Chapter 742 บุกโจมตีโลกอมตะ.
เมืองแห่งหนึ่ง ภพหยินภาคใต้.
อาวุโสเทียนสตรีของภพหยินที่นั่งสมาธิอยู่ ที่นิ้วนั้นมีเส้นใยสีทองแปดเส้นเชื่อมต่ออยู่ เส้นใยสีทองที่สานกันไปมาบนอากาศ กระจายไปทั้งแปดทิศ มีทั้งบนอากาศและพื้นที่ไม่สามารถจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนนัก.
ทันใดนั้น เส้นใยสีทองนั้นก็กระตุกไปมา อาวุโสเทียนสตรีที่ลืมตาขึ้นทันที พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
และในเวลาเดียวกันนี้ บนป้อมปราการของต้าเจิ้ง อาวุโสเทียนชายที่ยืนอยู่บนประตู ซึ่งเป็นอาวุโสเทียนชายที่ลงมาจากภพหยางนั้นเอง จดจ้องมองไปยังยอดเขาที่อยู่ไกลออกไปที่พังทลายลง.
ที่ด้านข้างนั้นเป็นอี้เหยี่ยน.
"อาวุโสเทียน เป็นอย่างไรบ้าง?"อี้เหยี่ยนที่ส่ายหน้าไปมา.
"เป็นความจริง หากเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถบอกได้ นี่คือวิชาลับตั้งแต่โบราณของตระกูลเทียน ทว่าตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วนี่คือ ค่ายกลม่านไหมสวรรค์แปดทิศ เป็นวิชาตกทอดของผู้ฝึกตนฮวงจุ้ย คาดไม่ถึงเลยว่าภพหยินจะเรียนรู้วิชานี้ได้ลึกล้ำกว่าภพหยาง.
"ทำลายได้ใช่ไหม?"อี้เหยี่ยนสอบถาม.
"ค่ายกลม่านไหมสวรรค์แปดทิศนั้น แน่นอนว่าตอนนี้ข้าสามารถทำลายมันได้ รวมทั้งยังสามารถใช้รูปแบบที่แตกต่างอีกสามรูปแบบในการทะลวงได้ด้วย."อาวุโสเทียนกล่าว.
"หืม? เช่นนั้นโปรดอธิบายต่อข้าให้ฟังอย่างละเอียดจะได้หรือไม่?"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.
......
ภพหยิน ทิศตะวันตกเฉียงใต้ สถานที่แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยป่าไม้มากมาย.
สถานที่แห่งนี้ เห่าเม่ยลี่เคยมาก่อนนั่นเอง แดนเทวะโลกอมตะ.
ด้วยอาคมคำสาป "เพลิงแค้นปลายสวรรค์"ของเห่าเม่ยลี่ก่อนหน้านี้ได้ทำลายภูเขาไปมากมาย ในเวลานี้กลับฟื้นคืนกลับมาเรียบร้อยแล้ว คำสาปของเห่าเม่ยลี่นั้นรุนแรงมาก พืชพรรณมากมายที่ตกตายแห้งเหี่ยว พื้นที่รอบ ๆ ถึงกับกลายเป็นทุ่งร้างเลยทีเดียว.
พื้นที่รอบ ๆ นั้นเต็มไปด้วยค่ายกลมากมาย และยังมีผู้ฝึกตนคอยเฝ้าอย่างหนาแน่น.
ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง.
"พบแล้วรึ?"จงซานสอบถาม.
"อืม ไม่ว่าสภาพภูมิประเทศจะเปลี่ยนไปอย่างไร ภูเขาจะถูกทำลายไปจนสิ้น หากแต่เส้นโลหิตมังกรก็ไม่เคยเปลี่ยน ข้าได้เตรียมการเอาไว้แล้ว สามารถเริ่มได้ในทันที!"หนี่ปู่ซากล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้า คนอื่นเองก็ด้วยเช่นกัน.
ดวงตาของหนี่ปู่ซาที่จดจ้อง ที่ฝ่ามือของเขาปรากฏบอลแสงสีขาว ก่อนที่จะปล่อยมันลงไปบนพื้น.
"ครืนนนนนนน!"
พื้นที่รอบ ๆ กำลังสั่นสะท้าน ยอดเขาที่เดี่ยวยุบเดี่ยวผุด ไปมาเป็นระลอกคลื่น สร้างความวุ่นวายขึ้นมาในทันที.
"เฮ้! เกิดอะไรขึ้นกัน?"
"แผ่นดินไหวรึ?"
"เทือกเขากำลังเคลื่อนไหว?"
"ไม่ได้การแล้ว เร็วเข้า รีบไปแจ้งอาวุโส เร็ว!"
เหล่าผู้คุ้มกันด้านนอกไม่สามารถอยู่ได้ ตอนนี้พวกเขาที่ตื่นตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก.
"ตูมมมมมมมมม!"
จากพื้นที่ไกลออกไป เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น สายตาของทุกคนตอนนี้ถึงกับหันไปพร้อม ๆ กันด้วยความตะลึง.
เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ก็ปรากฏภูเขาขนาดใหญ่โตผุดขึ้นมาจากแผ่นดิน ภูเขาที่มีขนาดใหญ่มากทันทีที่ผุดขึ้นมาก็ระเบิดพังทลายไปในทันที..
"นั่นมันอะไรกัน?"
"เทือกเขานั่นมาจากใหนกัน?"
"บนนั้นยังมีสิ่งก่อสร้างมากมายด้วย!"
ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ใจกลางตำหนัก โลกอมตะนั้น ก็ปรากฏคนผู้หนึ่งออกมา.
สตรีผู้หนึ่ง ออกมาจากโลกอมตะ ดูจากสถานะแล้วไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ขณะที่นางออกมา ก็กวาดตามองไปยังพื้นที่รอบ ๆ แผ่นดินที่สั่นไหวอย่างรุนแรง ทว่าที่ไกลออกไปนั้น มีภูเขาลูกหนึ่งที่ล่มสลายลง.
เมื่อเห็นภูเขาที่พังทลายลงนั้น ใบหน้าของสตรีคนดังกล่าวถึงกับเปลี่ยนเป็นขาวซีด.
"เส้นทางหยินหยางล่มสลาย? ไม่ได้การ มีศัตรูบุกเข้ามา!"สตรีคนดังกล่าวที่ตื่นตกใจขึ้นมา.
"อาวุโส!"เหล่าผู้ฝึกตนหลายคนที่บินตรงมาอย่างรวดเร็ว.
"ไปเร็วเข้า รีบเข้าไปในโลกอมตะ แจ้งต่อเหล่าอาวุโส รวมทั้งไท่ซ่างจางเหล่าด้วย มีโจรบุกเข้ามา ไป เร็วเข้า!"สตรีคนดังกล่าวที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.
"ครับ!"พวกเขาที่เร่งรีบบินเข้าไปในโลกอมตะในทันที.
"โจร? เจ้าบอกว่าข้าเป็นโจรอย่างงั้นรึ?"ทันใดนั้นที่บนอากาศก็ปรากฏหญิงสาวผู้หนึ่งขึ้นมาในทันที.
สตรีคนดังกล่าวที่หันหน้ากลับไปมอง.
"เห่าเม่ยลี่?"
"เปรี้ยง!!!"
สตรีคนดังกล่าวที่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ทักษะเทียนของสตรีดังกล่าวปรากฏออกมาปกป้องอำนาจคำสาปในทันที.
ทว่าในเวลานั้น ท้องฟ้ากลับมืดครึ้ม ปรากฏดวงจันทราส่องสว่าง ดวงดาราที่เริ่มเปล่งปรากฏออกมาเต็มท้องฟ้า พร้อมกับสาดแสงส่องสว่างจ้าลงบนพื้น.
ดวงดาราที่ส่องประกายแสง 361 ดวง ส่องประกายแสงวับวาวพร้อมกับสานกันไปมาเป็นตาข่ายปิดกั้นท้องฟ้าทั้งหมดเอาไว้ กักขังทุกอย่างเอาไว้ได้อย่างสิ้นเชิง แม้แต่สายลมก็ไม่สามารถพัดเข้ามาได้.
"ค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลว?"อาวุโสสตรีคนดังกล่าวที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.
อาวุโสสตรีคนดังกล่าวต้องการถอยจากไป.
"ปัง!!"
ตำหนักของโลกอมตะ ค่ายกลที่ปกคลุมทันใดนั้นก็ระเบิดเสียงดัง ปรากฏทางเข้าขนาดใหญ่ขึ้น ทางเข้าที่ส่องประกายแสงสีทองส่องออกมา.
อาวุโสสตรีคนดังกล่าวที่ขยับเล็กน้อย.
"ปัง!"
อาวุโสสตรีที่ใช้วิชาลับ โลหิตที่พุ่งออกมาคำโต ก่อนที่จะปรากฏเป็นช่องว่างมิติขึ้น ร่างกายของนางที่พุ่งผ่านช่องว่างดังกล่าว หลบเข้าไปในโลกอมตะอย่างรวดเร็ว.
"บุก!"จงซานที่ออกคำสั่งในทันที.
เห่าเม่ยลี่ หยินโหลวหรี่และคนอื่น ๆ ที่พุ่งตรงตามจงซานเข้าไปในโลกอมตะในทันที.
ที่ด้านนอกผู้ควบคุมค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลวนั้นก็คือหนานกงเซิ่งนั่นเอง.
การปะทะกันของค่ายกลรอบแรก ทำให้ตำหนักต่างและผู้ฝึกตนมากมายที่เฝ้าประตูตกตายไปในทันที.
ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ด้านหน้าทางเข้าโลกอมตะก็ปรากฏชายในชุดสีน้ำเงินขึ้นในทันที.
"จงซาน? เป็นจงซานรึ? ไม่ใช่ว่าเขาและท่านประมุขเดินทางไปต่อสู้เดิมพันกันที่ทะเลดำหรอกรึ?แผนการ? นี่เป็นแผนการใหญ่ ต้องไปแจ้งท่านประมุข ไม่ ข้าจะต้องไปไปแจ้งอาวุโสของราชวงศ์หวู่ซือ แล้วให้พวกเขาเร่งรีบไปแจ้งท่านประมุข"ชายในชุดสีน้ำเงินที่กล่าวออกมาด้วยความหวาดหวั่น.
"ฉัวะ!"
ทันใดนั้นกระบี่ที่แหลมคมสีม่วงก็ทะลวงชายหน้าอายชุดน้ำเงิน พร้อมกับตวัดกวัดแกว่ง ผ่าร่างของชายคนดังกล่าวเป็นสองส่วน ตัดผ่านทั้งร่างและวิญญาณในทันที ชายในชุดน้ำเงินที่ร่างกายล้มลงไปกองบนพื้น ที่ด้านหลังปรากฏคน ๆ หนึ่ง ผู้บัญชาการองค์รักษ์เงาหยิงเหว่ยของต้าเจิ้ง อันหวงนั่นเอง!
อันหวงที่ได้รับคำสั่งจากจงซานให้คอยเก็บกวาดลับ ๆ แม้นว่าต้าเจิ้งจะมีเหล่ายอดฝีมือคนสำคัญหลายคน ทว่าต้องรับรู้ด้วยว่าจะต้องมีบางคนที่หลุดรอดหลบออกมาจากพื้นที่ลับตา หรือซ่อนตัวอยู่ แม้นว่าจะเข้าล้อมล้อมโลกอมตะจะเป็นความลับ แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีใครหลุดรอดจากสายตาพวกเขาได้.
โลกอมตะนั้น มี 11 เทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ มีตำหนักแต่ละตำหนักตั้งอยู่บนยอดเขาแต่ละยอดเขาเขาพร้อมกับล้อมวนพื้นที่ตรงกลาง.
ภายในสิบเอ็ดตำหนัก จะมีผู้ดูแลรับผิดชอบในแต่ละเขตที่แตกต่างกัน.
และหนึ่งในนั้น หนึ่งเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์หนึ่งตำหนักสถานที่ที่มีปราณหยินที่พิเศษและหนักหน่วง เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญควบคุมเหล่าอาชญากรคนสำคัญ ซึ่งมีชื่อว่า คุกเทวะนิรันดร์.
บนเทือกเขาดังกล่าวนี้มีดอกบัวมากมายบานสะพรั่ง หนึ่งดอกของมัน ก็คือหนึ่งกงที่คุมขังนักโทษหนึ่งคน.
บนท้องฟ้าของคุกเทวะนิรันดร์เปิดโล่งหากแต่ท้องฟ้ากับมืดมิดอย่างที่สุด ความมืดที่อึมครึมพาให้หัวใจแห้งเหี่ยว ความกดดันที่ทำให้แทบไม่สามารถหายใจได้สะดวก.
ในเวลานี้ บนดอกบัวดอกหนึ่งได้ปรากฏตัวร่าง ๆ หนึ่งขึ้น จงซานในชุดที่ดูองอาจสีดำ.
จงซานที่กวาดตามองคุกเทวะนิรันดร์.
"นับเป็นค่ายกลที่ยอดเยี่ยม!"จงซานที่เผยยิ้มเย็นชา.
รอบ ๆ คุกเทวะนิรันดร์นั้น มีค่ายกลมากมายปกคลุมไปหมด ราวกับว่าเป็นป้อมปราการที่ไม่สามารถทะลวงได้.
มีป้อมปราการที่เป็นดอกบัวขนาดใหญ่อยู่จำนวน 36 แห่งล้อมรอบ ที่ใจกลางนั้นก็คือยอดของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกนี้.
จงซานที่กวาดตามองทั้งภูเขา บนภูเขาศักดิสิทธิ์แห่งนี้ มีตำหนักแห่งเดียวที่อยู่ตรงกลาง เป็นตำหนักที่มียอดเขาแหลม ที่ปลายของตำหนักมีกรรมวาสนามากมายอัดแน่นอยู่ และเติบโตขึ้นมาเป็นดอกไม้ดอกหนึ่งที่งดงามอย่างคาดไม่ถึง!
กุหลาบกรรมวาสนา? กุหลาบดังกล่าวนั่นส่องประกายแสงเรื่อ ๆ งดงามออกมา ไม่ว่าใครเห็นก็ล้วนแล้วแต่ประทับใจทั้งนั้น.
"เป็นดอกกุหลาบหรอกรึ?"ที่มุมปากของจงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
จากนั้น จงกวานที่ดวงตาหรี่เล็ก เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย และเริ่มศึกษาป้อมปราการดอกบัวทั้ง 36 ในทันที.
คุกเทวะนิรันดร์ ป้อมปราการแห่งหนึ่ง ที่ด้านในนั้นเป็นคนที่จงซานต้องการช่วยชีวิตอยู่.
ป้อมปราการดอกบัวแห่งหนึ่ง.
พื้นที่รอบ ๆ นั้นเต็มไปด้วยความมืดมิด รอบ ๆ เป็นหาดโครงกระดูก ทำให้รู้สึกอ้างว้างน่าหวาดกลัว ที่มุมหนึ่งมีกองของโครงกระดูกที่กองรวมกัน และมีสตรีที่งดงามคนหนึ่งนั่งอยู่.
เนี่ยโหยวโหยวในชุดสีทอง สภาพที่ดูอิดโรย ผมของนางที่มีฝุ่นปกคลุม ร่างกายพิงอยู่บนกำแพง แววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง.
ที่ด้านหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวเวลานี้ มีชายผมสีม่วงอยู่ เป็นคนหนึ่งที่ทะเลหมอกเฉินฝู ที่แย่งชิงตำราปฐพีในครั้งนั้น เขาที่รับหน้าที่ควบคุมค่ายกลฮวงจุ้ย และเป็นผู้ทำให้แผนการของโลกอมตะล่มในครั้งนั้นนั่นเอง.
"ศิษย์น้อง ผนึกของท่านประมุข เจ้าไม่มีวันที่จะคลายได้ การที่อำนาจวิเศษของเจ้าไม่สามารถฟื้นฟูได้ ต่อหน้าข้า เจ้าก็ไม่ต่างจากมดปลวก!"ชายผมม่วงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ชิ เจ้ามันเนื้อร้ายของโลกมตะ ถูกจองจำในคุกเทวะนิรันดร์ร้อยปี คาดไม่ถึงเลยว่าจะยังอยู่รอดปลอดภัย!"เนี่ยนโหยวโหยวที่แค่นเสียงเย็นชา.
"ฮ่าฮ่าอ่า ข้ามันคนพิเศษ ที่นี่ปู่ซูของข้าเป็นประมุขของเทือกเขาแห่งนี้ ตราบเท่าที่ข้าไม่ออกไปจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ก็ไม่มีใครควบคุมข้าได้."ชายผมม่วงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หน้าไม่อายใช้บารมีของเต๋าจวินซูอย่างงั้นรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ดังนั้น ข้าจึงเข้ามาที่นี่ได้อย่างไงล่ะ เป็นอย่างไร? ตราบเท่าที่เจ้ายอมรับเป็นคู่บำเพ็ญของข้า เพื่อเจ้าข้าจะให้ปู่ซูคลายผนึกให้เจ้าเป็นอย่างไร?"ชายผมม่วงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย.
"คลายผนึกให้ข้ารึ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าไม่กล้า!"เนี่ยนโหยวโหยวที่แค่นเสียงเย็นชา.
"ไม่กล้ารึ? ฮ่าฮ่าฮ่า บางทีชะตาของเจ้า เมื่อไหร่ที่ท่านประมุขสังหารจงซานและกลับมาจากทะเลดำ นำเทพอสูรบรรพชนกลับมา ชีวิตของเจ้าก็จบแล้ว หากว่าเจ้ายอมเป็นคู่บำเพ็ญของข้า ข้าจะขอร้องท่านปู่ซูขอความปราณีกับเจ้าก็ได้!"ชายผมม่วงที่กล่าวออกไปเกี่ยวกับกับดักที่พวกเขาวางไว้.
"เจ้าพูดอะไร? ใครจะถูกฆ่ากัน?"ใบหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวที่เปลี่ยนเป็นขาวซีด.
"เจ้าไม่รู้? ก็ดีแล้ว เจ้าถูกคุมขังที่นี่คงจะไม่รู้สินะ ว่าจงซานและประมุขนั้นได้เดิมพันการต่อสู้ที่ทะเลดำ ตัดสินเพื่อแย่งชิงเทพอสูรบรรพชนและอนุสาวรีย์อมตะ?"ชายผมม่วงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"จงซาน? จงซาน.....!"ใบหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวที่เปลี่ยนเป็นลุกลี้ลุกลน.
"ข้าจะบอกก็ได้ หากว่าเจ้า....!"ชายผมม่วงยังคงกล่าวต่อ.
ใบหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวที่เปลี่ยนไปเป็นเย็นชา "ไสหัวไปให้พ้น เจ้าอย่ามาใกล้ข้า!"