Chapter 730 ความอัปยศอย่างที่สุด.
"ให้เข้ามา!"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ครับ!"องค์รักษ์ที่ถอยกลับไปในทันที.
"ฟู่ไสว่ ทำไมสุ่ยจิงส่งคนมากัน?"เสี่ยวหยวนเฟิงที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.
"เดี๋ยวก็รู้."เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาก็ไม่เข้าใจเช่นกัน.
"อืม!"
จากนั้นไม่นาน ชายในชุดที่ดูประณีตหรูหราก็ก้าวเข้ามา คนผู้นี้ไม่ใช่ใครที่ใหน เขาก็คือบุตรบุญธรรมของจงซานจงเจิ้ง เป็นผู้รับผิดชอบในการขยายหอการค้าต้าหรงในภพหยินนั่นเอง.
แต่ถึงกระนั้น ภพหยินและหยางนั้นแตกต่างกันมาก การพัฒนานั้นไม่ง่ายเลย ในเวลานี้เขาจึงได้เดินทางมาเป็นทูตที่เมืองถูหลงแห่งนี้.
"เจ้าเป็นใคร?"เสี่ยวหวังสอบถาม.
"ข้าถูกส่งมาเป็นการส่วนตัวจากเมืองยวีซ่าน รับคำสั่งจอมพล ให้มาคารวะแม่ทัพเสี่ยว!"จงเจิ้งกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เห็นจงเจิ้งที่สุขุมนิ่งงัน เสี่ยวหยวนเฟิงขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย ทูตรึ? ทูตของต้าเจิ้ง อหังการขนาดนี้เลยรึ?
"จอมพลคนใหนอย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.
"จอมพล สุ่ยจิง!"จงเจิ้งที่กล่าวเผยออกมาด้วยความเคารพ.
"หืม?"เสี่ยวหวังขมวดคิ้วไปมา.
"การต่อสู้สิบปีมานี้ ตลอดสิบปีที่ผ่านมาต้าเจิ้งออกมาท้าทายกว่า 200 ครั้ง แม่ทัพเสี่ยวไม่เคยรับการท้าทายเลย หัวใจของจอมพลที่รอคอยแม่ทัพเสี่ยว รู้สึกชื่นชมนักที่สามารถทนได้นับ 200 ครั้ง! ช่างเป็นคนที่น่านับถือจริง ๆ !"จงเจิ้งที่กล่าวชื่นชมด้วยความรอยยิ้ม.
ทว่า กับรอยยิ้มนี้ ราวกับว่าเป็นการหยันอย่างหนึ่ง.
แววตาของเสี่ยวหวังที่เต็มไปด้วยความเย็นชา ส่วนเสี่ยวหยุนเฟิงนั้นมีแววตาที่โกรธเกรี้ยวแฝงอยู่เช่นกัน.
"แน่นอน ความหมายของจอมพลนั้น ต้องชื่นชมแม่ทัพเสี่ยวอย่างจริงใจ ดังนั้นด้วยเหตุนี้ข้าจึงได้มาส่งของขวัญสิ่งหนึ่ง เพื่อที่จะมอบให้กับแม่ทัพเสี่ยว."จงเจิ้งกล่าว.
"หืม?"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา ไม่เข้าใจเกี่ยวกับสุ่ยจิงต้องการมอบอะไรให้กับเขา.
จงเจิ้งสะบัดมือ ก่อนที่จะนำหีบขนาดใหญ่ออกมาวางไว้.
จับจ้องมองไปยังหีบใหญ่ เสี่ยวหยวนเฟิงและเสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา.
"สิ่งนี้คืออะไรอย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เชิญแม่ทัพเสี่ยวเปิด บางทีอาจจะทำให้ประทับใจอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อนก็ได้!"จงเจิ้งกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เสี่ยวหยวนเฟิงที่รับคำ ก่อนที่จะส่งมันไปวางไว้หน้าเสี่ยวหวัง.
เสี่ยวหวังที่ค่อยเปิดหีบออกมาเบา ๆ ด้านในนั้นไม่มีอำนาจวิเศษอะไรแผ่ออกมาแม้แต่น้อย มีเพียงแค่กระโปรงสีชมพู.
เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา ก่อนที่จะนำชุดกระโปรงสีชมพูออกมา พร้อมกับสัมผัสเบา ๆ เป็นกระโปรงยาวสีชมพูรึ?
ชุดกระโปรงยาวสีชมพู นับว่าเป็นรูปแบบที่ดูมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก หากว่าสตรีสวมใส่จะต้องดูสมส่วนพอดีอย่างแน่นอน.
ดวงตาของเสี่ยวหยวนเฟิงที่เต็มไปด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก มีเพียงแค่เสี่ยวหวัง ที่ใบหน้าเปลี่ยนไปในทันที แววตาที่เผยความโกรธขึ้นมาอีกครั้ง.
จงเจิ้งจดจ้องมองเสี่ยวหวังที่เผยความโกรธออกมา ที่มุมปากเผยรอยยิ้มเล็กน้อยออกมา ถึงแม้นว่าจะควบคุมตัวเองได้ดีเพียงใด ลึก ๆ แล้วต้องโกรธเกรี้ยวพลุ่งพล่านขึ้นมาแน่.
"สุ่ยจิงต้องการทำอะไร?"เสี่ยวหยวนเฟิงที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถามออกไป.
จงเจิ้งจดจ้องมองไปยังเสี่ยวหยวนเฟิงพร้อมเผยยิ้มเล็กน้อยและกล่าวออกมว่า"ท่านแม่ทัพผู้หล่อเหลาบอกกับแม่ทัพเสี่ยวสิบปี ถึงจะมีการยั่วยุสองร้อยครั้ง หากแต่ก็ไม่กล้ารับคำท้าสักที ช่างเป็นเรื่องน่าอายนัก จึงเห็นว่าท่านคงต้องกลายเป็นสตรี อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ท่านประมุขจึงได้ส่งข้ามาดูว่าแม่ทัพเสี่ยวนั้นจะเหมาะกับชุดกระโปรงสีพูนี้หรือไม่? พร้อมส่งข้ามาดูแม่ทัพเสี่ยวให้เห็นกับตา โปรดอย่าได้ทำให้ท่านแม่ทัพของข้ารู้สึกผิดหวัง!"
"เจ้าพูดอะไรกัน?"เสี่ยวหยวนเฟิงที่คำรามเสียงออกมาในทันที.
เกินไปจริง ๆ สุ่ยจิงนับว่าทำเกินไปจริง ๆ เขาที่ได้ข่มขู่ฟู่อี้กล่าวหาว่าเป็นสตรีอย่างคาดไม่ถึง แม้แต่ส่งชุดของสตรีมาให้ฟู่อี้เพื่อให้ได้รับความอับอายอย่างงั้นรึ? นับว่าเป็นการดูแคลนอย่างหนักหน่วงรุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน!
เสี่ยวหยวนเฟิงที่ตะโกนลั่น พร้อมกับชักอาวุธออกมา.
ในเวลาเดียวกันกับเสียงดังที่เกิดขึ้น เป็นเหตุให้ทหารมากมาย คิดว่ามีคนลอบสังหารจอมพล พวกเขาที่เข้ามารอบกรอบในทันที.
ดวงตาของเสี่ยวหยวนเฟิงที่ลุกโชนด้วยความโกรธ กระบี่ยาวในมือที่ชักออกมา พร้อมกับปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงโถมกระหน่ำไปยังจงเจิ้ง.
ส่วนจงเจิ้งนั้นไร้ซึ่งความหวากลัว แม้นว่าจิตสังหารของเสี่ยวหยวนเฟิงจะปะทุขึ้นอย่างรุนแรง เขายังก็คงเฝ้ามองไปยังเสี่ยวหวัง.
"หยุด!"เสี่ยวหวังที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.
"ฟู่ไส่ว!"ใบหน้าของเสี่ยวหยวนเฟิงที่แดงเต็มไปด้วยความโกรธและอับอาย.
"การรบไม่เคยสังหารทูต พวกเราไม่สามารถทำอะไรไร้เหตุผลได้ เก็บกระบี่ซะ!"เสี่ยวหวังที่ตะโกนห้ามเสียงดัง.
"หืม!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่เต็มไปด้วยความเศร้าใจอย่างรุนแรง ก่อนที่จะค่อย ๆ เก็บกระบี่กลับไป.
จงเจิ้งเผยยิ้มเล็กน้อยให้กับเสี่ยวหวัง.
ส่วนเสี่ยวหวังที่จดจ้องมองจงเจิ้ง ราวกับว่าได้มองเห็นสุ่ยจิงในตัวของจงเจิ้ง ราวกับสุ่ยจิงมายืนอยู่ด้านหน้าของเขา.
เป็นความจริง ทูตที่ส่งมานั้นก็เป็นในนามของจอมพลของอีกฝ่ายนั่นเอง.
สุ่ยจิงที่กระตุ้นเขาด้วยความอายเพื่อยั่วให้เขาโกรธเพื่อหยั่งเชิง โดยมีเป้าหมายยั่วยุให้เขารับคำท้า.
สุ่ยจิงที่ยั่วโมโหเสี่ยวหวัง เพื่อให้เขาโกรธเกรี้ยว จนควบคุมไม่อยู่ หากเป้าหมายของสุ่ยจิงสำเร็จ ก็จะทำให้เสี่ยวหวังมุทะลุ ด้วยความโกรธเกรี้ยว จะต้องเผยจุดอ่อนออกมา.
ทว่า เสี่ยวหวังจะก้าวไปตามแผนอย่างงั้นรึ?
เสี่ยวหวังที่จ้องมองจงเจิ้งด้วยความเฉยเมย เหล่าทหารมากมายที่เข้ามาล้อมกรอบ สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังเสี่ยวหวังรอคำสั่ง.
"ชมพูรึ? เฮ้เฮ้ หยุนเฟิง ช่วยข้าเปลี่ยนชุด!"เสี่ยวหวังที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ฟู่ไสว่!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่อุทานออกมาด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ.
"จอมพล!"เหล่าทหารที่อุทานออกมาพร้อมกันเสียงดังเช่นกัน.
"เปลี่ยนชุด!"เสี่ยวหวังที่จับจ้องมองไปยังเสี่ยวหยวนเฟิง.
"ฟู่ไสว่!......ครับ!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่รับกระโปรงยาวสีชมพูมา น้ำตาแห่งความอับอายที่ไหลออกมา.
กระโปรงยาวที่ถูกคลายออก เสี่ยวหยวนเฟิงที่สวมใส่ให้กับฟู่อี้ช้า ๆ เสียวหวังที่ยังคงสุขุมควบคุมอารมณ์ได้ ส่วนเสี่ยวหยวนเฟิงที่เจ็บปวดใจอับอายเคียดแค้นอย่างหนักยับยั้งน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา.
"จอมพล!!"
เหล่าทหารมากมายที่คุกเข่าลงแสดงความเคารพ จอมพลที่ได้รับความอับอาย ทำให้อารมณ์ความรู้สึกของพวกเขาที่ท่วมท้นเต็มไปด้วยความอัปยศอย่างสุดบรรยายไปด้วย หลาย ๆ คนที่น้ำตาไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง.
เสี่ยวหวังที่สวมชุดกระบี่สีชมพู เหล่าทหารมากมายที่ร้องไห้โฮ! เสี่ยวหวังที่เดินไปยังด้านหน้าจงเจิ้งพร้อมกับกล่าวออกมาว่า"จงกลับไปบอกแม่ทัพผู้หล่อเหลาของเจ้าว่าข้า ขอบคุณ!"
จงเจิ้งที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย จดจ้องมองไปยังเสี่ยวหวัง พร้อมกับพยักหน้ารับและกล่าวออกมาว่า "ข้าจะกลับไปบอกจอมพล!"
จงเจิ้งที่จากไป ขณะที่ออกไปนั้น ยกเว้นเสี่ยวหวัง สายตาของทุกคนที่อยู่รอบ ๆ เต็มไปด้วยจิตสังหารอย่างหนักหน่วงรุนแรง ต้องการจะกินเลือดกินเนื้อจงเจิ้ง.
จงเจิ้งที่จากไปแล้ว เสี่ยวหวังที่สูดหายใจลึก.
"เอาล่ะ พวกเจ้าก็ออกไปได้แล้ว!"เสี่ยวหวังกล่าว.
"ครับ!"เหล่านายทหารที่เต็มไปด้วยความอับอายเจ็บปวดแทน ค่อย ๆ ถอยห่างออกไป.
"ฟู่ไสว่!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่คุกเข่าด้วยความเจ็บปวด.
เสี่ยวหวังที่ถอดกระโปรงยาวสีชมพูออกเบา ๆ ก่อนที่จะเก็บมันใส่หีบเหมือนเดิม.
"ฟู่ไสว่ ทำไมถึงไม่สังหารมัน เรื่องนี้ ชั่วนัก ชั่วร้ายเกินไปแล้ว!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวจนตัวสั่น.
"บุรุษที่แท้จริงขึ้นได้ลงได้ตามสถานะการณ์ เพียงแค่สวมเสื้อผ้าเท่านั้น!"เสี่ยวหวังที่กล่าวออกมา น้ำเสียงมีความโกรธแฝงอยู่เพียงเล็กน้อย.
"แต่ว่า เรื่องนี้จะทนได้อย่างไร ฟู่ไสว่ ศักดิ์ศรีของท่านล่ะ.......!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
"ศักดิ์ศรี? เฮ้เฮ้ จอมพลเช่นข้ายอมรับความอับอายได้ และมันยังทำให้เหล่าทหารของพวกเราเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและความฮึกเหิม ข้าต้องขอบคุณสุ่ยจิงด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องจะทนอะไรนั่น เมื่อทัพของพวกเราพร้อมเข้าบุกเมืองยวีซาน กลับความอับอายที่มากมายในครั้งนี้จะทำให้ทัพของเขาเต็มไปด้วยความกล้าไร้ที่สิ้นสุด แม้ว่าทัพของจ้าวโส่วเซี่ยงก็ยังไม่สามารถเทียบได้!"เสี่ยวหวังกล่าว.
"ฟู่ไสว่ ท่านเตรียมที่จะนำทัพบุกเมืองยวีซานอย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหยวนเฟิงที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยความอับยศและความเศร้า ใบหน้าของเขาที่เปลี่ยนเป็นดีใจขึ้นมาทันที.
"อย่าได้ใจร้อน จงรอโอกาส เมื่อพวกเรารอมาสิบปี จะต้องมีโอกาสสักครั้งที่จะมาถึง ในครั้งนี้นับเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ เมื่อได้โอกาสเมื่อไหร่ พวกเราจะตัดสินชัยชนะหรือพ่ายแพ้กันในทันที!"เสี่ยวหวังที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเช่นกัน.
จงเจิ้งที่กลับเมืองยวีซาน.
ภายในเมืองยวีซาน ที่ตำหนักเจ้าเมือง ซึ่งมีจอมพลสุ่ยจิง ส่วนบัลลังก์ตอนนี้กลับมีจงซานนั่งอยู่.
จงซานในเวลานี้ ได้มาปรากฏตัวขึ้นที่เมืองยวีซานอย่างคาดไม่ถึง.
จงซานที่รับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นของเสี่ยวหวังภายในห้องโถงพร้อมกับทุกคน.
"เสี่ยวหวังผู้นี้ ไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นคนที่สุขุมถึงขนาดนี้?"จ้าวโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใจเย็นอย่างงั้นรึ? กับการข่มเหงในครั้งนี้ เสี่ยวหวังยังจะสุขุมได้จริงรึ? เขาเพียงแค่เก็บมันเอาไว้ ภายในใจนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างแน่นอน!"สุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมาด้วยรอยยิ้ม.
"กำลังจะบอกว่าเสี่ยวหวังเพียงแค่แสดงละครอยู่อย่างงั้นรึ?"จ้าวโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เป็นความจริง เสี่ยวหวัง แม้ว่าจะโกรธ ทว่าข้าเห็นเขาทนได้ ถึงเขาจะโกรธเกรี้ยวก็ควบคุมมันได้ ไม่เสียการควบคุม."จงเจิ้งที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามการคาดการณ์ของฝ่าบาท แล้วเรื่องนี้จะจบลงเช่นไร?"สุ่ยจิงที่จ้องมองไปยังจงซาน.
ทุกคนที่จดจ้องมองไปยังจงซานพร้อม ๆ กัน.
"สิบปี สิบปีจะต้องทำลายจิตวิญญาณของเสี่ยวหวัง จากนั้นค่อยยึดเมืองในตอนนั้น!"จงซานที่พยักหน้าและกล่าวออกมา.
"ฝ่าบาท ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรดี?"สุ่ยจิงที่กล่าวสอบถาม.
"แล้วพวกเจ้าคิดว่าหลายปีมานี้เซียนเซิงซือเขาทำอะไรอยู่?"จงวานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
ขณะที่ทุกคนกำลังคิด สุ่ยจิงที่ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมาในทันที.
"ฝ่าบาท กำลังจะบอกว่าเมืองยวีซานได้กลายเป็นเพื่อนบ้านกับราชวงศ์ราชันย์หยินซือแล้วรึ?"สุ่ยจิงที่ราวกับว่าจะคาดเดาเหตุผลดังกล่าวได้.
"ฟู่หวง เซียนเซิงซือยึดราชวงศ์ราชันย์หยินซือได้แล้วรึ?"จงเจิ้งที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ไม่สงสัยเลยว่าเลยว่าเซียนเซิงอี้เหยี่ยนไม่ได้ให้พวกเราจัดการราชวงศ์ราชันหยินซือ ที่จริงเป็นแผนการของฝ่าบาท! ทว่าฝ่าบาท ราชวงศ์ราชันย์หยินซือมีพรมแดนติดกับพวกเรา ไม่ใช่ว่ามีราชวงศ์ราชันย์ซือหลิงจับจ้องอยู่ อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลกับเมืองถูหลงด้วย!"จ้าวโส่วเซี่ยงที่แสดงท่าทางสงสัยด้วยเช่นกัน.
"ราชวงศ์ราชันย์หยินซือจะต้องเคลื่อนกำลังในทันที เพื่อบุกเมืองต่าง ๆ ใกล้ ๆ เมืองยวีซาน."สุ่ยจิงที่คาดเดาเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในทันที.
"ราชวงศ์ราชันย์หยินซือจะบุกโจมตีพวกเราเป็นสถานที่สุดท้ายอย่างงั้นรึ?"จ้าวโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมา.
.....................
สามเดือนหลังจากนั้น เมืองถูหลง ตำหนักเจ้าเมือง.
"ฟู่ไสว่ ราชวงศ์ราชันย์หยินซือได้รับจดหมายของพวกเรา และเริ่มโจมตีเมืองซาจินแล้ว!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่แสดงท่าทางดีใจเป็นอย่างมาก.
"ดี!"แววตาของเสี่ยวหวังที่มีจิตสังหารแฝงอยู่.
"ฟู่ไสว่ เมื่อไหร่พวกเราจะเคลื่อนทัพออกไปโจมตีเมืองยวีซาน? เหล่าทหารที่เต็มไปด้วยความอัปยศกำลังโกรธเกรี้ยวมากขึ้นและก็มากขึ้น."เสี่ยวหยวนเฟิงที่กล่าวออกมาในทันที.
"ไม่ใช่เวลานี้ รอไปก่อน!"เสี่ยวหวังที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"แต่ว่า..........!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อดทน อดทนเข้าไว้ ยิ่งในเวลาวิกฤติ ก็จะยิ่งสุขุมให้มากกว่านี้ อย่าได้รุ่มร้อนลนลาน!"เสี่ยวหวังกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่พยักหน้ารับ.
"ส่งคนออกไปสังเกตการณ์ ออกไปอีกครั้ง ไม่ ส่งออกไปสองครั้ง ตรวจสอบให้ละเอียด!"
"ครับ!"