Chapter 749 อาวุธของตี้เสวียนชา จักรทองคำสะบั้นโลกา.
นามของตี้เสวียนชานั้นมีชื่อเสียงไม่น้อย.
ก่อนหน้านี้พวกเขาที่ได้ยินชื่อตี้เสวียนชา หากแต่ไม่มั่นใจนักว่าเขาคือตี้เสวียนชาผู้นั้นจริงหรือไม่ อีกอย่างตี้เสวียนชาจะเดินทางลงมาภพหยินอย่างงั้นรึ? เย่ชิงเฉิงและเทียนเซียวจื่อที่ได้แต่จดจ้องมองด้วยความสงสัย.
หากแต่ในเวลานี้คนผู้นี้ต้องเป็นตี้เสวียนชาอย่างไม่ต้องสงสัย มีแต่ตี้เสวียนชาเท่านั้นถึงจะทรงพลังขนาดนี้.
แน่นอนว่าเหล่าผู้ชมที่มีระดับสวรรค์แท้นั้น เวลานี้เริ่มมั่นใจแล้วว่าคนผู้นี้คือตี้เสวียนชาภพหยาง ดวงตาของพวกเขาที่หดเกร็ง.
คนผู้นี้ร้ายกาจขนาดนี้เลยรึ?
ได้ข่าวมาก่อนหน้านี้ว่าขณะที่เขาเพิ่งก้าวถึงระดับสวรรค์แท้ ก็สามารถขับไล่จือจุ้นเผ่ามังกรผู้ยิ่งใหญ่ออกไปจากโลกใบเล็กได้ คนผู้นี้ ร้ายกาจแม้แต่กวงเต้าและหงเจี้ยนไม่สามารถต้านได้เลยรึ?
เป็นไปได้ว่าความสามารถของตี้เสวียนชานั้นจะไม่ได้อ่อนด้อยกว่าเย่ชิงเฉิงเลย!
ระดับสวรรค์แท้ที่ราวกับพบเรื่องผิดปรกติ ตอนนี้เริ่มสั่งการให้เหล่าศิษย์ตัวเองหนีออกจากที่นี่แล้ว.
เย่ชิงเฉิงที่มั่นใจในสถานะของตี้เสวียนชา ทันใดนั้นก็จับจ้องมองไปยังทิศทางของจงซาน.
ไม่ได้การ ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเริ่มทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม.
ตี้เสวียนชา เต๋าจวินเซิ่งหยา พวกเขามีพลังที่ทัดเทียมกัน การประลองเดิมพันที่ทะเลดำแห่งนี้ ตี้เสวียนชานั้นสามารถจัดการเต๋าจวินของเขาได้ในทันที ทว่ากับสิ่งที่เขาทำนี้? หมายความว่าอย่างไร?
ไม่ถูกต้อง ถ่วงเวลา? นี่เขากำลังถ่วงเวลารึ?
เย่ชิงเฉิงที่ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย รู้สึกหัวใจเต้นแรง จดจ้องมองไปยังฝั่งของจงซาน แววตาที่ร้อนใจขึ้นมาไม่หยุด.
ที่ฝั่งตรงข้ามของทะเลดำ จงซานที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร มือของเขาที่วางบนพนักอย่างสบายใจ ที่มุมปากเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
เห็นจงซานที่เผยยิ้มออกมา ความรู้สึกของเย่ชิงเฉิงยังเข้มข้นมากขึ้นอีก ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนี้ คือเรื่องอะไร?
ที่ไกลออกไปนั้น เทียนเซียวจื่อเองก็จดจ้องมองด้วยท่าทางประหลาดใจเช่นกัน.
ไม่ได้การ เขาที่มีแผนการของเขา จงซานเองก็มีแผนการของตัวเองแน่ ไม่เช่นนั้นด้วยความสามารถของตี้เสวียนชา เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เวลานานขนาดนี้.
ตี้เสวียนชาไม่ได้เอาจริงแม้แต่น้อย เขากำลังเล่นกับกวงเต้าอยู่อย่างงั้นรึ?
ไม่ ไม่ได้การ มีที่ใหนกัน เทียนเซียวจื่อสังหรณ์ใจไม่ดีเช่นกัน ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามจะวางแผนการอะไรบางอย่างเอาไว้อย่างแน่นอน.
เหล่าผู้ชมมากมายในเวลานี้ก็พบกับความผิดปรกติแล้ว พวกเขาหลายคนเริ่มถอยแล้ว แม้นว่าการต่อสู้นี้จะยอดเยี่ยม หากแต่ชายในชุดสีขาวนั้นกับไม่ได้ลำบากอะไรเลย แข็งแกร่งมาก และก็มีอีกจำนวนหนึ่งเช่นกันที่กำลังบันทึกภาพการต่อสู้ครั้งนี้เอาไว้.
เกือบทุกคนแล้วที่จดจำตี้เสวียนชาได้ เวลานี้เริ่มนั่งไม่ติดและยืนขึ้นมา เตรียมพร้อม เพราะว่าพวกเขารับรู้แล้วนั่นเองว่านี่เป็นแผนการ.
เย่ชิงเฉิงที่ชัดเจนกว่าใคร ๆ ลางสังหรณ์ของเขาที่ปะทุขึ้นมา แม้นว่าจะไม่รู้เหตุผลก็ตามที.
ทันใดนั้น เย่ชิงเฉิงที่กวาดตามองไปยังทิศทางของอนุสาวรีย์อมตะและเทพอสูรบรรพชนบนเกาะลอยฟ้า.
หลังจากกวาดตามอง ดวงตาของเย่ชิงเฉิงที่หดเกร็ง เทพอสูรบรรพชนล่ะ?
เทพอสูรบรรพชนหายไปแล้ว?
ร่างของเย่ชิงเฉิงที่เคลื่อนไปปรากฏบนเกาะลอยฟ้าในทันที จงซานที่คอยจับจ้องอยู่ เห็นเย่ชิงเฉิงเคลื่อนไหว จงซานที่บินออกไปทันทีเช่นกัน.
"เย่ชิงเฉิง เจ้ากำลังทำอะไร? จะแพ้แล้วคิดจะตระบัดสัตย์อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
ทันใดนั้นคนทั้งสองที่เข้ามาประจันหน้ากันบนเกาะลอยฟ้าทันที.
"เทพอสูรบรรพชนล่ะ? ของเดิมพันของเจ้าล่ะ? เจ้าเองก็ไม่ได้ต้องการมาต่อสู้เดิมพันแต่แรกแล้วไม่ใช่รึ?"เย่ชิงเฉิงที่เริ่มมั่นใจลางสังหรของตัวเอง ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา.
สายตาของเหล่าผู้ชมที่เปลี่ยนมาในทันที รับรู้ว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว.
"ตูมมมมมมมมม!"
ที่ไกลออกไปนั้นตำแหน่งของตี้เสวียนชา ทันใดนั้นเขาก็ได้สังหารกวงเต้าไปในทันที.
พริบตาเดียวที่เลื่อนสายตาไปมองที่อื่น เร็วมาก เร็วจนน่าแปลกประหลาดใจ จนพวกเขาไม่มีเวลาหันกลับมาดูด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น.
การต่อสู้เดิมพันที่จบแล้ว ตี้เสวียนชาสังหารกวงเต้าไปแล้วอย่างงั้นรึ?
"ตอนนี้เจ้ามีอะไรจะพูดอีก?"จงซานที่ตวัดมือคว้าไปยังอนุสาวรีย์อมตะ.
เย่ชิงเฉิงที่นำกระบี่ลู่เซียนออกมาทันที พร้อมกับชี้ตรงไปยังจงซาน.
"เจ้ากำลังทำอะไร?"จงซานที่จ้องมองเข้าด้วยความโกรธ.
ที่ไกลออกไป เทียนเซียวจื่อที่บินมาช้า ๆ ตี้เสวียนชาที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว.
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น.
ในขณะที่เย่ชิงเฉิงชี้กระบี่ไปยังจงซานนั้น ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นขาวซีด ดูเหมือนว่าจะตระหนักถึงอะไรบางอย่างได้.
"เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง จงซาน ฝีมือเจ้ารึ?"เย่ชิงเฉิงที่ดวงตาทั้งสองข้างเปลี่ยนเป็นสีแดงจ้องมองจงซาน.
เหล่าผู้ชมมากมายต่างก็เริ่มตื่นตกใจ เย่ชิงเฉิงทำอะไร? นี่เขาแพ้แต่ไม่ยอมรับอย่างงั้นรึ? ต้องการจะนำอนุสาวรีย์อมตะกลับคืน ในเวลานี้ ทุกคนไม่ได้พิจารณาหรือใส่ใจเทพอสูรบรรพชนแม้แต่น้อย พวกเขาสรุปได้ในทันทีว่าเย่ชิงเฉิงกำลังตะบัดสัตย์ไม่ยอมรับการเสียเดิมพัน.
ในเวลาเดียวกันเทียนเซียวจื่อที่จดจ้องมองด้วยความสงสัย รู้สึกแปลกประหลาดมากขึ้นและก็มากขึ้น จ้องมองไปยังจงซาน.
จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย "นับจากวันนี้ โลกอมตะถูกลบออกไปจากภพหยินเรียบร้อยแล้ว!"
เสียงของจงซานไม่ได้ดังนัก หากแต่สามารถกระจายไปทั่วทิศ.
ได้ยินคำพูดของจงซาน ทุกคนเวลานี้ที่แสดงท่าทางประหลาดใจ จงซานกำลังกล่าวอะไรออกมา? เสียสติไปแล้วรึ? กล่าวอะไรไร้สาระ? ลบโลกอมตะออกไปอย่างงั้นรึ?
เทียนเซียวจื่อที่เข้าใจในทันที ดวงตาที่หดเกร็งด้วยท่าทางหวาดหวั่น ไม่มีทาง การต่อสู้เดิมพันที่ทะเลดำแห่งนี้ เป็นแผนการถ่วงเวลาของจงซานอย่างงั้นรึ? คนของเขากำลังโจมตีโลกอมตะอย่างงั้นรึ?
มันจะเป็นไปได้อย่างไร? โลกอมตะจะถูกทำลายได้อย่างไร?
ทว่าในเวลาเดียวกัน เย่ชิงเฉิงกับไม่โต้เถียงแม้แต่น้อย ท่าทางของเขานั้นกำลังโกรธเกรี้ยวจนตัวสั่น แน่นอนเขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงกรรมวาสนาของโลกอมตะได้ ทำให้ใบหน้าเขาเปลี่ยนเป็นขาวซีดนั่นเอง.
เป็นความจริงรึ? เทียนเซียวจื่อที่จ้องมองจงซานด้วยท่าทางหวาดผวา.
"เป็นเจ้าจริง ๆ รึ? ข้าจะสังหารเจ้า!"เย่ชิงเฉิงที่คำรามออกมาเสียงดังสนั่น.
โลกอมตะถูกกำจัดไปแล้ว! ถูกทำลายไปแล้วอย่างงั้นรึ? เย่ชิงเฉิงเองก็คิดว่า ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ การกระทำที่ผ่านมาของจงซานเป็นการจงใจถ่วงเวลา นั่นก็หมายความว่าพวกเขากำลังโจมตีโลกอมตะ?
หนานกงเซิ่งไม่มา เห่าเม่ยลี่ไม่มา ตั้งแต่แรกแล้ว พวกเขาเดินทางไปโลกอมตะด้วยกัน ทว่ามีสองพี่น้องเหยาซือดูแลอยู่ จะเป็นไปได้อย่างไร? หากแต่กรรมวาสนาตอนนี้หายไปแล้ว เป็นไปได้ว่าเป็นความจริง.
โลกอมตะที่ต้องล่มสลายด้วยน้ำมือของเขา?
จะไม่ให้เย่ชิงเฉิงโกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรงได้อย่างไร.
กระบี่ลู่เซียนทีทะลวงไปยังร่างของจงซาน เป็นความเร็วที่น่าพรั่นพรึงมาก.
ช่างน่าเศร้า ในเวลานั้นตี้เสวียนชาได้ออกมาขวางแล้ว.
"ตูมมมมมมมมม!"
เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น แสงสีทองที่พุ่งออกมาจากการโจมตีของตี้เสวียนชา ส่องประกายสาดส่องไปทุกพื้นที่ ตี้เสวียนชาที่เข้ารับกระบี่ลู่เซียน เป็นพลังปะทะที่หนักหน่วงรุนแรงเป็นอย่างมาก แรงปะทะที่ทำให้มิติอากาศฉีกขาดแหวกออกมาเป็นหลุมดำขนาดใหญ่.
เทียนเซียวจื่อที่ถอยห่างออกไปในทันที ส่วนจงซานที่ได้โอกาสพุ่งตรงไปเก็บ 11 เจดีย์อมตะในทันที.
มิติอากาศที่ฉีกขาด หลุมดำขนาดใหญ่ที่ปกคลุมจงซาน เย่ชิงเฉิงและตี้เสวียนชา.
อากาศด้านนอกที่สั่นไหวไปมา.
หลุมดำที่ค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง เผยให้เห็นคนทั้งสามอีกครั้ง.
จงซานที่อยู่ใกล้ ๆ ตี้เสวียนชาและเย่ชิงเฉิงที่เข้าปะทะกัน.
เย่ชิงเฉิงที่ถือกระบี่ลู่เซียน ปิศาจกระหายโลหิตที่ถูกปลดปล่อยออกมากระจายเต็มอากาศ เป็นอาคมที่เต็มไปด้วยจิตสังหารที่หนักหน่วงรุนแรงที่กำลังกดดันตี้เสวียนชา.
ส่วนตี้เสวียนชาได้นำอาวุธใหม่ออกมา ดาบที่ถือก่อนหน้านี้ไม่อยู่แล้ว.
ที่ด้านหน้าของตี้เสวียนชา เป็นกงล้อที่มีสีทองขนาดใหญ่.
กงล้อสีทองที่หมุนได้รอบทิศ ส่องประกายแสงสีทอง แสงสีทองที่ราวกับปลดปล่อยสายลมมากมายออกมา ประกายแสงสีทองที่โชติช่วง ความแหลมคมของใบมีดทรงกลม แผ่กลิ่นอายที่เย็นยะเยือบออกมา ทำให้คนที่จับจ้องอยู่ขนลุกตั้งชัน.
กงล้อสีทอง ที่มีรัศมีสองเมตร ร่างของตี้เสวียนชาที่ยืนอยู่ตรงกลาง.
กงล้อสีทองที่หมุนอย่างรวดเร็วเข้าปะทะกับกระบี่ลู่เซียน พร้อมกับแผ่คลื่นสายลมเข้าปะทะภูตผีของกระบี่ลู่เซียน อากาศรอบ ๆ ที่เริ่มแตกระแหงกลายเป็นหลุมดำอีกครั้ง.
"แคก ๆ ๆ !"
อาวุธของตี้เสวียนชานั้นไม่ได้ด้อยกว่ากระบี่ลู่เซียนแม้แต่น้อย แน่นอนว่าเป็นอาวุธที่เหนือกว่าระดับเก้า ทว่ากงล้อสีทองที่หมุนอย่างรวดเร็วนี้สร้างพลังที่หนักหน่วงรุนแรงเป็นอย่างมาก.
แสงสีทองที่ส่องประกายแสงออกมาไม่หยุดนี้ มีอำนาจวิเศษที่สะกดข่มอย่างรุนแรง แม้แต่คนที่จับจ้องมองยังรู้สึกหัวใจสั่นไหว.
"นี่มันคืออะไรกัน?"เย่ชิงเฉิงที่รู้สึกหวาดผวา.
"จักรทองสะบั้นโลกา!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"จักรทองสะบั้นโลกาอย่างงันรึ? ไม่เห็นเคยได้ยิน!"เย่ชิงเฉิงที่หลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบเต็มหน้าผาก.
"ไม่ค่อยนำออกมาใช้จนไม่มีใครรู้จักสินะ!"ตี้เสวียนชากล่าว.
"ตูมมมมมมมม!"
คนทั้งสองเข้าปะทะกันอีกแล้ว.
จักรทองสะบั้นโลกาที่มีตี้เสวียนชาอยู่ตรงกลาง หมุนวนด้วยความเร็วสูง จนแทบจะไม่สามารถมองเห็นตี้เสวียนชาด้านใน ความเร็วที่หมุนรอบร่างกายของเขาจนมองไม่เห็นจุดอ่อน พลังที่ทำให้มิติอากาศแตกออกมาไม่หยุด.
เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองตี้เสวียชาด้วยความตื่นตระหนก เป็นไปไม่ได้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่ของวิเศษชิ้นนี้จะมีพลังไม่ได้ด้อยกว่ากระบี่ลู่เซียนเลย?
ทว่าในเวลาเดียวกันนี้ ตี้เสวียนชาที่ชี้นิ้วออกไป จักรทองสะบั้นโลกาที่พุ่งออกไปหาเย่ชิงเฉิงอย่างรวดเร็ว ทุกสถานที่ที่มันเคลื่อนที่ผ่านไป ล้วนแล้วแต่ทิ้งซากปรักหักพังทิ้งเอาไว้ในทันที.
ในเวลานี้ เหล่าผู้ชมมากมาย ที่เห็นการต่อสู้ของตี้เสวียนชาและเย่ชิงเฉิง การต่อสู้ที่น่าพรั่นพรึงนี้ ทำให้โลหิตของพวกเขาสูบฉีดอย่างรุนแรง.
ที่ไกลออกไปนั้นบนยอดเขาแห่งหนึ่ง ดวงตาของเทียนเซียวจื่อที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจลังเลใจ จดจ้องมองไปยังพวกเขา พร้อมกับขมวดคิ้วไปมา ในเวลาเดียวกันนั้น ชายผู้หนึ่งที่อยู่ด้านหลังเทียนเซียวจื่อกล่าวถามออกมาทันที.
"ท่านประมุข พวกเราจะเริ่มเมื่อไหร่?"
"รอก่อน ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน พวกเราควรจะปล่อยให้พวกเขาสังหารกันตกตายไปก่อน หากว่าฝั่งจงซานสังหารเย่ชิงเฉิงได้ จะช่วยผ่อนแรงพวกเรา แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจงซานจะกำจัดโลกอมตะได้ จงซานผู้นี้น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว แผนการจากตอนแรกต้องปรับเปลี่ยนสักเล็กน้อย รอไปก่อน แล้วข้าจะสั่งการอีกที!"เทียนเซียวจื่อกล่าว.
"ครับ!"ชายคนดังกล่าวพยักหน้ารับ จากนั้นก็กลับไปยังยอดเขาอีกแห่งหนึ่ง.
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น ก็ปรากฏคนผู้หนึ่งในสภาพที่น่าอเนจอนาถเป็นอย่างมากขึ้นที่ข้าง ๆ เทียนเซียวจื่อ.
"ท่านประมุข!"เสียงที่แหบเครือของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น.
"อาวุโสเทียน? ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?"เทียนเซียวจื่อที่จ้องมองอาวุโสเทียนด้วยท่าทางตื่นตระหนกตกใจไม่น้อย.
อาวุโสเทียนในเวลานี้ ผมของนางที่ซีดขาว ใบหน้าที่ผอมอิดโรย.
"ข้าถูกผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยของราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งเล่นงาน ค่ายกลม่านไหมสวรรค์แปดทิศนั้นถูกเขาทำลายไปแล้ว นอกจากนี้เสี่ยวหวังยังทรยศอีก!"อาวุโสเทียนสตรีกล่าวออกมาด้วยคำพูดเจ็บช้ำ.
"อะไร?"
"เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่เสี่ยวหวังจะทรยศ!"เทียนเซียวจื่อที่ร้องออกมาด้วยท่าทางตกอกตกใจ.
"ท่านประมุข เป็นความจริง ไม่เช่นนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยของต้าเจิ้งจะหาข้าเจอ!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง.
"เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เชื่อว่าเสี่ยวหวังจะทรยศ ข้าจับจุดอ่อนของเขาไว้แล้ว เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้!"เทียนเซียวจื่อที่ร้องออกมาเสียงดัง.
ที่ไกลออกไปนั้น เย่ชิงเฉิงและตี้เสวียนชาเข้าปะทะกันด้วยพลังที่แข็งแกร่ง จักรทองสะบั้นโลกานั้นแข็งแกร่งดุดัน หากแต่กระบี่ลู่เซียนเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน คาดไม่ถึงเลยว่าของวิเศษทั้งสองจะยังไม่สามารถกำราบอีกฝ่ายได้.
"ข้าคิดว่าอีกนานเท่าไหร่ที่กงล้อนั่นจะต้านได้!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่บ้าคลั่ง.
กระบี่ลู่เซียนที่โจมตีทางนั้นทีทางนี้ที ส่วนตี้เสวียนชานั้นยังคงเผยยิ้มเล็ก ๆ อย่างชั่วร้าย ราวกับว่ากำลังรอโอกาสทำอะไรบางอย่างอยู่.