Chapter 735 หลวงจีนเย่ชิงเฉิง.
เห่าเม่ยลี่ที่เล่าเรื่องทั้งหมดออกมา จงซานที่รับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น.
"จงซาน เจ้าต้องช่วยข้าแก้แค้น ข้าต้องการสังหารโจวเหยาซือ ข้าต้องการนำวิญญาณของมันมาเซ่นอาจารย์ ข้าต้องการให้มันตกตายไปดีกว่ามีชีวิต!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยความเกลียดชังอย่างที่สุด.
จงซานที่ครุ่นคิด ก้าวเดินออกไปช้า ๆ เห็นชัดเจนว่า จงซานในเวลานี้ยังคงใจเย็นเป็นอย่างมาก.
เห็นจงซานที่ยังไม่รับปากนางเป็นจริงเป็นจัง ใบหน้าของเห่าเม่ยลี่ที่เปลี่ยนเป็นไม่ดีอีกครั้ง.
"เจ้าไม่ยินดีจะช่วยข้าอย่างงั้นรึ?"แววตาของเห่าเม่ยลี่ที่หมดอาลัยตายอยากและขุ่นเคือง แววตาที่จ้องเขม็งเต็มไปด้วยคราบน้ำตา.
"ไม่ใช่ว่าข้าไม่ยินดีช่วยเจ้า ถึงเร่งรีบในตอนนี้ ก็ไม่มีผลอะไรสักเล็กน้อย โลกอมตะนั้นคือแดนเทวะ มีประวัติความเป็นมายาวนาน? พวกเราจะต้อง......!"จงซานที่ขมวดคิ้วครุ่นคิดกล่าวตอบออกไป.
"ไม่ ข้าต้องการจะถามเจ้า เจ้าจะช่วยข้าใช่ไหม!"น้ำตาของนางที่เป็นคราบเกรอะกรังอยู่เต็มสองแก้ม จ้องมองจงซานเขม็ง.
จงซานที่หันกลับมาจดจ้องมองเห่าเม่ยลี่ด้วยความลึกล้ำและกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม "ถึงพวกเราจะช่วยกัน ก็ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ จงรอโอกาส เมื่อถึงเวลาที่เหมะสมพวกเราจะทำลายโลกอมตะ ฆ่ามันทั้งหมดไม่ดีกว่ารึ?"
"เจ้า...!อะไร? ทำลายโลกอมตะรึ? ฆ่าทั้งหมดอย่างงั้นรึ?"เห่าเม่ยลี่ที่รู้สึกขุ่นเคืองในตอนแรก ทันใดนั้นก็ตระหนักถึงคำพูดของจงซาน พร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.
จงซานที่พยักหน้ารับเบา ๆ .
เห็นจงซานรับปากอย่างจริงจัง ใบหน้าของเห่าเม่ยลี่ที่มีน้ำตาไหลออกมา พร้อมทั้งรอยยิ้มในทันที เต็มไปด้วยความลึกล้ำ.
"ข้าต้องการทำลายโลกอมตะ ข้าต้องการฆ่าพวกมันให้หมด ข้าต้องการโจวเหยาซือตายดีกว่ามีชีวิต!"เห่าเม่ยลี่กล่าวออกมาทันที.
"เจ้าไม่ต้องการสังหารโจวเหยาซือด้วยตัวเอง นำวิญญาณมันมา ทำให้มันตายดีกว่ามีชีวิตดีกว่าหรอกรึ?"จงซานกล่าวออกมาอีกครั้ง.
"ข้าต้องการ!"ใบหน้าของเห่าเม่ยลี่ที่เต็มไปด้วยความดุร้าย.
"แต่ว่า ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน!"เห่าเม่ยลี่แสดงท่าทางเศร้าใจ.
"ในอดีต ราชวงศ์สวรรค์ต้าหง เซิ่งซ่างเห่าเทียน ผู้กุมอำนาจสูงสุด ใครกล้าต่อกรกับเขา? 50,000 ปีที่แล้ว ประมุขสำนักเหวินบุคคลอันดับหนึ่งของทวีปศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ไม่มีใครด้อยกว่าโจวเหยาซือเลย เจ้าที่ได้สืบทอดประมุขของสำนักเหวิน และมีสายโลหิตของเห่าเทียน เจ้าคิดว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกรึ? เจ้าเพียงแค่ต้องการเวลา นอกจากนี้ยังไม่นานแน่นอน!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"แต่ว่า จะให้รอไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ?"เห่าเม่ยลี่ที่แสดงท่าทางร้อนใจ.
"ต้องการแก้แค้น หรือต้องการไปหาความตาย เจ้าเลือกเอา!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
เห่าเม่ยลี่สูดน้ำมูกเสียงดัง พร้อมกับปาดน้ำตาของนางเอง พร้อมกับกล่าวอย่างหนักแน่น "ข้าต้องฝึกฝนวิชา ข้าจะต้องแก้แค้นให้อาจารย์ให้ได้!"
"เจ้าฝึกฝนวิชาอยู่ในเมืองซ่างแห่งนี้ก่อน เมื่อเวลามาถึง ข้าจะบอกเจ้าเอง!"จงซานที่กล่าวอย่างหนักแน่น.
เห็นท่าทางที่จริงจังของจงซาน เห่าเม่ยลี่ที่กัดริมฝีปากและกล่าว่า "จงซาน เจ้าโปรดวางใจ ตราบเท่าที่เจ้าช่วยข้าแก้แค้น ข้าจะบอกความลับอนุสาวรีย์อมตะทั้ง 108 ให้เจ้ารู้ และอนุสาวรีย์อมตะของข้า จะมอบให้เจ้าทั้งหมดเลย!"
"อนุสาวรีย์อมตะ? ไม่ใช่ว่ามีเพียงแค่ 72 อันหรอกรึ?"จงซานที่ตกใจเล็กน้อย.
"36 อันนั้น มันอยู่ในมือของข้าตั้งแต่แรกแล้ว!"ดวงตาของเห่าเม่ยลี่ที่เป็นสีแดง.
"ข้าหมายความว่า อนุสาวรีย์อมตะนั้นเป็นของตระกูลเห่า.....!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"ชิ ตระกูลเห่า? ตระกูลเห่าแล้วอย่างไร หลายปีมานี้ ข้าถูกรังแก ตระกูลเห่าอยู่ที่ใหน? ข้าไม่ได้มีหน้าที่ช่วยตระกูลเห่าหาอนุสาวรีย์อมตะซะหน่อย ตราบเท่าที่ข้าล้างแค้นให้อาจารย์ได้ สิ่งอื่นใดก็ไม่สำคัญ."เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวด้วยความขมขื่น.
เห่าเม่ยลี่ที่กลับไปพัก จงซานที่จดจ้องมองด้วยความเงียบครู่หนึ่ง.
โลกอมตะ? จงซานที่เริ่มวางแผนการเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้ว ก่อนหน้านี้เต๋าจวินเซิ่งหยาได้นำระดับสวรรค์แท้เข้าล้อมสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว จงซานได้ให้คำมั่นว่าจะต้องเอาคืนเต๋าจวินเซิ่งหยาแน่ ในเวลานี้ การเลือกเป้าหมายเป็นโลกอมตะภพหยิน นับว่าเป็นการเอาคืนที่ดีที่สุด.
ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในโลกอมตะตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง.
ไท่ซ่างจางเหล่า โจวเหยาซือ? และยังมีพี่ใหญ่ของโจวเหยาซืออีก? ระดับสวรรค์แท้อย่างงั้นรึ? อีกทั้งกรรมวาสนาปกป้องดินแดนอีก?
โลกอมตะ ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ !
จากนั้น ก็ผ่านมาอีกห้าเดือน จงซานที่กำลังจัดการราชกิจภายในเมืองซ่าง ห้องอักษรของจงซาน.
"ผู้มีพระคุณ เจี้ยนหงได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เสี่ยวหวังและผู้มีพระคุณเป็นศัตรูกัน เจี้ยนหงนั้นไม่ยุติธรรมกับผู้มีพระคุณ โปรดให้เจี้ยนหงได้เป็นตัวแทนพูดคุยชักชวนเสี่ยวหวังให้ยอมจำนนเถอะ!"เจี้ยนหงที่กัดริมฝีปากขณะพูด.
"เจ้าคิดดีแล้วรึ?"จงซานสอบถาม.
เจี้ยนหงที่กัดริมฝีปากแน่นครุ่นคิดและกล่าวออกมาว่า "เจี้ยนหงไม่สามารถกระทำการไม่ยุติธรรมกับฝ่าบาทได้อีกครั้ง!"
จงซานจ้องมองไปยังเจี้ยนหง พลางครุ่นคิด เหว่ยไท่จงที่ส่งเจี้ยนหงมาที่นี่ คาดหวังที่จะใช้นางในการกำราบเสี่ยวหวัง เพื่อใช้เจี้ยนหงชักชวนเสี่ยวหวังเข้ามาสวามิภักดิ์นั่นเอง.
ทว่าจงซานนั้นทำไม่ได้ในตอนนี้ แม้นว่าจะมีเจี้ยนหงชักชวนเสี่ยวหวังก็ตาม ก็ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จ ดังนั้นจงซานจึงยังไม่ต้องการให้นางลงมือในเวลานี้.
"ยังไม่จำเป็น เสี่ยวหวังนั้นยังมีห่วงอยู่!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"มีห่วงอะไรอย่างงั้นรึ?"เจี้ยนหงที่กล่าวออกมาเบา ๆ
"หรูเหยี่ยน เสี่ยวหวังยังมีคนที่ต้องเป็นกังวล หรูเหยี่ยนนั้นอยู่ในมือของตระกูลเทียนภพหยิน!"จงซานกล่าว.
ได้ยินคำพูดของจงซาน คิ้วของเจี้ยนหงที่ขมวดไปมา ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน เข้าใจเหตุผลได้ในที่สุด.
"ผู้มีพระคุณ เรื่องนี้....!
"เจ้าไม่ต้องใจร้อน เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อถึงเวลา ข้าจะขอให้เจ้าก้าวเข้าสู่สนามรบเพื่อชักชวนเขาแน่ หวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจะไม่บ่ายเบี่ยง!"จงซานที่กล่าวออกมา.
"ไม่อย่างแน่นอน!"เจี้ยนหงที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
หลังจากนั้นเจี้ยนหงก็จากไป จงซานที่ตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ บนโต๊ะต่อ.
จากนั้นไม่นาน ที่ด้านนอกห้องโถงมีขันทีชราที่เดินเข้ามา.
เสียงของขันทีชราที่โวยวายเสียงดัง.
"เจ้าพวกโง่เง่า พวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? คาดไม่ถึงเลยว่าเป็นองค์รักษ์กลับแอบหลับอย่างงั้นรึ?"ขันทีชราที่ตะโกนด่าว่าเสียงดังลั่น.
กับเสียงตวาดดัง องค์รักษ์คนหนึ่งที่ตระหนกตกใจตื่นขึ้นมาในทันที.
"กงกง พวกเรา พวกเรา.........!"เหล่าองค์รักษ์หน้าเสียพูดอะไรไม่ถูก.
"ข้าจะต้องไปแจ้งหัวหน้าพวกเจ้าให้ลงโทษ ชิ!"ขันทีชราที่ว่ากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"เรื่องนี้.....!"
เหล่าองค์รักษ์ที่ถอยออกไปทันที ก่อนที่จะมีกลุ่มอื่นเข้ามาแทน.
องค์รักษ์คนหนึ่งหลังจากที่ถูกสอบสวนเพื่อการลงโทษเขาที่กล่าวออกมาว่า "หัวหน้า พวกเราไม่รู้เช่นกันว่าหลับได้อย่างไร?"
"ใช่ หัวหน้า ข้าฝัน ฝันว่าได้เดินทางไปยังซุยหยุนโหลวด้วยกัน มีสาวงามมากมาย คอยบริการ!"
"หืม ข้าเองก็ฝันเช่นเดียวกับเขา!"
"ข้าด้วย!"
จงซานในห้องอักษร ขันทีชราที่เพิ่งก้าวเข้าไป ไม่นานหลังจากนั้นก็เร่งรีบถอยห่างออกมา.
"กงกง มีอะไรอย่างงั้นรึ?"องค์รักษ์คนหนึ่งที่สอบถามออกมา.
"ฝ่าบาทคงเหนื่อยล้า ทรงราชกิจอยู่ตลอดเวลา น้อยครั้งที่จะได้พัก คาดไม่ถึงเลยว่าจะหลับขณะที่กำลังตรวจเอกสารอยู่ ทุก ๆ คนอย่าได้ส่งเสียงดัง ให้ฝ่าบาทได้พักผ่อน!"ขันทีชรากล่าวออกมาเบา ๆ .
"รับทราบ!"เหล่าองค์รักษ์ที่รับคำในทันที.
................
ท้องฟ้าที่มือครึ้ม ฝนตกหนักปกคลุมพื้นที่ ถนนสองข้างทางที่เปียกปอนเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ผู้คนมากมายกำลังวิ่งหลบฝนกันจ้าระหวั่น.
จงซานในชุดบัณฑิต ยืนอยู่กลางสายฝน ที่ลงเม็ดหนักเอาการ เสื้อผ้าที่เปียกปอนทั่วทั่วร่าง กางเกงที่เปื้อนไปด้วยโคลนจนมาถึงเอว.
จงซานที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ศีรษะที่ส่ายไปมา ราวกับว่าลืมอะไรบางอย่าง หากแต่กลับคิดอะไรไม่ออก.
ไม่ไกลออกไปนั้น มีทะเลสาบขนาดใหญ่ ฝนตกที่ปกคลุมทำให้ผืนน้ำกระเพื่อม เป็นบรรยากาศที่ดูงดงามไม่น้อย ทว่าที่ด้านหน้าจงซานนั้น กลับมีเจดีย์ขนาดใหญ่อยู่.
เจดีย์เจ็ดชั้น มีชายคาสองชั้น สามารถมองผ่านเข้าไปในหน้าต่างได้ ดูงดงามอลังการไม่ธรรมดา.
จงซานที่ยืนอยู่ด้านหลังเจดีย์ ไม่สามารถมองเห็นชื่อของเจดีย์นี้ได้.
จงซานที่เงี่ยหูฟัง จากภายในเจดีย์ได้ยินเสียงครวญเพลงดังออกมา.
ผู้ใดเคยกระซิบข้างหู ว่าจะรักมั่นไม่เสื่อมคลาย!
เพียงเพื่อคำเดียวนี้ แม้ขาดใจก็พร้อมยอม
พิรุณใจสลาย สายลมหลั่งน้ำตา ความฝันพันพัว ความรักเนิ่นนานมา!
น้ำในทะเลสาบซีหูคือน้ำตาของข้า!
ความรู้สึกของข้าผสานกับท่านกลายเป็นเปลวไฟโชนแสง!
.........
พันปีรอพบเพียงครั้ง รอเพียงครั้ง
พันปีรอพบเพียงครั้ง ข้าไม่สำนึกเสียใจ
จงซานที่ฟังเพลงดังกล่าว รู้สึกเหม่อลอย ราวกับว่าเคยพบมาก่อน นี่ไม่ใช่ความจริง ในเวลานี้ จงซานที่รู้สึกเลือนลางกับสิ่งที่เกิดขึ้น จิตสำนึกของเขาที่กำลังต่อต้านกับภาพฉากที่เกิดขึ้นนี้.
จงซานที่ก้าวออกไป ไปอยู่ด้านหน้าของเจดีย์ จดจ้องมองขึ้นไปบนแท่นหินขนาดใหญ่ มีอักษรสามตัวเขียนเอาไว้อยู่.
เจดีย์เหล่ยเฟิง!( 雷峰塔)
เจดีย์เหล่อยเฟิง? ที่นี่คือเจดีย์เหล่ยเฟิง? แล้วข้าเป็นใครกัน?
"คุณชาย ช่วยข้าด้วย!"
เสียงของสตรีที่เรียกนั้นช่างดูคุ้นเคยนัก เสียงที่ส่งผ่านเข้ามาภายในจิตใจของจงซาน อยู่ในเจดีย์เหล่ยเฟิง คนที่ร้องเพลงก่อนหน้านี้ ขอร้องให้เขาช่วยอย่างงั้นรึ? นางต้องการให้เขาช่วยใช่ไหม?
"คุณชาย คุณชาย!"
เสียงนี้ช่างคุ้นเคยยิ่งนัก.
เสียงดังกล่าวนี้ได้ดังเข้ามาในจิตใจของจงซาน จิตสำนึกลึกลงไปด้านใน จงซานที่จดจ้องมองไปยังสตรีที่อยู่ในเจดีย์ สาวงามในชุดสีขาว รูปร่างน่าตาเหมือนกับเนี่ยนโหยวโหยว ใบหน้าของนางเวลานี้กำลังหดหู่ร้องขอความช่วยเหลือออกมา.
"ภรรยา?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา จิตสำนึกยังรู้สึกต่อต้านอยู่.
ในเวลาเดียวกันนั้น ประกายแสงสีทองสว่างจ้าก็ปรากฏขึ้น หลวงจีนผู้หนึ่ง ที่ถือไม้ตระพรต อีกมือหนึ่งถือชามดิน ได้ล่องลอยลงมาจากบนท้องฟ้า หากจงซานมีสติล่ะก็ แน่นอนว่าจะต้องจดจำได้ รูปร่างหน้าตาของหลวงจีนผู้นี้ ก็คือประมุขโลกอมตะ เย่ชิงเฉิง.
หลวงจีนที่ลอยลงมายืนอยู่บนพื้นไม่ไกลออกไปจากจงซาน ฝนที่ตกหนักนั้นกลับหลีกหนีไม่เข้าสัมผัสหลวงจีนผู้นี้เลย แม้แต่ดินเลนรอบ ๆ ยังถูกผลักให้ออกห่างจากหลวงจีนรูปนี้.
"สวีเซียน มนุษย์กับปิศาจนั้นแตกต่างกัน ทำไมเจ้ายังไม่รู้จักสำนึก?"หลวงจีนคนดังกล่าวเอ่ยออกมาเสียงดัง.
หลวงจีนคนดังกล่าวที่เอ่ยออกมานั้น ทำให้จงซานรู้สึกโง่งม ทันใดนั้นจงซานที่เปลี่ยนเป็นเงียบขรึม หายใจแฮก ๆ ก่อนที่จะได้สติฟื้นคืนกลับมา แววตาที่จดจ้องมองไปยังหลวงจีนคนดังกล่าวด้วยสายตาประหลาดใจ.
"เย่ชิงเฉิง?"จงซานที่หรี่ตาจ้องมอง.
"สวีเซียน นี่เจ้าลืมอาตมาฟาไห่ไปแล้วอย่างงั้นรึ?"หลวงจีนคนดังกล่าวที่เอ่ยออกมา.
จงซานที่จับจ้องมองไปยังเย่ชิงเฉิง แววตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ นี่เย่ชิงเฉิงเปลี่ยนเป็นหลวงจีนหัวล้านไปแล้วรึ?
จากนั้นจงซานก็เงยหน้ามองท้องฟ้า จ้องมองทะเลสาบซีหู่ จ้องมองเจดีย์เหล่ยเฟิง ใบหน้าเวลานี้ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมา.
"คุณชาย ฟาไห่มาแล้ว ท่านรีบหนีเร็วเข้า รีบหนีเร็วเข้า!"เสียงของเนี่ยนโหยวโหยวที่ร้องออกมาด้วยความตกอกตกใจ.
จงซานยังไม่เคลื่อนไหว ยังคงจ้องมองฟาไห่และไป๋ซูเจิ้น พร้อมกับสูดหายใจลึก ฝืนยิ้มออกมา รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันคืออะไร.