ตอนที่แล้วChapter 743 สองสายโลหิตเซียน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 745 นี่ไม่ใช่ความเร็วของมนุษย์

Chapter 744 เต๋าจวินกวาเหมี่ยน


ชายผมม่วงที่จดจำจงซานได้ในทันที ความอิจฉาก่อนหน้านี้หายไป ร่างกายที่รู้สึกเย็นยะเยือบ หวาดเกรงความตายขึ้นมา สิ่งที่คิดได้ในตอนนี้คือหนี!

ทว่าต่อหน้าจงซานเวลานี้ เขาจะหนีได้อย่างงั้นรึ?

"วูซซซซ!"

ปราณพลังที่จับจ้อง แรงกดดันวิญญาณมหาศาลที่ปลดปล่อยออกมาสะกดเขาเอาไว้ ระดับสวรรค์แท้การจะจัดการระดับราชันย์แท้ เป็นเรื่องง่ายดายเป็นอย่างมาก.

ชายผมม่วงในเวลานี้ไม่สามารถขยับได้.

"อยากให้ข้าจัดการเขาอย่างไร?"จงซานที่กล่าวต่อเนี่ยนโหยวโหยว.

จงซานที่รักษาบาดแผลที่คอของนาง ก่อนที่จะใช้มือประทับไปที่หน้าผากของเนี่ยนโหยวโหยว มือของเขาที่ส่องประกายแสงสว่าง อำนาจวิเศษที่ผนึกพลังของนางก็ถูกคลายออกมา ส่วนเนี่ยนโหยวโหยวเวลานี้ยังคงจับจ้องมองจงซานเขม็ง.

จวบจนจงซานสอบถามออกมา นางที่สะอื้นเล็กน้อย.

"ข้ากำลังฝันอยู่ใช่ไหม?"เนี่ยนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาเสียงสั่น.

"เสี่ยวชิงอยู่กับเจ้าตั้งหลายปี เจ้าควรจะรับรู้ว่านี่คือความฝันหรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงอ่อนโยน.

"มันไม่ใช่ความฝัน ไม่ใช่ความฝัน ข้ารู้ว่ามันไม่ใช่ความฝัน!"ที่มุมดวงตาของเนี่ยนโหยวโหยวที่มีน้ำตาแห่งความดีใจไหลออกมาไม่หยุด.

"คนผู้นี้ ให้ข้าจัดการอย่างไร?"จงซานที่สอบถามอีกครั้ง.

ในเวลานี้ แม้นว่าไม่อยากออกจากอ้อมกอดของจงซาน ทว่ากลับคำถามของเขา ทำให้นางค่อย ๆ พยุงร่างพร้อมกับก้าวไปยังชายผมม่วง มือของนางที่ทำมุทรา คว้าไปยังเหรียญตราสีขาวดึงออกมาจากชายคนดังกล่าว.

ชายผมม่วงที่เวลานี้แววตาที่สั่นไหว เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุด.

ดวงตาของเนี่ยนโหยวโหยวที่จ้องมองเขาอย่างเย็นชา ลูกตาสีดำกลายเป็นสีทองในทันที.

ใบหน้าของชายผมม่วงที่เปลี่ยนเป็นขาวซีด หากแต่ตอนนี้เขาไม่สามารถขยับได้เลย.

"ฟิ้ว!"

พริบตาเดียวเท่านั้น เพียงแค่พริบตาเดียว ชายผมม่วงก็กลายเป็นรูปปั้นทองคำ เมื่อพลังวิเศษของเนี่ยนโหยวโหยวฟื้นฟูกลับมา พลังเนตรของนางย่อมทรงพลังเป็นธรรมดา.

ด้วยความรวดเร็ว ชายผมม่วงก็กลายเป็นรูปปั้นทองคำไปแล้ว.

ระดับราชันย์แท้ ถูกสังหารอย่างรวดเร็ว พลังเนตรของเนี่ยนโหยวโหยวนั้นร้ายกาจเป็นอย่างมาก.

"มันคืออะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเหรียญตาในมือของเนี่ยนโหยวโหยว.

"มันก็คือเหรียญตราที่ใช้เข้ามาในคุกเทวะนิรันดร์แห่งนี้ เจ้าไม่มีหรอกรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่กล่าวสอบถามด้วยความสงสัย.

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย หากแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.

"ไปเถอะ พวกเราออกไปดีกว่า!"จงซานที่กล่าวออกมาทันที.

"อืม!"เนี่ยนโหยวโหยวพยักหน้า.

คนทั้งสองออกมาจากที่คุมขัง ด้านนอกเหล่าผู้คุ้มกันที่ร่วงหล่นลงไปนอนบนพื้นหมดแล้ว เห็นชัดเจนว่าถูกจงซานจัดการไปหมดแล้ว.

เมื่อออกมาเหรียญตาสีขาวนั้นก็ส่องประกายแสงสีขาวออกมาปกคลุมเนี่ยนโหยวโหยวเอาไว้.

"เจ้าล่ะ?"เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวออกมาด้วยความกังวล.

"ไม่จำเป็น!"จงซานเผยยิ้มให้ ก่อนที่จะพาเนี่ยนโหยวโหยวบินออกมาจากด้านในนอกในทันที.

เนี่ยนโหยวโหยวที่ไม่เห็นจงซานมีเหรียญตรา ภายในใจของนางที่เต็มไปด้วยความกังวล เพราะว่านางนั้นรับรู้ได้ถึงพลังของค่ายกลคุกเทวะนิรันดร์แห่งนี้ดี ถึงจะเป็นระดับสวรรค์แท้ก็ไม่สามารถผ่านค่ายกลนี้ได้ และมันยังมีอำนาจวิเศษที่มีพลังหลายพันปีปกคลุมเอาไว้ เหรียญตราที่มีนั้น สามารถที่จะปกป้องอำนาจวิเศษที่น่าเกรงขามนั่นได้ ทว่าจงซานจะทำอย่างไร?

"วูซซซซ!"

จงซานที่พาเนี่ยนโหยวโหยวออกมาด้านนอก.

ตอนแรกที่เต็มไปด้วยความกังวล จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ ท้ายที่สุดนางที่จ้องมองจงซานด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ เป็นไปได้อย่างไร?

แม้แต่มีเหรียญตรา เมื่อผ่านค่ายกล อำนาจวิเศษของมันยังทำให้มิติอากาศผันผวนเป็นระลอกคลื่น ทว่าจงซานเมื่อผ่านค่ายกล กับไม่มีคลื่นความผันผวนของอำนาจวิเศษแม้แต่เล็กน้อย นี่ค่ายกลไม่พบตัวจงซานอย่างงั้นรึ? เป็นไปได้อย่างไร? จะเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?

ผ่านไปไม่นานนัก คนทั้งสองก็ออกมาจากเขตคุกเทวะนิรันดร์ได้.

คนทั้งสองมาหยุดอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป.

"จงซาน เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?แล้วเข้ามาได้อย่างไร?"เนี่ยนโหยวโหยวที่เต็มไปด้วยความสงสัย.

"ข้าจะทำลายโลกอมตะ!"จงซานที่กล่าวออกมา.

"ทำลาย? ทำลายโลกอมตะรึ? จะเป็นไปได้อย่างไร? ทำลาย.........!"ขณะที่เนี่ยนโหยวโหยวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงบางอย่างจึงหยุดลง.

เพราะว่าบนยอดเขาแห่งนี้ ขณะที่จ้องมองไปยังเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ .

แต่ละยอดเขาเวลานี้ บนพื้นและผืนฟ้าเต็มไปด้วยเจียงซือ เจียงซือมากมายที่เข้ากัดผู้คนอย่างบ้าคลั่ง และบุกกระหน่ำเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์.

การต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรงระหว่างคนและเจียงซือ ทำให้โลหิตกำลังพรมกระจายไปทั่วท้องฟ้า เหล่าศพมากมายนับไม่ถ้วน ร่างกายที่ถูกสะบั้นให้ขาดเป็นชิ้น ๆ  เป็นภาพฉากที่น่าหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก.

เหล่าอาวุโสของโลกอมตะหลายแห่งที่เข้าต่อสู้.

ร่างของพวกเขาที่เต็มไปด้วยปราณทมิฬ หลาย ๆ คนที่ไม่สามารถทนได้.

"ภูตสวรรค์?"เนี่ยนโหยวโหยวที่ตื่นตระหนกตกใจ.

"ตอนนี้เชื่อรึยัง?"จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

ได้ยินคำพูดของจงซานเนี่ยนโหยวโหยวที่มึนงง ก่อนจะค่อย ๆ มองจงซาน ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ.

"รอข้าอยู่ที่นี่ อย่าไปใหน แล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า!"จงซานกล่าว.

"หืม? อืม!"แม้ว่าเนี่ยนโหยวโหยวจะเต็มไปด้วยความสงสัย หากแต่ก็พยักหน้ารับ.

ร่างของจงซานหายไปอย่างรวดเร็ว พุ่งตรงไปยังทิศทานของคุกเทวะนิรันดร์อีกครั้ง.

เห็นการเคลื่อนไหวของจงซานแล้ว เนี่ยนโหยวโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา สายตางงงวย.

จงซานเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เร็วมาก พริบตราเดียวเท่านั้น ก็กลับเข้าไปในคุกเทวะนิรันดรแล้ว จงซานที่วิ่งผ่านค่ายกลอย่างรวดเร็ว.

ด้วยร่างแยกเงานั้น ค่ายกลไม่ส่งผลต่อร่างของจงซานแม้แต่น้อย.

ลึกเข้าไปด้านใน จงซานที่ไร้ซึ่งลังเล พุ่งตรงขึ้นไปยังยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว พุ่งตรงไปยังประกายแสงสีเหลืองทองของกรรมวาสนา ที่รวมตัวกันกลายเป็นกุหลาบกรรมวาสนา.

"ฮือฮือ!"

จากที่ไกลออกไป เนี่ยนโหยวโหยวที่มองเห็นจงซาน รับรู้ว่าจงซานกำลังพุ่งตรงไปยังกุหลาบ เนี่ยนโหยวโหยวที่ตื่นตกใจ มือทั้งสองข้างกุมปากของนางเอาไว้ อารมณ์มากมายที่ทำให้นางสะอึกสะอื้นออกมา.

กุหลาบ?

"เจ้าต้องการให้ข้ามอบอะไรให้เจ้ารึ?

"ดอกไม้ ข้าชอบกุหลาบ ใต้สวรรค์แห่งนี้ข้าต้องการกุหลาบ 3000 ดอก และต้องเป็นคนละชนิดกันด้วยเจ้าต้องเก็บมันมาให้ข้า และทุกครั้งที่มอบมันให้กับข้า เจ้าจะต้องบอกรักข้าด้วย ว่าอย่างไร?"

"นานเท่าไหร่?"

"หนึ่งร้อยปีเจ้าต้องทำให้สำเร็จ."

"ตกลง!"

ความทรงจำในอดีตที่ฝังในหัวใจ เขายังจำได้อีกรึ? เขายังจำได้? น้ำตาของนางที่ไหลออกมาในทันที น้ำตาที่ไหลบ่าอาบแก้ม ความดีใจมากมายที่ท่วมท้นจนไม่สามารถที่จะกล่าวอะไรออกมา.

นางที่ทั้งร้องไห้และยิ้มออกมา อารมณ์มากมายด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน.

แต่แล้วทันใดนั้น รอยยิ้มของเนี่ยนโหยวโหยวก็หยุดลงในทันที น้ำตาหยุดไหล แววตาที่เปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวในทันที ดอกไม้นั่น กุหลาบนั่น? กุหลาบกรรมวาสนา? ยังมีเต๋าจวินอยู่หนึ่งคน ระดับสวรรค์แท้หนึ่งคนที่อยู่ที่นั่น ยังมีอีกคน เต๋าจวินกวาเมี่ยน.

ทำอย่างไร? ทำอย่างไรดี?

เนี่ยนโหยวโหยวที่เปลี่ยนเป็นตกอกตกใจ ร่างกายสั่นเทิ้ม แม้แต่ต้องการพุ่งออกไป ทว่าทันใดนั้นก็คิดถึงคำพูดของจงซาน อย่าไปใหน ไม่ให้นางไปใหนอย่างงั้นรึ?

ในเวลาเดียวกันนั้น เนี่ยนโหยวโหยวที่คิดถึงความแข็งแกร่งของจงซาน นางที่ไม่สามารถเทียบได้เลย ระดับสวรรค์แท้ เขามีระดับสวรรค์แท้ ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถช่วยนางได้.

ที่ไกลออกไปนั้น ขณะที่จงซานกำลังปีนขึ้นสู่ยอดเขายอดเขาแล้ว เพื่อตรงไปยอดตำหนัก.

"เปรี้ยง!!!"

ท้องฟ้าที่ดังสนั่น ท้องฟ้าในคราแรกที่ดำมืด ปรากฏทักษะเทียนของใครบางคนขึ้นมาทันที ทักษะเทียนที่ทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีเทาเหมือนเถ้ากระดูก ปราณแห่งความตายที่หนักหน่วง.

"เจ้าโจรร้ายช่างโอหังนัก กล้าบุกเข้ามาในโลกอมตะของข้า!"ท้องฟ้าที่ดังกระหึ่ม.

เห็นได้ชัดเจนว่าขณะที่จงซานปีนขึ้นมาบนยอดเขานั้น เป็นเหตุให้ถูกจับตาจากยอดฝีมือคนหนึ่ง.

ความเร็วของจงซานนั้นสม่ำเสมอพร้อมกับหลบอย่างรวดเร็ว.

"สารเลว!!!"

เสียงคำรามที่ดังกระหึ่ม ค่ายกลที่กำลังโคจร เพิ่มพลังแข็งแกร่ง พื้นที่รอบ ๆ ค่ายกลที่เปลี่ยนสี ปลดปล่อยพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ออกมา มากมายไร้ที่สิ้นสุด.

แน่นอนว่า ไม่ส่งผลต่อจงซานแม้แต่น้อย ร่างแยกเงาที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย เขายังคงเคลื่อนที่ไปยังยอดเขาเช่นเดิม.

ที่บนตำหนักนั้น มีชายในชุดสีเทายืนอยู่.

ใบหน้าของชายคนดังกล่าวที่ดูตายด้าน ที่ตำแหน่งตาซ้ายนั้นเป็นไฝขนาดใหญ่สีแดงโลหิต พร้อมกับกระสีแดงเต็มหน้า ดูอัปลักษณ์อย่างที่สุด ขณะที่กำลังกระตุ้นพลังของค่ายกลอยู่  ดวงตาเของเขายังคงจับจ้องจงซาน ขณะที่ควบคุมค่ายกลจากทุกทิศทุกทางเพื่อบดขยี้จงซาน.

เขาผู้นี้คือเจ้าตำหนักเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เต๋าจวินกวาเหมี่ยน.

ระหว่างที่จงซานปีนขึ้นยอดเขา ก็จ้องมองไปยังเต๋าจวินกวาเหมี่ยน.

เห็นใบหน้าของเขา จงซานที่พูดไม่ออก.

"ไม่สงสัยว่ามีนามว่าเต๋าจวินกวาเหมี่ยน(ผู้โดดเดี่ยว) ใบหน้าเช่นนี้ ก็สมแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

ไม่ต้องบอกเลยว่าเป็นระดับสวรรค์แท้ที่อัปลักษณ์ที่สุด ถึงจะเป็นอาวุโสเทียนยังไม่อัปลักษณ์ขนาดนี้ หากอาวุโสเทียนเทียบกับคนผู้นี้กลายเป็นคนหล่อเหลาขึ้นมาทันตาเลย.

เพราะว่าคำพูดของจงซานที่ดูแคลน เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ชั่วชีวิตของเขานั้นเกลียดที่สุดที่มีคนมาดูแคลนหน้าตาของเขา คน ๆ นี้ไม่เพียงบุกรุกโลกอมตะ ยังดูแคลนเขาอีก เขาจะทนได้อย่างไร?

แต่คาดไม่ถึงเลยว่าค่ายกลจะไม่ส่งผลต่อคนผู้นี้อย่างงั้นรึ? เต๋าจวินกวาเหมี่ยน จะไม่สงสัยเลยหากว่าเขามีเหรียญตาผ่านทาง.

เขาที่สะบัดมืออีกหนึ่งครั้ง ทันใดนั้นก็ปรากฏตาข่ายขนาดใหญ่ ปกคลุมผืนฟ้าพร้อมกับคลุมร่างของจงซาน.

"ฟิ้ว!!"

จงซานที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าสามารถรอดช่องตาข่ายได้.

"เป็นไปได้อย่างไร?"เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่ตื่นตกใจ.

ทว่าเวลาเดียวกันนั้น จงซานก็มาถึงยอดเขาแล้ว พร้อมกับพุ่งตรงไปยังตำแหน่งของดอกกุหลาบ.

สถานที่ดังกล่าวก็คือตำแหน่งของกุหลาบกรรมวาสนานั่นเอง ก่อนที่เขาจะยื่นมือออกไปคว้ากุหลาบ.

ที่ไกลออกไปนั้น เนี่ยนโหยวโหยวที่จ้องมองด้วยท่าทางร้อนใจ.

"สารเลว เอามือสกปรกของเจ้าออกไป!"เต๋าจวินกวาเหมี่ยนที่โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.

ร่างกายของเขาที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพุ่งตรงไปยังตำแหน่งของจงซาน พร้อมกับปรากฏดาบสีดำขนาดใหญ่โต ฟันออกไปยังตำแหน่งของจงซาน.

ปราณดาบขนาดใหญ่โต ที่ทำให้อากาศบิดเบี้ยวเป็นระลอกคลื่น.

จงซานที่ค่อย ๆ เก็บดอกกุหลาบ อย่างระมัดระหวัง แม้ว่าปราณดาบของเต๋าจวินหวาเหมี่ยนจะพุ่งมาก หากแต่จงซานกับไม่กระวนกระวายใจแม้แต่น้อย หากแต่จากนั้นร่างของเขากับบิดหลบปราณดาบได้อย่างแปลกประหลาด.

การหลบดังกล่าวนั้นทำให้เต๋าจวินกวาเหมี่ยนแทบขยี้ดวงตาไม่อยากเชื่อ การเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดนั้น เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก กับการบิดเบี้ยวและหายไป ได้ทำลายล้างเหตุผลทุกอย่างไปแล้ว!

แต่กระนั้นเต๋าจวินกวาเหมี่ยนก็ไม่มีเวลาให้ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ฝ่ามือของเขาที่ฟาดตรงไปยังร่างของจงซานต่อทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด