chapter 747 ต่อสู้กับจิงเหยาซือ.
"นี่มันค่ายกลอะไรกัน?"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมา แววตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ เพราะว่าค่ายกลดังกล่าวนี้เขาไม่เข้าใจได้ชัดเจนนัก ไม่เคยเห็นมาก่อน.
"ไม่รู้จักอย่างงั้นรึ? ชิ!"จิงเหยาซือที่เผยท่าทางเหยียดหยัน.
"แล้วมันคือะไรล่ะ?"
"นี่คือค่ายกลของโลกอมตะ ซือจิว พวกเจ้าไม่มีทางออกไปได้ เว้นแต่จะกลายเป็นศพ!"จิงเหยาซือที่กล่าวออกมาด้วยความอหังการ.
"ซือจิว?"หนานกงเซิ่งที่ขมวดคิ้วไปมา เห็นชัดเจนว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน.
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้นดวงตาของจงซานที่หดเกร็ง ซือจิวรึ? ทำไมถึงได้คล้ายคลึงกันนัก.
ทันใดนั้น ขณะที่จงซานคิดถึงเมื่อยังหนุ่ม ในโลกปุถุชนเคยมีบันทึกเกี่ยวกับตำนานต่าง ๆ เอาไว้ ซือจิว? มันถูกเรียกว่าซือจิวเหมือนกัน?
"หนานกงเซิ่ง!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"เฉินอยู่นี่แล้ว!"
สายตาของทุกคนที่จ้องมองมาเป็นสายตาเดียวกัน รับรู้ว่าจงซานกำลังจะสั่งการบางอย่าง แม้แต่จิงเหยาซือเวลานี้ยังอยากรู้เช่นกัน.
"ข้าจะชี้แนะบางอย่างต่อเจ้า จากนั้นให้หาช่องทางนำทุกคนออกไป!"จงซานกล่าว.
"รับทราบ!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวรับคำในทันที.
จิงเหยาซือที่จ้องมองจงซาน พร้อมกับขมวดคิ้วไปมา เขาจะกล่าวอะไร? มีอะไรให้เขากล่าวกัน ค่ายกลซือจิวของโลกอมตะนั้น เขารู้วิธีที่จะทะลวงอย่างงั้นรึ?
"ข้าได้ยินมาว่า ค่ายกล ซือจิวนั้น จำเป็นต้องให้ยอดฝีมือสิบคนเตรียมการถึงจะสมบูรณ์แยกออกเป็นสิบสวรรค์ แยกปฐพี วายุคลั่ง ทัณฑ์เหมันต์ แสงสีทอง หลอมโลหิต เพลิงกราดเกรี้ยว วิญญาณหลอน แม่น้ำแดง ทรายสีเลือด สิบอย่าง ไม่จำเป็นต้องใส่ใจทั้งหมด จำไว้แค่ว่าแสงสีทอง เพียงอย่างเดียวก็พอ แสงสีทองคือแก่นของชีวิต ซ่อนปราณฟ้าดินเอาไว้ มีกระจกวิเศษทั้งหมด 21 ชิ้น ในแต่ละชิ้นนั้น แขวนอยู่บนทิศที่แตกต่างกัน หากใครที่เป็นเซียนเข้าไป กระจกจะส่องแสงสีทอง และแสงสีทองดังกล่าวนั้นจะทำให้ค่ายกลไหลย้อน."จงซานที่กล่าวออกมาตามความทรงจำ.
จิงเหยาซือใบหน้าถึงกับเปลี่ยนเป็นซับซ้อนจ้องมองจงซานด้วยความประหลาดใจ.
ทุกคนที่จ้องมองจงซานด้วยความประหลาดใจ นี่ฝ่าบาทรู้จักอย่างงั้นรึ?
"เจ้าเป็นยอดฝีมือด้านค่ายกล! สิ่งที่ข้ากล่าวออกไปนั้น มีเพียงเจ้าที่จะสามารถพาทุกคนออกไปได้ ข้าจะถ่วงเวลาให้ รอข้าที่ด้านนอกโลกอมตะ!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"จงซาน เจ้าจะอยู่ที่นี่อย่างงั้นรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ไป ข้าไม่เป็นไร!"จงซานกล่าว.
"รับทราบ!"ทุกคนที่รับคำสั่งในทันที เนี่ยนโหยวโหยวที่ไม่ต้องการจากไป หากแต่เมื่อครุ่นคิดบางอย่างก็พยักหน้ารับ.
จิงเหยาซือที่จดจ้องมองจงซานเขม็ง ส่วนอีกกลุ่มหนานกงเซิ่งที่นำพาทุกคนออกไป เขาไม่ได้ใส่ใจนัก เขามั่นใจว่าคนเหล่านี้ไม่สามารถทะลวงค่ายกลนี้ได้.
พื้นที่รอบ ๆ ที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกสีทอง กลืนกลุ่มของหนานกงเซิ่งไปในทันทีจนไม่สามารถมองเห็นได้แล้ว.
"เจ้าคือจงซานอย่างงั้นรึ?"จิงเหยาซือที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"นี่เจ้าไม่สนใจความเป็นไปของโลกหล้าเลยรึอย่างไร?"จงซานที่สอบถามออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"ข้ารับผิดชอบในการปกป้องโลกอมตะ เรื่องอื่นข้าไม่สนใจ? จงซาน? ที่เจ้าให้พวกเขาจากไป หากแต่เจ้าคิดว่าตัวเองจะรอดจากเงื้อมมือข้าไปได้อย่างงั้นรึ?"จิงเหยาซือกล่าว.
"ว่าแต่เจ้ารู้จักค่ายกลซือจิวด้วยอย่างงั้นรึ?"จิงเหยาซือที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"โอ้ว มันคือค่ายกลซือจิวจริง ๆ สินะ?"จงซานที่กล่าวย้อน.
ฟังจากปากของจิงเหยาซือแล้ว จงซานพอจะค่ายการได้ว่า ค่ายกลกระบี่สังหารเซียนของชุดกระบี่ทั้งสี่ที่น่าเกรงขามไม่น้อย หากแต่พวกเขายังมีค่ายกลซือจิวอีก ดูเหมือนว่าอสุรกายชราที่ซ่อนตัวอยู่ในแดนเทพอมตะนั้น จะไม่ธรรมดาซะแล้ว จงซานที่รู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาทันที หากว่าเป็นไปตามตำนานของโลกมนุษย์ หลังจากนี้คงจะเจอเรื่องลำบากแล้ว.
จิงเหยาซือที่หรี่ตาจ้องมองจงซานแล้วกล่าวออกมา "ในเมื่อเจ้าไม่รู้ แล้วเจ้ากล่าวอะไรออกมากัน?"
เป็นความจริง! ภายในใจของจงซานที่รู้สึกจริงจังไม่น้อย.
"แน่นอนว่าข้าเคยได้ยินสหายเก่าที่เป็นคนของโลกอมตะเล่าให้ฟัง!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าภายในใจจะตึงเครียดไม่น้อย ทว่าสีหน้าของเขาก็ยังคงสุขุม.
"เป็นไปไม่ได้ นอกจากประมุข แล้วยังมีเต๋าจวินเซิ่งหยาที่รู้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะบอกเจ้า!"จิงเหยาซือที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่บอกข้า แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไร?"จงซานที่เผยยิ้มเล็กน้อย.
"แน่นอนว่าจะต้องเป็นคนที่รู้เรื่องราวของโลกใบใหญ่บอกเจ้า ก่อนหน้านี้เผ่าโครงกระดูกนั่น!"จิงเหยาซือที่กล่าวด้วยเสียงเย็นชา.
"เจ้าคิดว่างั้นรึ?"
"ตูมมมมมม!"
ทิศใต้ที่ไกลออกไปนั้นเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นขึ้นในทันที.
ใบหน้าของจิงเหยาซือถึงกับเปลี่ยนไป.
"เป็นไปได้อย่างไร? พวกเขาค้นพบจุดที่อ่อนแอที่สุดได้อย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของจิงเหยาซือที่กระตุกไปมา ร่างกายของเขาที่เคลื่อนที่พุ่งไปยังทิศทางดังกล่าวอย่างรวดเร็ว.
"วูซซซ!"จงซานที่เคลื่อนที่ไปดักหน้าจิงเหยาซือในทันที.
"แส่หาความตาย!"ฝ่ามือของจิงเหยาซือที่ฟาดตรงไปยังจงซาน.
ทว่าเวลาเดียวกันนั้น จิงเหยาซือที่รู้สึกถึงแรงกดดันพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่ปะทุขึ้นมา จิตสำนึกของเขาที่ถูกกดด้วยการจ้องมองของจงซาน ดวงตาคู่นั้นที่มีสีเขียว.
เนตรสังสารวัฏ เปิด!
จิงเหยาซือที่ถอยหลังออกมาทันที ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น.
สายตาของเขาที่จ้องมองจงซาน ด้วยท่าทางลังเลใจ เพราะว่าจิงเหยาซือไม่ได้รู้จักจงซานมากนัก ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร หากแต่แรงกดดันที่ปล่อยออกมานั้นทำให้เขาหวั่นเกรงไม่น้อย.
"พรึด!!"
ที่ไกลออกไปนั้น ที่ตำแหน่งของเจดีย์หมื่นบานกระจก ร่างกายอีกร่างหนึ่งของจิงเหยาซือที่พุ่งออกไป ตรงไปยังตำแหน่งที่หนานกงเซิ่งทะลวงออกไปนั่นเอง ทว่าออกไปยังไม่ถึงหนึ่งลี้ด้วยซ้ำ ร่าง ๆ ดังกล่าวก็ต้องถอยห่างออกมาทันที.
ร่างที่สองของจิงหย๋าซือที่จ้องมองด้านหน้าด้วยความประหลาดใจ จงซานได้ปรากฏร่างของจงซานด้านหน้าอีกร่าง.
อีกหนึ่งจงซาน? ร่างโคลนรึ?
จิงเหยาซือนับเป็นครั้งแรกที่เต็มไปด้วยความแปลกประหลาด ร่างโคลน นี่เป็นร่างโคลน ในโลกใบเล็กนี้จะมีคนอื่นที่เหมือนเขาอยู่อีกรึ?
ทว่า หากจะมีใครที่มีร่างโคลนเหมือนข้า จะต้องเป็นเผ่าจิง?
ไม่ไกลออกไป เจดีย์หมื่นบานกระจกได้ปลดปล่อยแสงออกมา อีกสิบร่างของจิงเหยาซือก็พุ่งออกมาเช่นกัน พุ่งตรงไปยังตำแหน่งที่หนานกงเซิ่งที่ทะลวงออกไปอีกครั้ง.
"พรึบ!!"
สิบร่างดังกล่าวนั้นก็ต้องถอยห่างด้วยความหวาดหวั่นขึ้นมาเช่นกัน.
เพราะว่าที่ด้านหน้าของเขานั้น ปรากฏจงซานอีกสิบร่างขึ้นมาเช่นกัน.
"นอกจากนี้ กับสิบร่างของจงซาน ความเร็วนั่น จะเป็นไปได้อย่างไร? เขาเป็นใครกัน?
"เจ้าเป็นใครกัน?"จิงเหยาซือที่กล่าวออกมาด้วยความหวั่นเกรง.
"ข้าก็คือข้า!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ร่างโคลนรึ? ข้าคิดว่าเจ้าสามารถสร้างร่างโคลนได้หลายร่าง!"จิงเหยาซือที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางหวั่นเกรงไม่น้อย.
จากนั้นจากภายในเจดีย์หมื่นบานกระจก ก็ปรากฏจิงเหยาซือ ที่มากมายหลายร่างกว่า 300 ทั้งหมด361 ร่างก็ถูกปล่อยออกมา เป็นอะไรที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก ในเวลานี้เขาไม่สามารถลังเลใจได้.
ในเวลาเดียวกัน ร่างโคลนของจงซานก็เพิ่มขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน.
หนึ่งต่อหนึ่ง มาก มากมายขนาดนี้เลยรึ?
"นี่เจ้าเป็นใครกัน?"จิงเหยาซือที่ตื่นตกใจกล่าวออกมาอีกครั้ง.
"เจ้าเป็นใครกัน?"
"เผ่าจิง? เจ้าเป็นคนเผ่าจิงอย่างงั้นรึ? จะมาจับข้ารึ?"จิงเหยาซือทันใดนั้นก็ปรากฏความหวาดกลัวขึ้นมา.
จงซานที่ได้ยินคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของจิงเหยาซือ ก็วิเคราะห์อย่างรวดเร็ว.
"เจ้าเป็นคนทรยศของเผ่าจิง พวกเราหาเจ้ามานานแล้ว ท้ายที่สุดก็มาพบเจ้าที่นี่นั่นเอง!"จงซานที่กล่าวออกมาเสียงดังแฝงด้วยจิตสังหาร.
"ข้าไม่ใช่คนทรยศ ข้าไม่ใช่!"จิงเหยาซือทันใดนั้นก็หวาดกลัวอย่างที่สุดตัวสั่นขึ้นมา.
ร่างทั้ง 361 ร่างที่หนีไปทุกทิศทุกทาง.
ร่างแยกของจงซาน ที่ไล่ตามไม่ลดล่ะ พร้อมทั้งตะโกนไล่ "เจ้าคนทรยศ!"
ยิ่งไล่ จิงเหยาซือก็ยิ่งหวาดกลัว.
จงซานหากต่อสู้กับจิงเหยาซือตรง ๆ รับรองว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่ ทว่าจงซานกับโชคดีพบกับจุดอ่อนในจิตใจของจิงเหยาซือโดยบังเอิญ กับคำพูดที่ทิ่มแทงใจนั้น ทำให้จิงเหยาซือหวาดกลัวจนเสียสติ ในเวลานี้ขอแค่ถ่วงเวลาเอาไว้ก็เพียงพอแล้ว.
ในเวลานี้ จิงเหยาซือที่หวาดกลัวจนลืมแม้แต่ควบคุมค่ายกล จงซานที่ถ่วงเวลาให้กับหนานกงเซิ่ง ตราบเท่าถ่วงเวลาได้พอ พวกเขาย่อมหนีออกไปจากค่ายกลนี้ได้แน่ จงซานที่พยายามที่จะไล่ตามจิงเหยาซือไป.
"ข้าไม่ใช่คนทรยศ!"
"เจ้ามันคนทรยศ!"
ทุก ๆ ร่างของจงซานที่ไล่ตาม ไม่ปล่อยเวลาให้จิงเหยาซือได้ครุ่นคิดแม่แต่น้อย เขาไม่มีทางปล่อยให้จิงเหยาซือใจเย็นลงได้อย่างแน่นอน.
จงซานรู้ดีว่านี้คือจุดอ่อนอย่างที่สุดของจิงเหยาซือ ก็เหมือนกับเขาในอดีตที่เรื่องขอกุยเอ๋อเพียงแค่เอ่ยออกมา ก็ทำให้เขาแทบบ้าคลั่งแล้ว.
"ตูมมมมมมมมมม!"
ทันใดนั้นที่ไกลออกไปนั้นเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ท้องฟ้าผืนปฐพีที่สั่นไหวไปมาอย่างหนักหน่วงรุนแรง.
การระเบิดในครั้งนี้ ทำให้จิงเหยาซือได้สติขึ้นมา ก่อนที่จะจ้องมองไปยังจงซาน.
"เจ้าไม่มีทางเป็นเผ่าจิง!"จิงเหยาซือที่ยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงหวาด ๆ อยู่เช่นเดิม.
อย่างไรก็ตามในเวลานี้จงซานไม่จำเป็นต้องใส่ใจแต่อย่างใด เพราะจงซานรับรู้แล้วว่า หนานกงเซิ่งพาคนอื่น ๆ จากไปแล้ว.
"ตูมมมมมมมมมมมมม!"
ที่ไกลออกไปนั้น เป็นเจดีย์หมื่นกระจกที่ระเบิดเสียงดังสนั่น เป็นจงซานอีกร่างที่โจมตีไปยังเจดีย์ดังกล่าว หากแต่คาดไม่ถึงเลยว่าเจดีย์หมื่นกระจกนั้นจะทรงพลังเป็นอย่างมาก.
ดวงตาของจิงเหยาซือที่เปลี่ยนเป็นจริงจัง ร่างของเขาที่พุ่งตรงไปยังตำแหน่งของเจดีย์หมื่นกระจกในทันที.
ร่างโคลนจงซานที่ออกมาขวางในทันที.
"แส่หาความตาย!"จิงเหยาซือที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ไม่สนใจจงซานแม้แต่น้อย ฟาดฝ่ามือออกไปอย่างรุนแรง.
หากแต่ในเวลานี้ จงซานไม่ได้ใช้เนตรสังสารวัฏออกมา ทว่าร่างของเขาที่ถอยหลบฝ่ามืออย่างรวดเร็ว และระหว่างทางเองก็ปรากฏจงซานอีกร่างผลัดเปลี่ยนออกมาขวางทางเรื่อย ๆ .
จงซานนั้นไม่ใช้เนตรสังสารวัฏ เพราะว่ามันไม่สามารถทำได้.
361 จิงเหยาซือ ร่างโคลนมากมายทั้ง 361 แม้นว่าจะใช้พยายามอย่างหนัก เปิดหลุมสังสารวัฏออกมาออกมามากมายขนาดนั้นคงได้ไม่ถึงครึ่ง ร่างโคลนก็สลายหายไปแล้ว นับว่าพลังที่ต้องใช้นั้นมากจนเกินไป แม้นหากใช้ได้ก็ไม่เพียงพอที่จะกำจัดจิงเหยาซือทั้ง 361 ร่างได้อยู่ดี ร่างแยกเงาของเขาที่เคลื่อนไหวหลบหลีกขวางทาง ซ่อนตัวแล้วหลบพร้อมเปลี่ยนตัวไปเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว.
ความเร็วของจิงเหยาซือนับว่าไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ .
ร่างแยกเงาหลายร้อยร่างของจงซาน ที่หลบเลี่ยงขวางทางจิงเหยาซือย่างรวดเร็ว ทำให้จิงเหยาซือกำลังร้อนรน.
ทว่าร่างหลักจงซานที่ยืนอยู่ด้านหน้าเจดีย์หมื่นกระจก จดจ้องด้วยความสนใจ เขาจะต้องทำลายมัน เพื่อลดกำลังของจิงเหยาซือ หากแต่ก่อนหน้านี้ฝ่ามือของเขาที่โจมตีออกไป ดูเหมือนว่าจะมีพลังที่แปลกประหลาดคอยปกป้องเจดีย์หมื่นกระจก ทำให้มันสะท้อนพลังฝ่ามือของจงซานออกมาได้.
"เป็นสมบัติชั้นยอด? มาดูซิว่าจะสะท้อนพลังหลุมสังสารวัฏหรือไม่!"ดวงตาของจงซานที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา.
ทันใดนั้นหลุมสังสารวัฏก็เปิดออกพอดีกับขนาดของเจดีย์หมื่นบานกระจกที่มีขนาดใหญ่.
พลังอำนาจการดูดที่มากมายมหาศาล กำลังสูบเจดีย์หมื่นบานกระจกไป แสงสีน้ำเงินที่อยู่รอบ ๆ เจดีย์กำลังถูกหลุมสังสารวัฏดูดซับเข้าไปในทันทีด้วยเช่นกัน.