ตอนที่แล้วchapter 741 เชี่ยวชาญในความสามารถของคนอื่น.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 743 สองสายโลหิตเซียน.

Chapter 742 บุกโจมตีโลกอมตะ.


เมืองแห่งหนึ่ง ภพหยินภาคใต้.

อาวุโสเทียนสตรีของภพหยินที่นั่งสมาธิอยู่ ที่นิ้วนั้นมีเส้นใยสีทองแปดเส้นเชื่อมต่ออยู่ เส้นใยสีทองที่สานกันไปมาบนอากาศ กระจายไปทั้งแปดทิศ มีทั้งบนอากาศและพื้นที่ไม่สามารถจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนนัก.

ทันใดนั้น เส้นใยสีทองนั้นก็กระตุกไปมา อาวุโสเทียนสตรีที่ลืมตาขึ้นทันที พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

และในเวลาเดียวกันนี้ บนป้อมปราการของต้าเจิ้ง อาวุโสเทียนชายที่ยืนอยู่บนประตู ซึ่งเป็นอาวุโสเทียนชายที่ลงมาจากภพหยางนั้นเอง จดจ้องมองไปยังยอดเขาที่อยู่ไกลออกไปที่พังทลายลง.

ที่ด้านข้างนั้นเป็นอี้เหยี่ยน.

"อาวุโสเทียน เป็นอย่างไรบ้าง?"อี้เหยี่ยนที่ส่ายหน้าไปมา.

"เป็นความจริง หากเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถบอกได้ นี่คือวิชาลับตั้งแต่โบราณของตระกูลเทียน ทว่าตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วนี่คือ ค่ายกลม่านไหมสวรรค์แปดทิศ เป็นวิชาตกทอดของผู้ฝึกตนฮวงจุ้ย คาดไม่ถึงเลยว่าภพหยินจะเรียนรู้วิชานี้ได้ลึกล้ำกว่าภพหยาง.

"ทำลายได้ใช่ไหม?"อี้เหยี่ยนสอบถาม.

"ค่ายกลม่านไหมสวรรค์แปดทิศนั้น แน่นอนว่าตอนนี้ข้าสามารถทำลายมันได้ รวมทั้งยังสามารถใช้รูปแบบที่แตกต่างอีกสามรูปแบบในการทะลวงได้ด้วย."อาวุโสเทียนกล่าว.

"หืม? เช่นนั้นโปรดอธิบายต่อข้าให้ฟังอย่างละเอียดจะได้หรือไม่?"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.

......

ภพหยิน ทิศตะวันตกเฉียงใต้ สถานที่แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยป่าไม้มากมาย.

สถานที่แห่งนี้ เห่าเม่ยลี่เคยมาก่อนนั่นเอง แดนเทวะโลกอมตะ.

ด้วยอาคมคำสาป "เพลิงแค้นปลายสวรรค์"ของเห่าเม่ยลี่ก่อนหน้านี้ได้ทำลายภูเขาไปมากมาย ในเวลานี้กลับฟื้นคืนกลับมาเรียบร้อยแล้ว คำสาปของเห่าเม่ยลี่นั้นรุนแรงมาก พืชพรรณมากมายที่ตกตายแห้งเหี่ยว พื้นที่รอบ ๆ ถึงกับกลายเป็นทุ่งร้างเลยทีเดียว.

พื้นที่รอบ ๆ นั้นเต็มไปด้วยค่ายกลมากมาย และยังมีผู้ฝึกตนคอยเฝ้าอย่างหนาแน่น.

ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง.

"พบแล้วรึ?"จงซานสอบถาม.

"อืม ไม่ว่าสภาพภูมิประเทศจะเปลี่ยนไปอย่างไร ภูเขาจะถูกทำลายไปจนสิ้น หากแต่เส้นโลหิตมังกรก็ไม่เคยเปลี่ยน ข้าได้เตรียมการเอาไว้แล้ว สามารถเริ่มได้ในทันที!"หนี่ปู่ซากล่าว.

"อืม!"จงซานพยักหน้า คนอื่นเองก็ด้วยเช่นกัน.

ดวงตาของหนี่ปู่ซาที่จดจ้อง ที่ฝ่ามือของเขาปรากฏบอลแสงสีขาว ก่อนที่จะปล่อยมันลงไปบนพื้น.

"ครืนนนนนนน!"

พื้นที่รอบ ๆ กำลังสั่นสะท้าน ยอดเขาที่เดี่ยวยุบเดี่ยวผุด ไปมาเป็นระลอกคลื่น สร้างความวุ่นวายขึ้นมาในทันที.

"เฮ้! เกิดอะไรขึ้นกัน?"

"แผ่นดินไหวรึ?"

"เทือกเขากำลังเคลื่อนไหว?"

"ไม่ได้การแล้ว เร็วเข้า รีบไปแจ้งอาวุโส เร็ว!"

เหล่าผู้คุ้มกันด้านนอกไม่สามารถอยู่ได้ ตอนนี้พวกเขาที่ตื่นตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก.

"ตูมมมมมมมมม!"

จากพื้นที่ไกลออกไป เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น สายตาของทุกคนตอนนี้ถึงกับหันไปพร้อม ๆ กันด้วยความตะลึง.

เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ก็ปรากฏภูเขาขนาดใหญ่โตผุดขึ้นมาจากแผ่นดิน ภูเขาที่มีขนาดใหญ่มากทันทีที่ผุดขึ้นมาก็ระเบิดพังทลายไปในทันที..

"นั่นมันอะไรกัน?"

"เทือกเขานั่นมาจากใหนกัน?"

"บนนั้นยังมีสิ่งก่อสร้างมากมายด้วย!"

ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ใจกลางตำหนัก โลกอมตะนั้น ก็ปรากฏคนผู้หนึ่งออกมา.

สตรีผู้หนึ่ง ออกมาจากโลกอมตะ ดูจากสถานะแล้วไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ขณะที่นางออกมา ก็กวาดตามองไปยังพื้นที่รอบ ๆ แผ่นดินที่สั่นไหวอย่างรุนแรง ทว่าที่ไกลออกไปนั้น มีภูเขาลูกหนึ่งที่ล่มสลายลง.

เมื่อเห็นภูเขาที่พังทลายลงนั้น ใบหน้าของสตรีคนดังกล่าวถึงกับเปลี่ยนเป็นขาวซีด.

"เส้นทางหยินหยางล่มสลาย? ไม่ได้การ มีศัตรูบุกเข้ามา!"สตรีคนดังกล่าวที่ตื่นตกใจขึ้นมา.

"อาวุโส!"เหล่าผู้ฝึกตนหลายคนที่บินตรงมาอย่างรวดเร็ว.

"ไปเร็วเข้า รีบเข้าไปในโลกอมตะ แจ้งต่อเหล่าอาวุโส รวมทั้งไท่ซ่างจางเหล่าด้วย มีโจรบุกเข้ามา ไป เร็วเข้า!"สตรีคนดังกล่าวที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.

"ครับ!"พวกเขาที่เร่งรีบบินเข้าไปในโลกอมตะในทันที.

"โจร? เจ้าบอกว่าข้าเป็นโจรอย่างงั้นรึ?"ทันใดนั้นที่บนอากาศก็ปรากฏหญิงสาวผู้หนึ่งขึ้นมาในทันที.

สตรีคนดังกล่าวที่หันหน้ากลับไปมอง.

"เห่าเม่ยลี่?"

"เปรี้ยง!!!"

สตรีคนดังกล่าวที่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ทักษะเทียนของสตรีดังกล่าวปรากฏออกมาปกป้องอำนาจคำสาปในทันที.

ทว่าในเวลานั้น ท้องฟ้ากลับมืดครึ้ม ปรากฏดวงจันทราส่องสว่าง ดวงดาราที่เริ่มเปล่งปรากฏออกมาเต็มท้องฟ้า พร้อมกับสาดแสงส่องสว่างจ้าลงบนพื้น.

ดวงดาราที่ส่องประกายแสง 361 ดวง ส่องประกายแสงวับวาวพร้อมกับสานกันไปมาเป็นตาข่ายปิดกั้นท้องฟ้าทั้งหมดเอาไว้ กักขังทุกอย่างเอาไว้ได้อย่างสิ้นเชิง แม้แต่สายลมก็ไม่สามารถพัดเข้ามาได้.

"ค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลว?"อาวุโสสตรีคนดังกล่าวที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.

อาวุโสสตรีคนดังกล่าวต้องการถอยจากไป.

"ปัง!!"

ตำหนักของโลกอมตะ ค่ายกลที่ปกคลุมทันใดนั้นก็ระเบิดเสียงดัง ปรากฏทางเข้าขนาดใหญ่ขึ้น ทางเข้าที่ส่องประกายแสงสีทองส่องออกมา.

อาวุโสสตรีคนดังกล่าวที่ขยับเล็กน้อย.

"ปัง!"

อาวุโสสตรีที่ใช้วิชาลับ โลหิตที่พุ่งออกมาคำโต ก่อนที่จะปรากฏเป็นช่องว่างมิติขึ้น ร่างกายของนางที่พุ่งผ่านช่องว่างดังกล่าว หลบเข้าไปในโลกอมตะอย่างรวดเร็ว.

"บุก!"จงซานที่ออกคำสั่งในทันที.

เห่าเม่ยลี่ หยินโหลวหรี่และคนอื่น ๆ ที่พุ่งตรงตามจงซานเข้าไปในโลกอมตะในทันที.

ที่ด้านนอกผู้ควบคุมค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลวนั้นก็คือหนานกงเซิ่งนั่นเอง.

การปะทะกันของค่ายกลรอบแรก ทำให้ตำหนักต่างและผู้ฝึกตนมากมายที่เฝ้าประตูตกตายไปในทันที.

ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ด้านหน้าทางเข้าโลกอมตะก็ปรากฏชายในชุดสีน้ำเงินขึ้นในทันที.

"จงซาน? เป็นจงซานรึ? ไม่ใช่ว่าเขาและท่านประมุขเดินทางไปต่อสู้เดิมพันกันที่ทะเลดำหรอกรึ?แผนการ? นี่เป็นแผนการใหญ่ ต้องไปแจ้งท่านประมุข ไม่ ข้าจะต้องไปไปแจ้งอาวุโสของราชวงศ์หวู่ซือ แล้วให้พวกเขาเร่งรีบไปแจ้งท่านประมุข"ชายในชุดสีน้ำเงินที่กล่าวออกมาด้วยความหวาดหวั่น.

"ฉัวะ!"

ทันใดนั้นกระบี่ที่แหลมคมสีม่วงก็ทะลวงชายหน้าอายชุดน้ำเงิน พร้อมกับตวัดกวัดแกว่ง ผ่าร่างของชายคนดังกล่าวเป็นสองส่วน ตัดผ่านทั้งร่างและวิญญาณในทันที ชายในชุดน้ำเงินที่ร่างกายล้มลงไปกองบนพื้น ที่ด้านหลังปรากฏคน ๆ หนึ่ง ผู้บัญชาการองค์รักษ์เงาหยิงเหว่ยของต้าเจิ้ง อันหวงนั่นเอง!

อันหวงที่ได้รับคำสั่งจากจงซานให้คอยเก็บกวาดลับ ๆ  แม้นว่าต้าเจิ้งจะมีเหล่ายอดฝีมือคนสำคัญหลายคน ทว่าต้องรับรู้ด้วยว่าจะต้องมีบางคนที่หลุดรอดหลบออกมาจากพื้นที่ลับตา หรือซ่อนตัวอยู่ แม้นว่าจะเข้าล้อมล้อมโลกอมตะจะเป็นความลับ แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีใครหลุดรอดจากสายตาพวกเขาได้.

โลกอมตะนั้น มี 11 เทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ มีตำหนักแต่ละตำหนักตั้งอยู่บนยอดเขาแต่ละยอดเขาเขาพร้อมกับล้อมวนพื้นที่ตรงกลาง.

ภายในสิบเอ็ดตำหนัก จะมีผู้ดูแลรับผิดชอบในแต่ละเขตที่แตกต่างกัน.

และหนึ่งในนั้น หนึ่งเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์หนึ่งตำหนักสถานที่ที่มีปราณหยินที่พิเศษและหนักหน่วง เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญควบคุมเหล่าอาชญากรคนสำคัญ ซึ่งมีชื่อว่า คุกเทวะนิรันดร์.

บนเทือกเขาดังกล่าวนี้มีดอกบัวมากมายบานสะพรั่ง หนึ่งดอกของมัน ก็คือหนึ่งกงที่คุมขังนักโทษหนึ่งคน.

บนท้องฟ้าของคุกเทวะนิรันดร์เปิดโล่งหากแต่ท้องฟ้ากับมืดมิดอย่างที่สุด ความมืดที่อึมครึมพาให้หัวใจแห้งเหี่ยว ความกดดันที่ทำให้แทบไม่สามารถหายใจได้สะดวก.

ในเวลานี้ บนดอกบัวดอกหนึ่งได้ปรากฏตัวร่าง ๆ หนึ่งขึ้น จงซานในชุดที่ดูองอาจสีดำ.

จงซานที่กวาดตามองคุกเทวะนิรันดร์.

"นับเป็นค่ายกลที่ยอดเยี่ยม!"จงซานที่เผยยิ้มเย็นชา.

รอบ ๆ คุกเทวะนิรันดร์นั้น มีค่ายกลมากมายปกคลุมไปหมด ราวกับว่าเป็นป้อมปราการที่ไม่สามารถทะลวงได้.

มีป้อมปราการที่เป็นดอกบัวขนาดใหญ่อยู่จำนวน 36 แห่งล้อมรอบ ที่ใจกลางนั้นก็คือยอดของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกนี้.

จงซานที่กวาดตามองทั้งภูเขา บนภูเขาศักดิสิทธิ์แห่งนี้ มีตำหนักแห่งเดียวที่อยู่ตรงกลาง เป็นตำหนักที่มียอดเขาแหลม ที่ปลายของตำหนักมีกรรมวาสนามากมายอัดแน่นอยู่ และเติบโตขึ้นมาเป็นดอกไม้ดอกหนึ่งที่งดงามอย่างคาดไม่ถึง!

กุหลาบกรรมวาสนา? กุหลาบดังกล่าวนั่นส่องประกายแสงเรื่อ ๆ งดงามออกมา ไม่ว่าใครเห็นก็ล้วนแล้วแต่ประทับใจทั้งนั้น.

"เป็นดอกกุหลาบหรอกรึ?"ที่มุมปากของจงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

จากนั้น จงกวานที่ดวงตาหรี่เล็ก เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย และเริ่มศึกษาป้อมปราการดอกบัวทั้ง 36 ในทันที.

คุกเทวะนิรันดร์ ป้อมปราการแห่งหนึ่ง ที่ด้านในนั้นเป็นคนที่จงซานต้องการช่วยชีวิตอยู่.

ป้อมปราการดอกบัวแห่งหนึ่ง.

พื้นที่รอบ ๆ นั้นเต็มไปด้วยความมืดมิด รอบ ๆ เป็นหาดโครงกระดูก ทำให้รู้สึกอ้างว้างน่าหวาดกลัว ที่มุมหนึ่งมีกองของโครงกระดูกที่กองรวมกัน และมีสตรีที่งดงามคนหนึ่งนั่งอยู่.

เนี่ยโหยวโหยวในชุดสีทอง สภาพที่ดูอิดโรย ผมของนางที่มีฝุ่นปกคลุม ร่างกายพิงอยู่บนกำแพง แววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง.

ที่ด้านหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวเวลานี้ มีชายผมสีม่วงอยู่ เป็นคนหนึ่งที่ทะเลหมอกเฉินฝู ที่แย่งชิงตำราปฐพีในครั้งนั้น เขาที่รับหน้าที่ควบคุมค่ายกลฮวงจุ้ย และเป็นผู้ทำให้แผนการของโลกอมตะล่มในครั้งนั้นนั่นเอง.

"ศิษย์น้อง ผนึกของท่านประมุข เจ้าไม่มีวันที่จะคลายได้ การที่อำนาจวิเศษของเจ้าไม่สามารถฟื้นฟูได้ ต่อหน้าข้า เจ้าก็ไม่ต่างจากมดปลวก!"ชายผมม่วงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ชิ เจ้ามันเนื้อร้ายของโลกมตะ ถูกจองจำในคุกเทวะนิรันดร์ร้อยปี คาดไม่ถึงเลยว่าจะยังอยู่รอดปลอดภัย!"เนี่ยนโหยวโหยวที่แค่นเสียงเย็นชา.

"ฮ่าฮ่าอ่า ข้ามันคนพิเศษ ที่นี่ปู่ซูของข้าเป็นประมุขของเทือกเขาแห่งนี้ ตราบเท่าที่ข้าไม่ออกไปจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ก็ไม่มีใครควบคุมข้าได้."ชายผมม่วงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"หน้าไม่อายใช้บารมีของเต๋าจวินซูอย่างงั้นรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ดังนั้น ข้าจึงเข้ามาที่นี่ได้อย่างไงล่ะ เป็นอย่างไร? ตราบเท่าที่เจ้ายอมรับเป็นคู่บำเพ็ญของข้า เพื่อเจ้าข้าจะให้ปู่ซูคลายผนึกให้เจ้าเป็นอย่างไร?"ชายผมม่วงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย.

"คลายผนึกให้ข้ารึ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าไม่กล้า!"เนี่ยนโหยวโหยวที่แค่นเสียงเย็นชา.

"ไม่กล้ารึ? ฮ่าฮ่าฮ่า บางทีชะตาของเจ้า เมื่อไหร่ที่ท่านประมุขสังหารจงซานและกลับมาจากทะเลดำ นำเทพอสูรบรรพชนกลับมา ชีวิตของเจ้าก็จบแล้ว หากว่าเจ้ายอมเป็นคู่บำเพ็ญของข้า ข้าจะขอร้องท่านปู่ซูขอความปราณีกับเจ้าก็ได้!"ชายผมม่วงที่กล่าวออกไปเกี่ยวกับกับดักที่พวกเขาวางไว้.

"เจ้าพูดอะไร? ใครจะถูกฆ่ากัน?"ใบหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวที่เปลี่ยนเป็นขาวซีด.

"เจ้าไม่รู้? ก็ดีแล้ว เจ้าถูกคุมขังที่นี่คงจะไม่รู้สินะ ว่าจงซานและประมุขนั้นได้เดิมพันการต่อสู้ที่ทะเลดำ ตัดสินเพื่อแย่งชิงเทพอสูรบรรพชนและอนุสาวรีย์อมตะ?"ชายผมม่วงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"จงซาน? จงซาน.....!"ใบหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวที่เปลี่ยนเป็นลุกลี้ลุกลน.

"ข้าจะบอกก็ได้ หากว่าเจ้า....!"ชายผมม่วงยังคงกล่าวต่อ.

ใบหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวที่เปลี่ยนไปเป็นเย็นชา "ไสหัวไปให้พ้น เจ้าอย่ามาใกล้ข้า!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด