ตอนที่แล้วChapter 755 บ่อคลื่นสงบ น้ำพุแห่งชีวิต.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 757 ดอกเหม่ยบานสะพรั่ง.

Chapter 756 มอบกระบี่.


ภพหยิน เมืองซ่าง! ภายในตำหนักปู่ซือ ท้องพระโรง.

"นับจากวันนี้ ข้าขอแต่งตั้งเสี่ยวหวังให้เป็นแม่ทัพกองกำลังที่ 10 ของต้าเจิ้ง!"จงซานที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

"รับด้วยเกล้า!"เสี่ยวหวังที่โค้งทำความเคารพ.

ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งที่มีแม่ทัพเพิ่มขึ้นมา แม้ว่าจะมีบางคนที่ปฏิเสธที่จะยอมรับ ทว่าความสามารถของเสี่ยวหวังนั้นไม่มีใครสงสัย กับการที่ราชวงศ์เทียนไมทรงพลังแข็งแกร่งนั้นส่วนหนึ่งก็เป็นเสี่ยวหวังเป็นผู้บัญชาทัพนั่นเอง.

"เหยี่ยนฉงจื่อ!"จงซานกล่าว.

"เฉินอยู่นี่แล้ว!"แม่ทัพกองกำลังที่ 7 เหยี่ยนฉงจื่อที่ก้าวออกไปในทันที.

"สองปีหลังจากนี้ เมืองซ่างจะทำการสอบเคอจี เกี่ยวกับการดำเนินการทั้งหมด ให้เจ้าเป็นคนจัดการ!"จงซานออกคำสั่ง.

"น้อมรับประสงค์!"เหยี่ยนฉงจื่อที่รับคำในทันที.

เหยี่ยนฉงจื่อรับผิดชอบในการคัดเลือกคนที่มีความสามารถ แน่นอนว่าการรบในภพหยินนั้นยังคงดำเนินอยู่ เหล่าคนที่มีความสามารถจึงนับว่าเป็นสิ่งจำเป็น.

ราชวงศ์เทียนไมที่ไร้ซึ่งเสี่ยวหวังและราชวงศ์หวู่ซือที่ไร้แดนเทพอมตะสนับสนุน ก็กลายเป็นราชวงศ์ราชันย์ทั่ว ๆ ไปเท่านั้น.

ราชวงศ์ราชันย์ทั่วภพหยินนั้น ถูกราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งสะกดข่มไปทั้งหมด.

ทิศเหนือ ของภพหยินยังมีแดนเทวะและราชวงศ์สวรรค์อยู่ หากแต่พวกเขาไม่ได้เคลื่อนทัพลงมาภาคใต้ ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ต้องการเข้ามาร่วมแย่งชิงแผ่นดินแต่อย่างใด นอกจากนี้ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก การจะต่อกรกับพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน.

ส่วนตระกูลเทียน เทียนเซียวจื่อที่ได้รับบาดเจ็บหนักด้วยฝีมือจงซาน เวลานี้พวกเขา คงยังไม่เคลื่อนไหว จนกว่าจะทำการรักษาตัวเองกลับมาได้ แม้นว่าจะมีน้ำพุแห่งชีวิตช่วย อย่างน้อยที่สุดก็ใช้เวลาสิบปี ต้องไม่ลืมว่าจงซานได้ทำร้ายเทียนเซียวบาดเจ็บสาหัส บดกระดูกทั่วร่าง จะสามารถรักษาได้ง่าย ๆ อย่างงั้นรึ?

สิบปี? เมื่อไม่มีเสี่ยวหวัง บางทีภาคใต้ก็คงกลายเป็นของจงซานไปจนสิ้นแล้ว.

สำนักขนาดใหญ่? ราชวงศ์ราชันย์ขนาดใหญ่? พวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่อยู่ในสายตาของจงซาน กองกำลังของต้าเจิ้งกำลังยึดครองภาคใต้อย่างรวดเร็ว.

กับความฮึกเหิม พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ความแข็งแกร่งของพวกเขาไร้ซึ่งผู้ต้านทาน.

ความแข็งแกร่งของต้าเจิ้งที่ขยายออกไปอย่างรวดเร็วบ้าคลั่ง อำนาจและความแข็งแกร่งเองได้เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน.

ส่วนจงซานนั้นไม่จำเป็นต้องลงมือเองด้วยซ้ำ เขาที่ตอนนี้ประจำการอยู่เมืองซ่างตลอดเวลา.

...

ย้อนไปในอดีต การต่อสู้ที่ทะเลดำ เย่ชิงเฉิงที่หายไปทันทีทันใด.

เย่ชิงเฉิงในเวลานั้นรับรู้ว่าแสงสีเหลืองที่พาเขาเข้าไปในมิติแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นอีกสามวัน มันก็พาเขาผ่านออกมายังสถานที่แห่งหนึ่ง.

บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่มวลเมฆา! เย่ชิงเฉิงที่ได้มายืนบนยอดเขาแห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนี้มีแสงตะวันที่ร้อนแรง ส่องประกายลงมา.

เย่ชิงเฉิงที่ได้รับบาดเจ็บหนัก เสื้อผ้าขาดวิ่น เส้นผมกระเซอะกระเซิง อยู่ในสภาพน่าอดสูอย่างที่สุด.

เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองออกไปรอบ ๆ  ใบหน้าที่ชะงักงันเล็กน้อย จดจ้องมองดวงตะวันสีทอง.

ดวงตะวันสีทอง? ภพหยางอย่างงั้นรึ?

"ผู้มาเป็นใคร? กล้ารุกเข้ามายังเขตแดนหวงห้ามของแดนเทพอมตะอย่างงั้นรึ?"

ไมไกลออกไปนั้นได้ปรากฏกลุ่มของผู้ฝึกตนที่ออกมารุมล้อมเขาในทันที กระบี่ที่ชี้ไปยังเย่ชิงเฉิงด้วยความโกรธเกรี้ยว.

"แดนเทพอมตะอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่จดจ้องมองอย่างงงงวยกับเหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบ ๆ .

"ยังไม่รีบบอกอีกเจ้าเป็นใคร? กล้าบุกเข้ามายังพื้นที่ลับของแดนเทพอมตะ?"เหล่ากลุ่มผู้ฝึกตนที่กำลังโกรธเกรี้ยว.

เย่ชิงเฉิงที่กวาดตามองกลุ่มคนดังกล่าว ก็ฝืนยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด.

"เป็นใคร?ยังไม่รีบพูดอีก?"

เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองคนเหล่านั้น ส่ายหน้าไปมา "ช่วยแจ้งเต๋าจวินเซิ่งหยา ว่าศิษย์ที่เต็มไปด้วยความผิดต้องการเข้าพบ เย่ชิงเฉิง!"

"ศิษย์ที่ทำความผิดของแดนเทพอมตะอย่างงั้นรึ?"

"เย่ชิงเฉิง?"

"ไม่เห็นเคยได้ยิน? เย่ชิงเฉิง? ใครคือเย่ชิงเฉิงกัน?"

"ศิษย์พี่ใหญ่."

"อืม!"

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น ห้องโถงแดนเทพอมตะ.

ที่ด้านหน้าของเต๋าจวินเซิ่งหยา เย่ชิงเฉิงที่ฟื้นฟูกลับมาแล้ว!

"ท่านประมุข!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความอับอาย.

"เจ้าใช้ ยันต์ป้องชีวิตของโจวเหยาซือ เดินทางมาภพหยางงั้นรึ?"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่สอบถามออกมาในทันที.

"ครับ เรื่องนี้ เป็นความผิดพลาดของข้าเอง ที่ทำให้โลกอมตะล่มสลาย!"ใบหน้าเย่ชิงเฉิงที่รู้สึกผิด.

"เอาล่ะ ไม่ใช่ความผิดของเจ้า!"เต๋าจวินที่ส่ายหน้าไปมา.

"แต่ว่า......!"

"ผู้ก่อตั้งให้ข้าเป็นคนจัดการเจ้า ข้าจะเป็นคนตัดสินทุกอย่าง หลังจากนี้ จงใช้พลังของเจ้าชดใช้คืนก็แล้วกัน!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.

"ครับ!"เย่ชิงเฉิงที่ตอบรับคำในทันที.

"แม้ว่าคราวนี้พวกเราจะสูญเสียโลกอมตะไป ทว่าแดนเทพอมตะคือศูนย์ใหญ่ของพวกเรา ฝีมือกระบี่ของเจ้าก็นับว่าใช้ประโยชน์ได้ แม้นว่าจะเสียกระบี่ลู่เซียนไป ทำให้ผู้ก่อตั้งโกรธเกรี้ยว ทว่าข้าก็ตัดสินใจว่าจะยืมกระบี่จิวเซียนให้เจ้าใช้อีกสักครา!"เต๋าจวินเซิ่งหยากล่าว.

"ขอบคุณท่านประมุข ข้าจะไม่ทำให้ท่านประมุขต้องผิดหวังอีกอย่างแน่นอน!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพพร้อมกับรับกระบี่จิวเซียนมา.

เต๋าจวินเซิ่งหยาพยักหน้ารับจดจ้องมองไปยังเย่ชิงเฉิง เต๋าจวินเซิ่งหยารับรู้ถึงความแข็งแกร่งของเย่ชิงเฉิงดี เย่ชิงเฉิงในครั้งนี้สูญเสียโลกอมตะและกระบี่ลู่เซียน นับว่าเป็นอาชญากรรมที่ยากจะให้อภัย ทว่าเต๋าจวินเซิ่งหยาก็รู้จักที่จะใช้คน การลงโทษเย่ชิงเฉิงมีประโยชน์น้อยกว่าทำให้เขาติดหนี้บุญคุณ ภพหยินพ่ายแพแล้ว หากแต่แดนเทพอมตะนั้นมีพลังมากกว่าหลายเท่า.

"ท่านประมุข คาดไม่ถึงว่าจงซานจะร้ายกาจขนาดนี้ อสุรกายของมันได้กลืนกินกระบี่ลู่เซียนไป ย่อยสลายหายไปได้ทั้งหมดเลยรึ?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ผู้ก่อตั้งไม่มีทางผิดพลาดแน่ กระบี่ลู่เซียนนั้นไม่มีอยู่แล้ว หายไปอย่างสิ้นเชิง นับจากนี้ค่ายกลกระบี่พิฆาตเซียน คงเป็นได้แค่ค่ายกลในตำนานแล้ว หากแต่อสูรกายตนนั้นแปลกประหลาดยิ่งนัก แม้แต่มีดบินพิฆาตเซียนของข้า ยังถูกมันกลืนไปถึงสองเล่ม!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ต้าเจิ้ง ท่านประมุข ต้าเจิ้งนั้น เป็นศัตรูกับแดนเทพอมตะมาก่อนแล้วอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถามออกไป.

"อืม การโจมตีโลกอมตะครั้งนี้ จงซานคงต้องการแก้แค้นข้า."เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

"ก่อนหน้านี้?"

"ใช่ ก่อนหน้านี้ข้าได้นำคนเข้าล้อมโจมตีสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว เขาจึงคิดที่จะเอาคืนแดนเทพอมตะของข้า คนผู้นี้ร้ายกาจแน่นอน!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่แค่นเสียงเย็นชา.

"ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งได้ส่งคนไปยังภพหยินหมด ในเวลานี้ ไม่ใช่ว่าสวนสวรรค์ลอยฟ้ากลายเป็นว่างเปล่าหรอกรึ?"เย่ชิงเฉิงที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"ไม่รู้เรื่องนี้แปลกประหลาดมาก ทว่าข้าได้ส่งคนไปตรวจสอบที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวแล้ว!"เต๋าจวินที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ครับ"

.........

สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว.

จงซานที่ต้องเผชิญหน้ากับทูตของแดนเทพอมตะ.

"เอาล่ะ พวกเจ้าไปได้!"จงซานที่ไม่ใส่ใจคนเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย.

"ครับ รบกวนราชันย์จงซานแล้ว!"เหล่าทูตที่แสดงความเคารพ ก่อนที่จะถอนตัว และถูกส่งตัวออกทางประตูสวรรค์ทิศใต้ไป.

ขณะที่ทูตจากแดนเทพอมตะจากไปแล้ว จงซานก็จ้องมองไปยังมุมห้องมุมหนึ่ง คนอื่น ๆ ย่อมไม่สามารถมองเห็นได้ ทว่าจงซานกลับสามารถมองเห็นได้อย่างแปลกประหลาด ว่ามีสหายที่ดีของเขาคนหนึ่งอยู่ที่นั่น.

"หวนจี หลายวันมานี้ต้องขอบคุณเจ้าแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

หวนจีก็คือสตรีร่างมายามารสวรรค์ผู้เกิดขึ้นมาจากรูปปั้นหยกขาวในถ้ำร้อยสวรรค์นั่นเอง.

"เรื่องเล็กน้อย หากไม่สามารถสร้างภาพลวงตาได้ จะยังเป็นมารสวรรค์ได้อย่างไร อีกอย่างข้าเพิ่งพบว่าข้าไม่ได้เป็นมารสวรรค์ขั้นต้นแล้ว ตอนนี้ได้ก้าวมาเป็นมารสวรรค์ขั้นกลางแล้ว!"หวนจีที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"หืม?"จงซานที่ดวงตาเปล่งประกาย.

"หืมนี้ แปลว่าเร็วใช่รึไม่!"หวนจีเผยยิ้มออกมา.

"เจ้าคงจะพยายามอย่างหนัก!"จงซานที่กล่าวชม.

"แน่นอน มันเป็นสิ่งที่ข้าต้องการ!"หวนจีที่กล่าวตอบ.

"เฉียนโหยวกำลังจะเข้าไปในถ้ำร้อยสวรรค์ โปรดดูแลนางด้วย!"จงซานกล่าว.

"ข้ารู้ว่านางคือหวงโหวของเจ้า โปรดวางใจข้าจะดูแลอย่างดี และให้เจ้าเป็นนักแสดงหลักด้วย!"หวนจีที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

สองวันหลังจากนั้นที่ด้านหน้าถ้ำร้อยสวรรค์ กู่เฉียนโหยวที่กำลังเข้าไปในถ้ำ โดยมีจงซานที่มาส่งนาง.

"จงซาน เทพอสูรบรรพชนไปแล้วอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเสียดาย.

เทพอสูรบรรพชนนั้นท่าทางของมันน่ารักเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ที่เมืองซ่างภพหยิน กู่เฉียนโหยวได้ดูแลมันอยู่ช่วงเวลาหนึ่งนั่นเอง.

"มันคงจะกลับไปหาเนี่ยนโหยวโหยวแล้ว ก่อนที่ข้าจะออกไปต่อสู้เดิมพันที่ทะเลดำ มันได้ตกลงกับข้าในฝันเรียบร้อยแล้ว!"จงซานกล่าว.

"หืม? เช่นนั้นจะได้รับอันตรายหรือไม่?"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.

"โปรดวางใจ ถึงจะเป็นระดับสวรรค์แท้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะจับตัวมันได้ อีกอย่างในอดีตเย่ชิงเฉิงที่ใช้แม้แต่เจดีย์หมื่นบานกระจกช่วยจับ มันยังสามารถหนีรอดปลอดภัยได้!"

"แต่ว่า........!"แววตาของกู่เฉียนโหยวยังไม่สามารถวางใจได้.

"หลังจากนี้ หากมีโอกาส ข้าจะหาเทพอสูรที่น่ารักให้กับเจ้าแทนก็แล้วกัน!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม!"กู่เฉียนโหยวที่เห็นจงซานรับรู้ความในใจ ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ.

................

ราชวงศ์สวรรค์ต้าฉิน เมืองเซียนหยาง ท้องพระโรง.

หยิงที่จ้องมองเหล่าข้าราชบริพาร ขณะที่หลี่ซือก้าวออกมาด้านหน้า.

"เรียนฝ่าบาท กระบี่ลู่เซียนในภพหยินหายไปด้วยฝีมือของจงซาน ดังนั้นเฒ่าจิ้งจอกนั่นจึงโกรธเกรี้ยวจนคำรามออกมา!"หลี่ซือที่ขมวดคิ้วไปมา.

"หืม?"

"ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งนั้น มีความสามารถในการผ่านลงไปในภพหยิน เมื่อไม่นานมานี้ ต้าเจิ้งในภพหยินได้กระทำแผนการใหญ่ที่พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน สร้างชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วภพหยิน!"หลี่ซือกล่าวรายงาน.

"หืม?"

"ดูเหมือนว่าตั้งแต่แรกแล้ว จงซานได้วางแผนเดิมพันต่อสู้ที่ทะเลดำกับเย่ชิงเฉิงเป็นแผนการเพื่อให้เย่ชิงเฉิงออกมา และยังมีตระกูลเทียนเข้ามาเกี่ยวข้อง และเกิดการต่อสู้กัน จงซานที่ได้รับชัยชนะและเก็บเกี่ยวได้อย่างมากมาย!"หลี่ซือกล่าว.

หยิงที่ยังคงนั่งอยู่บนบัลลังก์ รอฟังรายงาน.

"จงซานได้กำจัดโลกอมตะ ยึดครองกระบี่ลู่เซียนและทำร้ายคุนเผิงบาดเจ็บหนัก แม้แต่เอาชนะตระกูลเทียน เรื่องนี้เวลานี้ในภพหยินกำลังลือกระฉ่อนไปทั่วหล้า..............!"

หลี่ซือที่ทำการรายงานสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในภพหยินออกไปทั้งหมด.

กับการรายงานที่ไม่เหลือไม่ขาดเลยแม้แต่น้อย ความสามารถของหลี่ซือร้ายกาจต่อต้านสวรรค์เป็นอย่างมาก ที่สามารถสืบข่าวที่เกิดขึ้นในภพหยินทั้งที่ตัวเองอยู่ภพหยางได้อย่างละเอียด ไม่มีใครรู้ว่าหลี่ซือทำได้อย่างไร? ราวกับว่าเขาสามารถไปมาระหว่างภพหยินและภพหยางได้อย่างง่ายดาย.

"ยอดเยี่ยม ยิงหินก้อนเดียวได้นกหกตัว จงซานทำได้ยอดเยี่ยม!"ลู่ปู้เหว่ยที่อยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

"ฝ่าบาท ต้าเจิ้งที่แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ  จงซานที่ฝ่าบาทกำลังจับตามอง โดดเด่นร้ายกาจจริง ๆ !"หลี่ซือพยักหน้ารับ.

"ฝ่าบาท พวกเราจะทำอย่างไรต่อไป?"หลี่ซือที่สอบถามออกมาอีกครั้ง.

หยิงที่เคาะนิ้วไปบนพนักมังกรเบา ๆ  กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างที่ลึกล้ำ เหล่าข้าราชบริพารต่างก็พากันเงียบ ไม่มีใครกล้าส่งเสียงรบกวน.

หยิงที่ครุ่นคิดไปนานเหมือนกันก่อนที่จะเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย."น่าสนใจ!"

"ฝ่าบาท?"หลี่ซือกล่าวสอบถามด้วยความสงสัย.

"นั่งและชมต่อไป!"หยิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางสนใจ.

ฝ่าบาทกำลังจะบอกว่านั่งบนภูดูเสือกัดกันรึ? หรือว่าเพียงแค่ต้องการชมเสือกัดกันเท่านั้นเอง?

"ขอรับ!"หลี่ซือรับคำในทันที.

***********

坐山观虎斗 ความหมาย นั่งภูชมเสือกัดกัน หมายถึง นั่งชมสองฝ่ายที่รบกันรอจนทั้งสองฝ่ายเพรี่ยงพร้ำแล้ว ค่อยเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด