Chapter 733 ร่างสถิตหมื่นปิศาจที่แปลกประหลาด.
"เอาล่ะ เจ้ากล่าวมา มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคำสาปเจ้าใช้ไม่ได้ผล ทำจักรพรรดิพิษถึงตาย? ทำไมเจ้าถึงได้ไปหาเรื่องคนของโลกอมตะ?"จงซานพยักหน้ารับและสอบถามออกไป.
ได้ยินคำถามของจงซานแล้ว เห่าเม่ยลี่ที่นึกถึงเรื่องราวที่เจ็บปวดขึ้นมาในทันที จากนั้นใบหน้าของนางที่เปลี่ยนเป็นดุร้าย.
"มันมีนามว่าโจวเหยาซือ (ปรมาจารย์อสุรกายคำสาป) มันใช้วิชาคำสาป สังหารอาจารย์ ข้าต้องการให้มันตาย!"ใบหน้าของเห่าเม่ายหลี่ที่เผยความเกลียดชังที่ฝังลึกลงไปในใจเจาะลึกไปจนถึงกระดูก.
"โจวเหยวซือ? เป็นใครกัน?"จงซานสอบถาม.
"ข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันใช้วิชาคำสาปอะไร ทว่าใบหน้าของมันเหมือนอสุรกาย น่าเกลียดเป็นอย่างมาก!"เห่าเม่ยลี่ที่นั่งคิด.
"เรื่องนี้ เจ้าควรจะเล่าตั้งแต่แรกให้ข้าฟัง เจ้าไปมีเรื่องกับคนโลกอมตะได้อย่างไร?"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"อืม ตั้งแต่แรกนั้น ข้าและอาจารย์ได้ท่องเที่ยวไปทุกที่ และบังเอิญได้ยินคนโลกอมตะคนหนึ่งคุยกัน ได้ยินเกี่ยวกับที่พวกเขาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของอนุสาวรีย์อมตะสิบเอ็ดอัน!"เห่าเม่ยลี่ที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"อนุสาวรีย์อมตะ? ตอนนี้เหลืออีก 22 อัน ไม่ใช่ว่ามันอยู่ในราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยและแดนเทพอมตะหรอกรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ข้าก็คิดเช่นนั้น ทว่าข้าได้ยินมาว่าโจวเหยาซือนั้นเป็นคนนำอนุสาวรีย์อมตะลงมาในภพหยิน โดยวิธีใดนั้นไม่อาจรู้ได้!"เห่าเม่ยลี่กล่าว.
"หืม?"
"อาจารย์นั้นเพิ่งก้าวไปถึงระดับราชันย์แท้ ส่วนข้านั้นเพิ่งก้าวไปถึงระดับจักรพรรดิแท้ แม้ว่าข้านั้นจะมีระดับจักรพรรดิแท้ แต่ก็ไม่มีทางพ่ายแพ้ระดับสวรรค์แท้อย่างแน่นอน เพลิงคำสาปของข้านั้นทรงพลังมากยิ่งกว่าเดิม นับตั้งแต่เจ้ามอบตำราวิชาอาคมมารสวรรค์ให้ ข้าจึงไม่กลัวคนของโลกอมตะ พวกเราจึงได้เดินทางไปยังโลกอมตะ!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยความเจ็บปวด.
"หลังจากนั้น?"
............
สองปีก่อนหน้านั้น ที่เทือกเขาแห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนั้นมีสิ่งก่อสร้างมากมาย และยังมีผู้ฝึกตนหลายคนที่บินไปมา.
ที่ตรงกลางสิ่งก่อสร้างมากมายนั้น มีตำหนักขนาดใหญ่ ที่เขียนชื่อเอาไว้ว่า โลกอมตะ.
ในวันหนึ่งที่ บนเทือกเขาแห่งหนึ่งมีคนสองคนที่บินไปยังเทือกเขาตรงกลาง สองคนหนึ่งคน หนึ่งคนที่สวมชุดเสื้อคลุมยาวสีเลือง นับเป็นหญิงสาวที่งดงาม อีกคนหนึ่งเป็นคนที่สวมชุดสว่าง เป็นชายชราที่ใบหน้าเหมือนกับอสุรกาย.
เป็นเห่าเม่ยลี่และจักรพรรดิพิษปัจจิมนั่นเอง!
"ไป!"จักรพรรดิพิษปัจจิมที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"ตาเฒ่า โลกอมตะไม่ใช่คู่มือของพวกเรา!"เห่าเม่ยลี่ที่จ้องมองไปยังที่ต้องกลางเทือกเขา.
"แดนเทวะนั้น ไม่ใช่สถานที่ธรรมดา พวกเรา ไปอย่างสันติก่อน"ชายชราจักรพรรดิพิษที่กล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย.
พวกเขาทั้งสองที่บินลงไปยังสิ่งก่อสร้างที่ซับซ้อนบนเทือกเขาแห่งหนึ่ง.
"หยุดตรงนั้น ผู้มาเป็นใคร?"มือกระบี่ในชุดสีน้ำเงินที่เข้ามาขวางพวกเขาทั้งสอง.
"สำนักเหวิน จักรพรรดิพิษขอเข้าพบโจวเหยาซือ แดนเทพอมตะ!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวออกไป.
"สำนักเหวิน? ไม่เห็นเคยได้ยิน เจ้าต้องการพบกับโจวเหยาซือ มีอะไร? มีเรื่องอะไร?ถึงต้องการพบกับโจวเหยาซือ?"มือกระบี่ในชุดสีน้ำเงินที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอหังการการก่อนหน้า เมื่อได้ยินคำว่าโจวเหยาซือ ใบหน้าถึงกับเปลี่ยนเป็นขาวซีด.
ดูเหมือนว่าโจวเหยาซือ(ปรมาจารย์อสุรกายคำสาป) ถึงจะเป็นมือกระบี่ก็ยังรู้สึกหวาดกลัวกับนามดังกล่าว.
"มีปัญหาอะไร?"จักรพรรดิพิษที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ยังไม่รีบไปอีก!"เห่าเม่ยลี่กล่าวออกมาเสียงดัง.
มือกระบี่ชุดสีน้ำเงินขมวดคิ้วไปมาจดจ้องมองไปยังคนทั้งสอง"พวกเจ้ามีธุระอะไร?"
"มีธุระอะไรอย่างงั้นรึ? เพียงแค่ไปแจ้งโจวเหยาซือก็พอแล้ว!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางทนไม่ไหว.
จักรพรรดิพิษที่อยู่ข้าง ๆ จดจ้องมองไปยังเห่าเม่ยลี่ เผยยิ้มเล็กน้อย กับนิสัยทะนงของเห่าเม่ยลี่ที่เหมาะกับสำนักเหวินนัก ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจในตัวของเห่าเม่ยลี่เป็นอย่างมาก กับทุกคำพูดของนาง จักรพรรดิพิษจึงไม่ได้ว่ากล่าวอะไร กับความถือดีนี้ เป็นลักษณะเฉพาะเหมือนกับของเขาเช่นกัน.
"เกินไปแล้ว พวกเจ้าคิดว่าตัวเองอยู่ที่ใหนกัน?"มือกระบี่ในชุดสีน้ำเงินที่จดจ้องมองด้วยสายตาที่เย็นชา.
"ทางที่ดีเจ้าอย่าได้มาหาเรื่องข้า ไม่เช่นนั้นข้าอาจทนไม่ได้!"เห่าเม่ยลี่กล่าวออกมาด้วยเสียงเหยียดหยัน.
"ทนไม่ได้ เจ้าคิดว่าเจ้า...... ทำไมข้าวิงเวียน?"มือกระบี่ชุดน้ำเงินคราแรกที่กำลังพูดจาเสียงดัง ทันใดนั้นก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาในทันที.
"ศิษย์พี่ เป็นอะไรไป?"
ชายอีกคนที่บินตรงมา พร้อมกับเข้าไปประคองมือกระบี่ชุดสีน้ำเงินเอาไว้ ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงจะล้มลงหมดสติไปอย่างแน่นอน.
ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีเหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เข้ามารุมล้อม.
"มีคนเข้ามาสร้างปัญหา!"คน ๆ หนึ่งที่ร้องตะโกนออกไป พร้อมกับปรากฏคนมากมายเข้ามาล้อมพวกเขา.
คนกลุ่มหนึ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยจิตสังหารจดจ้องมองจักรพรรดิพิษและเห่าเม่ยลี่.
"แจ้งโจวเหยาซือให้มาพบข้า อย่าได้ทำให้ข้าโกรธเกรี้ยว!"เห่าเม่ยลี่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"กล้ามาสร้างปัญหาในโลกอมตะของพวกเราอย่างงั้นรึ? ศิษย์พี่ทุกคน ช่วยกันจับพวกมัน และทำการลงโทษตามกฎของสำนัก!"ชายในชุดสีแดงที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"ชิ!"
จักรพรรดิพิษแค่นเสียงเย็นชา.
ทันใดนั้น เหล่าผู้ฝึกตนมากมายเริ่มวิงเวียนหลายคนล้มหมดสติบนพื้นทีละคนทีละคน.
หลาย ๆ คนของโลกอมตะที่กรูกันเข้ามา ต่างก็ล้มลงกันไปทั้งหมด.
"นี่เจ้า กล้าที่จะวางยาพิษกับข้าอย่างงั้นรึ?"ชายในชุดสีแดงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดุร้ายอย่างที่สุด.
"ข้าไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับโลกอมตะ หากต้องการมีชีวิต เจ้าควรจะรู้ว่าควรจะหุบปากเอาไว้จะดีกว่า การพ่นคำพูดเหลวไหลออกมานั้น ถึงได้มีสภาพเป็นเช่นนั้นไงล่ะ!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวออกมา.
"เจ้า!"
หลังจากถูกยาพิษที่ทำให้มึนเมา ชายในชุดสีแดงที่รู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ภายในใจที่ต้องการฉีกกระชากพวกเขาให้ตกตายไป.
จักรพรรดิพิษที่จ้องมองออกไป ไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย แถมยังเผยท่าทางเหยียดหยันด้วยซ้ำ ชายในชุดสีแหงที่หันหน้าไปมองเห่าเม่ยลี่ด้วยสายตาดุร้าย.
สายตาของเขาที่จ้องมองเห่าเม่ยลี่ ภายในใจที่กำลังสาปแช่ง รอให้ท่านประมุขออกมา ข้าจะให้เจ้าตายเหมือนหมา.
"พุ!!"
ทันใดนั้นชายในชุดสีแดงชาด เขาเองไม่รู้แม้แต่น้อยว่าเกิดอะไรขึ้น ปากของเขาที่พ่นโลหิตออกมาอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าที่เจ็บปวดแสนสาหัส ราวกับว่ากำลังจะตกตายในไม่ช้านี้.
"ศิษย์พี่ใหญ่!"เหล่าผู้ฝึกตนทุกคนที่อุทานออกมาเสียงดัง.
"เจ้าปิศาจเฒ่า เจ้ากล้าทำร้ายพวกเราอย่างงั้นรึ?"ทุกคนที่นอนโทรมอยู่บนพื้นกำลังเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
"เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับตาเฒ่า เขาแส่หาความตายเอง!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาไม่สนใจคนเหล่านั้นแม้แต่น้อย.
สายตาของทุกคนทันใดนั้นก็จ้องมองไปยังเห่าเม่ยลี่ สายตาของทุกคนที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวแผ่ออกมา.
"นังผู้หญิงสารเลว!"
"พุ!!"
ทันทีที่พวกเขาดุด่าเห่าเม่ยลี่ พวกเขาก็ถูกคำสาปในทันที พ่นโลหิตออกมาอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดทรมาน.
แปลกมาก! เพียงแค่ด่านาง พวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บหนัก ผิดปรกติเกินไปแล้ว! เหล่าคนที่ล้มลงนอนกลิ้งไปมาบนพื้นตอนนี้ ยิ่งรู้สึกเกลียดชังมากยิ่งขึ้น!
"พุ!!"
ความสาปที่แสดงผลแม้ว่าเห่าเม่ยลี่จะไม่ได้ลงมือ เหล่าคนแล้วคนเหล่าที่ต้องพ่นโลหิตออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทั้งที่เขาทำให้คนเหล่านี้หมดสติไปบ้างแล้วก็ตาม.
จักรพรรดิพิษที่จดจ้องมองคนเหล่านั้น พร้อมกับเผยสีหน้าทางทางอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งที่ต้องการช่วยพวกเขา หากแต่เป็นพวกเขาเองที่ทำให้ตัวเองต้องพบกับสถานการณ์ที่แย่ลง เห่าเม่ยลี่คนนี้? ผู้มีร่างหมื่นปิศาจ! ผู้ได้รับการอวยพรจากสวรรค์ ใครหาญกล้าล่วงเกินนาง?
เห่าเม่ยลี่ที่จ้องมองคนกลุ่มคนดังกล่าวด้วยสายตาเหยียดหยัน จักรพรรดิพิษที่ได้แต่เงียบเช่นกัน.
ในเวลาเดียวกันนั้น ก็มีคนจากโลกอมตะออกมาอีก.
เขาที่เห็นคนกลุ่มหนึ่งที่หมดสติอยู่บนพื้น คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสพ่นโลหิตออกมาบนพื้น เขาเร่งรีบกลับเข้าไปด้านในทันที.
.....
"วูซซซซ!"
คนของโลกอมตะในเวลานี้ออกมาอีกสามคน.
หนึ่งคน เป็นชายในชุดสีขาวหนึ่งคนชุดสีน้ำเงิน อีกคนที่สวมชุดสีแดงพร้อมกับถือกระบี่ลู่เซียน เย่ชิงเฉิงนั่นเอง เห็นได้ชัดเจนว่าไม่ใช่ระดับล่างของโลกอมตะออกมาอีกแล้ว.
เย่ชิงเฉิงที่ออกมา ตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ จดจ้องมองไปยังคนของโลกอมตะที่กำลังนอนระเนระนาดอยู่บนพื้น เขาที่ขมวดคิ้วไปมา ก่อนที่จะจ้องมองไปยังเห่าเม่ยลี่และจักรพรรดิพิษ.
"เจ้าเป็นใคร?"เย่ชิงเฉิงที่สอบถามออกมา.
"สำนักเหวิน จักรพรรดิพิษ คารวะประมุขเย่! นี่คือศิษย์ของข้า เห่าเม่ยลี่!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวออกมาในทันที.
"สำนักเหวิน? เป็นสำนักหนึ่งในภพหยางไม่ใช่รึ? ได้ยินข่าวลือมาว่าห้าหมื่นปีที่แล้ว ถูกกำจัดไปทั้งหมด."เย่ชิงเฉิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ประมุขเย่ ในเมื่อมันเป็นข่าวลือ แน่นอนว่ามันก็เป็นแค่ข่าวลือ!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"แล้วเจ้าต้องการอะไร?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวอย่างไม่แยแส.
"ข้าต้องการช่วยพวกเขา พวกเขาเป็นคนที่คึกคะนองบุ่มบ่ามเกินไป!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเคร่งขรึมพลางทอดถอนใจ.
ดวงตาของเย่ชิงเฉิงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา เย่ชิงเฉิงที่คิดว่าจักรพรรดิพิษนั้นกำลังกล่าวหยันคนของโลกอมตะ ทันใดนั้นก็แผ่จิตสังหารที่รุนแรงออกมา ขณะเดียวกันก็จดจ้องมองไปยังเห่าเม่ยลี่ด้วย.
"เปรี้ยงง!"
ทักษะเทียนของเย่ชิงเฉิงที่ปรากฏออกมา เมฆสายฟ้าสีแดง พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่กำลังโถมกระหน่ำออกมา ที่จริงมันสามารถที่จะทำร้ายพวกเขาสองคนให้ได้รับบาดเจ็บได้เลย.
"เปรี้ยง!"
อีกแห่งหนึ่ง คล้ายทักษะเทียนที่ปรากฏออกมาขวางกั้นในทันทีเช่นกัน.พลังอำนาจที่กั้นขวางทักษะเทียนของเย่ชิงเฉิงเอาไว้.
คนทั้งสามที่พบกับเรื่องที่เกิดขึ้นถึงกับตื่นตกใจขึ้นมาในทันที นอกจากไม่สามารถทำร้ายคนทั้งสองได้ ทว่าบนท้องฟ้าของโลกใบเล็กนั้น ราวกับว่ามีพลังอำนาจเดือดดาลราวกับว่ากำลังจะทำร้ายพวกเขา?
สวรรค์สาป? เป็นไปได้อย่างไรที่จะเป็นสวรรค์สาป? หมายความว่าอย่างไร? เกิดอะไรขึ้นกัน? พวกเขาเรียกสวรรค์สาปมาอย่างงั้นรึ?
เย่ชิงเฉิงและพวกทันใดนั้นก็ตื่นตกใจขึ้นมาทันที จดจ้องมองคนทั้งสองที่ทำให้ขนลุกตั้งชัน.
พวกเขาจดจ้องมองไปยังจักรพรรดิพิษ จากนั้นก็จ้องมองไปยังเห่าเม่ยลี่.
"ข้าขอเตือนท่านทั้งสาม อย่าได้หาเรื่องศิษย์ของข้า แม้แต่คิดในใจก็ไม่ได้!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
คนทั้งสามที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน จดจ้องมองเห่าเม่ยลี่ หมายความว่าอย่างไร? หญิงสาวผู้นี้แปลกประหลาดขนาดนั้นเลยรึ?
"ร่างสถิตหมื่นปิศาจ?"เย่ชิงเฉิงที่ราวกับคิดขึ้นมาได้ในทันที.
ได้ยินคำพูดดังกล่าว พวกเขาที่ใบหน้าเปลี่ยนไป จากนั้นก็เบี่ยงสายตา ไม่กล้ามองเห่าเม่ยลี่ตรง ๆ ด้วยหวาดกลัวจะได้รับคำสาป.
ที่หน้าผากของเย่ชิงเฉิงนั้นที่มีเหงื่อไหลออกมา อย่างไรก็ตามแววตาของเขานั้นก็ยังคงมั่นคงไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใด.
"พวกเจ้าทั้งสองเดินทางมายังโลกอมตะทำอะไร?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
"พวกเราไม่ได้คิดร้าย ตราบเท่าที่ทุกท่านพูดคุยด้วยกันเป็นอย่างดี พวกเราเพียงแค่ต้องการพบกับโจวเหยาซือ!"จักรพรรดิพิษกล่าว.
"โจวเหยาซือ? พวกเจ้าต้องการพบเขาเพื่ออะไร?"เย่ชิงเฉิงที่กล่าวด้วยเสี่ยวเคร่งขรึม.
"ตาเฒ่า อย่าพูดอะไรให้เสียเวลากับพวกเขาเลย คนแซ่เย่ พวกเราต้องการของบรรพชนของพวกเรา อนุสาวรีย์อมตะคืนมา ข้ารู้ว่ามันอยู่ในโลกอมตะ ส่งมันมาให้พวกเรา แล้วพวกเราจะจากไป!"เห่าเม่ยลี่ที่กล่าวออกมาด้วยความอหังการ.