Chapter 736 เทพอสูรลำดับที่ 19.
"สวีเซียน รีบหนีเร็วเข้า!"ไป๋ซือเจิ้นที่ร้องออกมาเสียงดังจากภายในเจดีย์เหล่ยเฟิง.
จงซานที่รับรู้แล้ว แน่นอนว่า เวลานี้เขาอยู่ในดินแดนฝันอีกครั้งแล้วนั่นเอง.
จงซานที่ยกมือชี้นิ้วออกไป แสงสีขาวจากนิ้วก็ถูกปล่อยออกไป.
"สวีเซี่ยน? คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะศึกษาวิชามารด้วย?"ฟาไห่ที่แค่นเสียง.
พลังของจงซานนั้น ทำให้อากาศบิดเบี้ยวฉีกขาด จากนั้นบรรยากาศรอบ ๆ สั่นไหวไปมาในทันที โลกแห่งนี้ล่มสลายลง..
"ตูมมมมมมมมมมม!"
เจดีย์เหล่ยเฟิงที่ระเบิดดังสนั่น ฟาไห่ที่เผยใบหน้าหวาดกลัว.
"โพละ!!"
ดินแดนฝันที่ล่มสลายหายไป.
กลับมาสู่ความเป็นจริง จงซานที่ค่อย ๆ พยุงร่างขึ้นจากโต๊ะ เขาที่หลุดออกมาจากแดนฝัน จงซานที่ค่อย ๆ ปรับสภาพบรรยากาศรอบ ๆ ช้า ๆ .
พร้อมกับลืมตาขึ้นมอง ที่ด้านหน้านั้นมีอสูรตัวเล็กขนปุยสีน้ำเงินกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับกลุ่มก้อนของวาสนาสีทองที่อยู่ด้านหน้าขณะที่มันกำลังกินอย่างเพลิดเพลินอารมณ์.
"เทพอสูรบรรพชน? เสี่ยวชิงรึ? เนียนโยวโยวล่ะ?"จงซานที่สอบถามออกไปด้วยรอยยิ้ม.
เทพอสูรบรรพชนเสี่ยวชิงที่เพิ่งขโมยวาสนาของจงซานมา ด้วยการส่งจงซานเข้าสู่แดนฝัน ไม่คิดเลยว่า จงซานนั้นจะตื่นขึ้นมาจากความฝันเองได้.
"อี้?"เสี่ยวชิงที่ตกใจเล็กน้อย แขนที่เรียวเล็กของมันที่คลายออก.
"ครืนนน!"วาสนาสีทองที่กลับคืนสู่ร่างของจงซาน.
"อี้ อี้.....!"ท่าทางของเสี่ยวชิงที่แสดงท่าทางน่าสงสารร้องครวญครางออกมา.
จงซานตื่นแล้ว วาสนาที่มันดึงออกมา ตอนนี้หายกลับคืนเข้าร่างจงซานไปหมดแล้ว.
จงซานที่จ้องมองไปรอบ ๆ พร้อมกับขมวดคิ้วไปมา "เจ้าลงมาภพหยิน แล้วเนี่ยนโหยวโหยวล่ะ?"
ได้ยินจงซานสอบถาม เสี่ยวชิงที่จ้องมองจนมั่นใจ จากนั้นก็ลากตัวอ้วนป้อมของมัน เข้าไปหาจงซานพร้อมกับดึง ๆ ร่างของจงซาน.
"อี้ อี้.....!"
เสี่ยวชิงที่กระโดดไปมา จากนั้นก็ล้มลงไปนอน ทำเหมือนกับว่าฟ้าดินสั่นสะเทือนแยกออกจากกัน ราวกับว่ามีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น.
จงซานไร้ซึ่งคำพูด!
"ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้าบอกเลย เช่นนั้นเจ้าไม่เข้าไปบอกข้าในความฝันล่ะ แสดงให้ข้าเห็นในความฝัน!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
เสี่ยวชิงที่โค้งตัวหงึก ๆ ต้องการบอกว่าตกลง ก่อนที่มันจะยืนแขนเล็ก ๆ ของมันออกมา พร้อมกับประทับไปยังร่างของจงซาน และส่งอำนาจสะกดจิตออกไป.
"อี้ อี้.....!"
พลังอำนาจที่แผ่เข้าส่งร่างจงซาน จงซานที่ไม่ได้ต่อต้านแต่อย่างใด.
...
ภายในตำหนักแห่งหนึ่ง จงซานที่มาโผล่ยืนอยู่ในตำหนัก ซึ่งด้านหน้านั้นเป็นเนี่ยนโหยวโหยว ซึ่งมีเทพอสูรบรรพชนนอนอยู่บนไหล่ของนาง.
จงซานที่โผล่ขึ้นในตำหนักนั้น หากแต่ไม่มีใครพบตัวจงซาน เหมือนกับว่าเขาเป็นเพียงแค่ร่างอากาศที่ว่างเปล่าเท่านั้น.
จงซานที่รับรู้ว่านี่คือแดนฝัน เป็นภาพฉายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต.
"เนี่ยนโหยวโหยว หกหมื่นปีที่แล้ว บรรพบุรุษของเจ้าคือบุคคลอันดับหนึ่งของโลกใบนี้ คิดค้นสร้างวิชาลับหมื่นแบบไร้รูปได้ เจ้าคือลูกหลานของนาง ข้าจึงให้ความเคารพต่อเจ้า แดนเทพอมตะก็ให้เกียรติต่อเจ้า ครั้งนี้คงต้องล่วงเกินแล้ว! เจ้าควรจะรู้ว่าไท่ซ่างจางเหล่าเป็นใคร? เขาต้องการเทพอสูรบรรพชนของเจ้า."ชายร่างสูงยาวเอ่ยเสียงที่ยาวยืดไปมาพร้อมกับกล่าวออกมาเสียงดัง.
"เทพอสูรบรรพชน ในโลกใบใหญ่คือเทพอสูรลำดับที่ 19 และเคยเป็นอันดับ 18 มาแล้ว ถึงแม้นว่าจะเป็นโลกใบใหญ่ยังถือว่าเป็นความลับ แม้แต่ปราชญ์เทพหลายคนยังไม่เคยเห็น ทว่าเทพอสูรบรรพชนนั้น เวลานี้ถึงจะมีลำดับที่ 19 ก็นับว่าเป็นเทพอสูรชั้นยอด เป็นหนึ่งในเทพบรรพชนที่อยู่ในร้อยลำดับ ไม่มีทั้งพ่อและแม่ หากแต่เกิดขึ้นมาจากอำนาจฟ้าดิน นี่คือสิ่งมีชีวิตที่หากยาก ล้ำค่าอย่างที่สุด การจะหาเทพอสูรบรรพชนเช่นนี้อีกตัวนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน."ชายร่างสูงยาวกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึมเช่นกัน.
"ข้าเองก็ไม่ต้องการทำเช่นนี้ เหมือนเช่นคนพาล ทว่าข้านั้นได้รับปากกับจิงเหยาซือ(ปรมาจารย์อสูรกายกระจก)วันนี้เจ้าจะต้องมอบมันมาให้ข้า จะมอบมาให้หรือไม่มอบ!"ชายร่างสูงยาวที่เอ่ยออกมา ดวงตาที่จับจ้องมองไปยังเทพอสูรบรรพชน เวลานี้เนี่ยนโหยวโหยวที่พุ่งหนีออกไปนอกตำหนักอย่างรวดเร็ว.
ในเวลาเดียวกันนี้ เนี่ยนโหยวโหยวที่ลอยอยู่บนอากาศ เสียงที่ดุดันไล่หลังมาในทันที.
"ไร้ประโยชน์ จิงเหยาซือนั้นได้มอบเจดีย์กระจกหมื่นลักษณ์มาให้ข้า ไม่มีทางที่เจ้าจะหนีไปได้!" ทันใดนั้นเจดีย์กระจกหมื่นลักษณ์ที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมกับส่องประกายแสงปกคลุมพื้นที่โดยรอบ ๆ เทพอสูรบรรพชนบนไหล่ของเนียนโยวโยวทันใดนั้นก็หายไปในทันที.
เนี่ยนโหยวโหยวที่ไม่กล้าหันหน้ากลับแม้แต่น้อย นางที่หนีไปยังพื้นที่แห่งหนึ่ง เพื่อหลบเลี่ยงและหายไปจนมองไม่เห็น.
เจดีย์กระจกหมื่นลักษณ์ที่ขยายขนาดพร้อมกับกักขังเทพอสูรบรรพชนเอาไว้ ก่อนที่จะร่วงหล่นลงบนพื้นเสียงดังสนั่น.
"ตูมมมมมม!"
ชายร่างสูงยาวไม่ได้ไล่ตามเนี่ยนโหยวโหยวไป จดจ้องมองไปยังเทพอสูรบรรพชนที่ถูกเจดีย์กระจกหมื่นลักษณ์กักขังเอาไว้.
"เจ้านายของเจ้า ทิ้งเจ้าหนีไปแล้ว!"ชายร่างสูงยาวเอ่ยออกมา.
ทว่าทันใดนั้นเทพอสูรบรรพชนก็กลายร่างเป็นเนี่ยนโหยวโหยวแทน.
ร่างที่สูงยาวที่หันขวับไปยังทิศทางหนึ่งทันที.
"วิชาลับหมื่นแบบไร้รูป? นี่เจ้าเปลี่ยนร่างเป็นเทพอสูรอย่างงั้นรึ? และยังเปลี่ยนรูปร่างของสิ่งอื่นได้อีก? "ด้วยการกลายร่างเป็นทรายสีทอง และเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นเทพอสูรบรรพชน และยังเปลี่ยนร่างเทพอสูรบรรพชนเป็นตัวเองได้อีก นับเป็นวิชาเปลี่ยนลักษณ์ที่พิเศษมาก.
"เป็นข้าแล้วไง เจ้าเลิกคิดที่จะจับตัวเสี่ยวชิงซะ!"เนี่ยนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาเสียงแข็ง.
ที่หน้าผากของร่างสูงยาวที่เปล่งแสง เนี่ยนโหยวโหยวก็หมดสติไปในทันที.
"นำตัวเนี่ยนโหยวโหยวไปขังในคุกเทวะ ไม่ได้รับอนุญาตจากข้าห้ามใครปล่อยนาง!"ชายร่างสูงยาวที่บินออกไปอย่างรวดเร็ว.
ภาพเหตุการณ์ที่เปลี่ยนเป็น จงซานที่สัมผัสได้ว่า ร่างของเนี่ยนโหยวโหยวที่บินหนีไปก่อนหน้านี้ ร่างของนางที่สั่นไปมา ทรายสีทองก็ค่อยสลาย กลายเป็นเทพอสูรบรรพชนไปในที่สุด.
เทพอสูรบรรพชนที่หนีออกมายืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง จ้องมองไปยังทิศทางที่หนีออกมา แววตาของมันที่เต็มไปด้วยความเศร้า.
"อี้...!"ที่ดวงตาของมันส่องประกายแสง ทุกอย่างก็แตกสลายหายไป.
"โพละ!"แดนฝันที่แตกสลายหายไปในทันที.
จงซานที่ตื่นขึ้นมา จ้องมองไปยังเทพอสูรบรรพชนที่น่าสงสาร พร้อมกับขมวดคิ้วสูดหายใจลึก.
"เนี่ยนโหยวโหยว ชายร่างสูงยาว?"
"อี้อี้อี้!"เทพอสูรบรรพชนที่พยักหน้าอีกครั้ง.
"นางเกิดอุบัติเหตุ แล้วเจ้าหาที่นี่เจอได้อย่างไร?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"อี้อี้อี้อี้!"เทพอสูรบรรพชนที่ส่ายหน้าไปมา.
"เจ้าไปหลาย ๆ ที่ ก่อนที่จะมาที่นี่อย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"อี้อี้อี้!"เทพอสูรบรรพชนพยักหน้า.
จงซานพยักหน้า ก่อนที่จะปลดปล่อยวาสนาก้อนหนึ่งออกมาให้มัน ขณะที่เขาครุ่นคิด ดูเหมือนว่ามันจะบังเอิญมาเจอเขาที่นี่ ทว่าไม่รู้ว่ามันผ่านไปที่ไหนมาบ้าง และเทพอสูรบรรพชนตนนี้มีความเร็วขนาดใหนกัน.
ทว่าไม่ว่าเทพอสูรบรรพชนจะไปที่ใหนมาบ้าง ก็ไม่ใช่อะไรที่จงซานที่ใส่ใจ.
.........
สามเดือนหลังจากนั้น.
นรกขุมหนึ่งใกล้ ๆ น้ำพุเหลือง ซึ่งเป็นสถานที่อยู่ของตระกูลเทียน.
เย่ชิงเฉิงและเทียนเซียวจื่อยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง.
"ประมุขเย่ คิดว่าท่านมาที่นี่คงต้องการรู้ว่าเทพอสูรบรรพชนอยู่ที่ใหนสินะ?"เทียนเซียวจื่อที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ถูกต้อง ข้าได้ยินข่าวมาว่า เทพอสูรบรรพชนนั้นป้วนเปี้ยนอยู่ในตระกูลเทียนของเจ้า ท้ายที่สุดก็หนีออกไปได้?"เย่ชิงเฉิงกล่าวออกไป.
"นึกว่าประมุขเย่จับตัวมันเอาไว้ได้แล้วสะอีก?"เทียนเซียวจื่อที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"เป็นไปได้ว่าเจ้ารู้สินะว่ามันหนีไปที่ใหน?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ถูกต้อง เทพอสูรบรรพชนนั้นหนีจากตระกูลเทียนของข้าไป ทว่าตระกูลเทียนของข้าก็ส่งคนออกไปตามเช่นกัน แม้ว่าจะไม่สามารถจับตัวมันได้ ทว่าก็ยังดีกว่าโลกอมตะของท่านมาก อย่างน้อยก็รู้ว่ามันไปที่ใหน!"เทียนเซียวจื่อกล่าว.
"หืม?"เย่ชิงเฉิงที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
"ไม่รู้ว่าประมุขเย่ต้องการไปดูกับข้าหรือไม่?"เทียนเซียวจื่อเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
เย่ชิงเฉิงที่หรี่ตาจ้องมอง พร้อมกับสอบถามออกไป "ทำไมเจ้าต้องช่วยข้าด้วย?"
"ช่วยรึ? เฮ้เฮ้ แล้วแต่ประมุขเย่จะคิด เหมือนที่ข้าได้บอกไป ข้าต้องการไปดูเทพอสูรบรรพชน ไม่ว่าท่านจะไปหรือไม่ไป ข้าก็ต้องไปอยู่ดี!"เทียนเซียวจื่อกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"คิดว่าข้ากลัวอย่างงั้นรึ?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน.
......
เมืองซ่าง ในห้องอักษรของจงซาน จงซานพร้อมกับกลุ่มของกุนซืออีกหลายคน.
"ฝ่าบาท เรียกตัวพวกเรามาเช่นนี้ มีอะไรอย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"สองเดือน เฉียนโหยวจะกลับมา!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง.
ได้ยินคำพูดของจงซาน อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา "ฝ่าบาท หวงโหวทำสำเร็จแล้วอย่างงั้นรึ?
"อืม ในเมื่อส่งข่าวมาแล้ว นั่นก็หมายความว่าสำเร็จแล้ว เจ้าเริ่มแผนการได้!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"เหล่าเสนาธิการทุกคนที่รับคำในทันที.
"วูซซซซซ!"
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ทุกคนที่รับรู้ถึงสัมผัสเทวะของใครบางคนที่กวาดผ่านตำแหน่งแห่งนี้ในทันที.
"อี้ อี้....!"
เทพอสูรบรรพชนไม่รู้ว่ามาจากใหน ทันใดนั้นก็พุ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของจงซานทันที.
ใบหน้าของทุกคนที่เปลี่ยนไปเป็นตื่นตกใจ พร้อมกับอยู่ในสภาวะตื่นตัวในทันที.
"เย่ชิงเฉิง?"จงซานที่แค่นเสียงเย็นชา ก้าวออกไปด้านนอกห้องอักษร.