มีความสามารถกลุ่มแรกได้แล้ว ตอนนี้รอให้ฝ่าบาทรับรองเท่านั้น จากนั้นก็จะสามารถส่งไปทำงานที่เมืองต่าง ๆ ได้ในทันที!"เหยี่ยนฉงจื่อกล่าวรายงาน.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
"ฝ่าบาท ไม่รู้ว่าให้คนไปเรียกเฉินมา มีเรื่องอะไรจะแนะนำอย่างงั้นรึ?"หนานกงเซิ่งที่อยู่ใกล้ ๆ แสดงความสงสัย.
หนานกงเซิ่ง มีตำแหน่งเจี้ยนเจิ้งอี้เทียนเจียน ไม่ได้มีหน้าที่อะไรเจาะจงนัก เกี่ยวกับสงครามเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือต้องเข้ามาจัดการ เว้นแต่ จะมีแผนการให้เข้าโจมตีที่ใหนอย่างงั้นรึ?
"เกี่ยวกับภพหยาง มีเรื่องเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ข้าต้องการความเห็นของเจ้า!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"หืม?"
"เมื่อวันก่อน วันที่ 15 เดือนแรก พญามารเจี้ยนอ้าวได้ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ ท้ายที่สุด.......!"จงซานกล่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้น.
"ในอดีต พวกเขาคงจะคิดเหมือนกันกับข้า!"หนานกงเซิ่งที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"หืม?"
"หลังจากที่กู่เฉิงตกแยกสวรรค์ สะบั้นปฐพีแล้ว เกี่ยวกับเรื่องที่ฝ่าบาทเคยสอบถามในอดีต โลกใบเล็กแห่งนี้น่าจะมีเหล่ายอดฝีมือมากมายเข้ามาล้อมรอบ ในอดีตข้าเองก็คาดเดาว่าควรจะเป็นเช่นนั้น จึงได้หลบมายังภพหยิน ภายในภพหยินเองก็มีเหล่าคนระดับต่ำจากโลกใบใหญ่เดินทางเข้ามาบ้างแต่ก็ไม่มีคนมาล้อมรอบ อย่างไรก็นับตั้งแต่กู่เฉิงตงแยกสวรรค์ในครั้งนั้น เหล่าคนภายนอกของภพหยางเองต่างก็จับจ้องมากขึ้นเรื่อย ๆ มีเพียงภพหยินเท่านั้นที่ยังไม่มี!"หนานกงเซิ่งเอ่ย.
"อืม ที่ด้านนอกภพหยางนั้น เมื่อแยกสวรรค์ เหล่ายอดฝีมือมากมายได้เดินทางเข้ามา นี่คือเรื่องจริง ภายในภพหยินคงยังไม่มีจริง หนี่ปู่ซาได้ทำการตรวจสอบเรื่องต่าง ๆ ภายในภพหยินแล้ว ทว่ามีเพียงแค่คนสนใจเกี่ยวกับตำราปฐพีที่กิเลนเพลิงนำมาเท่านั้น ซึ่งไม่มีคนต้องการที่จะแหวกม่านสวรรค์เข้ามาจริง ๆ และก่อนหน้านี้เผ่าอูเองก็ได้แสดงตัวชัดเจนว่าพวกเขามาทำอะไร ดูเหมือนว่าเนี่ยฟ่านเฉิน อู๋จิวเทียน พวกเขาจะเดินทางออกจากโลกใบเล็กผ่านทางภพหยินด้วยเช่นกัน!"จงซานที่กล่าวด้วยความมั่นใจ.
"คาดไม่ถึงเลยว่าพญามารเจี้ยนอ้าวจะอหังการนัก ทำลายเมฆทัณฑ์สวรรค์ สังหารเหล่ายอดฝีมือมากมายเดินทางไปยังโลกใบใหญ่ที่ภพหยาง."หนานกงเซิ่งที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"หลี่ซือได้กล่าวว่ามียอดฝีมือหลายคนที่หนีไปได้ เมื่อต้าเจิ้งยกระดับ คนพวกนี้จะต้องไปหาแน่ รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่?"จงซานที่กวาดตามองไปยังทุกคน.
หนานกงเซิ่งขมวดคิ้วไปมา ก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา เห็นได้ชัดเจนว่าไม่เข้าใจเรื่องนี้ชัดเจน.
"บางที ฝ่าบาท เฉินอาจจะรับรู้เรื่องนี้!"เซียนเซิงซือที่เอ่ยออกมาในทันที.
"หืม?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ เป็นความจริง เซียนเซิงซือที่มาจากโลกใบใหญ่ ควรจะรับรู้สิ่งที่คนในโลกใบใหญ่คิด.
"ฝ่าบาท เฉินพอจะรับรู้ เหตุผลที่เหล่าผู้ฝึกตนมากมายจากโลกใบใหญ่มารวมตัวกัน หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ หากแต่ต้องมีใครบางคนที่เป็นคนกุมแผนการนี้อยู่!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"กล่าวต่อเลย!"
"ครับ โลกใบเล็กแห่งนี้มีพลังไม่ได้ด้อยกว่าโลกใบใหญ่มากนัก ตำแหน่งมรรคาของฟ้าดินนั้น สามารถได้รับง่ายยิ่งกว่าโลกใบใหญ่ และคุ้มค่าที่จะเสี่ยง การรวบรวมวาสนา รวบรวมกรรมวาสนา สะดวกสบายกว่ารวบรวมที่โลกใบใหญ่ มรรคาระดับอ่อนนุ่ม มรรคาระดับกลาง เหล่าเซียนสามารถขโมยมันมาได้จากคนอื่น ส่วนมรรคราระดับสูงนั้น เหล่าตัวตนเซียนที่แข็งแกร่งต่างก็ยึดครองเอาไว้แล้ว เพราะมีเพียงคนที่มีคุณสมบัติเพียงพอเท่านั้นที่จะได้มันมาครอง."เซียนเซิงซือกล่าว.
"พวกเขาสามารถขโมยตำแหน่งมรรคาได้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่ ทุก ๆ คนรู้ว่าตำแหน่งมรรคานั้นเป็นสิ่งจำเป็น มรรคาอ่อนนุ่มทำให้พลังการฝึกฝนเป็นสามเท่า มรรคาระดับกลางทำให้ความเร็วฝึกฝนเป็นสิบเท่า และมรรคาระดับสูงทำให้ความเร็วฝึกฝนเป็นหนึ่งร้อยเท่า ผู้คนมากมายต่างก็เต็มไปด้วยความโลภ คน ๆ หนึ่งที่บำเพ็ญพันปี เทียบได้กับการบำเพ็ญแสนปี ใครกันเล่าที่จะไม่ต้องการ?"เซียนเซิงซือกล่าว.
"เช่นนั้น พวกเขาต้องการยึดต้าเจิ้ง เพื่อผลประโยชนนี้นะรึ?"
"ภพหยางนั้นมีสามมหาอำนาจ ที่ครองแผ่นดินของทวีปศักดิ์สิทธิ์ เหล่ายอดฝีมือที่เปิดราชวงศ์ราชันย์ขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องยากนัก ทว่าการที่จะมีวาสนาที่เป็นหนึ่งในสามของแผ่นดินขนาดใหญ่นั้นมีไม่มาก ยิ่งราชวงศ์วาสนาที่มีวานาแผ่นดินมากมายจึงเป็นที่สนใจ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเดินทางมายังราชวงศ์ราชันย์ของพวกเรา!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.
"ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งนั้น ในระหว่างดำเนินการในการยกระดับนั้น ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะก่อกวน นอกจากนี้ในโลกใบใหญ่เองก็มีหลายครั้ง ขณะที่ราชวงศ์ราชันย์ยกระดับเป็นราชวงศ์สวรรค์ล้มเหลว และเมื่อการยกระดับล้มเหลวก็จะทำให้ปราณก่อเกิดเสียหายอย่างหนัก เหล่าแขกจากโลกใบใหญ่นั้นคงจะรอเหตุการณ์นี้อยู่ พวกเขาที่หวังที่จะก่อกวนให้ต้าเจิ้งยกระดับล้มเหลว เมื่อล้มเหลว ก็จะเป็นโอกาสของพวกเขา!"เซียนเซิงซือกล่าวตอบ.
ทุกคนที่พยักหน้ารับ.
"ทว่า สำหรับคนที่ไม่มีพลังถึงเพียงนั้น พวกเขาก็จะทำการเปิดราชวงศ์ราชันย์ เพียงเพื่อให้ได้รับมรรคาระดับกลาง เมื่อมีราชวงศ์สวรรค์แยกสวรรค์ พวกเขาก็จะมีโอกาสได้รับมรรคาระดับสูงไปด้วย."เซียนเซิงซือกล่าว.
"หืม? เพื่อมีมรรคราระดับสูงอย่างงั้นรึ? ในโลกใบใหญ่นั้นสามารถที่จะรับโชควาสนาจากราชวงศ์วาสนาอื่นได้ด้วยรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ไม่ มีเพียงเมืองขึ้นในสังกัดต่างหาก!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"หืม?"
"กฏแห่งเมืองขึ้น สำหรับสำนักต่าง ๆ ที่ยอมอยู่ในอาณัติ ประมุขของสำนักต่าง ๆ จะเลือกภัคดีต่อราชวงศ์ต่าง ๆ เพื่อที่จะได้รับวาสนาครึ่งหนึ่ง ทั้งสำนักและราชวงศ์ต่างก็สามารถสืบทอดอำนาจต่อได้ ตราบเท่าที่ราชวงศ์หรือสำนักที่ภัคดีได้ถูกยกระดับ พวกเขาที่สืบทอดอำนาจมาก็จะถูกยกระดับด้วย!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"หืม? การสืบทอดอำนาจรึ?"
"ยกตัวอย่างในอดีตต้าโหลวทำการแยกสวรรค์ หากว่าต้าหลี่เลือกสืบทอดอำนาจจากราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว วาสนาของต้าหลี่ครึ่งหนึ่งจะถูกมอบให้กับต้าโหลว ทว่าหลังจากที่แยกสวรรค์เสร็จ โลกใบใหญ่จะมอบวาสนาให้กับต้าหลี่ด้วย เพราะว่ามีความสัมพันธ์กับต้าโหลว ทว่าไม่ว่าจะได้รับวาสนามากมายเพียงใด ก็จะได้เพียงแค่ครึ่งเดียวของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว นี่เรียกว่าความสัมพันธ์หลักและรอง."เซียนเซิงซือกล่าว.
"เกี่ยวข้องกับตำแหน่งมรรคาด้วยอย่างงั้นรึ?"
"ตำแหน่งมรรคานั้นจะไม่มีเปลี่ยนแปลง ทว่าผลที่ได้ก็ยังได้ครึ่งหนึ่งอยู่ดี ยกตัวอย่าง หากว่าราชวงศ์หลักได้มรรคาความเร็วฝึกฝนหนึ่งร้อยเท่า ราชวงศ์สืบทอดอำนาจก็จะได้รับมรรคาความเร็วห้าสิบเท่า."เซียนเซิงซือกล่าว.
"เหล่าแขกจากโลกใบใหญ่ ต่างก็ต้องการเปิดราชวงศ์ราชันย์ อย่างแรกก็เพื่อรับมรรคาระดับกลาง จากนั้นก็คิดจะสืบทอดอำนาจจากการแยกสวรรค์ของราชวงศ์สวรรค์ แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ได้รับมรรคาเต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนเช่นราชวงศ์สวรรค์ที่แท้จริง ทว่ากับการได้รับการชำระล้างจากการแยกสวรรค์ พวกเขาก็ถือว่าได้รับตำแหน่งมรรคาระดับสูง ที่มีผลครึ่งหนึ่งของราชวงศ์หลัก หรือห้าสิบเท่าของการบำเพ็ญสินะ!"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วครุ่นคิด.
"และนั่นจึงเป็นเหตุให้เหล่ายอดฝีมือมากมายต้องการเข้ามายังโลกใบเล็ก!"เซียนเซิงซือกล่าวตอบ.
"แล้วด้านนอกล่ะ เหล่าคนมากมายที่ยังคงรอคอยอยู่ พวกเขาที่ไม่สามารถเข้ามาในโลกใบเล็กได้ คนเหล่านั้นล่ะต้องการอะไร?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.
"ฝ่าบาท ยังจำเรื่องเกี่ยวกับศาลเทพได้หรือไม่?"เซียนเซิงซือกล่าว.
"อืม!"
"การประชุมสวรรค์ที่ก่อนหน้านี้ซือหม่าเขอได้ก่อตั้งขึ้น ในครั้งนั้นพวกเขาวางแผนที่จะแยกสวรรค์อีกครั้ง เพราะว่าต้องการสืบทอดอำนาจจากศาลเทพนั่นเอง เขาจะสนับสนุนเซิ่งซ่างสักคนเพื่อให้แยกสวรรค์ เพื่อให้ได้ตำแหน่งมรรคาชีวิต ซึ่งตำแหน่งมรรคาชีวิตนั้นจะได้รับความเร็วฝึกฝนหนึ่งพันเท่า และพวกเขาที่สืบทอดอำนาจ จะได้รับความเร็วฝึกฝน 500 เท่า จากเซิ่งหวังของศาลเทพ ซึ่งปรกติพวกเขาที่เป็นข้าราชบริพารของศาลเทพได้รับความเร็วฝึกฝนเพียงแค่ 250 เท่า ซึ่งตอนนี้ได้รับเพิ่มขึ้นอีกถึง 250 เท่า เป้าหมายของคนด้านนอกเองก็คาดหวังเรื่องนี้อย่างแน่นอน!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"อืม เช่นนั้น?"
"อืม ที่จริงมีหลายคนที่ต้องการมาแทนที่ข้าราชบริพารของพวกเรา."เซียนเซิงซือกล่าว.
"หืม?"
"การแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี ภายในโลกใบเล็กนั้น เป็นเหตุการณ์ที่ผิดปรกติ สวรรค์ที่ต้องประทานโชควาสนาแก่ราชวงศ์วาสนาเป็นรางวัล ไม่ใช่แค่เพียงเซิ่งหวังเท่านั้นที่ได้รับโชควาสนา ทว่าเหล่าข้าราชบริพารก็ด้วย หากเซิ่งหวังไม่ตกตาย เหล่าข้าราชบริพารทุกคนก็ต้องถูกแย่งชิงตำแหน่งมรรคา เพราะเมื่อเซิ่งซ่างแยกสวรรค์ได้รับตำแหน่งมรรคาชีวิต เหล่าข้าราชบริพารต่างก็จะได้รับตำแหน่งมรรคาระดับสูง จากการแยกสวรรค์ในครั้งนี้ นั่นก็หมายความว่าหากใครสังหารเหล่าข้าราชบริพารเหล่านั้น ก็จะได้ตำแหน่งมรรคาระดับสูงไปครองแทน จากการประทานตำแหน่งมรรคาของสวรรค์ ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ การแยกสวรรค์สะบั้นปฐพีนั้นถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก เมื่อกู่เฉิงตงทำการแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี ทุกคนต่างก็เข้าใจดี หากว่าสามารถแยกสวรรค์สำเร็จในครั้งนั้น จะเกิดสงครามการแย่งมรรคาขึ้น นั่นก็หมายความว่าหากฝ่าบาทแยกสวรรค์สำเร็จ พวกเราก็จะอยู่ในอันตรายจากการแย่งตำแหน่งมรรคานั่นเอง!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"จะเกิดการแย่งชิงตำแหน่งมรรคาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ดวงตาหดเกร็ง.
เซียนเซิงซือที่โค้งคำนับให้เท่านั้น หากแต่ไม่ได้กล่าวอะไรต่อ.
ดูเหมือนว่าการแยกสวรรค์รอบที่สองนี้ จะมีอันตรายที่ต้องผจญจากครั้งแรกเป็นอย่างมาก! คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีผู้ฝึกตนมากมายรอคอยอยู่อย่างคาดไม่ถึง? โลกใบใหญ่กว้างขนาดใหน? จงซานไม่รู้เลยว่าโลกใบใหญ่นั้นมีพื้นที่และกลุ่มอิทธิพลมากมายขนาดใหน ทว่ารับรู้ได้อย่างแน่นอน หากเขาต้องการแยกสวรรค์ ด้านนอกโลกใบใหญ่นั้นมียอดฝีมือรอคอยอยู่อย่างแน่นอน.
หากต้องการแยกสวรรค์ล่ะก็ จำเป็นต้องพร้อมที่สุดก่อนเท่านั้น!
สืบทอดอำนาจอย่างงั้นรึ? นับเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว.
"อี้เหยี่ยน เตรียมการให้พร้อม สิบปีหลังจากนี้ พวกเราจะยกระดับเป็นราชวงศ์สวรรค์!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"
...................
ภพหยาง ราชวงศ์สวรรค์ต้าฉิน เมืองเซียนหยาง! ท้องพระโรง.
"รายงานฝ่าบาท เฉินได้นำส่งกระบี่จิวเซียนไปให้กับจงซานแล้ว และยังได้แสดงความยินดีกับการยกระดับของต้าเจิ้งด้วย!"หลี่ซือโค้งคำนับรายงาน.
"อืม ทำได้ดีมาก!"หยิงพยักหน้ารับ.
"ในเวลาเดียวกันนี้ ภายในโลกใบเล็กก็มียอดฝีมือมากมายมารวมตัวกันอยู่ พวกเราจะทำอย่างไรต่อดี?"หลี่ซือที่ขมวดคิ้วไปมา.
"โลกใบใหญ่นั้นกว้างใหญ่นัก เจ้าเองก็รู้? ไม่จำเป็นต้องกังวล กู่เฉิงตงที่แยกสวรรค์สะบั้นปฐพีเพื่อก้าวข้ามไปยังโลกใบใหญ่ เพิ่งผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้เอง."หยิงที่กล่าวอย่างไม่แยแส.
"ครับ!"
..........
สิบปีหลังจากนั้น ภาคใต้ภพหยินหลังจากรวมแผ่นดินภาคใต้สำเร็จ.
ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้ง ได้ขยายดินแดนกว้างใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ ผู้ปกครองของภาคใต้ ที่ไม่เคยมีราชวงศ์ใหนทำได้มาก่อน.
ตระกูลเทียนภพหยิน.
ประมุขเทียนเซียวจื่อที่ฟื้นฟูสมบูรณ์ ตอนนี้จดจ้องมองไปยังทิศใต้จากตำหนักชีพจรสวรรค์ พร้อมกับสูดหายใจลึก แววตาที่แสดงท่าทางหดหู่ใจ ทว่าความห่อเหี่ยวนี้ เขาจำเป็นต้องอดทน.
ผ่านมาแล้วสิบปีนับตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทะเลดำ เทียนเซียวจื่อที่พัฒนาจิตใจเพิ่มขึ้นอีกระดับ ตอนนี้เขาที่รู้จักอดทนรั้งรอ ดูลึกล้ำกว่าเมื่อก่อน.
"ท่านประมุข ต้าเจิ้งกำลังจะยกระดับเป็นราชวงศ์สวรรค์แล้ว พวกเราไม่....!"อาวุโสเทียนสตรีกล่าว.
"พวกเราต้องรู้จักรอคอยโอกาส ต้าเจิ้งในเวลานี้ ขวัญกำลังใจของกองทัพฮึกเหิม ผู้คนต่างเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรง นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่ทะเลดำ ข้าก็รับรู้แล้วว่า ไม่เหมาะที่จะเข้าปะทะตรง ๆ ข้าจำเป็นต้องรอคอย พวกเราจะเข้าจัดการแน่ หากแต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะ ข้าได้เรียนรู้มาแล้ว หากไม่มั่นใจแน่นอน การลงมือกับพวกเขามีแต่จะกลายเป็นวิ่งเข้าสู่กับดัก."