Chapter 727 ท้องฟ้าสีม่วง.
ท้องฟ้าสีม่วง? บนสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว ทุกคนมากมายต่างก็เงยหน้าขึ้นมองฟ้า จดจ้องมองท้องฟ้าที่ผิดปรกตินี้.
ทักษะ เทียน สีม่วง สายฟ้าที่ส่องประกายแสงแปบ ๆ กับภาพของท้องฟ้าที่หนาแน่นด้วยสายฟ้านั้น ทำให้ทุกคนที่มองเห็นเต็มไปด้วยความหวั่นเกรง.
"ท้องฟ้าสีม่วง? นี่คือเทียนสีม่วง กลิ่นอายของปราณราชา!"หวังคูที่สูดหายใจลึก.
"ทักษะเทียนของฝ่าบาทร้ายกาจ ปกปิดผืนฟ้า ผิดปกตินัก!"หนี่ปู่ซาที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
"แต่ว่า ทำไมสวรรค์ไม่ได้ประทานกรรมวาสนาให้กับฝ่าบาทกัน?"หยินโหลวหรี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.
"บางทีกรรมวาสนาอาจจะถูกส่งเข้าไปในห้องโถงโดยตรงก็ได้ ดังนั้นพวกเราจึงมองไม่เห็น!"หนี่ปู่ซาที่กล่าวตอบ แม้นว่าแววตาของเขาที่เผยท่าทางสงสัยอยู่ด้วยเช่นกัน.
กับคำพูดของหนี่ปู่ซานั้น หลาย ๆ คนเองก็สงสัยเช่นกัน ทว่าในเวลานี้ พวกเขาที่ตระหนักได้ถึงพลังอำนาจที่ร้ายกาจ จึงไม่มีใครกล่าวสอบถามต่อไป ความสงสัยนี้จึงถูกเก็บฝังเอาไว้ด้านใน.
เหล่าข้าราชบริพาร ที่รอคอยจงซานอย่างใจเย็น.
ที่ด้านนอก ทักษะเทียนสีม่วงที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พริบตาเดียวก็ปกคลุมไปทั่วสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวแล้ว แทบจะทุกคนที่เห็น ต่างก็หยุดมือและจับจ้องมองไปยังตำหนักหลวง พร้อมกับแสดงความเคารพออกมา.
ภายในห้องลับ จงซานที่ขยับกายได้แล้ว กลับมานั่งสมาธิ.
เขาที่ก้าวไปถึงระดับสวรรค์แท้ ราวกับว่าเขาสามารถเคลื่อนย้ายอำนาจฟ้าดินได้ พลังของเขาที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ช่างน่าเสียดาย ที่เขาไม่ได้รับการประทานกรรมวาสนา อย่างไรก็ตาม จงซานก็ไม่ได้ใส่ใจกรรมวาสนาดังกล่าวมากมายนัก ซึ่งบนสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวนั้น มีกรรมวาสนามากมายกว่าที่จะได้รับอีก.
เมื่อจงซานก้าวไปถึงระดับสวรรค์แท้ จงซานก็เริ่มจัดการจิตสำนึกที่อยู่ภายในร่างกาย.
กับจิตสำนึกที่เหลืออยู่นี้ จงซานไม่มีความสงสารเห็นใจเลยแม้แต่น้อย พลังของแปดหางสวรรค์เวลานี้กลับมาแล้ว มันที่ดูดจิตสำนึกดังกล่าวกลืนกินเข้าไปในทันที.
จิตสำนึกของกู่เฉิงตงเวลานี้กลับอยู่ในความสับสนวุ่นวาย ด้วยเหตุนี้ จึงไม่สามารถจัดการจงซานได้ และนี่ก็ไม่ใช่ร่างกายของเขา.
ระดับสวรรค์แท้ ไม่ได้เพียงแค่เขาที่ยกระดับขึ้น แปดหางสวรรค์ก็เติบโตขึ้นด้วย.
จงซานสัมผัสได้ว่าแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบเองก็ทะลวงระดับไปอีกขั้น ความเร็วของมันที่เพิ่มขึ้น แน่นอนว่าต่อไปนี้มันจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวตนที่น่าเกรงขาม.
พลังบริสุทธิ์มากมายที่เข้ามาภายในร่างของเขา ด้วยการผสานกายเป็นประโยชน์กับจงซานเป็นอย่างมาก จงซานที่ยกระดับไปจนถึงระดับสวรรค์แท้ขั้นที่หนึ่ง!
ช่างน่าเสียดายที่ เคล็ดวิชาหงหลวนเทียนและกายาเทพอสูรไม่ได้ยกระดับด้วย.
จงซานที่หลับตาบำเพ็ญ การควบคุมร่างกายของเขากลับมาทั้งหมดแล้ว.
จากนั้นผ่านไปอีกครึ่งชั่วยาม เหล่าข้าราชบริพารนับร้อยที่รอคอยจงซานอยู่ด้านนอก.
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ดวงตาของจงซานที่ลืมขึ้น มีประกายสายฟ้าสีม่วงขนาดสามชุน เต้นไปมา.
ที่ด้านนอก ทักษะเทียน สีม่วงก็ถูกเก็บคืนกลับมา ทุกคนรับรู้แล้วว่าจงซานกำลังจะออกมาแล้ว.
จงซานที่สูดหายใจลึก สตรีที่ร่วมเรียงเคียงหมอนก่อนหน้านี้ หายไปไม่มีแม้แต่ร่องรอย.
ร่างกายที่เปลือยเปล่า เผยให้เห็นกล้ามเนื้อสีทองแดง มีโลหิตพรหมจรรย์ของสตรีหลงเหลืออยู่ด้วย พื้นที่รอบ ๆ ที่พังทลายเสียหาย เสื้อผ้าของเขาที่กองอยู่บนพื้น.
น้ำตาสองหยดที่ร่วงหล่นบนแก้มของเขาขณะที่มันไหลลงมาที่มุมปาก.รับรู้ถึงความเค็มได้.
น้ำตาสองหยดอย่างงั้นรึ?
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
จงซานที่เก็บเสื้อผ้า แผนผังค่ายกลดาราสวรรค์บรรจบต้าโหลว จากนั้นก็ทำความสะอาดตัวเอง พร้อมกับนำชุดใหม่ออกมาเปลี่ยน ขณะที่เดินไปยังประตูช้า ๆ .
"แอด ๆ ๆ !"จงซานที่เปิดประตูตำหนักออกมา.
"ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!"
เหล่าขุนนางนับร้อยที่กล่าว "ทรงพระเจริญ"ต่อหน้าราชันย์.
เป่าเอ๋อ หลิงเอ๋อ ชิงซือ จงเทียน ตี้เสวียนชา หนี่ปู่ซาและคนอื่น ๆ ต่างก็จ้องมองด้วยความตื่นเต้นจับจ้องมองมายังจงซาน.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองมา ทำให้ภายในใจของจงซานรู้สึกอบอุ่นไม่น้อย.
"ขุนนางทุกคนกลับไปก่อน พรุ่งนี้เข้าประชุมแต่เช้า!"จงซานกล่าว.
"รับด้วยเกล้า!"เหล่าขุนนางทุกคนที่ตอบรับคำในทันที.
ตี้เสวียนชาและคนอื่น ๆ ที่เห็นจงซานปลอดภัยดี การทะลวงผ่านระดับที่ประสบความสำเร็จ ทุกคนก็วางใจ พยักหน้าให้จงซาน จากนั้นตี้เสวียนชาและคนอื่น ๆ ก็ถอยกลับไปเช่นกัน.
ในเวลานี้เหลือเพียงแค่สามหวงโหว.
"จงซาน เจ้าทะลวงผ่านระดับแล้วรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น ดูเหมือนว่านางเองก็ทะลวงผ่านระดับมาเช่นกัน.
"ใช่แล้ว ข้าตอนนี้แซงหน้าเจ้าแล้วนะ เมื่อไหร่เจ้าจะเร่งฝึกฝนล่ะ?"จงซานที่เผยยิ้มเล็กน้อย.
"ข้าเองก็เร็วแล้ว!"เทียนหลิงเอ๋อที่เบะปากเล็กน้อย.
"เป่าเอ๋อ ชิงซือ หลิงเอ๋อ พวกเจ้ากลับไปรอข้าก่อน ข้ามีเรื่องเล็กน้อยที่ต้องจัดการ!"จงซานกล่าว.
"อืม!"สตรีทั้งสามที่พยักหน้ารับ.
หลังจากสตรีทั้งสามจากไปแล้ว จงซานก็เดินทางไปยังคุกสวรรค์ของต้าเจิ้ง.
"ถวายบังคมฝ่าบาท ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!"เหล่าองค์รักษ์ที่คุกเข่าแสดงความเคารพในทันที.
หลิวอู๋ว่างที่ปรากฏกายขึ้น พร้อมกับกล่าวออกมาว่า "ฝ่าบาท เสด็จมาที่คุกสวรรค์มีอะไรอย่างงั้นรึ?"
"ห้องขังหมายเลขหนึ่ง อยู่ที่ใหน?"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ห้องขังหมายเลขหนึ่งอยู่ในพื้นที่ลับ ฝ่าบาท..........!"หลิวอู๋ซ่างที่กำลังจะกล่าว.
"นำข้าไป!"จงซานที่กล่าวตัดบทในทันที.
"ขอรับ!"หลิวอู๋ซ่างย่อมไม่กล้าปฏิเสธ.
หลิวอู๋ซ่างที่นำไป จงซานที่ก้าวตาม จากนั้นไม่นานก็เดินทางไปถึงห้องขังที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก มีเหล่าองค์รักษ์มากมายที่เฝ้าอยู่ด้านนอกห่างออกมาร้อยจั้ง.
เห็นเหล่าองค์รักษ์ที่ถอยห่างออกมาจากห้องขังค่อนข้างไกล จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
เมื่อไปถึงห้องขังดังกล่าว.
"รอข้าอยู่ด้านนอก!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ขอรับ!"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวรับในทันที.
จงซานที่ก้าวเข้าไปในห้องขัง.
ห้องขังแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก มีแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมา เห็นเป็นซี่ลูกกรงมากมายเรียงกันอยู่.
นวีชิงเฮวยในเวลานี้ กำลังนั่งอยู่ลึกเข้าไปด้านใน หากไม่สังเกตก็จะมองเห็นไม่ถนัดนัก ที่ด้านหลังนั้นเป็นกำแพง ในเวลานี้มีอักษรสองแถวเขียนอยู่.
จงซานที่เห็นนวีชิงเฮวยนั่งสมาธิอยู่ จงซานที่ก้าวเข้าไปใกล้ ๆ .
จงซานที่ขยับเล็กน้อย.
"วูซซซ!"
ร่างของนวีชิงเฮวยที่ละลาย เหมือนกับตุ๊กตาหิมะที่สลายกระจายเป็นของเหลว.
"ร่างแยกโคลน?"จงซานที่สูดหายใจลึก.
ร่างสถิตโคลน คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถดึงดินเลนขึ้นมา สร้างเป็นตัวตนของตัวเองได้ ก่อนที่ร่างจริงจะหนีไปเรียบร้อยแล้ว.
เป็นไปได้ว่าสตรีที่ไปในห้องลับของเขา เป็นนางอย่างงั้นรึ?
ที่ด้านหลังของนวีชิงเฮวย มีอักษรสองประโยค.
เป็นเพียงของปลอม หัวใจของข้าได้ตายแล้ว เป็นเพียงของปลอม หัวใจข้าได้ตายแล้ว.
จงซานที่จ้องมองอักษรสองประโยค สูดหายใจลึก และเงียบไปชั่วขณะ.
"ตั้งแต่แรกแล้ว เจ้าก็รับรู้แล้วว่าจิตสำนึกนั่นไม่ใช่กู่เฉิงตง แล้วทำไมยังต้องยึดติดอยู่อีก?"จงซานที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
สายตาของจงซานที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน สะบัดมือออกไป อักษรที่ติดอยู่บนกำแพงก็สลายหายไป ไม่สามารถมองเห็นได้อีก.
จงซานที่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะออกมาจากห้องขัง.
เมื่อจงซานออกมาจากห้องขัง หลิวอู๋ซ่างก็พบว่านวีชิงเฮวยได้หายไปแล้ว.
"ฝ่าบาท เฉินรู้สึกผิดนัก ไม่สามารถคุมขังนวีชิงเฮวยให้ดี!"หลิวอู๋ซ่างที่เร่งรีบคุกเข่าลงด้วยท่าทางร้อนใจ.
"เอาล่ะ! เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเอ่ยออกมาอีก!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"
......
เช้าวันถัดมา ภายในท้องพระโรง.
"ยินดีกับฝ่าบาท ที่มีอายุขัยยิ่งยืนนานเพิ่มอีกครั้ง!"เหล่าขุนนางที่กล่าวแสดงความยินดี.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
"ฝ่าบาท เมื่อฝ่าบาทได้ก้าวสู่อีกขั้นของอายุขัย ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งของพวกเรา พร้อมที่จะก้าวไปยังขั้นต่อไปแล้วใช่หรือไม่?"อี้เหยี่ยนสอบถามออกไป.
ก้าวไปสู่อีกขั้น? ราชวงศ์สวรรค์นั่นเอง.
"เฉินและคนอื่น ๆ พร้อมที่จะยกระดับต้าเจิ้งไปอีกขั้น!"เหล่าขุนนางทั้งหมดที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
จงซานที่จ้องมองไปยังเหล่าขุนนาง พร้อมกับกล่าวออกมาว่า "พักเอาไว้ชั่วคราวก่อน!"
เหล่าขุนนางที่แสดงท่าทางแปลกประหลาดใจ.
"ทำไมอย่างงั้นรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่เอ่ยสอบถามด้วยความสงสัย.
"เวลานี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม!"จงซานที่เคาะไปมาที่พนักบัลลังก์มังกร.
"ขอรับ!"
ด้วยอำนาจของราชันย์ เมื่อเรื่องนี้ได้ตัดสินใจไปแล้ว เหล่าขุนนางทุกคนก็ต้องทำตาม.
........................
สามเดือนหลังจากนั้น ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย.
กงเหล่ยเทียนนั่งบนบัลลังก์มังกร รับฟังรายงานจากขุนนาง เกี่ยวกับราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้ง.
"ฝ่าบาท จงซานได้ยกระดับทะลวงพลังฝึกตนไปถึงระดับสวรรค์แท้ ทำให้ทั่วแผ่นดินต้าเจิ้งกลายเป็นสีม่วง! เรื่องนี้บ่งบอกเรื่องอะไรหรือไม่?"เซอคงที่กล่าวสอบถาม.
"ท้องฟ้ากลายเป็นสีม่วง? เป็นการบอกว่ารากฐานพลังที่แข็งแกร่ง จนทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีม่วง รากฐานที่แข็งแกร่งของทักษะเทียน ทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีม่วง จงซานใช้เวลาไม่กี่ร้อยปีจริง ๆ รึ?"กงเหล่ยเทียนที่ขมวดคิ้วไปมาครุ่นคิด.
"จงซานมีรากฐานพลังที่แข็งแกร่งอย่างงั้นรึ?"นักบวชเซอคงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"หวังเฉิน เจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร?"กงเหล่ยเทียนที่กล่าวต่อหวังเฉินในทันที.
หวังเฉิน ก่อนหน้านี้คือจงซือจิว ครั้งหนึ่งเคยเป็นบุตรบุญธรรมของจงซาน.
"เฉินเองก็ไม่รู้เรื่องนี้เช่นกัน!"หวังเฉินกล่าว.
"ไม่มีความเห็นเลยรึ?"
"เฉินเองก็ไม่กล้ากล่าวอะไรไร้สาระโดยไร้ซึ่งหลักฐาน!"หวังเฉินกล่าว.
"เจ้ากล่าวมาได้ ไม่มีความผิด!"กงเหล่ยเทียนกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ขอรับ จงซานผู้นี้ นับเป็นอสุรกายพรสวรรค์ที่หาตัวจับยาก เหมือนดั่งที่ฝ่าบาทกล่าวว่าเขามีรากฐานพลังที่แข็งแกร่ง!"หวังเฉินกล่าว.
กับคำพูดของหวังเฉิน ก็เป็นเหมือนกับกล่าวซ้ำคำพูดของกงเหล่ยเทียนนั่นเอง ทำให้เขาพูดไม่ออกเช่นกัน.
กงเหล่ยเทียนที่ชำเลืองมองไปยังหวังเฉิน ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย หวังเฉินที่แสดงความเคารพและถอยห่างออกไป.
เกี่ยวกับเรื่องนี้หากเป็นคนอื่นย่อมไม่มีอะไรมากนัก หากแต่สำหรับหวังเฉินนั้น หากตอบไม่ดีอาจจะกลายเป็นว่าเผยความไม่ภัคดีออกมาเช่นกัน.
.......................
ราชวงศ์สวรรค์ต้าฉิน!
หลี่ซือที่ทำการรายงานหยิง หยิงที่เคาะไปมาที่บัลลังก์มังกร ราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.
จงซานในเวลานี้ก้าวไปถึงระดับสวรรค์แท้แล้ว หากแต่ยังไม่ยกระดับราชวงศ์ราชันย์ขึ้นไปอีก ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับภพหยินที่เขาปกครองด้วยหรือไม่?
ภายในภพหยาง การจะยกระดับเป็นราชวงศ์สวรรค์ แน่นอนว่าย่อมแตกต่างจากภพหยิน เมื่อยกระดับขึ้นเป็นราชวงศ์สวรรค์ จะต้องจับจ้องมองไปทั่วสวรรค์ด้วย.
ดูเหมือนว่าตามความคิดเห็นของจงซาน ก่อนอื่นพวกเขาต้องสะสมบารมี ช้า ๆ ให้กลายเป็นมหาอำนาจในภพหยิน จากนั้นค่อยยกระดับเป็นราชวงศ์สวรรค์.
ทว่าภายในภพหยินเวลานี้ นับว่าเป็นโอกาสทองก็ว่าได้.
ในอดีต ราชวงศ์สวรรค์ต้าเหยี่ยน ซิงไท่โต่วที่สมคบกับเผ่าอูของโลกใบใหญ่ ได้ถูกตระกูลเทียนเข้าโจมตี ราชวงศ์สวรรค์ทางภาคใต้จึงล่มสลาย ทำให้เกิดราชวงศ์ราชันย์หลายแห่งที่เข้ามาแย่งชิงแผ่นดิน.
ราชวงศ์ราชันย์หลายแห่งถูกยกระดับขึ้นมาจากอดีตที่เป็นราชวงศ์จักรพรรดิ ดังนั้นเขตแดนราชวงศ์จำนวนมากจึงไม่ได้แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับภพหยาง.
กับสงครามของภาคใต้ภพหยินที่คุกรุ่น.
ไม่ต่างยุคสมัยแห่งความวุ่นวาย เหมาะที่จงซานจะบุกเบิกขยายราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งในภพหยินให้กว้างออกไปอีกได้.