ตอนที่แล้วChapter 744 เต๋าจวินกวาเหมี่ยน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 746 เผ่าจิง(เผ่ากระจก)

Chapter 745 นี่ไม่ใช่ความเร็วของมนุษย์


กับการหลบดาบพร้อมกับเด็ดกุหลาบ จงซานที่ทำได้อย่างง่ายดาย.

จากนั้นเป็นฝ่ามือของเต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่ฟาดตรงมาอย่างดุร้าย ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยอำนาจแห่งความตาย พุ่งตรงไปยังร่างของจงซาน จงซานที่ประคองกุหลาบอย่างระมัดระวัง เยาะเย้ยเต๋าจวินกวาเหมี่ยนด้วยรอยยิ้ม.

พริบตาเดียว ร่างของจงซานก็หายไปในทันทีเหมือนเดิม.

เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่ดวงตาหดเกร็งฝ่ามือกระแทกความว่างเปล่า หายไปในพริบตาเดียวรึ? เป็นไปได้อย่างไร?

เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่ฟาดฝ่ามือออกไปนั้น ยังไม่มีเวลาถอนฝ่ามือกลับด้วยซ้ำ พริบตาเดียวที่ร่างจงซานหายไป ที่ด้านหลังของเขาก็ปรากฏร่าง ๆ หนึ่งขึ้น.

"ตูมมมมมมมมม!"

ฝ่ามือของจงซานที่ฟาดเข้าที่กลางหลังเต๋าจวินกวาเหมี่ยน ด้วยพลังความรุนแรงเสียงดังสนั่นหวั่นไหว.

"พุ!!"

เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่พ่นโลหิตคำโต พร้อมกับกระเด็นกระแทกพื้นของเทือกเขาศักดิสิทธิ์.

"ครืนนนนนนน!"

แผ่นดินที่แยกออกจากกัน จากนั้นเขาก็ลอยขึ้นมาอย่างรวดเร็วขณะที่อยู่ไม่ห่างจากจงซาน จดจ้องมองจงซานด้วยความหวั่นเกรง.

เร็วมาก การเคลื่อนที่ของจงซานนั้นเร็วเกินไปแล้ว เต๋าจวินกวาเหมี่ยนแม้เขาจะมีระดับสวรรค์แท้เช่นกัน คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของจงซานได้? พริบตาเดียวเขาก็หายไปแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปปรากฏตัวที่ใหนอีก.

เรื่องนี้ เป็นไปได้อย่างไร? จะเร็วขนาดนั้นได้อย่างไร?

ความเร็วนี้ ระดับสวรรค์แท้เช่นเต๋าจวินกวาเหมี่ยนไม่สามารถตามได้ทัน ไม่ใช่ความเร็วของมนุษย์อย่างงั้นรึ?

ความเร็ว? ความเร็วร่างแยกเงานั้นเกินกว่าธรรมดา ปกติก็ก้าวข้ามไปอีกอาณาจักรไปแล้ว ไม่มีใครสามารถเทียบได้! ยิ่งหลังจากก้าวมาถึงระดับสวรรค์แท้ ในโลกใบนี้คนที่ตามความเร็วของจงซานได้นั้นมีน้อยมาก ๆ .

"เจ้า จงซาน? เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?"เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.

จงซานไม่มีเวลาสนใจคำพูดของเต๋าจวินกวาเหมี่ยน เขาไม่จำเป็นต้องพูดคุยกับคนที่กำลังจะตาย.

จงซานที่ตวัดมือ นำกระบี่ยาวออกมา กระบี่นิรันดร์.

เห็นจงซานนำกระบี่อออกมา เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่ขนทั่วร่างลุกชัน อากาศที่หนาวเย็นกัดกินไปทั่วร่าง สัญชาตญาณที่บอกเขาให้หนี.

"สว๊วบ!!"

กระบี่ที่ทะลวงเข้ามาด้านหลัง โลหิตที่พุ่งกระฉูดออกมาการโจมตีที่ไม่สามารถรับรู้ได้ ลอบโจมตีเต๋าจวินกวาเหมี่ยนในทันทีทันใด.

กระบี่จงซานอย่างงั้นรึ? เป็นกระบี่ของจงซานอยางงั้นรึ?

เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่จ้องมองไปยังด้านหน้า หากแต่จงซานหายไปใหนไม่รู้.

เร็วมาก ความเร็วจงซานเร็วเกินไปแล้ว เห็นแค่เพียงภาพติดตาเท่านั้น ความเร็วที่เขาไม่สามารถมองเห็นมันด้วยตาเปล่า ยังไม่รู้สึกด้วยซ้ำก็ถูกทะลวงร่างไปแล้ว.

หัวใจของเต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่เย็นยะเยือบ ความเร็วนี้ บางทีคงมีแค่ท่านประมุขเท่าที่ใช้ความเร็วเต็มที่เท่านั้นถึงจะตามทัน.

เร็วเกินไปแล้ว!

"ซี่!!!"

จงซานไม่ให้เวลากับเต๋าจวินกวาเหมี่ยนแม้แต่น้อย กระบี่ของเขาเคลื่อนที่เร็วมาก กับความเร็วที่น่าสะพรึงนี้ เต๋าจวินกวาเหมี่ยนไม่สามารถตามทัน ไม่ถึงเสี้ยวลมหายใจก็ทะลวงร่างเขาไปแล้ว.

เป็นความเร็วของมือสังหาร ที่รวดเร็วจนไม่สามารถตามทัน สายตาของเขายังไม่สามารถมองเห็นได้เลยแม้แต่น้อย.

หากแต่ด้วยสัญชาตญาณของเขาที่หลบได้อย่างฉิวเฉียดทำให้หลบจุดตายได้ ทว่าแม้นจะหลบจุดตายได้ หากแต่เต๋าจวินกวาเหมี่ยนก็ได้รับบาดเจ็บอาบไปด้วยโลหิตเช่นเดิม.

เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้เขาไม่สามารถต่อกรกับฝ่ายตรงข้ามได้แน่ กับความเร็วเช่นนี้ มีแต่รอให้กระบี่ทิ่มแทงจนเขาจนตายเท่านั้น.

อีกอย่าง เต๋าจวินกวาเหมี่ยนไม่มีทางหนีพ้นแน่ ด้วยความเร็วของจงซานนั้นมากกว่าเขาหลายเท่า พริบตาเดียวก็ไล่ทันแล้ว.

"อ๊าก ๆ  ๆ  ๆ !"

เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่คำรามออกมาเสียงดัง มือข้างหนึ่งที่กุมรอยกระบี่ที่จงซานทะลวงเอาไว้.

"วูซซซซ!"

รอบ ๆ เทือกเขาศักดิ์สิทธิแห่งนี้ ทันใดนั้นก็ส่องประกายแสงหลากสีออกมา เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่ควบคุมการทำงานของค่ายกลอีกครั้ง ต้องการที่จะสังหารเขาด้วยค่ายกล.

ทว่าอำนาจของค่ายกลนั้นกับไม่ส่งผลต่อจงซานแม้แต่น้อย ร่างแยกเงาจงซานนั้นอำนาจของค่ายกลที่ผ่านร่างจงซานราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับร่างของจงซานเป็นเพียงแค่สายลมที่พัดผ่านเข้ามา เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่โคจรควบคุม สร้างอำนาจบดขยี้ร่างกายของจงซาน เพื่อบดขยี้ร่างของจงซานให้แหลกไป.

หากแต่ไม่ว่าจะใช้ค่ายกลอะไรก็ตามกลับไม่ส่งผลจงซานแม้แต่น้อย เต๋าจวินกวาเหมี่ยนเวลานี้พบว่าเขาจะต้องตกตายอย่างไม่ต้องสงสัย.

ไม่สงสัยเลยว่าท่านประมุขจะหวาดหวั่นให้ความสนใจกับจงซานเป็นอย่างมาก.

น่าหวาดกลัว ไม่ เขายังเป็นสิ่งมีชีวิตอยู่อีกรึ? เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่รู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นและก็มากขึ้น.

คาดไม่ถึง พลังค่ายกลใด ๆ ไร้ผล? ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?

"เคลื่อนขุนเขา!"เต่าจวินกวาหมินที่ใช้วิชาลับออกมาอีกครั้ง.

ในเวลานี้ เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่หมดสิ้นหนทาง ถึงแม้นเทือกเขาแห่งนี้จะล่มสลาย เขาจะตายไปคนเดียวไม่ได้.

"ครืนนนนนนน!"

เทือกเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ที่ล่มสลายลงผสานเข้ากับพื้นดินส่งผลให้แผ่นดินไหวดั่งสนั่น.

ทว่าในเวลาเดียวกั้นนั้น บนพื้นดินที่เคยเป็นเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏป้อมปราการกลีบดอกบัว 36 กลีบขึ้น แสงสีทองที่สว่างจ้า ส่องแสงขึ้นมาจากบนพื้น.

เทือกเขาที่ถูกดึงลงไปบนพื้น พร้อมกับปรากฏปราการกลีบดอกบัวขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นมารอบ ๆ ในทันที ดูเหมือนว่าเขาจะมอบพลังของเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ไปยังปราการดอกบัวทั้งหมด.

เต๋าจวินกวงเหมี่ยนที่กำลังพยายามทุกวิถีทาง.

แสงสีทองจากดอกบัวยักษ์ ทุก ๆ ดอกที่ส่องแสงสีทองสว่างเจ้า.

แสงสว่างจ้าที่ปกคลุมไปทุกหนทุกแห่ง คลุมร่างของจงซานไปด้วย.

"ผสาน!"

เสียงของเต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่ดังก้อง ดอกบัวทั้ง 36 กลีบที่หุบเข้าหากัน ปิดผืนฟ้าและเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เมื่อกลีบดอกบัวปิดหมด จากนั้นก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง.

"ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!"

เกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น พลังอำนาจที่หนักหน่วงรุนแรง แยกผืนฟ้าและปฐพีออกจากกัน.

ป้อมปราการดอกบัวทั้ง 36 กลีบได้หายไปหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง พลังเคลื่อนภูเขา มอบพลังให้กับกลีบบัว พร้อมกับให้เกิดระเบิดใหญ่ เพื่อสร้างเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์อันใหม่ขึ้น.

เทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกใหม่ที่ถูกหลอมขึ้นใหม่นี้ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก ส่วนเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกเดิมนั้นถูกฝั่งอยู่ด้านล่าง พังทลายสลายกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว.

จงซานหายไปแล้ว.

"ไม่!!!!!!!!!!!!"

ที่ไกลออกไปนั้นเนี่ยนโหยวโหยวที่ร้องลั่นพร้อมกับพุ่งตรงไปยังเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ใหม่ในทันที.

เคลื่อนขุนเขาศักดิ์สิทธิ์นั้น ไม่ใช่ค่ายกล หากแต่เป็นพลังโจมตีทางกายภาพ ตามเรื่องบอกเล่านั้น เป็นการกลบฝังระดับสวรรค์แท้ทั้งที่ยังมีชีวิต จงซานถูกฝังไปทั้งที่ยังมีชีวิตอย่างงั้นรึ?

คิดได้ดังนี้ เนี่ยนโหยวโหยว ราวกับหัวใจเปิดเป็นแผล พุ่งตรงไปอย่างบ้าคลั่ง.

ขณะที่บินไปนั้น ใบหน้าของนางที่เจ็บปวดร้องโหยหวน "ข้าไม่ต้องการกุหลาบ ข้าไม่ต้องการกุหลาบแล้ว ข้าไม่ต้องการมัน ข้าไม่ต้องการมันอีกแล้ว........ฮือ ๆ  ๆ  ๆ !"

"ครืนนนนนนนน!"

อำนาจวิเศษที่ปะทุขึ้น ปกคลุมเทือกเขาดังกล่าวอีกครั้งเป็นค่ายกลหลากสี ทำให้ไม่สามารถมองเห็นด้านในได้อีกครั้ง.

เนี่ยนโหยวโหยวแม้ในใจจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หากแต่ก็ยังบินไปอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาที่ไหลไม่หยุด.

"โครม!"

เนี่ยนโหยวโหยวที่บินไปชนอะไรบางอย่าง เป็นอ้อมกอดของจงซานนั่นเอง.

"จงซาน เจ้าไม่เป็นไรรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่เห็นจงซาน ทันใดนั้นก็รู้สึกประหลาดใจพร้อมกับกอดจงซานแน่น.

ใบหน้าของนางที่ตื่นกลัว ทั้งดีใจประหลาดใจ และยังหวาดผวาน้ำตาที่เป็นคราบเต็มทั้งสองแก้ม เนี่ยนโหยวโหยวที่ได้รับการสั่งสอนจากนวีชิงเฮวย ให้เก็บอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ หากแต่เวลานี้กลับแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ใบหน้าของนางที่ราวกับว่าไม่สามารถเก็บมันเอาไว้ได้เลยแม้แต่น้อย.

"ข้าจะเป็นอะไรได้อย่างไร!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

เนี่ยนโหยวโหยวยังคงกอดจงซานแน่น ราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปใหน.

มือขวาของจงซานที่ยกขึ้น พร้อมกับส่งกุหลาบให้กับเนี่ยนโหยวโหยว.

"ข้าได้ใช้เวลาเกินร้อยปี และยังไม่ครบ 3000 ชนิด จนถึงวันนี้ได้เพียงแค่ 2997 ชนิดเท่านั้น ยังคงเหลืออีกสามแบบข้าจะต้องหามันมาให้เจ้าแน่นอน!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่อ่อนโยน.

ได้ยินคำพูดของจงซาน เนี่ยนโหยวโหยวที่คลายร่างของจงซาน จ้องมองกุหลาบในมือเขา ใบหน้าที่แสดงท่าทางซับซ้อนเปี่ยมด้วยอารมณ์ความรู้สึก.

ขณะที่จงซานสงสัย เนี่ยนโหยวโหยวกัดริมฝีปาก ดวงตาที่มีน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด.

จงซานที่ส่งมอบกุหลาบให้กับนาง เนี่ยนโหยวโหยวที่รับมาด้วยท่าทางเหม่อลอย จากนั้นก็จ้องมองจงซานด้วยความซับซ้อน สายตาที่สั่นไหวไปมา มีทั้งความสุข ความตื่นเต้นและสำนึกผิดไปพร้อม ๆ กัน.

"เป็นอะไรไปรึ?"จงซานที่สอบถามออกมา.

เนี่ยนโหยวโหยวที่ส่ายหน้าไปมา ไม่ยินดีที่จะกล่าว ก่อนที่จะยื่นมือรับดอกกุหลาบมา พร้อมกับจับจ้องมองจงซาน ไม่มีใครรู้ว่านางคิดอะไรอยู่.

จงซานในเวลานี้ไม่รู้เช่นกันว่าขณะที่จัดการเต๋าจวินกวาเหมี่ยนไป สถานที่ดังกล่าว ไม่รู้ว่าเปลี่ยนเป็นสถานที่อื่นได้อย่างไร.

"ไปเถอะ ไปที่อื่นพร้อมกับข้าเถอะ!"จงซานกล่าว.

"อืม!"เนี่ยนโหยวโหยวที่พยักหน้า กลายเป็นสงบปากสงบคำ.

จงซานได้นำเนี่ยนโหยวโหยวไปยังเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ  ที่แรกเป็นสถานที่ที่เซียนเซิงซือกำลังปิดล้อมซึ่งกำลังได้เปรียบอยู่เช่นกัน จงซานจึงไม่ได้สนใจที่และบินตรงไปยังเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์อื่น.

จงซานไปหยุดยังสถานที่แห่งหนึ่ง จดจ้องมองไปยังเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้น ท้องฟ้าที่ดำมืด ปราณหยินที่กระจายไปทุกทิศทุกทาง พื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยฝุ่นไอพิษขนาดขนาดเล็ก ละอองพิษเหล่านั้นมีพลังทำลายที่รุนแรงมาก กัดกร่อน เป็นอำนาจคำสาปนั่นเอง เป็นภัยพิบัติที่น่าหวาดกลัวนัก.

ทว่าคำสาปเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะอยู่ในการควบคุม เป็นเห่าเม่ยลี่ที่อยู่ท่ามกลางคำสาป ผู้ฝึกตนมากมายที่ไม่สามารถทำอะไรได้ร่วงหล่นลงไปกองกับพื้น ร่างกายกำลังเปื่อยยุ่ย น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก.

ที่อยู่ใกล้ ๆ เห่าเม่ยลี่นั้นมีภูตสวรรค์อยู่ และที่อยู่ตรงข้ามออกไปมีชายผู้หนึ่ง โจวเหยาซือ.

"เห่าเม่ยลี่? เจ้าแข็งแกร่งขึ้นมาก ไม่ถึงสามปี คาดไม่ถึงเลยว่าคำสาปของเจ้าจะแข็งแกร่งขนาดนี้? นี่เจ้าได้รับสืบทอดจากสำหนักเหวิน? เจ้าได้ศึกษาวิชาตกทอดของสำหนักเหวินแล้วรึ?"โจวเหยาซือที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตกใจ.

"ข้าเก่งขึ้นรึ? ข้าจะต้องทำให้เจ้าตายเหมือนหมา ข้าจะแก้แค้นแทนอาจารย์ ทว่า เจ้าตอนนี้กลับอ่อนแอเกินไป นี่คือเพลิงคำสาปของเจ้ารึ? ทำไมมันถึงไม่ได้ทรงพลังเหมือนเมื่อสามปีที่แล้ว? ข้ารู้นะ แน่นอนว่าในครั้งนั้นเจ้ามีของวิเศษหายากอยู่ ตอนนี้ในตัวเจ้าไม่มีมันแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ชีวิตเจ้าจบแล้ว!"เห่าเม่ยลี่ที่หัวเราะออกมาด้วยความดุร้าย.

"ที่นี่ก็ไม่จำเป็นต้องช่วย ไปเถอะ พวกเราจะไปที่ถัดไป!"จงซานที่พาเนี่ยนโหยวโหยวบินตรงไปอีกครั้ง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด