ตอนที่แล้วChapter 728 แผนปกครองของภพหยิน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 730 ความอัปยศอย่างที่สุด.

Chapter 729 จงซานวางแผนดึงตัวเสี่ยวหวัง.


"ใช่ เป็นเหว่ยไท่จง!"เจี้ยนหงพยักหน้ารับ.

จงซานจ้องมองตราเก้ามังกรขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย ภายในภพหยาง เจี้ยนหงไม่เคยพบเหว่ยไท่จง ทว่าเหว่ยไท่จงรู้จักเจี้ยนหงได้อย่างไร.

"เจ้ารู้จักเขาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"หลังจากที่ข้าตายแล้วนั้น ได้เข้าสู่ภพหยิน ซึ่งได้ปรากฏที่เทือกเขากุยหัวทางเหนือ ขณะที่เพิ่งเกิดมานั้นยังนับว่าอ่อนแอเป็นอย่างมาก มีพลังฝึกตนที่ต่ำเตี้ย ในเวลานั้นบังเอิญเหว่ยไท่จงผ่านมา ซึ่งในสถานที่แห่งนั้นมีกองทัพภูตมากมายนับหมื่นกำลังก่อสงครามกันอยู่ ในเวลานั้นเขาเห็นข้า จึงได้ร้องเรียกชื่อของข้าเสียงดัง จากนั้นพวกเราจึงได้รู้จักกัน!"เจี้ยนหงกล่าว.

"หืม?"

"ทว่าที่เทือกเขากุยฮัวนั้น มีมารชราอาศัยอยู่ด้วย และยังได้รับเหว่ยไท่จงเป็นศิษย์."

"หืม?"จงซานที่ยิ่งรู้สึกประหลาดใจขึ้นไปอีก.

"หลังจากที่พวกเราอยู่ด้วยกันพักหนึ่ง เหว่ยไท่จงก็บอกกับข้าว่า ผู้มีพระคุณได้เดินทางลงมาจากภพหยางแล้ว ส่วนเขานั้นต้องการเดินทางไปยังโลกใบใหญ่พร้อมกับมารชรากุยฮัว จึงได้ฝากคำพูดนี้มาแจ้งต่อท่าน!"

"ไปโลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ? มารเฒ่ากุยฮัวสามารถพาเขาไปได้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาในทันที.

"ข้าเองก็ไม่รู้!"เจี้ยนหงที่ส่ายหน้าไปมา.

"แล้วเขายังมีคำพูดใดอีกหรือไม่?"จงซานที่สอบถามด้วยความจริงจัง.

"เขากล่าวว่า ฝ่าบาท อาจารย์นั้นเป็นคนน่านับถือ ให้ความสำคัญกับบ่าวชรา บ่าวชราได้เป็นศิษย์ของเขาและจะกลับไปยังบ้านเกิดของเขาเพื่อสอบถามต้นกำเนิดอสูร บ่าวชราได้ขอร้องให้อาจารย์นำบ่าวชราไปด้วยเพื่อที่จะได้ค้นหาหยิงหลาน บ่าวชราไม่สามารถช่วยเหลือฝ่าบาทได้ แล้วจะรอพบกับฝ่าบาทที่โลกใบใหญ่ บ่าวชราจะต้องนำหยิงหลานกลับมาแน่นอน เพื่อจะได้ช่วยแบ่งเบาฝ่าบาทอีกแรง!"

ได้ยินคำพูดของเหว่ยไท่จงแล้ว ทำให้จงซานสูดหายใจลึก เงียบไปเล็กน้อย.

เจียนหงที่รอคอยอย่างเงียบ ๆ ด้วยเช่นกัน.

จงซานสูดหายใจลึกและกล่าวต่อเจี้ยนหงว่า "ข้าเองก็ได้เห็นเสี่ยวหวังมาแล้ว เสี่ยวหวังเวลานี้นับเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในภพหยินด้วยเช่นกัน ตอนนี้เจ้าไม่ต้องการพบกับเขารึ?"

เจี้ยนหงที่คิดถึงเสี่ยวหวัง ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน แม้นว่าจะมีเยื่อใย แต่กลับรู้สึกขัดแย้งในใจด้วย.

เจี้ยนหงส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ข้าเองก็ไม่เข้าใจนัก หากแต่ไม่ต้องการในตอนนี้!"

"หืม?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา ราวกับว่าตระหนักอะไรบางอย่างได้.

"ข้าไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรหากเจอเขา ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร ก่อนหน้านี้เหว่ยไท่จงก็ได้เตือนข้า ว่าข้านั้นไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง!"เจี้ยนหงที่ส่ายหน้าไปมา.

"งั้นเจ้าก็ยังไม่มีเป้าหมายในเวลานี้งั้นรึ?"จงซานที่กล่าวสอบถาม.

"ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ใหนเช่นกัน!"เจี้ยนหงกล่าว.

"เจ้าไม่ต้องไปที่ใหน อืม หากว่าเจ้าอาศัยอยู่ที่นี่ ข้ายังมีเรื่องเกี่ยวกับภพหยางพูดคุยกับเจ้า."จงซานกล่าว.

เจี้ยนหงที่ขมวดคิ้วไปมา ก่อนที่จะพยักหน้า "เช่นนั้นก็ดี!"

"เข้ามานี่!"จงซานที่กล่าวเรียกคนด้านนอก.

"ฝ่าบาท!"ผู้ช่วยสองคนที่เข้ามาภายในห้องอักษร.

"นำเจี้ยนหงไปยังสวนเสี่ยวเซี่ยง ให้นางเป็นเจ้าของลานฝึกที่หนึ่ง."จงซานสั่งการ.

"รับด้วยเกล้า!"ผู้ช่วยสองคนที่รับคำสั่งไปในทันที.

"ขอบคุณผู้มีพระคุณ!"เจี้ยนหงที่ไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้ารับตามความต้องการของจงซาน.

เมื่อเจี้ยนหงไปแล้ว จงซานที่ขมวดคิ้วจดจ้องมองไปยังบนท้องฟ้า.

"มารชรากุยฮัว สามารถพาไท่จงออกจากโลกใบเล็กได้ หากแต่ทำไมเขาไม่มาพบข้าก่อน? หรือไม่กล้าพบข้า หรือว่าจงใจส่งเจี้ยนหงมาหาข้า? เจี้ยนหง?"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา ท่าทางที่ทอดถอนใจ.

........................

สี่ปีหลังจากนั้น ภาคใต้ของภพหยิน สามสิบราชวงศ์ราชันย์ ตอนนี้เหลือเพียง 20  ต้าเจิ้ง เทียนไมและหวู่ซือ สามราชวงศ์ราชันย์ยักษ์ใหญ่ที่เริ่มรุกเพื่อบุกเบิกดินแดน.

กับการเผชิญหน้า หลากหลายอาณาจักรที่ยากจะต่อกรพวกเขาได้ ราชวงศ์ราชันย์หวู่ซือ รบสิบครั้งได้รับชัยหกครั้ง ราชวงศ์ราชันย์เทียนไม รบสิบครั้งได้รับชัยชนะทั้งแปดครั้ง ส่วนต้าเจิ้งนั้นได้รับชัยชนะทั้งสิบครั้ง ไม่แพ้ใครแม้แต่ครั้งเดียว.

ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้ง มีสี่ทัพที่ไร้เทียมทาน.

สงครามตลอดสี่ปีมานี้ ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งสามารถยึดครองราชวงศ์ราชันย์ได้สามแห่ง ราชวงศ์ราชันย์หวู่ซือและราชวงศ์ราชันย์เทียนไม ยึดครองได้คนละสองแห่ง.

การบุกเบิกขยายดินแดนยังคงดำเนินต่อไป สามราชวงศ์ราชันย์นั้นแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย หากว่าไม่มีใครร่วมมือกันล่ะก็ ไม่ช้าก็นานพวกเขาจะต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ราชันย์ทั้งสามไม่ช้าก็เร็ว.

ทว่าสี่ปีหลังจากนั้น ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งและราชวงศ์ราชันย์เทียนไหม ก็เข้าประชิดกันในที่สุด.

ทัพของสุ่ยจิงที่เข้ายึดครองเมืองยวีซาน! ส่วนเมืองที่อยู่ถัดไป เมืองถูหลงก็ถูกเสี่ยวหวังเข้ายึด.

ทัพทั้งสองที่เข้ายึดเมืองทั้งสอง แม่ทัพทั้งสองที่จดจ้องมองกันและกัน.

เมืองถูหลงนั้น บนสิ่งก่อสร้างประตูทิศใต้ บนป้อมปราการเมืองเสี่ยวหวังและเทียนเซียวจื่อกำลังจดจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป.

"ท่านประมุข ที่ไกลออกไปนั้น มีขุนเขาขนาดใหญ่ตัดขวางเป็นเมืองยวีซาน ซึ่งมีแม่ทัพสุ่ยจิงยึดครองเอาไว้!"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เซียนเซิงสุ่ยจิงรึ?"

"เซียนเซิงสุ่ยจิง สี่ปีมานี้ ท่านประมุขควรจะเห็นดีแล้ว ทักษะของเซียนเซิงสุ่ยจิงนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก การเคลื่อนทัพราวกับเทพ เมืองยวีซานมีกองกำลังที่ทรงพลังกลับหายไปราวกับหมอกควัน เหมือนกับพวกเขาถูกลบออกไปเลย!"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมาพลางถอนหายใจยาว.

"เจ้าเองก็ไม่อ่อนแอ!"เทียนเซียวจื่อที่กล่าวชื่นชมเสี่ยวหวัง.

"ทว่า ยกเว้นข้าแล้ว ที่แห่งนี้ไม่มีใครเทียบกับสุ่ยจิงได้ บุตรบุญธรรมทั้งสองของผู้น้อยเอง ก็ด้อยกว่าเซียนเซิงสุ่ยจิง หากว่าข้าจากเมืองถูหลงไปแล้วล่ะก็ เซียนเซิงสุ่ยจิงจะต้องยึดครองเมืองแห่งนี้ได้ภายในหกเดือนแน่นอน!"เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมาด้วยความกังวล.

"เขาร้ายกาจขนาดนั้นเลยรึ?"เทียนเซียวจื่อที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่ เขาร้ายกาจมาก ข้าไม่สามารถจากที่นี่ไปได้ หากไปเมื่อไหร่ก็จะพ่ายแพ้เท่านั้น หากแต่ทัพของต้าเจิ้งนั้นก็ยังมีอีกหลายทัพ หากว่าทัพอื่น ๆ ถูกทำลายไป ทัพของพวกเราในเวลานั้นก็จะอยู่ในอันตราย."เสี่ยวหวังที่เต็มไปด้วยความกังวล.

"อืม!"เทียนเซียวจื่อที่กำลังครุ่นคิด.

"และหากว่าเซียนเซิ่งสุ่ยจิงอยู่ที่นี่ และข้าอยู่ที่นี่พร้อมกับส่งกลยุทธ์ออกไป ก็จะทำให้สถานการณ์ล่าช้า."เสี่ยวหวังที่กล่าวด้วยความกังวล.

"สุ่ยจิง?"เทียนเซียวจื่อที่ดวงตาเย็นชา.

"และนี่ไม่ใช่ทัพทะลวง ทัพทะลวงนั้น กับเป็นอีกทัพหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะเป็นทัพของจ้าวโส่วเซี่ยง."เสี่ยวหวังที่ขมวดคิ้วไปมา.

"จ้าวโส่วเซี่ยง?"

"ต้าเจิ้งนั้นมีจอมพลสี่คน แต่ละคนนั้นมีความสามารถแตกต่างกัน เซียนเซิงสุ่ยจิงที่เป็นเจ้ากลยุทธ์ที่ต่อต้านสวรรค์ คำนวณได้แม้แต่สวรรค์ เคลื่อนทัพยึดครองป้องกันได้อย่างมั่นคงหนาแน่น จ้าวโส่วเซี่ยงนั้นเป็นเหมือนกับจิตวิญญาณของกองทัพ ตราบเท่าที่เขาอยู่ในสนามรบ จะทำให้ขวัญกำลังใจทัพที่ฮึกเหิมพุ่งทะยาน ทะลวงไปด้านหน้า ไม่พ่ายแพ้หน้าใหน!"เสี่ยวหวังกล่าว.

"ต้าเจิ้งนั้นต้องการยึดครองเมืองถูหลงด้วยอย่างงั้นรึ?"เทียนเซียวจื่อที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่ ทว่าท่านประมุขโปรดวางใจ ตราบเท่าที่ข้าอยู่เมืองถูหลง พวกเขาไม่สามารถยึดเมืองนี้ได้."เสี่ยวหวังที่กล่าวอย่างมั่นใจ.

"อืม ทว่า ทำไมพวกเขาถึงต้องส่งจ้าวโส่วเซี่ยงมา?"เทียนเซียวจื่อที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

...............

ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้ง เมืองซ่าง.

"ฝ่าบาท ทำไมถึงส่งจ้าวโส่วเซี่ยงไปล่ะ?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ทำไมถึงจะไม่ส่งจ้าวโส่วเซี่ยงไป?"จงซานเผยยิ้มออกมา.

"เสี่ยวหวังนั้นเป็นผู้บัญชาการที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์หายาก เทียบเท่ากับสุ่ยจิง การบัญชาการของเขาเต็มไปด้วยกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม แม่ทัพจ้าวนั้น แม้ว่าจะช่วยสุ่ยจิงได้ ทว่าการนำสภาพภูมิประเทศหรือเรื่องอื่นมาช่วยนั้นยังคงจำกัด ยิ่งตอนนี้เสี่ยวหวังที่ปิดประตูตั้งรับ สงครามในครั้งนี้ยากที่จะตัดสินได้ หากว่าไม่มีแผนการอะไรที่แปลกใหม่ เมืองของพวกเขานั้น ในเวลาอันสั้นคงจะยากที่พวกเราจะเข้ายึดครองได้!"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เสี่ยวหวังปิดประตูตั้งรับอย่างงั้นรึ? ข้าก็ต้องการให้เขาอยู่กับที่ เพื่อรับมือกับพวกเรา หลินเซียวและสุ่ยอู่เหิน เพียงแค่สองทัพก็พอแล้ว แม้นการยึดครองเมืองอื่น ๆ จะช้าไปบ้าง แต่หากสามารถหยุดเสี่ยวหวังให้อยู่แต่ในเมืองถูหลงก็นับว่าประสบผล!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

อี้เหยี่ยนที่สายตาจดจ้องไปมา จากนั้นก็เผยท่าทางประหลาดใจออกมา "ฝ่าบาท ท่านเพียงแค่ต้องการดึงตัวเสี่ยวหวังมาอย่างงั้นรึ?"

"ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเข้าใจข้า!"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.

"ทว่า เสี่ยวหวังเป็นคนของตระกูลเทียน เขาจะยินดีอย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ความสามารถของเสี่ยวหวังนั้น เทียนเซียวจื่อไม่สามารถเทียบได้ เทียนเซียวจื่อนั้นแม้นว่าจะเป็นคนที่มีเชาว์ปัญญาเลิศหากแต่เป็นคนที่ยโสโอหังมั่นใจตัวเองเกินไป จึงทำให้เขาไม่สามารถเทียบเสี่ยวหวังได้ ข้าที่เคยเห็นราชวงศ์จักรพรรดิเหยี่ยนหง ที่เสี่ยวหวังสร้างขึ้นมา นับว่ามีความยอดเยี่ยมมาก ช่างน่าเศร้า ที่ชะตาของเสี่ยวหวังนั้นไม่ดีเท่าใดนัก."จงซานกล่าว.

อี้เหยี่ยนที่คิดถึงเรื่องดังกล่าวและกล่าวออกมาว่า "ฝ่าบาทต้องการทำให้เขาพ่ายแพ้ กำราบจิตใจของเขา และหาโอกาสชักชวนเขา ด้วยบุญคุณที่เคยมีอย่างงั้นรึ?"

จงซานที่จ้องมองไปยังอี้เหยี่ยน พร้อมกับเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย "ไม่มีสิ่งใหนที่หลุดรอดสายตาของเจ้าไปได้!"

"ฝ่าบาทชื่นชมไปแล้ว ทว่าการที่ให้สุ่ยจิงและจ้าวโส่วเซี่ยงปกป้องเมืองยวีซ่าน เพื่อที่จะใช้ถ่วงเวลา กับเวลาที่ใช้ไปมันคุ้มค่าอย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนสอบถาม.

"เสี่ยวหวังหนึ่งคน มีค่ากว่า 20 ราชวงศ์ราชันย์ เจ้าคิดว่ามันคุ้มค่าหรือไม่?"จงซานที่กล่าวยืนยัน.

เกี่ยวกับเสี่ยวหวัง สำหรับจงซานนั้น ที่ต้องการชักจูงเสี่ยวหวัง เป็นเหมือนกับการลงทุนอย่างหนึ่ง เขาที่เป็นยอดพ่อค้า สำหรับจงซานไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอน.

"ฝ่าบาทช่างหลักแหลมนัก!"

เมืองถูหลงและเมืองยวีซานได้ประจันหน้ากัน มากว่าสิบปี สิบปีมานี้สุ่ยจิงที่ไม่จากเมืองยวีเหิงไปเลย ส่วนเสี่ยวหวังก็ไม่กล้าจากเมืองถูหลงเช่นกัน ทัพทั้งสองปฏิเสธที่จะยอมกัน.

.....

เมืองถูหลง ตำหนักเจ้าเมือง.

"ฟู่ไสว่ สิบปีมานี้ ทัพของพวกเรายึดเมืองได้เพียงแค่สองเมือง การที่ท่านมาควบคุมที่นี่ไว้ ทำให้คำสั่งมากมายไม่สามารถส่งไปได้ทันการ!"บุตรบุญธรรมเสี่ยวหยวนเฟิงที่ขมวดคิ้วไปมาขณะที่กล่าวกับเสี่ยวหวัง.

เสี่ยวหวังที่ดวงตาหด ครุ่นคิดอย่างหนัก.

"ฟู่ไสว่ เมืองยวีซานนั้น เป็นสถานที่ยากจะเข้าโจมตีอย่างงั้นรึ? บุตรยินดีที่จะนำทัพออกไปโจมตีเมืองยวีซ่าน!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่เอ่ยออกมา.

"ไม่ หากว่ายกทัพออกไป เจ้าไม่ใช่คู่มือของจ้าวโส่วเซี่ยง ข้าเองยังยากจะต่อกรกับจ้าวโส่วเซี่ยงในสนามรบ การยกทัพออกไปมีแต่แส่หาความพ่ายแพ้เท่านั้น เมืองยวีซานนั้นก็ไม่สามารถยึดครองที่นี่ได้ ยังไงพวกเราก็ไม่แพ้!"เสี่ยวหวังที่ส่ายหน้าไปมา.

"ทว่า ฟู่ไสว่ สิบปีมานี้ ท่านปกป้องเมืองแห่งนี้แห่งเดียว ใช้เวลาที่นี่ไปโดยเปล่าประโยชน์ มันคุ้มค่าอย่างงั้นรึ?!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่แสดงท่าทางร้อนใจ.

"เมืองแห่งนี้จะไม่พ่ายแพ้ จะสิบปีหรือยี่สิบปี ข้าจะปกป้องสถานที่แห่งนี้เอาไว้!"เสี่ยวหวังกล่าวอย่างหนักแน่น.

"สุ่ยจิงที่ส่งทัพมายุแหย่เป็นระยะ ๆ พร้อมกับคำด่าทอทุกครั้ง หากเป็นบุตร คงจะไม่สามารถทนได้แล้ว."เสี่ยวหยวนเฟิงที่แสดงท่าทางร้อนรน.

"เพราะว่าเจ้าไม่สามารถทนได้ ดังนั้นเจ้าถึงไม่ได้เป็นจอมพลสักที!"เสี่ยวหวังที่ส่ายหน้าไปมา.

"ทว่าเหล่าทหารของพวกเขาออกมากล่าวล้อพวกเราทุกวัน และยังหัวเราะเยาะพวกเราด้วย หาว่าพวกเราเป็นเต่าในกระดอง หาว่าสิบปีมานี้ไม่กล้าออกไปต่อสู้!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางอัดอั้น.

เสี่ยวหวังที่กล่าวออกมาทันที แววตาที่มีประกายแสดงความโกรธอยู่เหมือนกัน "ยิ้มเข้าไว้ ยิ้มให้กับพวกเขา ยอดคน ไม่จำเป็นต้องใส่ใจคำล้อเลียน!"

"ครับ!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่ทำได้แค่อดทนเช่นกัน.

"เรียนท่านแม่ทัพ มีคนจากเมืองยวีเหิงขอเข้าพบ!"องค์รักษ์คนหนึ่งกล่าวรายงาน.

"หืม? สุ่ยจิงส่งทูตมาอย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหยวนเฟิงขมวดคิ้วไปมา.

"เบิกตัว!"เสี่ยวหวังกล่าว.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด