Chapter 738 ตี้เสวียนชาเดินทางสู่ภพหยิน
ภพหยินตระกูลเทียน ภายในบ่อคลื่นสงบ.
เทียนเซียวจื่อที่เข้าพบกับเหล่าอาวุโส ที่ด้านหน้ามีอาวุโสใหญ่เทียนเฉินจื่อที่หลับตาอยู่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ .
"อาวุโสใหญ่ โปรดวางใจได้หนึ่งปีจากนี้ มีการเดิมพันการต่อสู้ขึ้นที่ทะเลดำ เมื่อถึงตอนนั้นจงซานและเย่ชิงเฉิงจะต้องต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง ทั้งสองคนที่มีความแค้นกันอยู่แล้ว จะต้องหมายเอาชีวิตของกันและกันแน่ ข้าจึงต้องการยืมพลังของอาวุโสใหญ่ รับประกันว่าพวกเขาทั้งสองคนที่ได้รับบาดเจ็บหนัก รับรองว่าไม่มีทางรอดอย่างแน่นอน."เทียนเซียวจื่อกล่าว.
"จะได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายอย่างงั้นรึ?"เทียนเฉินจื่อแสดงความสงสัยออกมา.
"จงซาน เย่ชิงเฉิง ข้ามั่นใจว่าจะต้องมีคนหนึ่งตกตายไป อีกคนหนึ่งต้องได้รับบาดเจ็บหนักแน่!"เทียนเซียวจื่อกล่าวยืนยัน.
"มั่นใจอย่างงั้นรึ?"
"ครับ จงซานเพิ่งก้าวไปถึงระดับสวรรค์แท้ ทว่าเขาสามารถใช้งานทักษะสังสารวัฏได้ แม้ว่าจะไม่สามารถล้มเย่ชิงเฉิงได้ ทว่าก็ไม่เสียเปรียบแน่ ต้าเจิ้งนั้น ยังมีหนานกงเซิ่ง และยังมีหยินโหลวหรี่อีก ความแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยไปกว่าคนของโลกอมตะมากมายนัก แม้นว่าโลกอมตะจะแข็งแกร่งกว่า ทว่าการต่อสู้ของทั้งสองที่จะเกิดขึ้นนี้จะต้องได้รับความเสียหายที่หนักหนากันทั้งสองฝ่ายแน่นอน ตระกูลเทียนของพวกเราก็จะสามารถกำจัดเสี้ยนหนามดังกล่าว นับว่าเป็นประโยชน์ต่อพวกเราเป็นอย่างมาก!"เทียนเซียวจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"แล้ว?"
"ในเวลานี้ ข้าได้แจ้งเสี่ยวหวังเรียบร้อยแล้ว ไม่เพียงแค่เก็บเกี่ยวผลที่จะเกิดขึ้นจากการต่อสู้ที่ทะเลดำจบลง เมื่อจงซานตกตายไป พวกเราก็จะเข้ายึดครองต้าเจิ้งในทันที หรือว่าเย่ชิงเฉิงตายไป พวกเราก็จะเข้ายึดครองราชวงศ์ราชันย์หวู่ซือเช่นกัน!"เทียนเซียวจื่อกล่าว.
"อืม เจ้าต้องการคนกี่คน?"เทียนเฉินจื่อกล่าวสอบถาม.
"เพื่อรับประกันความปลอดภัย ข้าต้องการคนแปดคน!"เทียนเซียวจื่อกล่าวยืนยัน.
"ได้ ข้าให้เจ้า!"เทียนเฉินจื่อพยักหน้ารับ.
..................
สี่เดือนหลังจากนั้น ตระกูลเทียน ตำหนักชีพจรสวรรค์.
เทียนเซียวจื่อที่รับฟังรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา
"อะไร?การต่อสู้ที่ทะเลดำ กระจายไปทั่วหล้าแล้วอย่างงั้นรึ?"เทียนเซียวจื่อที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา.
"ครับ ท่านประมุข ในเวลานี้ข่าวเรื่องการเดิมพันการต่อสู้ที่ทะเลดำได้กระจายไปทั่วแผ่นดินแล้ว."ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวรายงาน.
เทียนเซียวจื่อที่มือขัดหลังครุ่นคิดพร้อมกับเดินไปด้านหน้าช้า ๆ ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น.
"ท่านประมุข พวกเราต้องยกเลิกแผนการของพวกเราหรือไม่?"
"ไม่จำเป็น นี่เป็นโอกาสพันปีที่จะมีสักครั้ง กว่าข้าจะให้พวกเขามาอยู่ในทะเลดำพร้อมกันยากขนาดใหน แล้วจะปล่อยให้พลาดได้อย่างไร? รับรู้กันทั่วหล้าแล้วอย่างไร? ข้าไม่เชื่อว่าจะมีคนกล้าท้าทายตระกูลเทียน แผนการนี้จะดำเนินต่อไป แจ้งเสี่ยวหวัง ให้เตรียมตัวให้พร้อม!"เทียนเซียวจื่อสั่งการ.
"ขอรับ!"
.............
ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้ง เมืองซ่าง ห้องอักษรจงซาน.
กู่เฉียนโหยวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จงซาน ที่ด้านหน้านั้นมีสตรีในชุดสีขาว เท้าจางใสไม่สัมผัสพื้นลอยอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับแสดงความเคารพต่อจงซาน.
"หรูเหยี่ยนคารวะผู้มีพระคุณ!"สตรีคนดังกล่าวแสดงความเคารพด้วยความงดงาม.
"ในอดีตในภพหยางข้าได้ช่วยเจ้าหาเสี่ยวหวัง หากแต่เจ้าได้มอบซือต่านเป็นของขวัญข้าแล้ว ใยต้องกล่าวว่าผู้มีพระคุณอีกล่ะ?"จงซานที่กล่าวขัดหรูเหยี่ยนในทันที.
"ไม่ ผู้มีพระคุณได้ให้แม่นางเฉียนโหยวไปช่วยข้า ทำให้ข้าเป็นอิสระจากตระกูลเทียน!"หรูเหยี่ยนที่ส่ายหน้าไปมา.
"ตระกูลเทียนไม่ดีกับเจ้าอย่างงั้นรึ?"
"ตระกูลเทียนนับว่าดีกับข้ามาก มอบสิ่งที่จำเป็นให้ไม่เคยขาด และยังมีบริวารหลายร้อยคน ช่วยดูแล หากแต่หรูเหยี่ยนกับไม่ชื่นชอบและรู้รังเกลียด เพราะว่าหรูเหยี่ยนนั้นรู้ว่าตระกูลเทียนนั้นได้กักขังสามีของข้าเอาไว้ โดยใช้ตัวข้าเป็นโซ่ผูกรัดเขาเอาไว้ สามีคือบุรุษที่แท้จริง ไม่ควรจะถูกผูกมัดเพราะว่าตัวข้า ผู้มีพระคุณช่วยข้าออกมา หรูเหยี่ยนจะไม่ซาบซึ้งได้เยี่ยงไร!"หรูเหยี่ยนกล่าว.
"เจ้าไม่ต้องการให้ตระกูลเทียนจุติให้เจ้าเกิดใหม่หรอกรึ?"
"จุติใหม่อย่างงั้นรึ? สามีของข้าต้องการให้ข้าจุติใหม่รึ? เมื่อจุติใหม่ ความทรงจำทั้งหมดก็จะหายไป กลายเป็นผู้เยาว์ของตระกูลเทียน สามีของข้านั้นมีประสบการณ์ความสามารถในอดีตมากมาย จึงโชคดีไม่ถูกลบความทรงจำ ดังนั้นจึงไม่ถูกทำให้กลายเป็นคนตระกูลเทียน ทว่าตัวข้านั้น ความทรงจำทั้งหมดย่อมสลายหายไป นอกจากนี้ยังมีโอกาสเพียง 1% ที่จะสำเร็จ!"หรูเหยี่ยนที่ส่ายหน้าไปมา.
"โอกาส 1%อย่างงั้นรึ? เสี่ยวหวังนับว่ามีโชควาสนาไม่น้อย ไม่เพียงแต่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ให้กลายเป็นภูตและหนึ่งเปอร์เซ็นต์กลายเป็นมนุษย์ เขายังมีความทรงจำเหลืออยู่ หายาก หายากจริง ๆ !"จงซานพยักหน้าพลางถอนหายใจ.
"ผู้มีพระคุณจะให้ข้าได้พบกับสามีหรือไม่?"หรูเหยี่ยนที่จ้องมองจงซาน.
แม้ว่าหรูเหยี่ยนจะกล่าวขอบคุณจงซาน ทว่าก็หวาดกลัวที่จะถูกกักขังเพื่อใช้งานเสี่ยวหวังเช่นกัน การที่นางหนีมาสู้ไม่หนีมาหรอกรึ? หากว่ายังเป็นเช่นเดิม.
เห็นท่าทางกังวลใจของหรูเหยี่ยนแล้ว จงซานก็กล่าวออกมาในทันที."หรูเหยี่ยนโปรดวางใจข้าไม่เหมือนตระกูลเทียนแน่นอน ข้าจะไม่กักขังความเป็นอิสระของเจ้า หลายเดือนหลังจากนี้ ข้าจะพาเจ้าไปพบกับเสี่ยวหวังแน่ ในเวลานั้นจะมีคนไปเป็นเพื่อนเจ้าด้วย เวลานี้ ขอให้เจ้าอยู่ในเมืองซ่างของข้าก่อน!"
"เป็นใครอย่างงั้นรึ?"หรูเหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เจี้ยนหง!"จงซานกล่าว.
.....
หลังจากที่หรูเหยี่ยนออกจากห้องไปแล้ว จงซานที่จ้องมองไปยังกู่เฉียนโหยว.
"เจ้าทำได้ดีมาก!"จงซานที่เผยยิ้มออกมาด้วยความอบอุ่น.
"บางทีครั้งนี้คงต้องขอบคุณเสี่ยวชิง!"กู่เฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หืม?"
"ครั้งหนึ่งเทพอสูรบรรพชนได้เข้าไปก่อกวนอยู่ภายในตระกูลเทียน ในเวลานั้นพวกเราจึงได้ฉวยโอกาสดังกล่าวเข้าไปพบกับหรูเหยี่ยนและสร้างภูตเลียนแบบเอาไปแทนที่หรูเหยี่ยนเอาไว้ ด้วยวิชาลับของเซียนเซิงซือ!"กู่เฉียนโหยวกล่าว.
"หืม? เทพอสูรบรรพชน?เป็นเจตจำนงสวรรค์สินะ!"จงซานที่หัวเราะออกมาเล็กน้อย.
"ใช่แล้ว ไม่เช่นนั้นคงต้องใช้เวลานาน และคงไม่ราบรื่นถึงเพียงนี้!"
"อืม เรื่องนี้ได้ดำเนินการมากว่าครึ่งแล้ว คงต้องให้เจ้าพาตัวหรูเหยี่ยนและเจี้ยนหงไปสมทบกับอี้เหยี่ยนเพื่อกำราบศัตรู ขณะที่ข้าเข้าไปต่อสู้เดิมพันที่ทะเลดำ!"จงซานกล่าว.
"อืม ทุกอย่างได้เตรียมการเสร็จสิ้นแล้ว รับรองว่าไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้น!"กู่เฉียนโหยวพยักหน้ารับ.
...................
โลกอมตะ.
"โจวเหยาซือ นี่คือคำสั่งของจิงเหยาซือ ขอให้ข้าได้ยืมอนุสาวรีย์อมตะด้วย!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมา.
"ต้าเกอให้เจ้ามาอย่างงั้นรึ? หืม ข้าจะให้เจ้ายืมไปก่อนก็ได้ ทว่า เจ้าจะต้องนำมันมาคืนข้า และโปรดนำเห่าเม่ยลี่กลับมาด้วย ข้าต้องการศึกษา อนุสาวรีย์อมตะนี้ ข้างในนั้นมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ฝังอยู่ ไม่ใช่สิ่งของที่มาจากโลกใบใหญ่ธรรมดา ๆ แน่ ภายในนั้นมีกลิ่นอายของเผ่าอูด้วย โปรดจำเอาไว้ให้ดี!"โจวเหยาซือกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
"เผ่าอู?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ถูกต้อง เผ่าอู!"โจวเหยาซือพยักหน้า.
"ข้ารู้ว่า การนำอนุสาวรีย์อมตะกลับมานั้นไม่ได้ยาก แต่ที่ยากก็คือเห่าเม่ยลี่ เห่าเม่ยลี่เป็นร่างสถิตหมื่นปิศาจ นางที่สามารถเล่นงานพวกเราได้ แต่พวกเรากลับไม่สามารถเล่นงานนางได้! การจะนำนางกลับมา คงมีเพียงท่านไปกับข้าเท่านั้น...."เย่ชิงเฉิงที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"ข้าและต้าเกอนั้นต้องอยู่ปกป้องโลกอมตะ ไม่สามารถออกไปได้อย่างแน่นอน เจ้าคิดว่าข้าจะใช้ประโยชน์กับเจ้าโดยไม่ให้อะไรกับเจ้าอย่างงั้นรึ? นี่คือยันต์ป้องชีวิต ฮึ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า ข้าต้องการใช้ประโยชน์จากเจ้าเท่านั้น และสิ่งนี้ข้าให้เจ้ายืมเท่านั้น เก็บรักษาชีวิตของเจ้าเอาไว้อย่าได้ทำของ ๆ ข้าหายไป!"โจวเหยาซือที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
...............
หนึ่งปี ก็มาถึงอย่างรวดเร็ว.
โลกอมตะเย่ชิงเฉิง ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้ง จงซาน การต่อสู้เดิมพันที่ทะเลดำ! เป็นการต่อสู้เดิมพันด้วยเทพอสูรบรรพชนและอนุสาวรีย์อมตะ.
แม้คราวแรกทุกคนจะสงสัย ทว่าท้ายที่สุดก็เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง.
อนุสาวรีย์อมตะ นี่คือสิ่งของที่ทรงพลังในอดีตของภพหยาง ของเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์ต้าหง สิ่งนี้มีความลับที่ยิ่งใหญ่ของเห่าเทียนซ่อนไว้อยู่.
ส่วนเทพอสูรบรรพชนนั้น ไม่ต้องบอกว่าทรงคุณค่าขนาดใหน ภายในโลกใบเล็กยากที่จะหาพบเจอได้ และมีไม่บ่อยครั้งนักที่จะพบในโลกใบเล็ก.
เทพอสูรลำดับที่ 19 ของโลกใบใหญ่ และยังเคยมีระดับ 18 มาก่อน ถึงแม้ว่าจะเป็นโลกใบเล็ก ยังไม่มีใครรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมัน และยังไม่สามารถหามันพบง่าย ๆ จนหลาย ๆ คนคิดว่าเป็นเพียงแค่เรื่องเล่า จึงได้เรียกมันว่าเทพอสูรบรรพชนนั่นเอง.
หลาย ๆ คนไม่รู้จักด้วยซ้ำ จึงทำให้พวกเขาต้องการมาเห็นและบันทึกภาพเอาไว้ ก่อนหน้านี้เคยมีดวงตะวันร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์ ซึ่งในเวลานั้นมีกิเลนเพลิงหล่นลงมา แม้นว่าจะถูกพลังของโลกใบเล็กกำราบเอาไว้ แต่มันกลับทรงพลังเป็นอย่างมาก และกิเลนเพลิงในเวลานั้นมีลำดับที่ 96 เท่านั้น หากแต่เทพอสูรบรรพชนตนนี้มีอันดับที่ 19 อย่างงั้นรึ?
การต่อสู้เดิมพันในครั้งนี้จึงมีผู้สนใจมากมาย และยิ่งเป็นการต่อสู้ของกลุ่มอิทธิพลทั้งสอง ยิ่งเป็นเหตุให้ผู้ฝึกตนมากมายโลหิตสูบฉีดเลยทีเดียว.
หลังจากได้รับข่าวแล้ว มีผู้ฝึกตนมากมายนับไม่ถ้วนได้มารวมตัวกันที่ทะเลดำในเวลานี้.
ทะเลดำ เป็นเหมือนดั่งชื่อ นี่เป็นทะเลที่มีน้ำดำเหมือนหมึก แม้แต่สัมผัสเทวะยังไม่สามารถผ่านลงไปได้ น้ำทะเลมีอำนาจกัดกร่อนที่รุนแรง ถึงจะมีระดับจักรพรรดิแท้ก็ไม่กล้าหย่อนกายลงไป.
ภายในทะเลดำนั้นมีคลื่นที่หนักหน่วงรุนแรงบ้าคลั่ง แต่พื้นที่รอบ ๆ ในเวลานี้ กับมียอดฝีมือมากมาย คอยจับจ้องอยู่ คนที่ค่อย ๆ หลั่งไหลเข้ามาชมการเดิมพันของยอดฝีมือในครั้งนี้นับไม่ถ้วน.
"ดูตรงนั้น บนผืนทะเลเวลานี้มีคนสามคน!"ชายคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ใหน ๆ ตรงใหน?"
"ข้ารู่ว่าคนในชุดน้ำเงินเสื้อคลุมสีขาวนั้นก็คือเย่ชิงเฉิง ข้าเคยเห็นเขาทะเลหมอกเฉินฝู และที่หลังของเขา กระบี่ที่แผ่จิตสังหารออกมาอย่างรุนแรงนั่นก็คือกระบี่ลู่เซียน แม้แต่มือกระบี่ทั่วไปหากถือกระบี่ดังกล่าวนั่นยังตัดมิติได้เลย เป็นอาวุธที่ร้ายกาจไร้เทียมทานเป็นอย่างมาก!"
"ส่วนอีกสองคน บางทีอาจจะเป็นเต๋าจวินของโลกอมตะ ซึ่งมีระดับสวรรค์แท้!"
"สามระดับสวรรค์แท้รึ? ยอดฝีมือสามคน? ดูเหมือนว่าราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งจะจบสิ้นแล้ว เป็นแค่เพียงราชวงศ์ราชันย์ คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าท้าทายแดนเทวะ ระดับสวรรค์แท้ พวกเขาส่งระดับสวรรค์แท้สามคนมา โลกอมตะทรงพลังขนาดนี้เลยรึ?"
เสียงของผู้คนที่ส่งเสียงเซ็งแซ่ โลกอมตะดูยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก ระดับสวรรค์แท้สามคน จงซานจบสิ้นแล้ว การเดิมพันต่อสู้สามรอบ ระดับสวรรค์แท้สามคน พวกเขาจะต้านอย่างไร? ยากที่ราชวงศ์ราชันย์จะต่อกรกับระดับสวรรค์แท้สามคนได้รึ? น่าขันนัก!
เย่ชิงเฉิงที่กวาดตามอง มีผู้คนมากมายที่อยู่รอบ ๆ เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย ก่อนที่จะจ้องมองไปยังคนรู้จัก.
ระดับสวรรค์แท้ในภพหยิน เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับพยักหน้าทักท้าย ก่อนที่จะไม่สนใจอีกต่อไป.
จากนั้น เทียนเซียวจื่อบนเมฆสีขาวที่ลอยเข้ามาใกล้.
"ประมุขตระกูลเทียน!"
"ประมุขเย่!"
คนทั้งสองที่กล่าวทักทายกัน.
"จงซานยังไม่มาอีกรึ?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"ประมุขเย่โปรดใจเย็น ข้าได้ข่าวมาว่าสามวันที่แล้วจงซานได้เดินทางมาถึงเมืองใกล้ ๆ กับทะเลดำแล้ว รออีกนิดเขาก็มาถึง!"เทียนเซียวจื่อกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม!"เย่ชิงเฉิงที่พยักหน้ารับ.
หลาย ๆ คนที่เฝ้ามองอยู่ไม่เห็นจงซานมาคิดว่าจงซานคงหนีไปแล้วรึ? ต้องไม่ลืมว่า ราชวงศ์ราชันย์จะกล้าท้าทายแดนเทวะได้อย่างไร?
ขณะที่หลายคนพูดคุยกันไปมา หลาย ๆ คนที่แสดงท่าทางเสียดายด้วยซ้ำ ที่ไกลออกไปนั้น บนขอบฟ้าไกล บนเมฆสีขาวที่กำลังลอยมา มีบัลลังก์มังกรอยู่บนนั้น.
"มาแล้ว มาแล้ว คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรก็คือจงซาน!"หนึ่งในพวกเขาที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.
"พวกเขามาแล้วรึ? แล้วใครกันในชุดสีขาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ บัลลังก์มังกร?"
"จงซานที่กอดอสูรน้อยขนปุยตัวเล็กนั่น คือเทพอสูรบรรพชนอย่างงั้นรึ?"
"ไม่ใช่หนานกงเซิ่ง เขาเป็นใครกัน?"เทียนเซียวจื่อที่ขมวดคิ้วไปมา.
เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองไปยังคนทั้งสอง จงซานกำลังทำอะไร? นำคนแปลกหน้ามาอย่างงั้นรึ? หนานกงเซิ่งล่ะ? เห่าเม่ยลี่ล่ะ? ทำไมไม่นำคนเหล่านั้นมา? คนในชุดสีขาวร้ายกาจกว่าคนเหล่านั้นรึ? จงซานเตรียมการที่จะพ่ายแพ้รึอย่างไร?
"ตี้เสวียนชา ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้จะดูแคลนเจ้าด้วยสายตานะ? ฮ่าอ่าฮ่าฮ่า!"จงซานและตี้เสวียนชาพูดคุยกันขณะบินมา.