ตอนที่แล้วchapter 747 ต่อสู้กับจิงเหยาซือ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 749 อาวุธของตี้เสวียนชา จักรทองคำสะบั้นโลกา.

Chapter 748 กำจัดโลกอมตะ.


เจดีย์หมื่นบานกระจกถูกหลุมสังสารวัฏกลืนกินไปในทันที.

ร่างทั้ง 361 ร่างของจิงเหยาซือนิ่งงัน รับรู้ได้ในทันทีว่าเจดีย์หมื่นกระจกหายไปแล้ว สายตาของพวกเขาที่จ้องมองไปยังทิศทางเดียวกัน ไม่มี ไม่มีแล้ว ถูกทำลายไปแล้วอย่างงั้นรึ?

แววตาของจิงเหยาซือที่เต็มไปด้วยความแปลกประหลาดไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น.

ส่วนจงซานเอง ภายในใจรู้สึกเสียดายไม่น้อย กับของวิเศษล้ำค่าเช่นนี้ หากมีแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบอยู่ที่นี่แล้วล่ะก็ คงจะดี หากแต่เพื่อจัดการจิงเหยาซือ ไม่มีทางเลือกที่ต้องทำลายมันไป.

พลังอำนาจของสังสารวัฏ พลังความแข็งแกร่งของวิถีสวรรค์ แม้นเจดีย์หมื่นบานกระจกจะแข็งแกร่งเพียงใด สุดท้ายก็พังทลายไป.

"สารเลว!"

จิงเหยาซือหลายร่างที่ชะงักงันก่อนที่จะโจมตีไปยังร่างโคลนจงซานที่ขวางทาง.

"ตูมมมมมมม!"

ด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงนั่น ร่างโคลนจงซานยากที่จะหลบเลี่ยงได้ หลายร้อยจิงเหยาซือที่โจมตีพร้อม ๆ กัน ทำให้ร่างของจงซานแตกสลายหายไปในอากาศ.

แน่นอนว่าร่างโคลนของจงซานนนั้นมีพลังต่ำกว่าร่างจริงมาก.

หลังจากเห็นร่างของจงซานแตกสลายหายไป ไม่กลายเป็นเศษผลึก จิงเหยาซือที่ดวงตาหดเกร็ง.

"ข้ารู้ ข้ารู้!"สายตาของจิงเหยาซือที่เต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรงดุร้ายแผ่ออกมา.

"รู้อะไรอย่างงั้นรึ?

"นี่เป็นวิชาของเจ้า เป็นทักษะเทวะที่สามารถเลียนแบบวิชาของเผ่าจิงได้!ชิ ของเลียนแบบอย่างงั้นรึ? ในโลกใบใหญ่นั้นมีปราชญ์เทพที่สร้างวิชาเลียนแบบอยู่ ช่างน่าเสียดาย ไม่ว่าจะเลียนแบบได้สมบูรณ์อย่างไร หากแต่ร่างโคลนของเจ้า ไม่มีทางอยู่ได้ถึงครึ่งชั่วยาม ไม่มีทางที่จะเทียบได้กับเผ่าจิงได้!"จงเหย๋าซือที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"จริงรึ?"จงซานแค่นเสียง.

ครึ่งชั่วยามอย่างงั้นรึ? เคล็ดวิชาหมื่นเงาสวรรค์นั้นในทุก ๆ วันสามารถคงสภาพได้ถึงหนึ่งชั่วยาม!

"ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าตายง่าย ๆ แน่!"จิงเหยาซือแค่นเสียงเย็นชา.

จากนั้นจิงเหยาซือก็เริ่มไล่ล่ากลุ่มร่างของจงซาน.

ความเร็วของจงซานเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน การจะหลบเลี่ยงขวางทางกั้นจิงเหยาซือไม่ให้ทำลายร่างต้นก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก ร่างแยกเงาที่หลบหลีกขวางทางจิงเหยาซือจากร่างต้น.

จงซานยังคงรักษาและประคับประคองร่างต้นเอาไว้ถ่วงเวลาจิงเหยาซือ.

จงซานที่เวลานี้ทำได้แค่เพียงหลบหลีก หนีไม่เข้าปะทะ เพราะว่าจงซานรู้ดี ยกเว้นความเร็วแล้ว ร่างโคลนไม่สามารถต่อกรกับจิงเหยาซือได้ จงซานจำเป็นต้องถ่วงเวลา ครึ่งชั่วยาม?หลังจากครึ่งชั่วยาม ก็เพียงพอแล้ว.

"ตูมมมม!"

ร่างโคลนของจงซานที่ถูกทำลายเป็นบางครั้งในการไล่ล่าในครั้งนี้.

จิงเหยาซือที่กำลังค้นหาร่างจริงของจงซาน หากแต่ไม่ง่ายเลยที่จะหาพบ ร่างโคลนของจงซานนับร้อยร่างนั้นไม่มีร่างจริงซ่อนอยู่เลย.

การต่อสู้ พลางหลบพลางขวาง เป็นแผนการล่อหลอกเพื่อถ่วงเวลา.

หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป จิงเหยาซือเริ่มขมวดคิ้วไปมา.

ยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไหร่ ภายในใจของจิงเหยาซือรู้สึกไม่ดีขึ้นเรื่อย ๆ  เป็นไปได้อย่างไร? ร่างแยกจงซานมีมากขนาดนี้เลยรึ? นอกจากนี้คาดไม่ถึงเลยว่ายังไม่สลายหายไปอีกรึ?

จากนั้นครึ่งชั่วยามก็ผ่านไปในที่สุด จิงเหยาซือทั้ง 361 ร่างก็หยุดลงทันที ภายในใจที่รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที.

ไม่ได้การ ไม่ได้การแล้ว!

ร่างแยกของเขา เมื่อเจดีย์หมื่นบานกระจกหายไป ก็อยู่ได้แค่เพียงครึ่งชั่วโมงเช่นกัน.

หากแต่จงซานตอนนี้ควรจะถึงเวลาก่อนไม่ใช่รึ? นี่ยังไม่สลายหายไปอีกรึ? แน่นอนว่านับจากเจดีย์หมื่นกระจกหายไปนั้น เกิดหลังที่จงซานใช้ทักษะร่างโคลนไปแล้ว ในเวลานี้ร่างโคลนของเขาอยู่ได้เกินกว่าครึ่งชั่วยามไปแล้ว.

ข้าคำนวณผิดพลาดตรงใหนกัน?

อากาศที่หนาวเย็นกำลังแผ่ซานเกาะกินหัวใจของเขาในทันที อีกไม่นาน เมื่อร่างโคลนของเขาหายไปทั้งหมด ตัวเขาในเวลานั้นจะต้องเผชิญหน้ากับระดับสวรรค์แท้หลายร้อยร่างไม่ใช่รึ?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จิงเหยาซือที่จ้องมองไปยังจงซานที่อยู่ไม่ไกลออกไป สายตาของเขา มองเห็นท่าทางของจงซานที่กำลังยิ้มเย้ยเขาอยู่.

"!!"จิงเหยาซือรับรู้แล้วว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว.

จิงเหยาซือไม่พูดพร่ำทำเพลง ทุก ๆ ร่างหนีไปทุกทิศทุกทางทันที จงซานแต่ล่ะร่างก็ไล่ตามทันทีเช่นกัน.

"ปัง! ปัง!.........."

เสียงของร่างจิงเหยาซือที่ระเบิดติดต่อกันกลายเป็นฝุ่นผง หมดเวลาแล้ว ร่างโคลนของจิงเหยาซือ สลายหายไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ร่างต้นที่กำลังหนีไปยังทิศทางไกลออกไป.

จากนั้นไม่นาน จงซานหกร่างก็สามารถไล่ตามและเข้าล้อมร่างหลักจิงเหยาซือได้.

"เจ้าเป็นใคร?"จิงเหยาซือที่ถูกปิดทางหนีไม่สามารถหนีไปใหนได้กำลังกลืนน้ำลายคำโตลงคอ.

เขาที่ทำลายล้างความนึกคิดของจิงเหยาซือไปจนหมด แปลกเกินไปแล้ว แปลกประหลาดนัก ร่างโคลนที่แยกออกมาและยังคงเวลาได้มากกว่าเผ่าจิงสะอีก.

จงซานหกร่าง ที่ปิดทางทั้งหกทิศ ตะวันออก ใต้ ตะวันตก เหนือ บน ล่าง.

"หลุมสังสารวัฏ เปิด!"หกร่างจงซานที่ตะโกนออกมาพร้อมกันทันที.

"ไม่!!!!!"

.....................

ที่ทางเข้าของโลกอมตะ เหล่ายอดฝีมือที่รอคอยกันอย่างอดทน.

"หนานกง เป็นอย่างไรบ้าง?"จงเทียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจจดจ้องมองไปยังหนานกงเซิ่ง.

คนอื่น ๆ เองก็จดจ้องมองไปยังหนานกงเซิ่งเช่นกัน หนานกงเซิ่งที่ชี้นิ้วออกไป พร้อมกับปล่อยอักระที่แปลกประหลาดลอยขึ้นไปบนอากาศ.

"ก่อนที่ข้าจะออกมานั้น ข้าได้ทิ้งค่ายกลในการตรวจสอบกลิ่นอายด้านในเอาไว้สิบแห่ง."หนานกงเซิ่งที่จ้องมองขึ้นไปบนอากาศ.

อักขระที่ลอยบนอากาศได้เชื่อมต่อกันกลายเป็นค่ายกล พร้อมกับเชื่อมต่อกับค่ายกลอื่น ๆ ที่เขาได้วางเอาไว้ในโลกอมตะ.

"เป็นอย่างไรบ้าง?"เนี่ยนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล.

ใบหน้าของหนานกงเซิ่งที่เผยท่าทางดีใจขึ้นมา "เหลือเพียงกลิ่นอายของฝ่าบาท กลิ่นอายของจิงเหยาซือนั้นได้หายไปแล้ว จิงเหยาซือตกตายไปแล้ว!"

กับคำพูดของหนานกงเซิ่งทำให้ทุกคนตื่นเต้นดีใจไปด้วย.

"ไปเถอะ ไปพบกับฟู่หวงกัน!"จงเทียนกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน.

"ไปเถอะ!"เห่าเม่ยลี่เองก็รู้สึกยอดเยี่ยมเช่นกัน.

ภายในโลกอมตะนั้นมีกรรมวาสนามากมายนับไม่ถ้วน จงซานที่นั่งสมาธิ พร้อมกับรวมรวมกรรมวาสนาเข้ามาภายในร่าง.

ขณะที่ทุกคนมาปรากฏตัวขึ้น จงซานก็ลืมตาขึ้นช้า ๆ .

"ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!"เหล่าข้าราชบริพารที่แสดงความเคารพอย่างสุดซึ้ง.

จงซานที่กวาดตามอง ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วกล่าวออกมาว่า "เนี่ยนโหยวโหยวล่ะ?"

เพราะในกลุ่มนั้น จงซานไม่เห็นเนี่ยนโหยวโหยวนั่นเอง.

"นางไปแล้ว!"จงเทียนที่ตอบคำถามออกมา.

"ไปแล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ต้องขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

"เมื่อนางรับรู้ว่าฟู่ห่วงล้มจิงเหยาซือได้ นางก็จากไป และได้ฝากคำพูดมาให้ฟู่หวงด้วย!"จงเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"หืม?"

"นางกล่าวว่านางได้กระทำเรื่องไม่ยุติธรรมกับฟู่หวง ไม่คู่ควรที่จะให้ฟู่หวงรัก! จากนั้นนางก็เปลี่ยนร่างเป็นทรายทองคำพร้อมกับสลายปลิวไปตามลม พวกเราเองก็ไม่รู้ว่านางกำลังไปทิศทางใด."

"ไปแล้วรึ? เฮ้อ!"จงซานที่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ .

จงซานรู้ดีว่า ก่อนหน้านี้เนี่ยนโหยวโหยวที่จ้องมองเขาปีนเขาเสี่ยงอันตราย เพื่อนาง ไม่สงสัยเลยว่าขณะที่เขามอบกุหลาบวาสนาให้กับนาง นางจึงแสดงท่าทางแปลก ๆ ออกมา.

จงซานที่ถอยหายใจเบา ๆ  เขาเองก็ไม่คิดจะขวางนางเช่นกัน ในเมื่อเป็นการตัดสินใจของนาง ถึงแม้ว่าจะตามไปตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์ที่จะดึงนางกลับมาได้.

นอกจากนี้จงซานยังรู้ดี เกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อเนี่ยนโหยวโหยว ไม่ได้ลึกซึ้งเท่าหวงโหวของเขา นางเป็นเพียงสหายที่ดี ความสัมพันธ์ของเขาเป็นเพียงแค่ความทรงจำในแดนฝัน ในฐานะสวีเซียนและไป๋ซูเจิ้น สามปีที่เป็นสามีภรรยา แม้นว่าจะลึกซึ้ง หากแต่ก็เป็นเรื่องซับซ้อนเกินจะเข้าใจ ทุกอย่างคงต้องปล่อยไปตามชะตาลิขิต.

"ฝ่าบาท ระดับสวรรค์แท้ของโลกอมตะที่หนีออกไป ถูกระดับราชันย์แท้ที่ซุ่มอยู่ของพวกเราสังหารไปหมดแล้ว มีเพียงไม่กี่คนที่หนีไปได้ ทว่าเส้าเหยี่ยเซียนเซียนก็นำระดับราชันย์แท้เข้ามาเข้าจู่โจมและรอคอยอยู่ ไม่มีทางที่พวกเขาจะหนีรอด!"หนี่ปู่ซากล่าว.

"อืม! นับจากวันนี้ โลกอมตะถูกกำจัดออกจากภพหยินเรียบร้อยแล้ว!"จงซานที่พยักหน้ารับ.

"ยินดีกับฝ่าบาทด้วย!"ทุกคนที่กล่าวออกมาในทันที.

"ฝ่าบาท พวกเราจะเก็บโลกอมตะไปหรือไม่?"หนานกงเซิ่งที่กล่าวสอบถาม.

โลกอมตะ? จงซานที่จ้องมองไปรอบ ๆ  ในอดีต สามราชวงศ์สวรรค์ที่เข้าล้อมแดนเทพพิสุทธิ์ เมื่อกำจัดทุกคนไปแล้ว ท้ายที่สุด กู่เฉิงตงก็เก็บแดนเทพพิสุทธิ์กลับไป ซึ่งมันถูกเรียกว่าแผ่นดินแม่.

"โลกอมตะนี้เป็นอย่างไร?"จงซานที่จ้องมองไปยังหนานกงเซิ่ง.

หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมา ส่ายหน้าไปมาแล้วก็กล่าวออกมาว่า "ไม่มีข้อมูลมากนัก เป็นเป็นโลกเขตแดนที่ไม่ธรรมดา!"

"ฝ่าบาท เฉินพอรู้!"หวังคูที่กล่าวออกมาทันที.

"หืม?"ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังหวังคูพร้อม ๆ กัน.

"เฉินได้ยินมาว่า โลกดินแดนนั้น เกิดจากการใช้"ลิขิต"หลอมรวมกับของวิเศษอย่างหนึ่ง!"หวังคูกล่าว.

"ของวิเศษอะไร? หลอมรวมกับลิขิตอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ดวงตาสั่นไหวไปมา.

"ขอรับ ของวิเศษนั้นไม่ตายตัว ข้าเคยเห็นมีคนใช้สมบัติโบราณ เพื่อสร้างโลกดินแดนขึ้นมาเช่นกัน หากแต่สิ่งสำคัญนั้นคือลิขิตก่อเกิด ที่จะหลอมเข้ากับของวิเศษ เพื่อสร้างโลกขึ้นมา ของวิเศษยิ่งมีคุณภาพสูง ก็จะทำให้โลกเขตแดนยิ่งใหญ่โออ่า รุ่งโรจน์ ยิ่งมีลิขิตต้นกำเนิดมากเท่าไหร่ โลกเขตแดนก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเท่านั้น ส่วนที่นี่จะเป็นของวิเศษอะไรนั้นข้าไม่สามารถบออกได้!"หวังคูส่ายหน้าไปมา.

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา ครุ่นคิด.

"จงเทียน รวบรวมกรรมวาสนาของโลกอมตะทั้งหมดมา!"จงซานออกคำสั่ง.

"ครับ!"

"ข้าจัดการกับจิงเหยาซือก่อนหน้านี้ ใช้พลังไปไม่น้อย หวังคู หนานกงเซิ่ง หนี่ปู่ซา พวกเจ้าทั้งสามรับผิดชอบในการเก็บโลกอมตะแห่งนี้ก็แล้วกัน."จงซานกล่าว.

"ครับ!"คนทั้งสามที่รับคำในทันที.

หลังจากนั้นจงเทียนที่รับหน้าที่ดูดซับกรรมวาสนาทั้งหมดมา จากนั้นทุกคนก็ถอยออกมาจากโลกอมตะ.

ทุกคนที่มาหยุดอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง ที่สามารถมองเห็นตำแหน่งของโลกอมตะได้.

เหลือเพียงสามยอดฝีมือที่รับหน้าที่ในการเก็บโลกอมตะ ทำให้ท้องฟ้าและผืนปฐพีสั่นไหวอย่างรุนแรง.

แม้แต่ยอดเขาที่ยังซานอยู่ยังส่ายไปมาราวกับจะล่มสลาย.

เห่าเม่ยลี่ที่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ "แผ่นดินไหวได้อย่างไร? หยุดสั่นเดี่ยวนี้!"

เสียงที่ขึงขังของนาง ท้องฟ้าที่สั่นไหวทันใดนั้นก็หยุดลง สงบลง.

จงซาน เซียนเซิงซือ จงเทียนและคนอื่นที่อ้าปากค้างจ้องมองไปยังเห่าเม่ยลี่ เกินจริงไปหรือไม่?

เห่าเม่ยลี่ที่แสดงท่าทางพึงพอใจ.

ด้วยการทำลายโลกอมตะ สังหารโจวเหยาซือ แก้แค้นให้อาจารย์ด้วยตัวนางเอง ทำให้เห่าเม่ยลี่อารมณ์ดีมาก.

จากนั้นไม่นาน สามยอดฝีมือก็สามารถเก็บโลกอมตะกลับมา โลกอมตะขนาดใหญ่เวลานี้ได้กลายเป็นบอลแสงกลุ่มหนึ่ง บอลแสงที่มีสีเหลืองทอง.

จงซานที่ยืนมือออกไปรับ โปรงใส ไม่มีน้ำหนักแม้แต่น้อย.

ลิขิต? นี่คือลิขิต? ภายในใจของจงซานที่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เทียนเสิ่นจื่อที่ยอมรับลิขิตหลอมเข้ากับร่างกาย จงซานจึงสงสัยเกี่ยวกับลิขิตเป็นอย่างมาก ในมือของเขานี้ได้ปรากฏกลุ่มก้อนของลิขิตอย่างงั้นรึ?

อย่างไรก็ตาม ช่างน่าเสียดาย ที่มันไม่ใช่ลิขิตของต้าเจิ้ง เขาจึงไม่ใช่เจ้าของลิขิตนี้.

ไว้กลับไปค่อยศึกษาอีกครั้ง.

"เดินทางกลับได้!"จงซานกล่าว.

"รับทราบ!"ทุกคนที่ตอบรับพร้อม ๆ กัน.

..........

กลับมายังทะเลดำ.

การต่อสู้เดิมพันรอบที่สอง ตี้เสวียนชาปะทะกวงเต้า ซึ่งตี้เสวียนชาก็แสดงพรสวรรค์ที่น่าอัศจรรย์ใจเช่นเดิม ใช้เพลงดาบของกวงเต้า เหมือนกับที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ จนทำให้ผู้คนมากมายหัวใจสั่นไหวด้วยความหวั่นเกรง.

ที่ชายฝั่งห่างออกมา เทียนเซียวจื่อก็ครุ่นคิดและเริ่มมั่นใจได้ในที่สุด.

"ภพหยาง ตี้เสวียนชา?"ดวงตาของเทียนเซียวจื่อที่หรี่เล็กหดเกร็ง.

ที่ฝั่งหนึ่งของทะเลดำ เย่ชิงเฉิงเองก็ครุ่นคิดถึงชายในชุดสีขาวนี้เช่นกัน คนผู้นี้ก็คือตี้เสวียนชา?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด