Chapter 737 เดิมพันการต่อสู้ที่ทะเลดำ
"เย่ชิงเฉิง?"จงซานที่แค่นเสียงเย็นชาออกมา.
เหล่าข้าราชบริพารเองก็ก้าวตามออกมาจากภายในห้องอักษรเช่นกัน.
ทว่าขณะที่จงซานกล่าวออกมานั้น ทันใดนั้นบนท้องฟ้าของเมืองซ่าง กลายเป็นสีม่วงขึ้นมาในทันที ทักษะเทียนสีม่วงที่ขยายออกไปมากขึ้นและก็มากขึ้น ปกคลุมทั่วท้องฟ้าเมืองซ่าง กลิ่นอายของราชาที่แผ่ออกไปรอบ ๆ กระจายไปทั่วท้องฟ้าที่อาบไปด้วยแสงสีม่วง ภายในเมืองซ่าง เหล่าประชาชนที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของราชันย์.
"ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!"
เหล่าประชาชนมากมายต่างก็ส่งเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ ทรงพระเจริญ ต่อหน้าราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขาที่แสดงความเคารพออกมา ต่อจงซานที่ก้าวออกมาจากห้องอักษรนั่นเอง.
จงซานที่เงยหน้าขึ้นมองบนอากาศ ร่างสองร่างที่ปรากฏออกมา.
เย่ชิงเฉิงในชุดน้ำเงิน เทียนเซียวจื่อในชุดสีขาว.
คนทั้งสองที่จ้องมองจงซานพร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.
"ระดับสวรรค์แท้?"ดวงตาของเทียนเซียวจื่อที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
จงซานก้าวไปถึงระดับสวรรค์แท้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
เย่ชิงเฉิงที่จดจ้องมองจงซานด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็จะจ้องมองไปยังอสูรน้อยขนปุยที่เหมือนกับลูกบอลอยู่ในอ้อมกอดจงซาน มือของเย่ชิงเฉิงที่ยื่นออกไปบนอากาศ สะบัดฝ่ามือแบแล้วกำไปมา ทว่าอำนาจวิเศษในการดึงดูดนั้นกลับไม่ส่งผลเลยแม้แต่น้อย.
"เย่ชิงเฉิง เทียนเซียวจื่อ? พวกเจ้ารู้ไหมว่ากำลังทำอะไร? ไม่ได้รับเชิญ หาญกล้านัก!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"ไม่ได้รับเชิญ? ก่อนหน้านี้ที่ตระกูลเทียน เจ้าเองก็ไม่ได้รับเชิญไม่ใช่รึ?"เทียนเซียวจื่อที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย.
"คราแรกนั้นข้านั้นได้ส่งจดหมายแนะนำตัวไปให้กับเทียนจี้จื่อ ส่วนครั้งที่สองเป็นเทียนจี้จื่อเป็นคนท้าทายข้าเอง จะหาว่าข้าไม่ได้รับเชิญได้อย่างไร ส่วนเจ้าเวลานี้ ไม่เพียงแต่ไม่บอกไม่กล่าว พวกเจ้าทั้งสองยังบุกรุกเข้ามาในตำหนักหลวงของข้าอีก ต้องการจะหาเรื่องอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
"โฮกกกกกกก!"
บนท้องฟ้าที่กลายเป็นสีม่วง มังกรทอง 19 เล็บที่ร้องคำรามเสียงดัง.
"หาเรื่องรึ? ตัวเจ้ามีคุณสมบัติพอที่จะให้ข้าหาเรื่องอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่แค่นเสียงเย็นชา.
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น ข้าง ๆ จงซานก็ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวออกมา.
หยินโหยวหรี่ที่มาสบทบจงซานนั่นเอง และที่ข้างกายของเขายังมีอีกคนหนึ่งที่ปรากฏขึ้นมา คนที่ทุกคนคาดไม่ถึง แม้แต่เย่ชิงเฉิงยังต้องดวงตาหดเกร็ง.
หยินโหลวหรี่นั้น เย่ชิงเฉิงสามารถยอมรับได้ ต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ หยินโหลวหรี่ติดตามจงซาน และไม่ใช่ความลับอะไร ทว่าอีกคนนี้ เป็นไปได้ด้วยรึ?
หนานกงเซิ่ง? เซียนหนานกงเซิ่ง?
คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขา? เขามาปรากฏขึ้นที่นี่ได้อย่างไร? จากท่าทางแล้ว ราวกับว่าเป็นข้าราชบริพารของจงซานอีกด้วย.
ใครกันคือหนานกงเซิ่ง? ในอดีตที่ทะเลหมอกเฉินฝู เย่ชิงเฉิงที่ได้ต่อกรกับเขาและ เย่ชิงเฉิงยังถูกขวางเอาไว้ด้วยค่ายกลหมากรุกเซียนสวรรค์ หนานกงเซิ่งนับว่าเป็นปรมาจารย์ค่ายกลที่ร้ายกาจที่สุดคนหนึ่ง.
"หนานกงเซิ่ง? ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่?"เย่ชิงเฉิงที่สอบถามออกไปด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อกับเรื่องที่เกิดขึ้น.
"ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้ง เจี้ยนเจิ้ง อี้เทียนเจียน คาระประมุขเย่และประมุขตระกูลเทียน!"หนานกงเซิ่งที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย.
เจี้ยนเจิ้งอี้เทียนเจียน? ข้าราชบริพารราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ?
หน้าผากของเย่ชิงเฉิงที่ย่นเข้าหากัน พัฒนาการของราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งน่าหวาดกลัวจริง ๆ เทียนเซียวจื่อที่อยู่ข้าง ๆ เองก็เช่นกัน หนานกงเซิ่ง นามนี้ เป็นเหมือนกับสายฟ้าฟาดที่ดังลั่นในหูของเทียนเซียวจื่อ คาดไม่ถึง คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาเป็นข้าราชบริพารของต้าเจิ้ง? แม้นว่าจงซานจะไม่อยู่ ก็ไม่มีทางที่จะสั่นคลอนพวกเขาได้ง่าย ๆ เช่นกัน.
"ตอนนี้ คิดว่าข้ามีคุณสมบัติพอรึยัง?"จงซานแค่นเสียง.
กับคำพูดของจงซาน เย่ชิงเฉิงที่หรี่ตาจ้องมองจดจ้องมองไปยังจงซาน ในเวลานี้ เย่ชิงเฉิงรับรู้ว่าจงซานมีพลังเทียบเท่าเขาแล้ว.
"จงซาน?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"อี้อี้...!"
เห็นจงซานที่กล่าวตอกหน้าเย่ชิงเฉิง เทพอสูรบรรพชนที่แสดงท่าทางตื่นเต้นดีใจ หมัดเล็กของมันที่กวัดแกว่งเหวี่ยงชกไปยังทิศทางของเย่ชิงเฉิงในเชิงล้อเลียน.
กับการกระทำเหมือนกับเด็กเล็ก เหล่าข้าราชบริพารของจงซานต่างก็เผยรอยยิ้มออกมาเช่นกัน เย่ชิงเฉิงที่อยู่บนท้องฟ้าที่ใบหน้าบิดเบี้ยว ไม่น่าดู.
"ไร้ซึ่งการอนุญาต การบุกรุกเมืองซ่าง ถือว่าล่วงเกินแล้ว!"เทียนเซียวจื่อที่ท่าทางเปลี่ยนไป.
"ล่วงเกินรึ?!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เคร่งขรึม.
"ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เชิญทั้งสอง!"จงซานที่ผายมือออกไป เหมือนกับเชิญแขก.
ส่วนคนทั้งสอง ที่ยังไม่คิดจากไป ก็ร่อนลงมาจากท้องฟ้ามายืนบนพื้น.
"มีปัญหาอะไร? พวกเจ้าทั้งสองไม่ต้องการเข้ามาภายในเมืองซ่างของข้าหรอกรึ?"จงซานที่กล่าวหยัน.
"จงซานอย่าได้เข้าใจผิด ข้าเพียงแค่มาเป็นเพื่อนประมุขเย่เท่านั้น เมื่อเรื่องราวเรียบร้อยแล้ว ข้าจะจากไปในทันที!"เทียนเซียวจื่อที่กล่าวตัดสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองว่าไม่เกี่ยวข้องกันทันที.
"หืม?"จงซานที่จดจ้องมองไปยังเย่ชิงเฉิง.
"สิ่งนั้นเป็นสมบัติของโลกอมตะ จงคืนมันมาให้ข้าซะ!"เย่ชิงเฉิงที่ชี้ไปยังเทพอสูรบรรพชนที่อยู่ในอ้อมกอดของจงซาน.
กับการกล่าวอย่างหยาบคายออกมาทันทีทันที เหล่าข้าราชบริพารของจงซานที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองเย่ชิงเฉิงด้วยความไม่พอใจ.
"ฮ่าฮ่าฮ่า สิ่งของโลกอมตะแน่นอนว่าจะต้องคืนโลกอมตะ หากแต่สิ่งของ ๆ ต้าเจิ้ง ในมือเจ้า ตราบเท่าที่เจ้าคืนข้า สิ่งนี้ก็จะคืนโลกอมตะเช่นกัน!"จงซานที่หัวเราะออกมาเสียงดัง.
"หืม? อะไร?"เย่ชิงเฉิงที่หรี่ตาจ้องมอง.
เหล่าข้าราชบริพารที่ตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นท่าทางดีใจขึ้นมา.
"ด้านหลังเจ้า ที่สะพายอยู่ กระบี่ลู่เซียน กระบี่นั้นเป็นของต้าเจิ้ง ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ไปอยู่ในมือของเจ้า ในเมื่อมันกลับมายังเมืองซ่าง เช่นนั้นก็จงส่งคืนข้าได้หรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อ่าฮ่าฮ่าฮ่า....!"เหล่าข้าราชบริพารต่างหัวเราะออกมาพร้อมเพรียงกัน.
เห็นได้ชัดเจนว่าจงซานไม่ยินดีคืนอสูรเทพบรรพชนแน่นอน.
"สามหาว นี่เจ้ากล้าฉีกหน้าข้าอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่ชำเลืองมองตาขวาง.
"ข้าฉีกหน้าเจ้าเมื่อไหร่กัน?"
"เจ้ากล้ากุเรื่องกระบี่ลู่เซียนของข้า!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"แล้วทำไมเจ้ากุเรื่องเทพอสูรบรรพชนของข้าก่อน เทพอสูรบรรพชนเป็นของเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เป็นของโลกอมตะอย่างงั้นรึ? ไม่เห็นมีใครเคยได้ยินเลยว่าโลกอมตะมีของสิ่งนี้?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชาเช่นกัน.
กับคำพูดของจงซาน เย่ชิงเฉิงที่เข้าใจความหมายของจงซานในทันที.
เย่ชิงเฉิงที่สูดหายใจลึกและกล่าวออกมาว่า "เทพอสูรบรรพชนตนนี้เป็นของเนี่ยนโหยวโหยวโลกอมตะ ไม่ใช่ความลับอะไร!"
"เฮ้เฮ้ เป็นของเนี่ยนโหยวโหยวรึ? แล้วทำไมข้าต้องมอบให้เจ้า หากว่าต้องการได้เทพอสูรบรรพชนคืน ก็ควรให้เนี่ยนโหยวโหยวมาทวง ไม่ใช่เจ้าที่ต้องเสนอหน้าแต่อย่างใด!"จงซานทีกล่าวออกมาด้วยเสียงที่เคร่งขรึม.
ให้เนี่ยนโหยวโหยวมารึ? เห็นชัดเจนว่าเป็นไปไม่ได้! เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองจงซานตาขวาง.
ในเวลาเดียวกันนั้น ไม่ไกลออกไป มีสตรีในชุดสีเหลืองบินตรงมา เป็นเห่าเม่ยลี่นั่นเอง!
"จงซานเกิดอะไรขึ้น?"เห่าเม่ยลี่ทีเอ่ยออกมา.
"เย่ชิงเฉิง?"เห่าเม่ยลี่สายตาปะทุความโกรธเกรี้ยวออกมา.
"เห่าเม่ยลี่? คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะหนีมายังที่นี่?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เห่าเม่ยลี่? ประมุขเย่ นี่คือ?"เทียนเซียวจื่อที่กล่าวสอบถามออกไป.
เย่ชิงเฉิงที่ไม่ตอบเทียนเซียวจื่อ ทว่ายังคงมองไปยังจงซาน.
"จงซาน เจ้าบอกมาหากยอมมอบตัวเทพอสูรบรรพชน เจ้าต้องการสิ่งใด?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวรอมชอม.
"ข้าต้องการอะไรอย่างงั้นรึ? มีสิ่งใดที่ข้าต้องการกัน โปรดกลับไปเถอะ!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"จงซาน ทำไมต้องให้เขากลับไปด้วย ข้าต้องการให้เขาตาย!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาในทันที.
เทียนเซียวจื่อที่จ้องมองไปยังเย่ชิงเฉิง ก่อนที่จะมองไปยังเห่าเม่ยลี่ที่แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา.
จงซานจ้องมองไปยังเห่าเม่ยลี่ และกล่าวออกมาเบา ๆ ."ยังจำที่ข้าเคยบอกเจ้าได้หรือไม่?"
ได้ยินคำพูดของจงซาน ดวงตาของนางที่ส่ายไปมา ก่อนที่จะพยักหน้ารับ."อืม!"
เห่าเม่ยลี่ที่ไม่กล่าวอะไรไปอีก ดวงตานั้นยังคงจ้องมองไปยังเย่ชิงเฉิงด้วยความเกลียดชัง.
เย่ชิงเฉิงที่จ้องมองจงซานและเห่าเม่ยลี่ ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า"จงซาน ข้าคิดว่าเจ้าคงต้องการอนุสาวรีย์อมตะอย่างแน่นอน ข้าจะมอบอนุสาวรีย์อมตะ 11 อันแลกกับเทพอสูรบรรพชนเป็นไง?"
จงซานที่หรี่ตาจ้องมอง จากนั้นก็เผยยิ้มบาง ๆ เล็กน้อย "อนุสาวรีย์อมตะนั้นอยู่ในมือโจวเหยาซือ ใช่สิ่งของที่เจ้าจะนำมาแลกเปลี่ยนกับข้าอย่างงั้นรึ?"
"ข้ามีวิธีในการนำมันมาได้ ขอเพียงเจ้ามอบเทพอสูรบรรพชนมา! อนุสาวรีย์อมตะนั้นไม่ได้มีค่าในมือพวกเรา ทว่าเห่าเม่ยลี่ ในมือเจ้าย่อมรับรู้คุณค่าของมันไม่ใช่รึ?"เย่ชิงเฉิงกล่าว.
เอ่ยถึงอนุสาวรีย์อมตะ สายตาทั้งสองข้างของเห่าเม่ยลี่กลายเป็นสีแดงจ้องเขม็งไปยังเย่ชิงเฉิง ความเกลียดแค้นต่อโลกอมตะที่ลุกโชน.
จงซานที่ครุ่นคิดเล็กน้อย.
"อี้อี้อี้อี้!"เทพอสูรบรรพชนที่จ้องมองจงซานด้วยความน่าสงสาร.
จงซานที่ลูบหัวของเทพอสูรบรรพชน กล่าวออกมาเล็กน้อย "ภพหยินและภพหยางนั้นแตกต่างกัน ในภพหยินนั้น มีการเดิมพันด้วยการต่อสู้ เป็นประเพณีที่มีมานานแล้ว เป็นการเดิมพันต่อสู้เพื่อชิงของล้ำค่า ในครั้งนี้พวกเราจะเดิมพันเพื่อชิงอนุสาวรีย์อมตะและเทพอสูรเป็นอย่างไร? เจ้ากับข้ามาเดิมพันการต่อสู้ ประลองกันสามครั้ง"
"เป็นวิธีที่ดี ข้ายินดีที่จะเป็นคนรับรองการต่อสู้ครั้งนี้ให้เอง!"เทียนเซียวจื่อที่ดวงตาเป็นประกายเอ่ยออกมาในทันที.
"คำใหนคำนั้น!"เย่ชิงเฉิงกล่าว.
["一言为定 [yìyánwéidìng] คำไหนคำนั้น"]
"เช่นนั้นก็จงกลับไป ครั้งหน้าโปรดนำอนุสาวรีย์อมตะมาด้วย พวกเราจะต่อสู้เดิมพันกัน!"จงซานกล่าว.
"ที่นี่รึ? ทำไมไม่ไปโลกอมตะกัน?"เย่ชิงเฉิงกล่าวหยัน.
การเดิมพันต่อสู้ในเมืองหลวงของจงซาน จงซานย่อมได้เปรียบพวกเขาอย่างมากมาย.
"จงซานการเดิมพันการต่อสู้ที่นี่ นับว่าไม่ยุติธรรม แน่นอนว่าที่โลกอมตะก็ไม่ยุติธรรมเช่นกัน เอาเป็นว่าควรจะเลือกสถานที่เป็นกลางดีหรือไม่? ที่ภาคเหนือนั้นมี ทะเลดำ เป็นสถานที่เปิดกว้าง น่าจะเหมาะเป็นสนามแข่งขันของโลกอมตะและต้าเจิ้ง."เทียนเซียวจื่อที่กล่าวเสนอออกมาในทันที.
"ตกลง!"จงซานที่พยักหน้ารับ.
"ได้!"เย่ชิงเฉิงที่รับคำเช่นกัน.
"ครึ่งปี พบกันที่ทะเลดำ!"เทียนเซียวจื่อกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ครึ่งปีรึ? ครึ่งปีเขายังกลับไปไม่ถึงโลกอมตะด้วยซ้ำ แล้วจะนำอนุสาวรีย์อมตะมาได้ยังไง หนึ่งปีหลังจากนี้!"จงซานที่กล่าวหยัน.
"ชิ ตกลง หนึ่งปีหลังจากนี้ เดิมพันต่อสู้สามครั้งที่ทะเลดำ! ลาล่ะ!"เย่ชิงเฉิงที่แค่นเสียงพร้อมกับจากไปทันที.
เทียนเซียวจื่อจ้องมองไปยังจงซานและคนอื่น ๆ ก่อนที่จะพยักหน้าให้ พร้อมกับจากไปด้วยเช่นกัน.
หลังจากที่สองคนจากไปแล้ว จงซานที่จ้องมองออกไปด้วยสายตาที่เย็นชา ก่อนที่จะสะบัดแขนเสื้อและก้าวกลับมาภายในห้องอักษร เหล่าคนสำคัญเองก็ตามาด้วยเช่นกัน.
"อี้เหยี่ยน แผนการทั้งหมด ต้องเร่งให้เร็วขึ้น หนึ่งปีหลังจากนี้ จะต้องได้ผลสรุป!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"
"หยินโหลวหรี่ เจ้านำคนออกไปแจ้งข่าว ให้เผ่าพยัคฆ์ที่อยู่ทั่วหล้า! กระจายข่าวบอกกล่าวให้ทุกคนรับรู้การประลองในครั้งนี้ให้ทั่ว."จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ประกาศให้คนทั่วหล้ารับรู้รึ? ทำไม?"หยินโหลวหรี่ที่ไม่เข้าใจ.
"การต่อสู้เดิมพันที่ทะเลดำนั้น ตระกูลเทียนไม่มีทางที่จะเป็นผู้ชมเพียงอย่างเดียวแน่นอน พวกเขาที่เสนอตัวออกมาในครั้งนี้นะรึ? เป็นแผนการร้ายบางอย่างแน่ ทว่าหากข่าวเรื่องนี้กระจายไปทั่วหล้า เหล่ายอดฝีมือทั่วหล้าที่สนใจและเดินทางมาชม จะทำให้สามารถรักษาสมดุลของตระกูลเทียนไม่ให้กระทำอะไรอย่างโจ่งแจ้งได้."จงซานกล่าว.
"รับทราบ!"หยินโหลวหรี่ที่รับคำในทันที.
"จงซาน เรื่องนี้....!"เห่าเม่ยลี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เจ้าเร่งรีบบำเพ็ญเพียร เจ้ามีเวลาเตรียมตัวเหลือเพียงหนึ่งปี!"จงซานกล่าว.
จงซานที่ไม่ต้องกล่าวแผนการออกมาทั้งหมด ทว่าเห่าเม่ยลี่ก็เข้าใจเรื่องราวได้ ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นดีใจ กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น"อืม!"
"อี้อี้อี้อี้!"อีกฝั่งหนึ่งเทพอสูรบรรพชนที่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย.
จงซานที่ลูบเทพอสูรบรรพชนไปมากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม."โปรดวางใจ ข้าไม่แพ้แน่นอน!"