ตอนที่แล้วChapter 733 ร่างสถิตหมื่นปิศาจที่แปลกประหลาด.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 735 หลวงจีนเย่ชิงเฉิง.

Chapter 734 อาจารย์


"ตาเฒ่า อย่าพูดอะไรให้เสียเวลากับพวกเขาเลย คนแซ่เย่ พวกเราต้องการของบรรพชนของพวกเรา ส่งอนุสาวรีย์อมตะคืนมา ข้ารู้ว่ามันอยู่ในโลกอมตะ ส่งมันมาให้พวกเรา แล้วพวกเราจะจากไป!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยความอหังการ.

"อนุสาวรีย์อมตะ? บรรพบุรุษของเจ้ารึ? เห่าเทียน?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"แล้วอย่างไร?"เห่าเม่ยลี่กล่าว.

"ร่างหมื่นปิศาจ? อนุสาวรีย์อมตะ?"เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมาครุ่นคิด.

"จางเหล่าซ่างไปแจ้ง โจวเหล่าซือ! ให้เขาเดินทางมาที่นี่!"เย่ชิงซิงเฉิงที่สั่งการออกไป.

"รับทราบ!"จากนั้นคนผู้หนึ่งก็เข้าไปในโลกอมตะ.

จากนั้นไม่นานชายที่สวมชุดอลังการประณีตงดงามก็เดินออกมา แววตาของชายคนดังกล่าวที่เต็มไปด้วยความเย็นชา หรี่เล็ก สายตาที่เรียวส่องประกายเหมือนอสุรกายจิ้งจอก แววตาที่แปลกประหลาด ใบหน้าที่ขาวว๊อก ดูแตกต่างจากคนทั่วไปมาก.

เขาที่เข้าไปหาเย่ชิงเฉิง ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะจ้องมองไปยังเห่าเม่ยลี่.

"ร่างหมื่นปิศาจ? นับเป็นร่างหมื่นปิศาจที่งดงาม ช่างน่าเศร้าร่างหมื่นปิศาจที่สวรรค์กลัว และยังอิจฉาด้วย แม้นเป็นร่างสถิตที่หายาก หากแต่มีชีวิตได้ไม่ถึงหนึ่งร้อยปี!"ชายคนดังกล่าวที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่ดูไม่เหมือนชายและหากแต่ก็ไม่เหมือนสตรีเช่นกัน.

เสียงของเขาที่ลากยาวฟังดูแล้วน่าขนลุกไม่ต่างกับเสียงของอสุรกายเลย.

"ไท่ซ่างจางเหล่า!"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวกับเขา.

"เจ้าคือโจวเหยาซืออย่างงั้นรึ?"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวสอบถาม.

"ไม่ใช่ เห็นชัดเจนว่าเจ้ามีอายุมากกว่าร้อยปี เจ้ามีอายุขัยมากกว่าหนึ่งร้อยปีอย่างงั้นรึ?"โจวเหล่าซือที่ขมวดคิ้วไปมา.

"นั่นมันเรื่องของข้า!"ใบหน้าของเห่าเม่ยลี่ที่ตอบปัดไปในทันที.

"ไท่ซ่างจางเหล่า เรื่องนี้คงต้องกล่าวย้อนไปเมื่อห้าหมื่นปีที่แล้ว ดูเหมือนร่างหมื่นปิศาจจะถูกปลดพันธนาการนี้ไปแล้ว!"เย่ชิงเฉิงกล่าวตอบ.

"หืม?"

"ห้าหมื่นปีที่แล้วมีบุคคลอันดับหนึ่ง ซึ่งมีร่างหมื่นปิศาจกำราบยอดฝีมือทั่วหล้า พร้อมกับก่อตั้งสำนักเหวิน(สำนักมารผจญ)ขึ้นมา ช่างน่าเสียดาย หลังจากที่เขาจากโลกนี้ไป เพราะว่าสำหนักเหวินไม่มีผู้สืบทอดที่มีร่างหมื่นปิศาจเลย ทำให้ถดถอยลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นไม่นานก็หายไปจากโลกนี้ ในเวลานี้กลับปรากฏเห่าเม่ยลี่ขึ้น เป็นผู้สืบทอดสำนักเหวิน ด้วยประสบการของบรรพชน ทำให้นางรอดพ้นจากทัณฑ์ชีวิตได้!"เย่ชิงเฉิงที่สูดหายใจลึกจดจ้องมองไปยังจักรพรรดิพิษ.

จักรพรรดิพิษที่เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา เรื่องดังกล่าวนี้เป็นความภาคภูมิใจของเขา ในชีวิตนี้ จักรพรรดิพิษที่สังหารคนด้วยพิษมากมายในภพหยาง ขณะที่พัฒนายาพิษไปด้วย เพื่อที่จะฟื้นฟูสำนักของเขากลับมา เพื่อสำนักแล้ว เขาก็ได้พบกับร่างหมื่นปิศาจอีกครั้ง และทำให้นางกลายเป็นผู้สืบทอดของสำนักเหวินด้วย.

"โลกใบเล็กแห่งนี้นับว่ามีคนที่มีสามารถมากมายจริง ๆ  สามารถที่จะฝืนชะตาของร่างหมื่นปิศาจได้ ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดาจริง ๆ !"โจวเหยาซือที่เผยยิ้มชั่วร้ายให้กับเห่าเม่ยลี่.

เห่าเม่ยลี่ที่จ้องมองไปยังโจวเหล่าซือ ไม่ทนอีกต่อไปพร้อมกับกล่าวออกมาว่า"ในเมื่อเจ้ามาแล้ว ก็ดี มอบอนุสาวรีย์อมตะมาให้ข้าได้แล้ว!"

"อนุสาวรีย์อมตะรึ?"สายตาของโจวเหยาซือที่เผยแววตาสงสัย.

"ทำไมข้าต้องมอบมันให้เจ้าด้วย?"เย่ชิงเฉิงที่เผยยิ้มออกมา.

เย่ชิงเฉิงที่ไม่ได้จัดการเห่าเม่ยลี่ และไม่ได้คิดที่จะต่อรองอะไรกับเห่าเม่ยลี่อยู่แล้วด้วย ทักษะเทียนของเขานั้น ตราบเท่าที่ไม่ได้สังหารฝ่ายตรงข้าม สวรรค์สาปก็ไม่ได้ออกมาขวางทักษะเทียนของเย่ชิงเฉิงด้วยเช่นกัน.

"ข้ารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะนำมันกลับมาง่าย มอบอนุสาวรีย์อมตะคืนมา ข้าจะช่วยเจ้าสังหารระดับสวรรค์แท้ศัตรูของเจ้าให้สามคน หรือสังหารระดับสวรรค์แท้คนใดก็ได้."เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

กับคำพูดของเห่าเม่ยลี่ คิ้วของเย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา แววตาที่สั่นไหวเล็กน้อย.

ร่างหมื่นปิศาจนับว่าเป็นร่างสถิตที่พิเศษมาก ทำให้ทุกคนไม่สามารถทำร้ายเห่าเม่ยลี่ได้ มีเพียงแค่นางที่ไปหาเรื่องคนอื่นได้ แม้แต่ยั่วยุและมอบความตายให้คนอื่น! ส่วนอนุสาวรีย์อมตะนั้น หลายปีมานี้ไม่เคยมีใครสามารถมองเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นได้ และไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับโลกอมตะแต่อย่างใด.

"อนุสาวรีย์อมตะ? สาวน้อย?เจ้าเองก็มีอนุสาวรีย์อมตะอย่างงั้นรึ?"โจวเหยาซือที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"ไม่ใช่ธุระของเจ้า!"เห่าเม่ยลี่ที่หรี่ตาจ้องมอง.

ส่วน โจวเหยาซือนั้นหาได้สนใจแต่อย่างใด.

"งั้นเจ้าคงมีอนุสาวรีย์อมตะอย่างงั้นสินะ?"โจวเหยาซือคาดเดา.

"ชิ เจ้าไม่คิดจะมอบมันให้กับข้าอย่างงั้นรึ?"เห่าเม่ยลี่ที่อดทนไม่ไหว.

"ไท่ซ่างจางเหล่า! อนุสาวรีย์อมตะยังไงก็ไม่สามารถค้นพบความลับอะไรได้แล้ว อย่างน้อย.....!"เย่ชิงเฉิงที่ส่งข้อความไปยังโจวเหยาซือ.

โจวเหยาซือที่จ้องมองเย่ชิงเฉิงเล็กน้อย เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"โลกอมตะ คนที่สั่งข้าได้ยกเว้นเหล่าต้า ไม่มีใครมีคุณสมบัติพอที่จะสั่งข้า คิดว่าเจ้าเป็นประมุขใหญ่รึ? ถึงได้มาสอนข้า!"โจวเหยาซือที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

เย่ชิงเฉิงที่เป็นผู้ปกครองภพหยิน ได้ยินคำพูดของโจวเหยาซือ แววตาที่เปลี่ยนเป็นเย็นชาด้วยเช่นกัน.

"มีปัญหารึ? เจ้ากล้าสังข้าอย่างงั้นรึ?"โจวเหยาซือที่แค่นเสียงเย็นชา.

เย่ชิงเฉิงที่จดจ้องมองอย่างเฉยเมยไปยังโจวเหยาซือ และกล่าวออกมาว่า"ข้าให้เกียรติเจ้าโดยเรียกว่าไท่ซ่างจางเหล่า หากเจ้ากับเอาประมุขใหญ่มาข่มขู่ข้าโดยไร้ซึ่งเหตุผล ชิ ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการ เช่นนั้นข้าจะไม่ยุ่ง ทว่าข้าจะเตือนเจ้าอีกครั้ง ข้าเป็นประมุขผู้ดูแลโลกอมตะภพหยินแห่งนี้ เรื่องนี้เกี่ยวกับอนุสาวรีย์อมตะ ข้าจะไม่ยุ่งก็ได้ เจ้าจัดการเองก็แล้วกัน!"

จากนั้นเย่ชิงเฉิงก็บินเข้าไปยังโลกอมตะ.

สองผู้ฝึกตนสวรรค์แท้จ้องมองไปยังโจวเหยาซือ จ้องมองไปยังเย่ชิงเฉิง จากนั้นก็ตามเย่ชิงเฉิงไป ซึ่งเวลานี้มีชายในชุดสีแดงอีกคนที่มีระดับสวรรค์แท้กำลังแสดงความเคารพโจวเหยาซือพร้อมกับยืนอยู่ด้านหลัง.

จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ขมวดคิ้วจดจ้องสิ่งที่เกิดขึ้น.

"เอาล่ะ สาวน้อย เจ้ารู้ความลับของอนุสาวรีย์อมตะอย่างงั้นรึ?"โจวเหยาซือที่เผยยิ้มอย่างชั่วร้ายจดจ้องมองไปยังเห่าเม่ยลี่.

"เจ้าจะไม่มอบมันให้ข้าใช่ใหม?"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา.

"ไม่เพียงไม่มอบให้เจ้า?วันนี้ เจ้าไม่บอกความลับมันให้กับข้า อย่าหวังว่าจะจากที่นี่ไปได้!"โจวเหยาซือที่เผยยิ้มชั่วร้ายออกมา.

"ไร้สาระ กระเทยทุยอย่างเจ้านะรึที่จะขวางข้าเอาไว้? เจ้าไม่กลัวสาปสวรรค์อย่างงั้นรึ?"เห่าเม่ยลี่กล่าวแค่นเสียง.

"ตูมมมมมมม!"

รอบ ๆ ร่างของเห่าเม่ยลี่ที่ปรากฏเป็นเปลวเพลิงสีแดงมากมายลุกโชนขึ้นมา เพลิงสีแดง พร้อมกับดวงตาของนางที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร.

"ตูมมมมม!"

รอบ ๆ ตัวของโจวเหยาซือที่ปรากฏเพลิงสีน้ำเงิน ลุกโชนอย่างบ้าคลั่งด้วยเช่นกัน.

"เปรี้ยง!!"

ท้องฟ้าที่แยกออกจากกัน ทักษะเทียนของชายชุดสีแดงที่ปรากฏขึ้นมา ทว่าอำนาจสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นมา พร้อมกับกดทักษะเทียนของเขาให้เล็กลงเรื่อย ๆ  ทักษะเทียนที่สั่นไหวไปมา ชายระดับสวรรค์แท้ชุดสีแดงชาดหัวใจเย็นเยือบ ไม่รอช้าเร่งรีบหนีเข้าไปในโลกอมตะทันที.

"ดูเหมือนว่าเจ้าเองจะมีหัวใจปิศาจที่ดี!"โจวเหยาซือที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย.

"เจ้าไม่เป็นอะไรเลยรึ?"เห่าเม่ยลี่ที่ดวงตาเบิกกว้างแสดงท่าทางประหลาดใจ.

"แน่นอนว่าข้าไม่เป็นไร!"โจวเหยาซือที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย.

ทันใดนั้นนั้น มือของโจวเหยาซือที่ยืนออกไปยังเห่าเม่ยลี่ ด้วยความเร็วสูง พริบตาเดียวก็มาอยู่ด้านหน้าเห่าเม่ยลี่แล้ว.

"ตูมมมม!"

ฝ่ามือนั้นฟาดไปยังเปลวเพลิงสีแดงของเห่าเม่ยลี่ ทำให้เปลวเพลิงแตกกระจาย.

"เพลิงผลาญกรรม? นับเป็นร่างหมื่นปิศาจที่ยอดเยี่ยม คาดไม่ถึงเลยว่าจะก้าวมาถึงระดับนี้!"แววตาของโจวเหยาซือที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"ลี่ พวกเราถอยก่อน!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ร้องเตือนออกมา.

"ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะไม่เป็นไร"เห่าเม่ยลี่ที่เผยสีหน้าไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย.

"เพลิงแค้นปลายสวรรค์!"

เห่าเม่ยลี่ที่ตะโกนออกมาเสียงดังในทันที เปลวเพลิงสีแดงที่ระเบิดออกไปเสียงดัง.

ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็มืดครึ้ม แผ่นดินที่สั่นไหว สายฟ้ามากมายที่ส่องประหายแป๊บ ๆ  อากาศที่เต็มไปด้วยเศษฝุ่นที่มากมายไร้ที่สิ้นสุด ราวกับน้ำหลาก อากาศที่บิดเบี้ยว กลายเป็นสีเหลือง สิ่งก่อสร้างที่อยู่ใกล้ ๆ เริ่มเสื่อมสลายลง เหล่าศิษย์ของโลกอมตะ ที่นอนกองอยู่บนพื้น ราวกับว่าพลังชีวิตกำลังถูกดูดหายไปร่างกายเริ่มเหี่ยวชรา.

เห่าเม่ยลี่ที่โกรธเกรี้ยว ทำให้สวรรค์โกรธเกรี้ยวด้วย เหล่าระดับสวรรค์แท้ที่มีทักษะเทียนของตัวเอง ทว่าเห่าเม่ยลี่นั้นกับมีท้องฟ้าของโลกใบเล็กเป็นของตัวเอง เป็นร่างหมื่นปิศาจที่ร้ายกาจเป็นอย่างมาก.

เพลิงแค้นปลายสวรรค์ เป็นคำสาปที่รุนแรงเป็นอย่างมาก พุ่งออกไปพร้อมกลืนกินโจวเหยาซือ.

หากแต่รอบ ๆ ร่างของโจวเหยาซือนั้น มีม่านหมอกที่มืดครึ้มและสายฟ้ามากมายที่หมุนวนอยู่ พร้อมกับผลักคำสาปรอบ ๆ ออกไป.

เพลิงสีน้ำเงินของโจวเหยาซือนั้นลุกโชนอย่างบ้าคลั่งปกป้องคำสาปของเห่าเม่ยลี่เอาไว้อย่างคาดไม่ถึง.

"เป็นร่างหมื่นปิศาจที่ดี ข้าต้องการไม้เท้าใหม่พอดี ไม้เท้าอันต่อไป จะต้องหลอมมาจากร่างหมื่นปิศาจ จะยอดเยี่ยมที่สุด! "โจวเหยาซือที่เผยยิ้มพร้อมกับตวัดฝ่ามือออกไป.

"ทำไมเป็นเช่นนี้?"เห่าเม่ยลี่ไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย นอกจากนางมีร่างหมื่นปิศาจแล้ว ยังได้คำภีร์อาคมมารสวรรค์จากจงซานมาอีก คาดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้จะไม่สามารถทำอะไรโจวเหยาซือได้ เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?

"หนีเร็ว ลี่ หนีเร็วเข้า!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ดึงแขนของเห่าเม่ยลี่หนีในทันที.

"หนีรึ? ไม่เคยมีใครหนีข้าพ้น!"โจวเหยาซือเอ่ย.

ทันใดนั้น ทั่วท้องฟ้าปรากฏเป็นกงเล็บของโจวเหยาซือ ปรากฏปิศาจที่แตกต่างกันขึ้น ดวงตาของเขาที่เปลี่ยนเป็นสีแดง.

ทันใดนั้น เห่าเม่ยลี่ที่รู้สึกราวกับว่าสูญเสียการเชื่อมต่อกับฟ้าดิน ตอนนี้นางไม่สามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศรอบ ๆ  รู้สึกว่าตัวนางนั้นถูกหมางเมินจากฟ้าดินไปในทันที คนผู้นี้เป็นใครกัน?

ทันใดนั้น หัวใจของเห่าเม่ยลี่รู้สึกหวาดกลัวภายในใจขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่นางหวาดกลัวมากมายเช่นนี้ นางที่รู้สึกราวกับว่าความตายมาอยู่ต่อหน้าแล้ว.

"คำสาปเพลิงชีวิต!"จักรพรรดิพิษที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.

ทันใดนั้น บนร่างของจักรพรรดิพิษปัจจิมปรากฏเพลิงสีดำทมิฬปกคลุม..

พริบตาเดียวที่เปลวเพลิงสีดำลุกไหม้ มันได้วิ่งออกไปจากร่างของจักรพรรดิพิษปัจจิม พุ่งตรงโอบร่างของโจวเหยาซือในทันที.

ฟ้าดินหยุดนิ่ง พลังอำนาจของโจวเหยาซือหายไปในทันที แม้แต่โจวเหยาซือเวลานี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ตัวของเขาคาดไม่ถึงเลยว่าเพลิงสีดำกำลังปกคลุมร่างอยู่ สิ่งนี้คืออะไร?

เพลิงสีดำนี้คืออะไร? ทำไมถึงได้มากักขังข้าเอาไว้เช่นนี้?

โจวเหยาซือที่กำลังดิ้นรนสุดกำลัง หากแต่ก็ยังไม่สามารถสลัดเพลิงสีดำนั้นออกไปได้.

"ตาเฒ่า พวกเราไม่เป็นไรแล้ว!"ใบหน้าของเห่าเม่ยลี่ที่แสดงความประหลาดใจดีใจออกมา.

ก่อนหน้านี้การสื่อสารกับฟ้าดินของนางขาดหายไป ตอนนี้กลับคืนมาแล้ว สามารถใช้คำสาปได้แล้ว.

"ลี่!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่อ่อนแรง.

"ตาเฒ่า ตาเฒ่าเจ้า? ทำไมใบหน้าของเจ้าถึงซีดขาว?"เห่าเม่ยลี่ที่เผยท่าทางตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที.

ทันใดนั้น เห่าเม่ยลี่ที่ตัวสั่น หัวใจที่กลัวขึ้นมาอย่างไรเหตุผล ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน สูญเสียการเชื่อมต่อกับฟ้าดินก่อนหน้านี้ ยังไม่หวาดกลัวขนาดนี้เลย.

"ลี่ นี่คือตราประมุขของสำนักเหวิน ภายในนี้มีของตกทอดของประมุขรุ่นแรก มีเพียงร่างหมื่นปิศาจเท่านั้นถึงจะมองเห็นได้ ก่อนหน้านี้เจ้าเป็นคนใจร้อนจนเกินไป ข้าจึงไม่กล้ามอบให้เจ้า ข้ารอมอบให้เจ้าเมื่อเจ้าก้าวไปถึงระดับสวรรค์แท้ ในเวลานั้นเจ้าจะแข็งแกร่งเพียงพอ ข้าถึงจะมอบมันให้กับเจ้า หากแต่ตอนนี้ข้าคงรอไม่ถึงเวลานั้นได้ หลังจากนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว!"จักรพรรดิพิษที่นำเหรียญตราสีขาววางมันลงบนมือของเห่าเม่ยลี่.

"ตาเฒ่า ตาเฒ่า เจ้าอย่าทำให้ข้ากลัว!"เห่าเม่ยลี่กุมตราสีขาวเอาไว้ จดจ้องมองใบหน้าของจักรพรรดิที่ขาวซีดจนน่าหวาดกลัว.

"ก่อนหน้านี้ข้าได้ใช้คำสาปเพลิงชีวิต เป็นวิชาของสำนักเหวิน ข้าได้เปลี่ยนชีวิตและวิญญาณข้าเป็นเพลิงทมิฬ ชีวิตข้าได้หมดลงแล้ว เจ้าอย่าได้เสียใจให้กับข้า."

"ตาเฒ่า เจ้าต้องไม่เป็นไร เจ้าอย่าได้ทำให้ข้ากลัว ข้าสั่งเจ้าอย่าทำให้ข้ากลัว!"เห่าเม่ยลี่ที่ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาในทันที.

เห่าเม่ยลี่ที่เป็นคนเหลี่ยมจัด ไร้เหตุผล เอาแต่ใจ ไม่รู้อะไรถูกผิด นางที่ทำทุกอย่างตามที่ตัวเองเป็นปรารถนาอย่างไร้เดียงสาเท่านั้นเอง ที่เป็นเช่นนั่นก็เพราะว่าสภาพความเป็นอยู่ของนาง ชีวิตของนางที่ไม่มีบิดามารดาตั้งแต่เกิด โลกที่เลวร้าย นางที่มีศัตรูมากมาย นางไม่เคยมีใครสอนสั่ง เพราะอยู่ตัวคนเดียว คนที่เข้าใจนางนั้นแทบจะไม่มี ทว่าจักรพรรดิพิษ นับว่าเป็นคน ๆ เดียว ที่ใส่ใจนาง ที่เหมือนกับครอบครัวของนางจริง ๆ .

ถึงแม้ว่าบรรพชนเห่าเทียนปรากฏตัวหน้าเห่าเม่ยลี่ก็ตาม เวลานี้นางก็พร้อมที่จะเป็นศัตรูหากว่าเป็นศัตรูกับจักรพรรดิพิษปัจจิม.

"เร็วเข้า เพลิงทมิฬนั้นสามารถอยู่ได้เพียงแค่หนึ่งชั่วยาม เร็ว เร็วเข้า!"จักรพรรดิปัจจิมเอ่ย.

"ตาเฒ่า!"ใบหน้าของเห่าเม่ยลี่ที่อาบไปด้วยน้ำตาและร้องไห้ออกมา.

ทว่าในเวลาเดียวกันนี้ มือและเท้าของจักรพรรดิพิษปัจจิมที่ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นหมอกและสลายหายไปช้า ๆ .

"ตาเฒ่า ตาเฒ่า!"เห่าเม่ยลี่ที่ร้องไห้ออกมาด้วยความตื่นตกใจ.

จักรพรรดิพิษที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัว จดจ้องมองเห่าเม่ยลี่ สายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู พร้อมกับกล่าวปลอบนาง "ชั่วชีวิตของอาจารย์ เรื่องที่สำคัญที่สุด และทำให้อาจารย์มีความสุขที่สุดคือรับเจ้าเป็นศิษย์ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เจ้าทำ เจ้าคือภาคภูมิใจของข้า เจ้าจงฝึกฝนตัวเองเพื่ออาจารย์ ชีวิตของข้าไม่เคยเสียใจเลย สิ่งเดียวที่ยังค้างคา ยังมีสิ่งที่ข้าต้องการ คือเจ้าจะเรียกข้าว่าอาจารย์สักครั้ง ก่อนที่ข้าจะจากไปได้หรือไม่?"

ในเวลาเดียวกันนี้ ขาและแขนของจักรพรรดิพิษได้สลายหายไปเป็นควันเรียบร้อยแล้ว.

เห่าเม่ยลี่ที่จดจ้องมองจักรพรรดิพิษด้วยความลึกล้ำ ร่างกายสั่นเทิ้ม.

"อาจารย์! อาจารย์!!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด