ตอนที่แล้วChapter 719 หยิง ปะทะ เทียนเสิ่นจื่อ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 721 โลกใบเล็กที่น่าหวาดกลัว.

Chapter 720 ข้อตกลงของตำหนักศาลาเทวะ.


การต่อสู้ของเทียนเสิ่นจื่อและหยิง เป็นการต่อสู้ที่ไม่สามารถรับรู้ได้ แม้แต่จงซานยังไม่อาจสัมผัสได้เลย ทว่าด้วยพลังของทั้งคู่ จงซานก็สามารถบอกได้เลยว่าการต่อสู้นี้แม้แต่เซียนสวรรค์ก็ไม่อาจเทียบคนทั้งสองได้ การเข้าไปหาเรื่องพวกเขามีแต่แส่หาความตายเท่านั้น.

ช่างน่าเศร้า การต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมนี้ ไม่สามารถมองได้ แม้แต่เสียงก็ยังไม่ได้ยิน.

ตี้เสวียนชาที่ปรากฏขึ้นข้าง ๆ จงซาน ขณะที่จ้องมองการปะทะกันของไม้เท้าเคลื่อนภูผาและโลงศพสัมฤทธิ์กำราบโลก.

ตี้เสวียนชาที่ดวงตาหดเกร็งก่อนที่จะพาจงซาน เทียนหลิงเอ๋อ หนี่ปู่ซาและหยินโหลวหรี่ถอยห่างออกมา อาวุโสเทียนเองก็ตามออกมาเช่นกัน.

ห่างออกมาหมื่นลี้ เป็นสถานที่จ้าวโส่วเซี่ยงนำทัพถอยออกมาประจำการอยู่.

ถึงแม้ว่าจะเป็นที่นี่ เสียงที่ดังกึกก้องทำให้หูดับยังไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย.

"แม่ทัพจ้าว นำทัพถอยออกไปอีก 3 หมื่นลี้!"ตี้เสวียนชาที่เอ่ยออกมาในทันที.

กับคำพูดของตี้เสวียนชา แม้นว่าจงซานและคนอื่น ๆ จะไม่ได้ยิน ทว่าตี้เสวียนชานั้นได้ส่งผ่านทางพลังวิญญาณแจ้งต่อทุกคน.

จ้าวโส่วเซี่ยงที่จ้องมองจงซาน จงซานที่พยักหน้า.

จ้าวโส่วเซี่ยงที่ให้สัญญาณถอย สัญญาณธงที่ถูกสั่งการนำทัพถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว ตี้เสวียนชาที่ส่งต่อคำสั่งไปยังหมาป่า ส่วนหยินโหลวหรี่เองก็ด้วยเช่นกัน สังการเผ่าพยัคฆ์ทั้งหมดให้ถอยกำลังไปกับทัพดังกล่าวด้วย.

ทุกคนที่ถอยห่างออกมา สี่หมื่นลี้.

ในเวลาเดียวกัน ทุกคนเวลานี้ที่รู้สึกดีขึ้น การรับรู้เสียงที่ค่อย ๆ กลับคืนกลับมา.

"ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกัน?"หยินโหลวหรี่ที่ขมวดคิ้วไปมา แสดงท่าทางหวั่นเกรง.

"หยิงได้กางม่านทมิฬ ทำให้พื้นที่มิติรอบ ๆ แข็งแกร่งขึ้น!"ตี้เสวียนชาที่สูดหายใจลึกขมวดคิ้วไปมาขณะพูด.

"ทำให้มิติรอบ ๆ แข็งแกร่งขึ้นอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วสอบถาม.

"ใช่แล้ว มิติของโลกใบเล็กนั้นเปราะบางมาก เพียงแค่ระดับสวรรค์แท้ที่แข็งแกร่ง ก็สามารถทำให้มิติแตกเป็นรอยแยกแล้ว ทว่ามิติในโลกใบใหญ่นั้น ถึงจะเป็นเซียนสวรรค์ก็ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้มิติกลายเป็นระลอกคลื่นได้ มิติอากาศของโลกใบใหญ่นั้นแข็งแกร่งมาก หยิงที่ใช้ม่านทมิฬปกคลุม ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ แข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าจะด้อยกว่าโลกใบใหญ่ ทว่าก็ทำให้มิติอากาศของโลกใบเล็ก แข็งแกร่งไม่ได้ด้อยกว่าโลกใบใหญ่มากนัก."ตี้เสวียนชาที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"มิน่าล่ะก่อนหน้านี้ข้ารู้สึกว่าฟ้าดินดูสว่างใสขึ้นมาในทันที "เทียนหลิงเอ๋อที่ราวกับคิดถึงอะไรบางอย่างได้.

จงซานที่ครุ่นคิดก่อนหน้านี้ก่อนที่ทั้งสองจะลงมือ เขารู้สึกราวกับว่าฟ้าดินเปลี่ยนเป็นผ่องใสขึ้นมาในทันทีเช่นกัน.

"แล้วทำไมมิติอากาศในโลกใบใหญ่ทำไมถึงมั่นคงกว่าล่ะ?"จงซานที่สอบถามออกไป.

"ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน."ตี้เสวียนชากล่าวตอบ.

ที่ไกลออกไปนั้น ไม้เท้าเคลื่อนภูผาที่เปลี่ยนเป็นภูเขาขนาดใหญ่ พร้อมกับโถมกระหน่ำลงมาจากบนท้องฟ้า อากาศรอบ ๆ เริ่มสั่นไหว ทุกคนที่อยู่ไกลออกไปตอนนี้ยังรู้สึกราวกับจะถูกบีบให้โค้งคำนับด้วยความเทิดทูน.

บนท้องฟ้าเช่นกัน โลงศพสัมฤทธิ์กำราบโลกไม่ได้เพิ่มขนาดขึ้นมากมายนัก หากแต่ปลดปล่อยภาพเงากลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่รวมตัวกัน กลายเป็นโลก ๆ หนึ่งขึ้นมา หัวใจของทุกคนที่จับจ้องมองราวกับจะหยุดเต้นไปในทันที.

"ไม้เท้าเคลื่อนภูผานั้น หนึ่งแสนปีไม่ปรากฏออกมา! นับว่าทรงพลังน่าเกรงขามจริง ๆ ."ตี้เสวียนชาที่สูดหายใจลึก.

"โอ้ว? เจ้ารู้จักของวิเศษทั้งสองอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.

"อืม ข้าได้ยินมาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะทรงพลังขนาดนี้ ในสิบสมบัติโบราณ แต่ละอันนั้นล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียง ขวานสะบั้นสวรรค์ ที่สามารถแยกสวรรค์สะบั้นปฐพีได้ ไม้เท้าเคลื่อนภูผา ครั้งหนึ่งก็ถูกใช้ในการเรียกภูผาเพื่อมาสนับสนุน สามารถที่จะสร้างขุนเขาเพื่อทำลายล้างราชวงศ์สวรรค์ได้เลย เป็นพลังที่ร้ายกาจมาก! แม้นว่ามันจะไม่ปรากฏมาหลายปีแล้ว แต่ชื่อเสียงของมันก็ไม่จางหายเลย."ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"หืม? โลงศพสัมฤทธิ์กำราบโลกล่ะ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"โลงศพสัมฤทธิ์กำราบโลกเองก็เช่นกัน ในอดีต มันเคยใช้ผนึกราชวงศ์สวรรค์แห่งหนึ่งผนึกเมืองสามร้อยเมืองเอาไว้ด้านใน ทำลายล้างศัตรูที่ผนึกอยู่ด้านในให้พังพินาศ ประสบกับความสยดสยองเลยทีเดียว."

ได้ยินคำพูดของตี้เสวียนชา ภายในใจของจงซานที่กระตุกกึก สามารถทำลายราชวงศ์สวรรค์ให้พังทลายภายในครั้งเดียวอย่างงั้นรึ?

นี่ยังถือว่าเป็นของวิเศษอยู่อีกรึ? น่าเกรงขามนัก? เช่นนั้นหยิงสามารถที่จะทำลายราชวงศ์สวรรค์ได้ด้วยตัวคนเดียวเลยรึ?

ภายในใจของจงซานที่รู้สึกเย็นเยือบทีเดียว คนผู้นี้น่าหวากลัวนัก ของวิเศษชิ้นนี้ เป็นของที่ร้ายกาจขนาดนี้เลยรึ? แล้วทำไมยังอยู่ในสิบลำดับของวิเศษโบราณกัน ความแตกต่างมันมากมายขนาดใหนกัน?

ที่ไกลออกไป ไม้เท้าเคลื่อนภูผาและโลงศพสัมฤทธิ์กำราบโลก ได้กระแทกกันไปมาแปดครั้งแล้ว! พลังที่รุนแรงนั้นน่าตื่นตะลึง เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจอย่างที่สุด.

ในเวลาเดียวกันนั้น ก็ปรากฏคน ๆ หนึ่งมาสมทบ ชายในชุดสีขาว มีปีกขนาดใหญ่ด้านหลัง เสวียนหยวน!

"ไม้เท้าเคลื่อนภูผา?"ดวงตาของเสวียนหยวนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

จดจ้องมองไปยังไม้เท้าเคลื่อนภูผา สายตาของเสวียนหยวนที่เผยท่าทางประหลาดใจไม่แน่ใจไปพร้อม ๆ กัน.

การปะทะกันครั้งที่เก้า!

"ตูมมมมมมมมมมมมมมมม!"

การปะทะในครั้งนี้ เกิดระเบิดดังสนั่น แรงระเบิดนั้นทำให้ภูเขาที่อยู่ใกล้ ๆ ถึงเปลี่ยนเป็นหลุมดำขนาดใหญ่โต อากาศรอบ ๆ เริ่มพังทลาย.

ในรัศมีหมื่นลี้ กลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ แรงสั่นสะเทือนที่หนักหน่วงรุนแรงมาก พื้นดินในรัศมีสองหมื่นลี้พังทลายลงในทันที.

กองทัพที่หนีออกมาสามหมื่นลี้ มีคนมากมายที่บาดเจ็บไปถึงอวัยวะภายใน พ่นโลหิตออกมาคำโต.

ถึงแม้นว่ามิติอากาศรอบ ๆ จะถูกทำให้มั่นคงขึ้น หากแต่มิติอากาศกับเปิดออก เห็นได้ชัดเจนว่าแรงปะทะนั้นรุนแรงขนาดใหน.

หลังจากที่มิติฉีกขาด ก็เริ่มฟื้นฟูกลับคืนอย่างรวดเร็ว ราวกับสายน้ำที่กำลังไหลเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหาย.

หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป มิติอากาศก็ฟื้นฟูกลับคืนสู่ความปกติ.

พื้นที่หมื่นลี้ ภูเขามากมายถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นทะเลทราย ที่ใจกลางนั้นมีเพียงเทือกเขาเทียนเซี่ยที่ตั้งตระหง่านอยู่.

จงซานและคนอื่น ๆ ที่หนีออกมาไกลแล้ว ก่อนที่หยิงจะปล่อยพลังของโลงศพกำราบโลกออกมา.

หยิงและเทียนเสิ่นจื่อที่แยกออกจากกัน จดจ้องมองกันและกัน สองคนที่เงียบงันไปชั่วครู่.

"กายเนื้อของเจ้ายังผสานลิขิตไม่หมด."หยิงที่กล่าวด้วยท่าทางสนใจ.

"กายบริวารของเจ้าเองก็ยังพัฒนายังไม่สมบูรณ์เช่นกัน!"เทียนเสิ่นจื่อที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.

"ไว้ถึงตอนนั้น ที่โลกใบใหญ่ ข้าต้องการต่อสู้กับเจ้าอีกครั้ง!"หยิงที่กล่าวท้าทาย.

"ก็หวังไว้เช่นนั้น!"เทียนเสิ่นจื่อที่รับคำ.

คนทั้งสองที่ไม่ได้ตัดสินชัยชนะหรือพ่ายแพ้ แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการหยั่งเชิงเท่านั้น หยิงที่พยักหน้าให้กับเทียนเสิ่นจื่อ.

หยิงที่จ้องมองไปยังตี้เสวียนชาและเสวียนหยวน พร้อมกับพยักหน้าให้ ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปในทันที.

กับต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรง แม้ว่าจะไม่ได้ตัดสินชัยชนะ ทว่าก็ทำให้หยิงได้เติมเต็มความปรารถนาแล้ว เขาได้ท้าทายเทียนเสิ่นจื่อเอาไว้แล้ว.

เมื่อเติมเต็มความต้องการของตัวเองแล้ว หยิงก็เดินทางกลับ.

หลังจากที่หยิงเจิ้งกลับไปแล้ว เทียนเสิ่นจื่อก็ถอยหายใจเบา ๆ  ก่อนที่จะหันหน้าจับจ้องมองยังกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ก่อนที่สายตาของเขาจะไปหยุดอยู่ที่เสวียนหยวนที่กำลังเก็บปีกตัวเอง.

สายตาสีแดงของเขาที่จดจ้องมองเสวียนหยวน ดวงตาของเสวียนหยวนที่ปรากฏแสงสีขาวเงินเรื่อ ๆ อยู่ในดวงตา.

"ตำหนักศาลาเทวะอย่างงั้นรึ?"เทียนเสิ่นจื่อที่กล่าวสอบถามอย่างเคร่งขรึม.

"ตำหนักศาลาเทวะ เสวียนหยวนคารวะอาวุโส!"เสวียนหยวนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

เสวียนหยวนที่แสดงความเคารพต่อเทียนเสิ่นจื่ออย่างที่สุด.

"หนึ่งแสนปีมาแล้ว นับตั้งแต่ก่อตั้งตำหนักศาลาเทวะขึ้นมา?"เทียนเสิ่นจื่อที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

"อาวุโส ท่านคือ เทียนเสิ่นจื่ออย่างงั้นรึ?"ดวงตาของเสวียนหยวนที่สั่นไหวส่ายไปมาพลางสอบถามออกไป.

"อืม!"เทียนเสิ่นจื่อที่พยักหน้ารับ.

เมื่อรับรู้ว่าเป็นเทียนเสิ่นจื่อ เสวียนหยวนที่ยื่นมือออกไป ปรากฏสิ่งของบางอย่างปรากฏขึ้นมา เป็นศาลาย่อขนาด ที่ลอยอยู่บนมือของเสวียนหยวน บนศาลานั้น มีประกายแสงสีเหลืองอร่ามส่องประกายอยู่.

มันคือกรรมวาสนาอย่างงั้นรึ? ดวงตาของจงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

"ประมุขรุ่นแรกของตำหนักศาลาเทวะนั้นได้ทำข้อตกลงกับท่านในอดีต เขาที่ก่อตั้งสำนักศาลาเทวะก็เพื่อปกป้องสิ่งนี้เอาไว้ แม้นว่าแต่ละรุ่นของตำหนักศาลเทพ จะไม่สามารถสะสมกรรมวาสนาเพิ่มได้ ทว่าด้วยกรรมวาสนาที่มีมากมายของมัน นับจากรุ่นแรกจนมาถึงตอนนี้ กว่าแสนปี ลดลงไปไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ระหว่างแสนปีมานี้ ตำหนักศาลเทพได้กำจัดคน 16 กลุ่มที่เดินทางมาจากโลกใบใหญ่! วันนี้เมื่อได้พบกับไม้เท้าเคลื่อนภูผา ภารกิจของตำหนักศาลาเทพก็ได้เสร็จสิ้นแล้ว สิ่งนี้ขอมอบมันคืนให้กับท่าน!"เสวียนหยวนที่ยื่นตำหนักขนาดเล็กออกมา.

เทียนเสิ่นจื่อที่จับจ้องมองไปยังตำหนักในมือของเสวียนหยวน ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "เจ้าเพิ่งทะลวงระดับสวรรค์แท้ขั้นที่สี่ นอกจากนี้ยังทะลวงผ่านมาเพียงแค่หกเดือน เจ้าไม่ต้องการมันแล้วอย่างงั้นรึ?"

"สิ่งของ ๆ คนอื่นก็ควรที่จะคืนให้กับเจ้าของ! ตำหนักศาลาเทวะนั้นไม่ต้องการของคนอื่นมาเป็นของตน!"เสวียนหยวนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

เทียนเสิ่นจื่อที่จ้องมองไปยังเสวียนหยวนพร้อมกับพยักหน้า "เจ้าเหมือนกับเขามาก แม้แต่นิสัย!"

เขาที่เทียนเสิ่นจื่อกล่าว แน่นอนว่าหมายถึงเจ้าตำหนักศาลาเทวะรุ่นแรก.

"ขอบคุณ!"เสวียนหยวนที่พยักหน้ารับช้า ๆ อย่างไม่รีบร้อน.

"ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง?"เทียนเสิ่นจื่อกล่าว.

"เจ้าตำหนักรุ่นแรกนั้น ได้ก้าวสู่อายุขัยที่ยืนยาว ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์จากที่นี่ไปแล้ว!"เสวียนหยวนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"เขาเป็นคนที่รักษาคำมั่นสัญญาเสมอ!"เทียนเสิ่นจื่อที่พยักหน้ารับ.

เทียนเสิ่นจื่อที่ไม่ได้รับมันกลับมา ก่อนที่จะจ้องมองไปยังเสวียนหยวนและกล่าวออกมาเล็กน้อย "สิ่งนี้เป็นสมบัติของโลกใบใหญ่ หลายปีมาแล้วข้าและเขาได้มันมาร่วมกัน หนึ่งแสนปีเจ้าที่ปกป้องโลกใบนี้แทนข้า สิ่งนี้จึงถือว่าเป็นค่าแรงของพวกเจ้า ข้าไม่สามารถรับมันกลับมาได้แล้ว ภารกิจของตำหนักศาลาเทวะตอนนี้จบลงแล้ว!"

เสวียนหยวนที่สูดหายใจลึก จดจ้องมองไปยังเทียนเสิ่นจื่อ ไม่ได้ปฏิเสธ ก่อนที่จะเก็บตำหนักศาลาดังกล่าวกลับไป.

เสวียนหยวนที่สูดหายใจลึก พร้อมกับคารวะให้กับเทียนเสิ่นจื่ออีกครั้งหนึ่ง.

จงซานที่อยู่ใกล้ ๆ ดวงตาสั่นไหวไปมาด้วยความตกใจ ระดับสวรรค์แท้ขั้นที่สี่อย่างงั้นรึ? ไม่ หกเดือนอย่างงั้นรึ? ก่อนหน้านี้ขณะที่เขายังอยู่ระดับสามสวรรค์แท้? เพียงแค่ระดับสามสวรรค์แท้ยังสามารถรับมือหกเซียนปฐพี? เสวียนหยวนผู้นี้นับว่าร้ายกาจจริง ๆ !

ระหว่างที่พูดกคุยกับเจ้าตำหนักศาลาเทวะ เทียนเสิ่นจื่อที่จ้องมองไปยังตี้เสวียนชา แววตาที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา ก่อนที่จะพยักหน้าให้เล็กน้อย.

ตี้เสวียนชาก็พยักหน้ารับเช่นกัน.

"เอาล่ะ เข้าไปในตำหนักกับข้า ข้าจะแต่งตั้งประมุขอย่างเป็นทางการให้!"เทียนเสิ่นจื่อที่กล่าวต่อเทียนหลิงเอ๋อ.

เทียนหลิงเอ๋อที่คว้าแขนของจงซานไว้ ราวกับว่านางไม่ไว้ใจเทียนเสิ่นจื่อเลยแม้แต่น้อย.

เห็นท่าทางประมุขคนปัจจุบันของตระกูลเทียนแล้ว เทียนเสิ่นจื่อถึงกับพูดไม่ออก เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะมองไปยังจงซาน.

"เจ้าเข้าไปพร้อมกับข้าด้วย!"เทียนเสิ่นจื่อที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.

เข้าไปในตำหนักอย่างงั้นรึ? ดวงตาของจงซานเป็นประกาย.

“~~!”

จากที่ไกลออกไป เสียงฉีกอากาศที่พุ่งตรงมาด้วยความเร็ว แสงสีเขียวที่เป็นริ้วแสงปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้าต่อหน้าทุกคน.

หลังจากที่หยิงไปแล้ว ก็ปรากฏยอดฝีมืออีกคนปรากฏขึ้นมา.

ซือหม่าเขอ!

ซือหม่าเขอที่ปรากฏขึ้นมา ก่อนที่จะหยุดจดจ้องมองพื้นที่รอบ ๆ กลายเป็นทะเลทราย ซือหม่าเขอที่ขมวดคิ้วไปมา จากนั้นก็จ้องมองไปยังพื้นที่ยอดเขาเทียนเซี่ย.

พื้นที่รอบ ๆ แม้ว่าจะพลังทลายสลายหายไปหมด ทว่ายอดเขาเทียนเซี่ยนั้นกลับยังปลอดภัย และผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาสองคนก็หายไปแล้ว.

สายตาที่ดุร้ายของซือหม่าเขอเปล่งประกายขึ้น ก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังยอดเขาเทียนเซี่ยในทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด